ปาร์ตี้บริษัทกลับมาแล้ว! บนความปกติใหม่หลายด้าน

โบกมือลาการชิมไวน์ผ่านซูมในชุดนอนหรือแต่งชุดทำงานแบบครึ่งท่อน พร้อมทั้งกลับมาคว้าไมค์แผดเสียงในวงการคาราโอเกะกับเพื่อนร่วมงานอีกครั้ง ไม่ว่าคุณจะชอบมันหรือไม่ แต่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือปาร์ตี้เฉลิมฉลองในบริษัทหวนคืนกลับมาอีกครั้ง แต่เกิดขึ้นบนความปกติใหม่หลังไวรัสโคโรน่าคลี่คลาย

โชพา ซูร์ยา ที่ไม่ได้สวมชุดใหม่ไปปาร์ตี้มื้อเย็นพร้อมทั้งร้องคาราโอเกะมาหลายปี เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองอีกครั้ง ในงานเลี้ยงบริษัทอายิโนะโมโตะที่นครชิคาโก ซึ่งเป็นงานเลี้ยงแรกในรอบ 2 ปีของบริษัท พร้อมทั้งถึงขนาดซื้อชุดรอล่วงหน้า 2 เดือน เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มหลังร่วมงานเลี้ยงบริษัทที่จัดขึ้นหลังไวรัสโคโรน่าคลี่คลายว่า “ทุกคนสุดเหวี่ยงกันไปเลย มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกพิเศษเสมอ พร้อมทั้งมันได้พาคุณเข้าสู่เทศกาลแห่งวันหยุดอย่างแท้จริง”

ปีนี้บริษัทมากกว่า 57% วางแผนจัดปาร์ตี้ในองค์กรอีกครั้ง ตามการสำรวจของบริษัทจ้างงานในสหรัฐฯ Challenger, Gray & Christmas แม้จะมากกว่าระดับ 5% พร้อมทั้ง 26% ในปี 2020 พร้อมทั้ง 2021 ก็ตาม แต่ยังถือว่าน้อยกว่าระดับ 75% ในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนไวรัสโคโรน่าระบาดอยู่ดี

สิ่งที่เปลี่ยนไปในปาร์ตี้บริษัทยุคหลังไวรัสโคโรน่า

หลายงานเลี้ยงจะค่อนข้างใกล้ชิดเป็นกันเองมากขึ้น บางบริษัทอำนวยความสะดวกให้พนักงานที่ทำงานทางไกลมากขึ้นด้วย เช่น บัตรไปสปา งานคอนเสิร์ต งานแสดง หรือปิดโรงภาพยนตร์จัดงานเลี้ยง เพื่อดึงให้คนที่ทำงานอยู่บ้านออกมาสังสรรค์

แต่มีบางส่วนที่ยังยืนหยัดในการรับโบนัสพร้อมทั้งเวลาหยุดงานเพิ่มเติมแทนที่จะมาร่วมงานเลี้ยงในช่วงไวรัสโคโรน่าแบบนี้ เช่น คารี สนาฟลีย์ บอกว่าพนักงาน 20 ชีวิตในบริษัทซอฟต์แวร์ในบอสตันของเธอ เลือกจะมาร่วมเล่น pickleball ยามบ่ายด้วยกัน เมื่อให้พนักงานโหวตว่าจะใช้งบบริษัทฉลองกันอย่างไร ซึ่งแตกต่างจากการฉลองกับบริษัทใหญ่อย่างโคคาโคลา ในแอตแลนตา เมื่อครั้งที่เธอทำงานอยู่ที่นั่นเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่เธอยอมรับว่า มีเพื่อนร่วมงานหลายคนต้องการเลิกงานพร้อมทั้งกลับบ้านเร็วขึ้น เพราะมีครอบครัวที่ต้องดูแล

ด้านบริษัทควิคเบส ที่มีพนักงาน 700 ตำแหน่งที่ส่วนใหญ่ทำงานทางไกล มีบางคนทำงานจากบัลแกเรีย จึงไม่มีเหตุผลนักที่จะจัดงานปาร์ตี้ที่สำนักงานใหญ่ แต่เปลี่ยนมาเป็นการให้ทีมงานแต่ละหน่วยไปหาทางฉลองกันเอง พร้อมทั้งพบว่าพนักงาน 30-40% ที่นครบอสตัน กลับเข้ามาทำงานกลางสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคนเข้ามาทำงานในบริษัทมากที่สุด

แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ ผู้คนเบื่อหน่ายกับการจิบเครื่องดื่มค็อกเทลออนไลน์ หรือกิจกรรมแลกของขวัญจากซานต้าปริศนา โดยในการสำรวจของ Challenger พบว่า น้อยกว่า 2% ของบริษัท ยังเดินหน้าจัดงานปาร์ตี้ออนไลน์อยู่ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 7% พร้อมทั้ง 17% ในปี 2021 พร้อมทั้ง 2020 ตามลำดับ

เจฟฟ์ คอนโซเล็ตตี ผู้ก่อตั้ง JJLA บริษัทจัดงานอีเวนต์ในแอลเอ บอกว่า บริษัทไม่ได้รับคำสั่งซื้อกล่องของขวัญที่มีชีสพร้อมทั้งไวน์คู่เคียงกันเลยสักกล่อง ซึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้หลักในช่วงไวรัสโคโรน่าระบาดของบริษัท แต่ตอนนี้มียอดจองจัดปาร์ตี้แบบเจอหน้ากันเพิ่มขึ้น 100% แต่ยังเป็นงานเล็ก ๆ ไม่ถึงขั้นระดับ 5,000 คนที่มาร่วมงานเหมือนแต่ก่อน ส่วนบริษัทจัดงาน Monarch Rooftop & Indoor Lounge ในนิวยอร์ก พบยอดจองงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพิ่มขึ้น 30% ในปีนี้เช่นกัน โดยงานส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมคืองานช่วงมื้อเที่ยง ขณะที่งานปาร์ตี้วันศุกร์นั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะคนเลือกไม่เข้างานกันวันศุกร์

แม้ก่อนไวรัสโคโรน่าจะระบาด มีผู้คนบางส่วนที่ไม่ชอบแนวคิด “การ (บีบบังคับ) ให้ร่วมสนุก” ในที่ทำงาน โดยเฉพาะกับองค์การที่มีวัฒนธรรมการดื่มหนักพ่วงด้วยการสร้างสัมพันธ์ในองค์กร อย่างสเวตา พาย ที่ทำงานจากบ้านให้กับบริษัทวิเคราะห์ในซินซินนาติ บอกว่า งานเลี้ยงที่ดื่มหนักทำให้นึกถึงวันวานในสายงานธนาคาร ซึ่งเธอต้องระวังตัวในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในงานเลี้ยงยามค่ำคืน พร้อมทั้งใช้ข้ออ้างเรื่องการเดินทางกลับบ้านไกล ๆ เพื่อขอออกจากงานเลี้ยงก่อนเวลาทุกครั้ง

แต่สำหรับ บิล แมคควีน ที่ย้ายจากเมืองใหญ่มาทำงานที่รัฐไอโอวา เพราะเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ขอสู้ไม่ถอยหากเป็นการเล่นเกมบิงโก เขาบอกว่างานเลี้ยงบริษัทยังเป็นสิ่งที่งดงามสำหรับเขา จากประสบการณ์ทำงานมาก 28 ปี ที่ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยสนุกสนาน พร้อมทั้งว่ามันเหมือนกับงานเลี้ยงรวมญาติเสียมากกว่า

ที่มา: เอพี