ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ให้การต้อนรับประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่ทำเนียบขาว โดยการเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ถือเป็นการเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรกของผู้นำรัฐบาลกรุงเคียฟนับตั้งแต่รัสเซียส่งกองทัพรุกรานยูเครนเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
ปธน.เซเลนสกี ที่เพิ่งเดินทางถึงสหรัฐฯ ในช่วงเช้าวันพุธ เข้าพบพร้อมทั้งหารือทวิภาคีกับปธน.ไบเดน ที่ทำเนียบขาว ก่อนที่ผู้นำยูเครนจะเดินทางไปขึ้นกล่าวปราศรัยต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรสที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในช่วงค่ำวันพุธ
คณะทำงานของประธานาธิบดีไบเดน ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การหารือระหว่างสองผู้นำ ครอบคลุมประเด็น “การหารือเชิงกลยุทธ์เชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางการรบ” รวมทั้งเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์พร้อมทั้งการฝึกทหาร พร้อมทั้งความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ พลังงาน พร้อมทั้งด้านมนุษยธรรม ที่สหรัฐฯ พร้อมทั้งชาติพันธมิตรจะจัดหาให้กับยูเครน พร้อมทั้งว่า “ประธานาธิบดีไบเดนจะมีโอกาสตอกย้ำว่าการสนับสนุนนี้จะไม่ได้แค่เป็นสิ่งที่ได้ทำมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่คือสิ่งที่เราจะทำในวันนี้ พร้อมทั้งจะเดินหน้าทำต่อไป”
ระหว่างที่ปธน.เซเลนสกี ซึ่งไม่มีรายงานว่าเคยเดินทางออกนอกยูเครนมาก่อนหลังจากสงครามปะทุขึ้นเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพิ่งเดินทางออกนอกกรุงเคียฟเมืองหลวงยูเครนเมื่อวันอังคาร ในการเยือนบาคห์มุตที่กองทัพยูเครนปะทะกับกองทัพรัสเซียอย่างหนัก
ที่ผ่านมา ผู้นำยูเครน ได้เรียกร้องให้สหรัฐฯ พร้อมทั้งชาติพันธมิตร จัดหาระบบป้องกันตนเองทางอากาศที่สามารถช่วยยูเครนรับมือกับการจู่โจมด้วยขีปนาวุธพร้อมทั้งโดรนจากกองทัพรัสเซีย ที่ถล่มหลายเมืองพร้อมทั้งทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานยูเครนทั่วประเทศ
ก่อนหน้าการเดินทางถึงกรุงวอชิงตันของปธน.เซเลนสกี สหรัฐฯ ประกาศความช่วยเหลือด้านการทหารรอบใหม่ให้กับยูเครน รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธ แพทริออต (Patriot) ให้แก่ยูเครน ซึ่งเป็นระบบป้องกันตนเองทางอากาศที่มีความก้าวล้ำกว่าที่ยูเครนเคยใช้มาก่อนหน้านี้
ด้านโฆษกรัฐบาลเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธว่า การส่งมอบอาวุธชุดใหม่ให้กับยูเครน จะทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งยิ่งร้าวลึกไปอีก พร้อมทั้งว่ารัสเซียมองไม่เห็นหนทางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนเลย
นอกเหนือจากการเดินทางเพื่อมาหารือถึงกรุงวอชิงตันแล้ว เจ้าหน้าที่ระดับสูงในคณะทำงานของรัฐบาลสหรัฐฯ พบว่า การเยือนสหรัฐฯ ของปธน.เซเลนสกี มีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ต่อสหรัฐฯ ยูเครน พร้อมทั้งประเทศอื่น ๆ ในโลก พร้อมทั้งเป็นการหยิบยื่นโอกาสในการ “เน้นย้ำความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ต่อยูเครน” พร้อมทั้งว่า “นี่คือการส่งข้อความไปยังปูตินพร้อมทั้งส่งข้อความไปยังโลกว่า อเมริกาจะยังอยู่ตรงนี้เพื่อยูเครนตราบเท่าที่สถานการณ์ยังดำเนินอยู่” พร้อมทั้งว่า “ประธานาธิบดีปูตินคำนวณผิดพลาดมหันต์ในการเริ่มต้นความขัดแย้ง เมื่อเขาสันนิษฐานว่าชาวยูเครนจะยอมจำนนพร้อมทั้งนาโต้จะแตกแยกกัน เขาคิดผิดทั้งสองข้อนี้ เขายังคงคิดผิดเกี่ยวกับอำนาจที่มีอยู่ของเรา พร้อมทั้งนั่นคือสิ่งที่การเยือนครั้งนี้จะแสดงให้เห็น”
ถ้าหากว่า คณะทำงานปธน.ไบเดน พบว่า สิ่งที่จะไม่อยู่ในวาระการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำยูเครน คือ การผลักดันให้ยูเครนเข้าสู่โต๊ะเจรจาเพื่อยุติสงครามที่รัสเซียเป็นฝ่ายก่อขึ้น แต่จะช่วยเหลือยูเครนให้อยู่ในบทบาทที่ดีกว่านี้เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้าสู่การเจรจา พร้อมทั้งยังระบุด้วยว่ารัสเซียสามารถยุติสงครามได้ทุกเวลาด้วยการถอนทหารออกจากยูเครน พร้อมทั้งว่ารัสเซียไม่ได้แสดงเจตจำนงในการทำเช่นนั้นหรือเข้าร่วมการเจรจาอย่างจริงจังใด ๆ
ที่มา: วีโอเอ