เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัท OpenAI เปิดตัวแชทบอท ChatGPT ให้คนทั่วไปเข้าใช้งานได้ฟรี โดย ChatGPT เป็นแอปพลิเคชั่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเลียนแบบบทสนทนาของมนุษย์ โดยมีระบบการทำงานที่ขึ้นอยู่กับการโต้ตอบของผู้ใช้งาน ถือเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ ที่พัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็ว
แซม อัลต์แมน ผู้ร่วมก่อตั้งพร้อมทั้งซีอีโอของ OpenAI เผยว่า มีผู้ใช้งาน ChatGPT กว่าหนึ่งล้านคน หลังแชทบอทดังกล่าวเปิดตัวได้หนึ่งสัปดาห์
รอยเตอร์รวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจของเอไอไฟแรง ChatGPT ดังต่อไปนี้
ใครเป็นเจ้าของ OpenAI? อิลอน มัสก์ เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่?
บริษัทวิจัยพร้อมทั้งพัฒนา OpenAI ถูกก่อตั้งเมื่อปี 2015 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดย แซม อัลต์แมน นักลงทุนในซิลิคอนแวลลีย์ พร้อมทั้งอิลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งบริษัทรถไฟฟ้าเทสลา โดย OpenAI สามารถดึงดูดนักลงทุนได้อีกหลายราย ซึ่งรวมถึง ปีเตอร์ ธีล นักลงทุนในสตาร์ทอัพรายใหญ่
ต่อมาในปี 2019 กลุ่มผู้ก่อตั้ง OpenAI จัดตั้งองค์กรแบบแสวงหาผลประโยชน์เพื่อรับเงินลงทุนจากภายนอกเพิ่มเติม
มัสก์ออกจากคณะกรรมการบริหารของบริษัทเมื่อปี 2018 พร้อมทั้งเข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ (Twitter) สื่อสังคมออนไลน์ชื่อดัง เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อ OpenAI ได้รับความสนใจสูง มัสก์ทวีตความเห็นว่า เอไอ ตัวนี้ “ดีจนน่ากลัว” ต่อมา เขายังทวีตข้อความว่า เขาระงับไม่ให้ OpenAI เข้าถึงฐานข้อมูลของทวิตเตอร์ได้ชั่วคราว หลังทราบว่าบริษัท OpenAI ใช้ทวิตเตอร์ “ฝึกฝน” เครื่องมือเอไอของตน
เอไอ ChatGPT ทำงานอย่างไร?
OpenAI พบว่า เอไอ ChatGPT ถูกฝึกให้ใช้เทคนิคเรียนรู้ด้วยตนเองที่เรียกว่า Reinforcement Learning from Human Feedback หรือ RLHF โดย ChatGPT สามารถลอกเลียนบทสนทนา ตอบคำถามต่อเนื่อง ยอมรับข้อผิดพลาด ท้าทายข้อสังเกตที่ผิด พร้อมทั้งปฏิเสธคำขอที่ไม่เหมาะสมได้
สำหรับการพัฒนา ChatGPT ในขั้นต้นนั้น มีการใช้มนุษย์ฝึกฝนบทสนทนากับเอไอตัวนี้ โดยให้มนุษย์รับบทเป็นทั้งผู้ใช้งานพร้อมทั้งผู้ช่วยเอไอ
ทั้งนี้ ChatGPT เวอร์ชั่นที่เปิดให้สาธารณะเปิดใช้นั้น กำลังเรียนรู้เข้าใจคำถามจากผู้ใช้งานพร้อมทั้งตอบคำถามเชิงลึกที่มีลักษณะคล้ายกับข้อความเชิงบทสนทนาที่มนุษย์เขียนขึ้น
ChatGPT ถูกใช้ทำอะไรได้บ้าง?
บอท ChatGPT สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น การตลาดดิจิทัล การสร้างเนื้อหาออนไลน์ การตอบคำถามลูกค้า หรือแม้แต่ช่วยแก้จุดบกพร่องของโค้ดเขียนโปรแกรมได้
นอกจากนี้ ChatGPT ยังสามารถตอบคำถามได้หลากหลายโดยเลียนแบบลักษณะการพูดของมนุษย์ได้ในเวลาเดียวกัน
ChatGPT จะสร้างปัญหาหรือไม่?
ทาง OpenAI ยอมรับว่า ChatGPT อาจตอบสนองผู้ใช้งานด้วยคำตอบที่ “ฟังดูมีเหตุผลแต่ไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าท่า” พร้อมทั้งยอมรับว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นความท้าทายที่บริษัทต้องแก้ต่อไป
ทั้งนี้ เทคโนโลยีเอไอยังอาจเผยแพร่อคติทางสังคมด้านต่าง ๆ เช่น ด้านเชื้อชาติ เพศ พร้อมทั้งวัฒนธรรม ได้ พร้อมทั้งก่อนหน้านี้ บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ เช่น กูเกิล พร้อมทั้ง แอมะซอน ยอมรับว่า โครงการบางอย่างที่ทางบริษัททดลองใช้เอไอมีข้อจำกัดบางประการ พร้อมทั้งมี “ความเสี่ยงทางจริยธรรม” โดยหลายบริษัทต้องให้มนุษย์เข้ามาจัดการแก้ปัญหาที่เกิดจากเอไอ
ถึงกระนั้น การวิจัยเอไอก็ยังคงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน พร้อมทั้งข้อมูลจากบริษัทติดตามเงินทุน PitchBook เผยว่า เมื่อปีที่แล้ว จำนวนเม็ดเงินร่วมลงทุนเพื่อพัฒนาเอไอพร้อมทั้งการลงทุนในบรรดาบริษัทปฏิบัติการเอไอ เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 13,000 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งการลงทุนตั้งแต่เดือนม.ค. – ต.ค. ปีนี้ อยู่ที่ 6,000 ล้านดอลลาร์
สามารถลองใช้งานเอไอ ChatGPT ได้ที่: https://chat.openai.com/chat
ที่มา: รอยเตอร์