ผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายร้อยคนรอดชีวิตจากที่ต้องลอยคออยู่ในทะเลเป็นเวลา 40 วัน หลังได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่จากอินโดนีเซีย ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติรอยเตอร์
ชาวมุสลิมโรฮีนจาจำนวน 174 คนเพิ่งได้รับการช่วยชีวิตจากเรือหาปลาที่ถูกซัดเข้าฝั่งในจังหวัดอาเจห์ในสัปดาห์นี้
รายงานข่าวพบว่า ผู้อพยพกลุ่มนี้ประกอบด้วยชาวโรฮีนจาราว 200 คนซึ่งตัดสินใจหลบหนีขึ้นเรือลำเดียวกันออกมาจากบังกลาเทศเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ก่อนที่กว่า 20 คนจะจบชีวิตระหว่างที่ล่องเรือกันในมหาสมุทรอินเดีย โดยบางรายกระโดดลงน้ำ หลังเรือเริ่มแตกพร้อมทั้งมีน้ำรั่วเข้ามา จนทำให้ผู้อพยพกลัวว่า เรือจะล่มในที่สุด
การประเมินโดยองค์การสหประชาชาติชี้ว่า ชาวมุสลิมโรฮีนจาประมาณ 800,000 คนถูกบีบให้ต้องลี้ภัยออกจากเมียนมา หลังกองทัพทำการปรามปรามชนกลุ่มน้อยนี้ในปี ค.ศ. 2017 โดยจำนวนมากยอมหนีตายเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในค่ายผู้อพยพที่มีสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ในบังคลาเทศแทน
ในเวลาเดียวกัน หน่วยงานของยูเอ็นที่ดูแลผู้อพยพลี้ภัยเปิดเผยว่า ชาวโรฮีนจาส่วนหนึ่งเลือกหนีไปอยู่ที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก โดยในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนเกือบ 500 คนที่รอนแรมมาถึงจุดหมายดังกล่าวสำเร็จ
รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทางการอินโดนีเซียได้จัดหาความช่วยเหลือด้านการแพทย์ อาหารพร้อมทั้งที่พักชั่วคราวให้กลุ่มคนเหล่านี้ พร้อม ๆ กับประสานงานกับหน่วยงานด้านผู้อพยพระหว่างประเทศเพื่อให้คนเหล่านี้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยเต็มตัว
ที่มา: รอยเตอร์