บลิงเคนชี้มีโอกาสปล่อยตัวประกัน หลังการจบชีวิตของผู้นำฮามาส

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน กล่าวเมื่อวันพุธว่า การสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส ยาห์ยา ซินวาร์ นำไปสู่ “โอกาสที่แท้จริง” ในการจัดทำข้อตกลงปล่อยตัวประกันที่ยังคงถูกกลุ่มฮามาสควบคุมตัวไว้ในกาซ่า

รมต.บลิงเคน กล่าวขณะกำลังขึ้นเครื่องบินที่กรุงเทลอาวีฟ เพื่อมุ่งหน้าไปยังซาอุดิอาระเบีย โดยพบว่า อิสราเอลได้บรรลุภารกิจหลายอย่างในกาซ่า รวมทั้งการทำลายศักยภาพของกลุ่มฮามาส ที่เหลือคือการนำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้านพร้อมทั้งยุติสงครามครั้งนี้

ที่กรุงริยาดห์ บลิงเคนเข้าพบเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุฯ ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังกาตาร์เพื่อหารือเรื่องการจัดทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสในกาซ่า พร้อมทั้งกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอน

โดยบลิงเคนเน้นย้ำกับผู้นำซาอุฯ ถึงการยุติสงครามในกาซ่า พร้อมทั้งการสร้างความมั่นคงในระยะยาวภายหลังสงคราม ซึ่งรวมถึงการผลักกลุ่มฮามาสออกไปพร้อมทั้งต้องไม่มีทหารอิสราเอลประจำการในกาซ่าด้วย

สถานการณ์สู้รบในเลบานอน

กองทัพอิสราเอลจู่โจมทางอากาศใส่เมืองไทร์ทางภาคใต้ของเลบานอนในวันพุธ ไม่กี่ชั่วโมงหลังมีการประกาศให้ประชาชนอพยพออกจากเมืองดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการจู่โจมใส่เป้าหมายกลุ่มเฮซบอลลาห์ในกรุงเบรุตเมื่อคืนที่ผ่านมา

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มเฮซบอลลาห์ยืนยันว่า ฮาเช็ม ซาฟีเอดดิน หนึ่งในผู้นำระดับสูงของกลุ่ม จบชีวิตแล้วจากการจู่โจมทางอากาศของอิสราเอลเมื่อต้นเดือนตุลาคม 

ซาฟีเอดดินผู้นี้คือผู้ทรงอำนาจอันดับที่สองในกลุ่มเฮซบอลลาห์รองจาก ฮัสซาน นาสรัลลาห์ ผู้นำกลุ่มซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง พร้อมทั้งถูกสังหารจบชีวิตโดยอิสราเอลเมื่อปลายเดือนกันยายน

ก่อนหน้านี้มีการคาดหมายว่าซาฟีเอดดินจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่มแทน จนกระทั่งมีรายงานว่าเขาจบชีวิตแล้วเช่นกัน

กลุ่มฮามาสที่อิหร่านหนุนหลัง จู่โจมทางใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้จบชีวิตราว 1,200 คนพร้อมทั้งมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน ทำให้เกิดการจู่โจมโต้กลับของอิสราเอลเข้าไปในฉนวนกาซ่าที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์จบชีวิตแล้วกว่า 42,600 คน อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่ไม่แยกตัวเลขนักรบกลุ่มติดอาวุธออกจากพลเรือน

ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีพร้อมทั้งรอยเตอร์