รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศใช้มาตรการลงโทษกับบุคคลพร้อมทั้งนิติบุคคลเกือบ 400 รายในมากกว่า 12 ประเทศ ในความพยายามล่าสุดเพื่อสกัดรัสเซียจากการหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษของชาติตะวันตก จากการเปิดเผยของรอยเตอร์
กระทรวงการคลังพร้อมทั้งกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศมาตรการชุดใหม่นี้ในวันพุธ ซึ่งส่งผลต่อบุคคลพร้อมทั้งนิติบุคคลในประเทศที่สาม รวมถึงจีน ฮ่องกง อินเดีย ตุรกี สวิตเซอร์แลนด์ มาเลเซีย พร้อมทั้งไทย ซึ่งสหรัฐฯ เชื่อว่าช่วยให้รัสเซียหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษได้
คำประกาศล่าสุดนี้ถือเป็นมาตรการลงโทษล่าสุดจ่อรัสเซียพร้อมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลกรุงมอสโก สืบเนื่องจากการรุกรานยูเครนเมื่อปี 2022
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ย้ำเตือนเรื่องการขายวัตถุดิบหรือชิ้นส่วนสำคัญต่าง ๆ ให้แก่รัสเซีย ซึ่งรวมถึงชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำคัญที่สหรัฐฯ พร้อมทั้งสหภาพยุโรปเชื่อว่ารัสเซียสามารถนำไปใช้ในการทำสงครามกับยูเครน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ผู้ไม่เปิดเผยชื่อ ได้บอกกล่าวกับรอยเตอร์ว่า “มาตรการล่าสุดนี้เป็นการส่งสัญญาณอย่างจริงจังไปยังภาครัฐพร้อมทั้งเอกชนของประเทศต่าง ๆ ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมั่นต่อภารกิจต่อต้านการหลบเลี่ยงมาตรการลงโทษที่นำมาใช้กับรัสเซีย พร้อมทั้งกดดันรัสเซียให้ยุติการทำสงครามในยูเครน”
วอลลี อเดเยโม รองรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บอกว่า “สหรัฐฯ พร้อมทั้งชาติพันธมิตรจะเดินหน้าใช้มาตรการที่เด็ดขาดทั่วโลก เพื่อหยุดยั้งการหลั่งไหลของอุปกรณ์พร้อมทั้งเทคโนโลยีที่รัสเซียจำเป็นต้องใช้สำหรับการทำสงครามอย่างไร้ความชอบธรรมในยูเครน”
ส่วนหนึ่งของบริษัทที่ถูกลงโทษล่าสุดจากรัฐบาลกรุงวอชิงตันนี้ ได้แก่ บริษัท Futrevo ในอินเดีย ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่าส่งชิ้นส่วนสำคัญให้แก่บริษัทโดรนของรัสเซีย พร้อมทั้งบริษัท Shreya Life Sciences Private Limited ซึ่งถูกกล่าวหาว่าส่งเทคโนโลยีของอเมริกาไปให้แก่รัสเซียมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์ตั้งแต่ปีที่แล้ว
ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสุูงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ผู้หนึ่ง บอกว่า มากกว่า 70% ของสินค้าสำคัญที่รัสเซียต้องการที่สุดนั้นถูกส่งไปจากจีน คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 22,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่สงครามในยูเครนปะทุขึ้นเมื่อสองปีที่แล้ว
ที่มา: รอยเตอร์