โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เสนอชื่อ โธมัส โฮแมน ให้ทำหน้าที่ “ผู้คุมชายแดน” คนใหม่ ตามที่เขารับปากไว้ว่าจะขับผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายหลายล้านคนออกกลับประเทศ
ทรัมป์ระบุในสื่อทรูธโซเชียลเมื่อวันอาทิตย์ว่า โฮแมน อดีตรักษาการผู้อำนวยการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพร้อมทั้งศุลกากรสหรัฐฯ หรือ U.S. Immigration and Customs Enforcement (ICE) วัย 62 ปี จะทำหน้าที่ “ดูแลพรมแดนสหรัฐฯ” ทั้งภาคใต้ติดกับเม็กซิโก พร้อมทั้งภาคเหนือติดแคนาดา โดยเชื่อว่าโฮแมนจะทำหน้าที่นี้ได้อย่างดีเยี่ยม
การแต่งตั้งโฮแมนเป็น “ผู้คุมชายแดน” คนใหม่ ไม่จำเป็นต้องผ่านการรับรองของวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยเขาเคยเป็นทั้งตำรวจพร้อมทั้งเจ้าหน้าตระเวนชายแดน ก่อนที่จะกลายเป็นนักวิเคราะห์เรื่องผู้อพยพเข้าเมืองของสถานีข่าวฟ็อกซ์นิวส์
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังจะแต่งตั้ง สตีเฟน มิลเลอร์ ผู้มีแนวทางแข็งกร้าวด้านนโยบายคนเข้าเมือง ให้นั่งตำแหน่งรองหัวหน้าคณะทำงานของทำเนียบขาว ดูแลด้านนโยบายพร้อมทั้งสื่อมวลชนด้วย
ในวันจันทร์ ทรัมป์เปิดเผยชื่อผู้ที่จะดำรงตำแหน่งทูตสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติคนใหม่ ได้แก่ ส.ส. เอลีส สเตฟานิค สังกัดพรรครีพับลิกัน จากรัฐนิวยอร์ก ซึ่งเป็นหนึ่งในนักการเมืองที่เปลี่ยนจากแนวทางสายกลางมาเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง ทรัมป์รับปากกับบรรดาผู้สนับสนุนเขาว่า จะส่งตัวผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 11 ล้านคน กลับประเทศของพวกเขา
ทรัมป์บอกว่า “เราจะปิดพรมแดนของเรา” พร้อมทั้งกล่าวหาว่า ประเทศอื่น ๆ ต่างส่งนักโทษพร้อมทั้งผู้ป่วยทางจิตให้เดินทางมายังอเมริกา นำไปสู่ปัญหาอาชญากรรมมากมายในประเทศ
ถ้าหากว่า ข้อมูลสถิติของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ชี้ว่าตัวเลขอาชญากรรมที่ทรัมป์อ้างว่าพุ่งสูงขึ้นนั้นมิได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด
เมื่อวันอาทิตย์ ส.ส. จิม จอร์แดน จากรัฐโอไฮโอ หนึ่งในที่ปรึกษาของทรัมป์ ได้บอกกล่าวกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นว่า มาตรการส่งตัวผู้อพยพกลับประเทศนั้นจะเริ่มต้นที่ผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายจำนวน 1.3 ล้านคนที่ตกเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดพร้อมทั้งมีกำหนดขึ้นศาล หรือถูกปฏิเสธสถานะลี้ภัยในอเมริกา โดยขณะนี้อยู่ภายใต้ของจับกุมของเจ้าหน้าที่กระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิพร้อมทั้งตำรวจท้องถิ่น
เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหลายคนได้บอกกล่าวกับรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อสองเดือนก่อนว่า มีผู้อพยพมากกว่า 13,000 คนที่กระทำความผิดในสหรัฐฯ หรือในต่างประเทศ พร้อมทั้งเวลานี้อาศัยอยู่ในอเมริกาโดยมิได้ถูกจับกุมหรือถูกดำเนินคดี
สำหรับกรณีของผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายพร้อมกับพ่อแม่ตั้งแต่ยังเด็ก หรือ ดรีมเมอร์ส ที่มีจำนวนราว 3.6 ล้านคน ส.ส.จอร์แดน บอกว่า เป็นเรื่องที่ต้องจัดการทีหลัง ว่าจะส่งตัวพวกเขากลับประเทศที่พวกเขาจากมาด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ ในการดำรงตำแหน่งปธน.สมัยแรก ทรัมป์รับปากว่าจะสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก พร้อมทั้งบังคับให้รัฐบาลเม็กซิโกเป็นผู้จ่ายค่าก่อสร้างกำแพงนั้น ซึ่งขณะนี้กำแพงบางส่วนได้ถูกสร้างแล้วดยที่เม็กซิโกมิได้เป็นผู้จ่ายเงินแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังพยายามส่งตัวผู้อพยพหลายล้านคนกลับประเทศ แต่ประสบความล้มเหลวเนื่องจากไม่มีงบประมาณ พร้อมทั้งต้องเผชิญกับการท้าทายทางกฎหมายจากบรรดาผู้สนับสนุนผู้อพยพพร้อมทั้งดรีมเมอร์สเหล่านั้น รวมทั้งการถูกวิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับวิธีการที่นำมาใช้ในการจัดการกับผู้อพยพเข้าเมือง เช่นการพรากเด็ก ๆ ออกจากผู้ปกครองของพวกเขา เป็นต้น
ที่มา: วีโอเอ