ขู่ออกสื่อ! รองปธน.ฟิลิปปินส์เผยจะลอบสังหารผู้นำ ‘มาร์กอส จูเนียร์’

ซารา ดูเตอร์เต รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า เธอได้ว่าจ้างมือสังหารให้ลอบปลิดชีวิตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ พร้อมทั้งภริยา รวมทั้งประธานสภาผู้แทนราษฎร หากว่าตัวเธอเองถูกสังหาร ถือเป็นการขู่อย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนซึ่งเธอย้ำด้วยว่าไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

สำนักงานความปลอดภัยประธานาธิบดีฟิลิปปินส์สั่งเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ ทันทีหลังคำขู่ดังกล่าว พร้อมทั้งบอกว่าคำขู่ของรองปธน.ดูเตอร์เต ถือเป็นเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ โดยยืนยันว่าได้มีการประสานไปยังหน่วยงานรักษากฎหมายต่าง ๆ เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบพร้อมทั้งปกป้องภัยคุกคามใด ๆ ต่อประธานาธิบดีพร้อมทั้งสมาชิกในครอบครัวแล้ว

ต่อมา ซารา ดูเตอร์เต ซึ่งเป็นทนายความพร้อมทั้งบุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีคนก่อน โรดริโก ดูเตอร์เต พยายามแก้คำพูดของเธอโดยบอกว่า นั่นไม่ใช่คำขู่จริง ๆ แต่เป็นการแสดงออกถึงความกังวลของเธอเองหลังจากที่เธอถูกคุกคามชีวิตเช่นกัน

ดูเตอร์เตได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “หากว่าฉันแสดงความกังวล พวกเขาก็บอกว่านั้นเป็นการขู่เอาชีวิตประธานาธิบดีอย่างนั้นหรือ?” พร้อมทั้งว่า “ทำไมฉันจะสังหารเขา (ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์) หากไม่ใช่เป็นการแก้แค้นจากการถูกสังหารก่อน? ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ฉันต้องทำเช่นนั้น มีประโยชน์อะไรหรือ?” 

ถ้าหากว่า ภายใต้กฎหมายฟิลิปปินส์ การขู่คุกคามอย่างเปิดเผยต่อสาธารณชนอาจถือเป็นความผิดทางอาญา พร้อมทั้งอาจต้องโทษปรับพร้อมทั้งจำคุกได้

รัฐธรรมนูญฟิลิปปินส์ระบุไว้ว่า หากประธานาธิบดีถึงแก่อสัญกรรม พิการจนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ถูกถอดถอนหรือลาออก ผู้ที่จะขึ้นดำรงตำแหน่งแทนคือรองประธานาธิบดีในขณะนั้น

ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เมื่อปี 2022 มรร์กอส จูเนียร์ ลงสมัครโดยมี ซารา ดูเตอร์เต ลงแข่งคู่กันในตำแหน่งรองปธน. พร้อมทั้งทั้งคู่สามารถชนะเลือกตั้งได้อย่างถล่มทลาย 

แต่หลังจากนั้น ทั้งสองฝ่ายเริ่มมีปัญหาขัดแย้งกันในหลายประเด็น รวมทั้งจุดยืนต่อท่าทีอันก้าวร้าวของจีนในทะเลจีนใต้ นำไปสู่การลาออกของดูเตอร์เตจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการพร้อมทั้งหัวหน้าองค์กรต่อต้านการกบฎ เมื่อเดือนมิถุนายน

จากนั้นเธอได้ออกมาวิจารณ์ปธน.มาร์กอส จูเนียร์ พร้อมทั้งภริยาของเขา รวมทั้งประธานสภาผู้แทนฯ มาร์ติน โรมูอัลเดซ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของมาร์กอส โดยกล่าวหาว่าพวกเขาทุจริต ไร้ความสามารถ พร้อมทั้งข่มเหงทางการเมืองต่อครอบครัวพร้อมทั้งบรรดาผู้สนับสนุนเธอ

ฟางเส้นสุดท้ายของทั้งสองฝ่ายขาดลงเมื่อสมาชิกสภาผู้แทนฯ ที่เป็นพรรคพวกของมาร์กอสพร้อมทั้งโรมูอัลเดซได้มีคำตัดสินจับกุม ซูไลกา โลเปซ หัวหน้าคณะทำงานของดูเตอร์เต ผู้ถูกกล่าวหาว่าขัดขวางการสืบสวนของรัฐสภาในกรณีการใช้งบประมาณในทางมิชอบของดูเตอร์เต 

ในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ รองปธน.ดูเตอร์เต วัย 46 ปี กล่าวหาปธน.มาร์กอสพร้อมทั้งโรมูอัลเดซว่าโกหกหลอกลวง พร้อมทั้งบอกด้วยว่ามีแผนลอบสังหารเธอ

เมื่อถูกถามว่ากังวลต่อความปลอดภัยของตัวเธอเองหรือไม่ ดูเตอร์เตบอกว่า “ไม่ต้องกังวลต่อความปลอดภัยของฉัน เพราะฉันได้คุยกับใครบางคนไว้แล้วว่า ‘หากฉันถูกฆ่า คุณจงไปสังหารประธานาธิบดีมาร์กอส ภรรยาลิซา อาราเนตา พร้อมทั้งประธานสภาฯ มาร์ติน โรมูอัลเดซ ทันที นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น’ ” พร้อมทั้งยังบอกด้วยว่า เธอได้สั่งการไปแล้วว่าให้บุคคลผู้นั้นเดินหน้าต่อไปจนกว่าจะสังหารพวกเขาได้ 

ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมือง ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ โรมิโอ บรอนเนอร์ ออกมาเรียกร้องให้เกิดความสงบ พร้อมทั้งมีแถลงการณ์ว่า กองทัพฟิลิปปินส์ที่มีทหารประจำการ 160,000 คนจะคงสถานะเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ภายใต้ความเคารพต่อระบอบประชาธิปไตยพร้อมทั้งรัฐบาลพลเรือน

ที่มา: เอพี