ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) หรือ เฟด (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่สามในปีนี้ นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงไม่ลดลงมาในระดับที่ต้องการ
เฟดคาดการณ์ว่า จะมีการลดดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2024 ครั้งละ 0.25% จากที่เคยระบุไว้เมื่อเดือนกันยายนว่าจะมีการลดดอกเบี้ยสี่ครั้งในปีหน้า ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันอาจจะยังไม่เห็นดอกเบี้ยเงินกู้ในระดับต่ำตามที่ต้องการในปีที่กำลังจะมาถึง
โดยหลังการปรับลดครั้งล่าสุดในวันพุธ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ลดลงไปอยู่ที่ระดับ 4.3%
เจ้าหน้าที่เฟดเน้นย้ำว่า การชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเพราะดอกเบี้ยนโยบายได้ลดลงมาอยู่ใกล้ระดับที่ “เป็นกลาง” แล้ว ซึ่งหมายถึงระดับที่ไม่กระตุ้นหรือชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจมากเกินไป
คำประกาศของเฟดเรื่องการชะลอมาตรการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ทำให้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงก่อนปิดตลาดในวันพุธ โดยทั้งดัชนีดาวน์โจนส์ ดัชนีแนสแดค พร้อมทั้งดัชนีสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ ลดลงในระดับ 2.5% – 3.5%
ในปี 2022 – 2023 เฟดใช้นโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของคนอเมริกันพุ่งสูงขึ้น ตั้งแต่เงินกู้ซื้อบ้าน รถยนต์ พร้อมทั้งบัตรเครดิต
ปัจจุบัน เฟดกำลังพยายามทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “soft landing” หรือการลดจอดอย่างนุ่มนวล ซึ่งหมายถึงการจัดการเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอย โดยขณะนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 2.8% เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับ 2% ตามเป้าหมายของเฟด
ที่มา: เอพี