รัสเซียส่งขีปนาวุธเข้าจู่โจมกรุงเคียฟในช่วงเช้าของวันศุกร์ ส่งผลให้มีผู้จบชีวิต 1 คนพร้อมทั้งบาดเจ็บ 9 คน โดยกรุงมอสโกอ้างว่า นี่เป็นการโต้ตอบยูเครนที่ยิงขีปนาวุธซึ่งสหรัฐฯ มอบให้ข้ามพรมแดนมาถล่มตน
รายงานข่าวพบว่า เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 3 ครั้งก่อนรุ่งสางในกรุงเคียฟ ขณะที่ กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า ได้ยิงสกัดขีปนาวุธแบบทิ้งตัวรุ่น Iskander จำนวน 5 ลูกที่รัสเซียส่งมาจู่โจมเมืองหลวงของประเทศได้
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงเคียฟรายงานว่า การจู่โจมล่าสุดโดยรัสเซียทำให้ระบบทำความร้อนของอาคารที่พักอาศัย 630 แห่ง โรงพยาบาลพร้อมทั้งคลินิก 16 แห่ง รวมทั้งโรงเรียนพร้อมทั้งโรงเรียนอนุบาล 30 แห่ง หยุดทำงานไป ขณะที่ เศษซากของขีปนาวุธที่ถูกยิงตกลงมายังสร้างความเสียหายพร้อมทั้งทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ 3 เขตของเมืองหลวงด้วย
ในช่วงเกือบ 3 ปีของสงครามระหว่างทั้งสอง รัสเซียทิ้งระเบิดถล่มพื้นที่พลเรือนของยูเครนเป็นประจำ ด้วยจุดประสงค์หลัก ๆเพื่อสร้างความเสียหายให้กับโครงข่ายจ่ายพลังงานพร้อมทั้งสร้างความกลัวให้ชาวยูเครน
ในเวลาเดียวกัน ยูเครนได้พยายามสกัดกั้นกองทัพรัสเซียไม่ให้รุกคืบฝ่ายแนวหน้าของการรบมาได้ พร้อมทั้งยิงจู่โจมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามของมอสโกมาโดยตลอด
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่า การจู่โจมของตนนั้นเป็นการโต้ตอบการยิงขีปนาวุธของยูเครนเข้าใส่แคว้นรอสตอฟที่ตั้งอยู่ตรงชายแดนระหว่างสองประเทศเมื่อ 2 วันก่อน
รัสเซียพบว่า การจู่โจมดังกล่าวของยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS (Army Tactical Missile System) ที่สหรัฐฯ ผลิตจำนวน 6 ลูกพร้อมทั้งขีปนาวุธที่ยิงจากอากาศสู่พื้นดิน Storm Shadow ซึ่งอังกฤษส่งมอบให้อีก 4 ลูก
ในเหตุการณ์วันนั้น ยูเครนอ้างว่า ได้ยิงจู่โจมเป้าหมายที่เป็นโรงกลั่นน้ำมันรอสตอฟ ภายใต้แผนงานถล่มโครงสร้างพื้นฐานที่รัสเซียใช้สนับสนุนปฏิบัติการทำสงครามครั้งนี้
ยูเครนเริ่มใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาผลิตยิงเข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียครั้งแรกเมื่อ 19 พฤศจิกายน หลังกรุงวอชิงตันปลดล็อกข้อจำกัดการอาวุธที่มอบให้ แต่การที่ยูเครนนำอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งมาให้จู่โจมรัสเซียทำให้ทำเนียบเครมลินเดือดดาลอย่างมาก
สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้รัสเซียเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “โอเรชนิก” รุ่นใหม่ของตนเพื่อใช้ในสงครามนี้เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า อาวุธใหม่นี้มีความสามารถที่จะบินไปยังเป้าหมายที่ไกลพร้อมทั้งเจาะจงอย่างอาคารต่าง ๆ ในกรุงเคียฟได้ แม้ว่า จะยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธนี้รอบที่ 2 ออกมาก็ตาม
ในส่วนของการโต้ตอบการจู่โจมด้วยขีปนาวุธจากสหรัฐฯ ของยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียพบว่า ได้ส่งขีปนาวุธจำนวนหนึ่งที่ “มีพิสัยไกลพร้อมทั้งมีความแม่นยำสูง” เข้าถล่มศูนย์บัญชาการหน่วยงานข่าวกรองกองทัพยูเครนพร้อมทั้งเป้าหมายอีกแห่งที่อ้างว่าเป็นพื้นที่ออกแบบพร้อมทั้งผลิตระบบขีปนาวุธ Neptune ของยูเครน รวมทั้ง เป้าหมายที่เป็นระบบขีปนาวุธแบบร่อนที่ยิงจากพื้นดินพร้อมทั้งระบบป้องกันการจู่โจมแพทริออตที่สหรัฐฯ มอบให้กรุงเคียฟด้วย
อย่างไรก็ดี เอพีไม่สามารถยืนยันว่า สิ่งที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวอ้าง เป็นความจริงหรือไม่
ที่มา: เอพี