“หมู่บ้านบุกชอนฮันอก” หมู่บ้านสไตล์เกาหลีแบบดั้งเดิม ที่อบอวลด้วยบรรยากาศของยุคโชซอน ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลให้มาแวะเยี่ยมชม ล่าสุดทางการเกาหลีใต้ได้ทดลองบังคับใช้ “นโยบายเคอร์ฟิว” โดยหวังว่าจะช่วยจัดการปัญหานักท่องเที่ยวล้นพื้นที่ แต่บางคนกลับแสดงความกังวลถึงผลลบที่อาจจะตามมา
นโนบายเคอร์ฟิวดังกล่าว จะจำกัดเวลาที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าเยี่ยมชมหมู่บ้านโบราณในระหว่างเวลา 17.00 น. ถึง 10.00 น. จะไม่สามารถเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมแห่งนี้ได้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 100,000 วอน หรือประมาณเกือบ 2,500 บาท ซึ่งภาครัฐได้เริ่มทดลองนโยบายนี้ในเดือนพฤศจิกายน พร้อมทั้งจะมีผลบังคับใช้จริงในเดือนมีนาคมปี 2025
ควอน ยองดู เจ้าของพิพิธภัณฑ์ศิลปะวัฒนธรรมเอเชียที่ตั้งในหมู่บ้านดังกล่าว เตือนว่านโยบายนี้ อาจทำให้ผู้มาเยือนมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อเกาหลีใต้
ความโด่งดังของหมู่บ้านโบราณบุกชอนฮันอก ส่วนหนึ่งมาจากในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ตรอกแคบ ๆ ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน (ระหว่างปี ค.ศ.1392 – 1897) ถูกใช้เป็นฉากหลังของละครเกาหลียอดนิยมจำนวนมาก ทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติพร้อมทั้งชาวเกาหลีเองต่างหลงใหลในเสน่ห์ของหมู่บ้านโบราณ ที่มีข้อมูลสถาปัตยกรรมที่งดงาม เช่น เสา ประตูไม้ พร้อมทั้งลายกระเบื้องหลังคา
อย่างไรก็ดี การเพิ่มขึ้นของการท่องเที่ยว ได้สร้างปัญหารบกวนชาวบ้านที่อาศัยในบริเวณนี้ ทั้งเรื่องของเสียงดัง ขยะ การปัสสาวะในที่สาธารณะ พร้อมทั้งปัญหาการบุกรุกความเป็นส่วนตัว
ตัวอย่างเช่น กล้องตรวจการณ์บันทึกภาพของนักท่องเที่ยวบางราย พยายามจะบุกเข้าไปในบ้าน หรือแอบมองด้านในที่พักอาศัยโดยไม่ได้รับอนุญาต
ข้อมูลจากสำนักงานเขตจองโน พบว่า ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หลายครอบครัวเลือกที่จะย้ายออกจากหมู่บ้านชื่อดัง จนทำให้สัดส่วนของประชากรลดลงราว 27.6%
พื้นที่ดังกล่าวมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 6,100 คนเท่านั้น แต่ในปี 2023 สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ราว 6 ล้านคนเลยทีเดียว
ชุง มุน-ฮุน หัวหน้าเขตจองโน บอกว่า เป้าหมายคือการปกป้องสิทธิของผู้อยู่อาศัย พร้อมทั้งพร้อมที่จะปรับเงื่อนไขต่าง ๆ ตามความเหมาะสม นโยบายเคอร์ฟิวนี้ครอบคลุมพื้นที่ขนาดราว 34,000 ตารางเมตร หรือประมาณ 5 สนามฟุตบอล
บางคนชี้ช่องโหว่ของนโยบายที่บังคับใช้ เช่น การยกเว้นสำหรับนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืน รวมทั้งตำหนิการขยายตัวของธุรกิจที่พัก “ฮันอก สเตย์” เช่น เกสต์เฮ้าส์ต่าง ๆ ที่ดำเนินการโดยบริษัท ซึ่งสร้างผลกระทบเชิงลบต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย
ชาวบ้านเผยว่า ตั้งแต่ปี 2020 ทางการได้ผ่อนปรนข้อจำกัดเกี่ยวกับบริการที่พักในบ้านเกาหลีแบบดั้งเดิม ทำให้มีธุรกิจจำนวนเพิ่มขึ้นในพื้นที่สำหรับพักอาศัย
คิม อึนมี ผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ธุรกิจที่พัก “ฮันอก สเตย์” แสดงความไม่พอใจ เธอเล่าว่า “ผู้คนมาที่นี่เพียงแค่วันเดียวเพื่อพักผ่อน พร้อมทั้งเสียงจากงานปาร์ตี้ก็ดังมาก” ในแต่ละวัน เธอต้องเก็บขยะหน้าบ้านเป็นจำนวนหลายครั้ง
อี ดงวู ซีอีโอของแพลตฟอร์มการจองที่พัก ฮันอก สเตย์ จำนวน 17 แห่ง บอกว่า ธุรกิจนี้เติบโตขึ้น เนื่องจากเหล่าเจ้าของบ้านประสบปัญหาในการบำรุงรักษาบ้านเก่า จึงได้มอบให้ธุรกิจดำเนินการแทน ดังนั้นการกล่าวหาว่าเราไปขับไล่ผู้อาศัยในปัจจุบันเพื่อจะเปิดที่พักเพิ่ม จึงไม่ใช่เรื่องจริง
สำหรับนโยบายเคอร์ฟิวที่จะบังคับใช้ ยังมีคำถามในข้อมูลต่าง ๆ เช่น การแยกนักท่องเที่ยวจากผู้อยู่อาศัย วิธีเรียกเก็บค่าปรับจากชาวต่างชาติ รวมถึงอุปสรรคด้านภาษาที่อาจจะเกิดขึ้น
ที่มา: รอยเตอร์