พนักงานสตาร์บัคส์ 300 สาขาทั่วสหรัฐฯ หยุดงานประท้วงวันคริสต์มาสอีฟ

สหภาพแรงงานพนักงานสตาร์บัคส์ พบว่าการหยุดงานประท้วงขยายวงไปกว่า 300 สาขาในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร พร้อมทั้งมีพนักงานกว่า 5,000 คนที่คาดว่าจะผละงานประท้วงในวันคริสต์มาสอีฟ ตามรายงานของรอยเตอร์

ทางสหภาพ Starbucks Workers United ที่เป็นตัวแทนของพนักงานสตาร์บัคส์ 525 สาขาทั่วอเมริกา เผยกับรอยเตอร์ว่า มีมากกว่า 290 สาขาในอเมริกาที่ “ปิดให้บริการทั้งหมด” พร้อมทั้งกว่า 300 สาขาที่มีพนักงานร่วมประท้วง ใน 45 รัฐทั่วประเทศ ในวันคริสต์มาสอีฟ พร้อมทั้งคาดว่าจะเป็นการประท้วงใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับแฟรนไชส์กาแฟดังในอเมริกาแห่งนี้

ทางสหภาพ เริ่มต้นประท้วงเป็นเวลา 5 วัน เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากการหารือระหว่างสตาร์บัคส์พร้อมทั้งสหภาพเผชิญกับทางตัน

แถลงการณ์ของสหภาพฯ พบว่า “การประท้วงเหล่านี้เป็นการแสดงพลังในช่วงแรกเริ่ม พร้อมทั้งเราเพิ่มเริ่มต้นเท่านั้น” พร้อมเรียกร้องให้พนักงานสาขาต่าง ๆ ใน 12 เมืองใหญ่ของสหรัฐฯ รวมทั้งนิวยอร์ก ลอส แองเจลิส บอสตัน พร้อมทั้งซีแอตเติล ออกมาเดินขบวน เพื่อเรีกยร้องให้สตาร์บัคส์แก้ปัญหาเรื่องค่าแรง จำนวนพนักงาน พร้อมทั้งตารางงาน

ขณะที่สตาร์บัคส์ ที่มีสาขาให้บริการมากกว่า 10,000 สาขาในสหรัฐฯ ระบุในวันอังคารเช่นกันว่า 98% ของสาขาต่าง ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ พร้อมทั้งมีราว 170 สาขาที่ปิดทำการในวันเดียวกันนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับรอยเตอร์เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจจากการประท้วงครั้งนี้ แต่ได้ระบุไปก่อนหน้านี้แล้วว่าผลกระทบจากการประท้วงจะ “มีอย่างจำกัด”

เมื่อต้นเดือนธันวาคม สหภาพแรงงานของพนักงานสตาร์บัคส์ ปฏิเสธข้อเสนอการรับประกันว่าจะปรับขึ้นค่าแรง 1.5% ในอีกหลายปีข้างหน้า โดยไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงให้พนักงานโดยทันที ซึ่งทางสหภาพฯ ชี้ว่า สตาร์บัคส์ยังไม่ได้ให้ “ข้อเสนอด้านเศรษฐกิจที่จริงจัง” แก่พนักงานแต่อย่างใด

ขณะที่สตาร์บัคส์ พบว่า “พร้อมที่จะหารือเมื่อสหภาพกลับมาเจรจาต่อรองกันอีกครั้ง” พร้อมทั้งอ้างว่าตัวแทนสหภาพยุติการเจรจาต่อรองกับบริษัทเสียเอง

ที่มา: รอยเตอร์