โดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าพิธีปฏิญาณตนเข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นการเน้นย้ำการหวนคืนสู่อำนาจครั้งประวัติศาสตร์สําหรับอดีตนักธุรกิจที่พลิกโฉมพรรครีพับลิกันเมื่อ 9 ปีก่อน ในช่วงที่สหรัฐฯ ประเทศที่แตกแยกมากขึ้นเรื่อยๆ
หลังคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทรัมป์บอกว่า เขาได้รับเลือกตั้งอีกครั้งด้วย “ฉันทามติที่ทรงพลังพร้อมทั้งไม่เคยมีมาก่อน” จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวอเมริกัน พร้อมประกาศว่า จะต่อสู้เพื่อพลเมืองทุกคน เพื่อให้ได้ซึ่ง “อเมริกาที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย พร้อมทั้งเจริญรุ่งเรือง”
ผู้ติดตามเฝ้าดูการเมืองชี้ว่า การกลับคืนสู่อำนาจของทรัมป์นั้นเกิดขึ้นได้เพราะส่วนหนึ่งนั้น ว่าที่ผู้นำคนนี้ไม่เคยยอมรับคำว่า “ไม่”
รอส บูเอ็ตต์เนอร์พร้อมทั้งซูซาน เครก ผู้สื่อข่าวด้านสืบสวนสอบสวนจาก New York Times พร้อมทั้งเป็นผู้เขียนร่วมของ “Lucky Loser” ซึ่งเป็นหนังสือที่ส่องดูเส้นทางของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำเนินมาจนได้ชื่อว่า สร้างตัวจนเป็นมหาเศรษฐีด้วยตนเอง ให้ความเห็นว่า ทรัมป์เป็นคนที่ “มีความมั่นใจอย่างไม่น่าเชื่อในสัญชาตญาณของตัวเอง”
บูเอ็ตต์เนอร์กล่าวด้วยว่า ตั้งแต่ช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 80 ทรัมป์ “ไม่ได้ไว้วางใจคนที่มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชาเกือบทุกอย่าง” พร้อมทั้งจะปฏิเสธทุกอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นเสนอมาพร้อมทั้งเปลี่ยนคำตอบให้เป็นไปในทางของตนเองจนได้ในที่สุด
ขณะที่ เครกบอกว่า ทรัมป์เคยให้สัมภาษณ์กับ The New York Times เมื่อนานมาแล้วพร้อมทั้งบอกว่า มูลค่าทรัพย์สินของตนนั้นอยู่ที่ราว 200 ล้านดอลลาร์ แต่พอเวลาผ่านมาได้ 1 ทศวรรษ ทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับรายการ ’60 Minutes’ พร้อมทั้งเปลี่ยนตัวเลขเป็นหลักพันล้าน
ที่ผ่านมา ทรัมป์เก่งในการดึงดูดความสนใจพร้อมทั้งปลูกฝังแบรนด์สําหรับตัวเองในฐานะคนกลางในการเจรจาทําข้อตกลง พร้อมทั้งทําเงินได้หลายล้านดอลลาร์จากแบรนด์ภายใต้ชื่อของเขาในการทำธุรกิจต่าง ๆ
แต่เบื้องหลังความสําเร็จของธุรกิจทรัมป์ คือ ปัญหาหลายประการ โดยบริษัทของเขายื่นฟ้องล้มละลายถึง 6 ครั้ง ขณะที่ คาสิโนหลายแห่งของเขาก็ประสบภาวะขาดทุนหนักจนปิดตัวลง
ต่อมา ทรัมป์กลับฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง จากความสำเร็จของรายการทีวี “The Apprentice” ซึ่งเป็นเหมือนการปูทางสู่ทำเนียบขาวของเขาในเวลาต่อมา
ทรัมป์เป็นที่รู้จักกันดีว่า เป็นคนที่ไม่เคยรู้สึกว่าต้องขอโทษต่อสิ่งที่ทำไปพร้อมทั้งเป็นคนที่พูดโผงผาง พูดในสิ่งที่คิด ผงาดขึ้นมาเป็นตัวแทนพรรคในการชิงตำแหน่งผู้นำประเทศที่มีความเป็นชาตินิยมในแบบที่ทำให้เกิดการแบ่งฝ่ายแบ่งขั้ว
พร้อมทั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทรัมป์ต้องเผชิญกับการฟ้องร้องทางอาญาหลายครั้งพร้อมทั้งเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญา
ถึงกระนั้น ความนิยมในตัวเขาก็ไม่เคยลดลงเลยพร้อมทั้งกลับจะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ทั้งยังรอดชีวิตจากความพยายามลอบสังหารสองครั้งเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งยิ่งทำให้ผู้สนับสนุนเขายิ่งชื่นชมในตัวทรัมป์มากขึ้นไปอีก
แพม สมิธ หนึ่งในผู้สนับสนุนทรัมป์ บอกว่า “พระเจ้ามีแผนสําหรับทรัมป์ พร้อมทั้งเขาก็รอดชีวิตเพื่อจุดประสงค์พร้อมทั้งเหตุผลบางอย่าง พร้อมทั้งหวังว่า จุดประสงค์พร้อมทั้งเหตุผลที่ว่าก็คือ การได้เป็นประธานาธิบดีคนที่ 47”
ปฏิเสธไม่ได้ว่า การเมืองอเมริกันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมาก โดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้ามาร่วม
ที่มา: วีโอเอ