ข่าวสารวันนี้

เพนตากอนเตรียมส่งทหาร 1,500 คน สกัดผู้อพยพชายแดนเม็กซิโก

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หรือ เพนตากอน (Pentagon) จะเริ่มส่งทหาร 1,500 คนไปประจำการบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก เพื่อช่วยสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐฯ ตามคำสั่งฝ่ายบริหารที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามไว้หลังจากทำพิธีปฏิญาณตนเมื่อวันจันทร์

แหล่งข่าวซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ พบว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าทหารหน่วยใดที่จะถูกส่งไปประจำการที่นั่น พร้อมทั้งต้องทำหน้าที่รักษากฎหมายด้วยหรือไม่ เพราะจะถือเป็นบทบาทใหม่ของทหารที่ไม่เคยมีมาก่อน พร้อมทั้งตัวเลข 1,500 คนดังกล่าวนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ 

ปัจจุบัน มีกองกำลังเนชันแนลการ์ดพร้อมทั้งกองหนุนของสหรัฐฯ ประจำการอยู่ตามแนวพรมแดนราว 2,500 คน แต่ยังไม่มีทหารถูกส่งไปประจำการแบบถาวร

ในการดำรงตำแหน่งสมัยแรก ทรัมป์สั่งการให้ทหารที่ถูกส่งไปประจำการชั่วคราวตามแนวพรมแดนต้องทำหน้าที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ของกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิ ซึ่งรวมถึงการทำงานด้านการขนส่งพร้อมทั้งก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนเพื่อสกัดขบวนผู้อพยพจากอเมริกากลางพร้อมทั้งอเมริกาใต้

ตามกฎหมายของสหรัฐฯ ทหารจะถูกห้ามทำหน้าที่ด้านการรักษากฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากตำรวจตระเวนชายแดนพร้อมทั้งเชอรีฟที่สามารถจับกุมคุมขังผู้ลักลอบเข้าเมือง 

แต่หลักเกณฑ์ที่ว่านี้อาจเปลี่ยนไปภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ เมื่อทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อให้รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมพร้อมทั้งกระทรวงความมั่นคงมาตุภูมิคนใหม่ต้องทบทวนกฎหมายดังกล่าวที่ใช้มาตั้งแต่ปี 1807 ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับบทบาทของทหารให้สามารถทำหน้าที่รักษากฎหมายในแผ่นดินของสหรัฐฯ ได้ ซึ่งรวมถึงการจับกุมผู้อพยพ

การส่งทหารไปประจำการครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกของทรัมป์ที่จะเดินหน้าตามแผนเพิ่มทหารตามแนวพรมแดนสหรัฐฯ – เม็กซิโก โดยเมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งให้รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่จัดทำแผน “ปิดชายแดน” พร้อมทั้งสกัด “การอพยพครั้งใหญ่อย่างผิดกฎหมาย” 

เมื่อวันอังคาร ปธน.ทรัมป์ ได้สั่งปลดผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายฝั่งของสหรัฐฯ พลเรือเอกหญิง ลินดา เฟเกน พร้อมกับมีการประกาศส่งเรือ เครื่องบินพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ของกองกำลังป้องกันชายฝั่งไปประจำการที่ “อ่าวอเมริกา” มากขึ้น ซึ่งถือเป็นการใช้ชื่อเรียกอ่าวเม็กซิโกเสียใหม่ตามคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ 

ที่มา: เอพี

Exit mobile version