วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง ‘พีท เฮกเซธ’ นั่งเก้าอี้รมว.กลาโหมแบบฉิวเฉียด

วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติเสียงส่วนมากในวันศุกร์รับรอง พีท เฮกเซธ ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหม หลังรองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ออกเสียงช่วย ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติเอพี

การลงมติของสภาสูงในช่วงค่ำของวันศุกร์เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับประเด็นข้อกล่าวหาต่าง ๆ ต่อผู้ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อให้ขึ้นคุมเพนตากอน ที่มีตั้งแต่เรื่องพฤติกรรมมึนเมา การล่วงละเมิดทางเพศสตรี พร้อมทั้งการต่อต้านบทบาทสตรีในสนามรบ

สำนักเอพี รายงานว่า ก่อนที่วุฒิจะสรุปการรับรองได้ คะแนนของสมาชิกในสภาสูงสหรัฐฯ ออกมาเท่ากัน กล่าวคือ ครึ่งหนึ่งไม่ให้การรับรอง ขณะที่ อีกครึ่งหนึ่งรับรองเฮกเซธ อดีตพิธีกร Fox News วัย 44 ปี ขึ้นรับตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกตินักในกระบวนการนี้ เพราะผู้ได้รับการเสนอชื่อต่าง ๆ มักได้รับเสียงส่วนใหญ่สนับสนุนเสมอ

ในครั้งนี้ รองปธน.แวนซ์ซึ่งมีอำนาจลงคะแนนเสียงเพื่อช่วยตัดสินการลงมติต่าง ๆ เป็นผู้ช่วยทำให้การรับรองเฮกเซธจบลง

เอพีรายงานว่า ปธน.ทรัมป์ได้คุยกับรัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ ก่อนที่แวนซ์จะช่วยลงคะแนนเสียงให้ โดยบอกว่า “เราได้รัฐมนตรีกลาโหมที่เก่งกาจ พร้อมทั้งเราก็ดีใจมาก”

ก่อนหน้าที่จะมีการลงมตินั้น เฮกเซธซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่กองกำลังสำรองสังกัดกองทัพพร้อมทั้งเข้าร่วมรบในอิรัก อัฟกานิสถานพร้อมทั้งอ่าวกวนตานาโม ได้ขึ้นตอบคำถามต่อคณะกรรมาธิการวุฒิสภาเมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมทั้งไม่สามารถตอบคำถามของ สว.แทมมี ดักเวิร์ธ เกี่ยวกับข้อตกลงทางทหารที่สหรัฐฯ มีอยู่พร้อมทั้งจำนวน รวมทั้ง ชื่อประเทศสมาชิกอาเซียนได้ ทั้งยังถูกสมาชิกคณะกรรมาธิการบางรายถามหนัก ๆ หลายประเด็นเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมข้างต้น พร้อมทั้งรวมถึง ข้อกล่าวหาว่า บริหารจัดการเงินผิดพลาดเมื่อครั้งทำหน้าที่ดูแลองค์กรไม่แสวงผลกำไร 2 แห่งที่ทำงานให้กับทหารผ่านศึกด้วย

การลงมติของสมาชิกสภาสูงสหรัฐฯ เพื่อรับรองผู้ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลสมัยสองของปธน.ทรัมป์ในวันศุกร์ เป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นหลังจากเพิ่งมีการลงมติรับรองสว.มาร์โค รูบิโอ สังกัดพรรครีพับลิกัน ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ทำให้สว.จากรัฐฟลอริดาผู้นี้กลายมาเป็นคนแรกที่เข้าร่วมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่วุฒิสภาสหรัฐฯ จะลงมติรับรองสมาชิกในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทันทีหลังจากประธานาธิบดีเข้ารับตำแหน่ง โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ในด้านความมั่นคง เพื่อให้สามารถสานต่องานได้ทันทีโดยไม่มีรอยต่อ

 

ที่มา: เอพี