ข่าวสารวันนี้

สำรวจ 4 ความเป็นไปได้: สร้างสันติภาพในยูเครน

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังผลักดันให้เกิดแนวทางยุติสงครามระหว่างรัสเซียพร้อมทั้งยูเครนอย่างสันติวิธี วีโอเอสำรวจแนวทางต่าง ๆ ที่นักวิเคราะห์หลายคนเสนอไว้สำหรับการสร้างสันติภาพระยะยาวในยูเครน

1.เพิ่มแรงกดดันขั้นสูงสุด

ข้อเสนอของ Center for European Policy Analysis หรือ CEPA ซึ่งใช้ชื่อว่า “How to Win: A Seven-Point Plan for Sustainable Peace in Ukraine” เรียกร้องให้ยุทธศาสตร์เพิ่มแรงกดดันขั้นสูงสุดเพื่อให้รัสเซียเข้าสู่การเจรจาเพื่อหาทางออก 

ข้อเสนอดังกล่าวระบุถึงสิ่งที่สหรัฐฯ พร้อมทั้งพันธมิตร ควรทำ:

“จัดหาความสนับสนุนฉุกเฉินให้แก่ยูเครนโดยไม่มีข้อแม้ เป้าหมายเพื่อลดศักยภาพทางทหารของรัสเซีย พร้อมทั้งยกระดับจุดยืนการเจรจาของยูเครน”
“เพิ่มมาตรการลงโทษต่อสถาบันการเงินพร้อมทั้งภาคพลังงานของรัสเซีย นำทรัพย์สินของรัสเซียที่ถูกอายัดไว้มาใช้สนับสนุนทางการทหารต่อยูเครนพร้อมทั้งฟื้นฟูประเทศ ตลอดจนเพิ่มมาตรการลงโทษชุดใหม่เพื่อกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย ตลอดจนรัฐบาลเผด็จการในจีน อิหร่าน พร้อมทั้งเกาหลีเหนือ” 

 

CEPA บอกว่า “ยูเครนพร้อมทั้งยุโรป” ต้องถูกรวมในการเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย พร้อมทั้งสหรัฐฯ ควรสนับสนุนกองกำลังพันธมิตรที่มียุโรปเป็นแกนนำเพื่อบังคับใช้มาตรการหยุดยิงในยูเครน พร้อมทั้งพันธมิตรในยุโรปต้องเดินหน้ารับรองยูเครนให้เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป

แคทเธอรีน เซนแด็ก ผอ.ฝ่ายความมั่นคงพร้อมทั้งการทหารข้ามแอตแลนติก ของ CEPA ได้บอกกล่าวกับวีโอเอ ภาคภาษายูเครน ว่า สหรัฐฯ ควรเข้าสู่กระบวนการเจรจากับรัสเซียเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ยูเครน พร้อมทั้งใช้เครื่องมือทางการทูตที่เข้มแข็งที่สุด พร้อมทั้งเสริมว่าไม่ควรนำประเด็นเรื่องการสมัครเป็นสมาชิกองค์การนาโต้ของยูเครน รวมอยู่ในการเจรจากับรัสเซียซึ่งไม่ใช่สมาชิกของนาโต้ เพราะจะเหมือนเป็นการมอบอำนาจวีโต้ให้แก่รัสเซีย 

2.เจรจาด้วยการถือไพ่ที่เหนือกว่า

จอช รูดอล์ฟ นักวิชาการอาวุโสของสถาบันคลังสมอง German Marshall Fund ผู้เคยจัดทำนโยบายด้านรัสเซียพร้อมทั้งยูเครนให้กับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ในรัฐบาลปธน.ทรัมป์ สมัยแรก เสนอแนวทางการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครน

เข้าหาประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ด้วยจุดยืนที่แข็งแกร่ง เนื่องด้วยความถดถอยของปูตินจากสงครามกับยูเครน ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ถือไพ่เหนือกว่าในความสัมพันธ์ทวิภาคีนี้ พร้อมทั้งสามารถเป็นผู้กำหนดเงื่อนไขในการเจรจากับรัสเซียได้ 
ช่วงเวลาสำคัญของการเจรจาจะเกิดขึ้นเมื่อปูตินปฏิเสธที่จะยอมรับข้อตกลงบางอย่าง ซึ่งทรัมป์ต้องพร้อมที่จะเดินออกจากการเจรจาทันทีเมื่อเวลานั้นมาถึง
ใช้มาตรการลงโทษพ่วงไปกับการกดดันทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะราคาพลังงานซึ่งถือเป็นรายได้สำคัญของรัสเซีย โดยอาจร่วมมือกับซาอุอาระเบียเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันพร้อมทั้งก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกซึ่งจะทำให้ราคาลดลง พร้อมทั้งจะส่งผลให้มาตรการลงโทษต่อรัสเซียมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

 

นักวิชาการผู้นี้แนะนำเช่นกันให้ขายทรัพย์สินของรัสเซียทั้งหมดที่ถูกอายัดไว้มูลค่า 300,000 ล้านดอลลาร์เพื่อนำมาใช้ซื้ออาวุธแก่ยูเครน พร้อมกับให้ยุโรปเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้นสำหรับการจัดหาอาวุธ พร้อมทั้งส่งทหารรักษาสันติภาพ 100,000 คนไปช่วยรักษาความสงบในยูเครนหลังสงคราม อนุญาตให้บริษัทเข้าไปฟื้นฟูยูเครน พร้อมทั้งเชิญยูเครนเข้าเป็นสมาชิกองค์การนาโต้หากปูตินไม่ยอมทำตามเงื่อนไขเหล่านี้ 

3.โน้มน้าวด้วยผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

เอเลน แมคคัสเกอร์, เฟรเดริก เคแกน พร้อมทั้งริชาร์ด ซิมส์ แห่งสถาบัน American Enterprise ระบุในรายงาน “Dollars and Sense: America’s Interest in a Ukrainian Victory” ว่า หากสหรัฐฯ ยุติการสนับสนุนยูเครน จะทำให้ยูเครนพ่ายแพ้พร้อมทั้งรัสเซียสามารถรุกคืบเข้าไปในดินแดนส่วนอื่นของยุโรป ซึ่งจะมีผลกระทบมากมายตามมา 

รายงานชี้ว่า: 

สนับสนุนยูเครนให้ได้รับชัยชนะเหนือรัสเซียจะสร้างประโยชน์ทางศก.สูงสุดให้สหรัฐฯ 
โลกที่มีรัสเซียเรืองอำนาจจะเป็นอันตรายพร้อมทั้งส่งผลร้ายทางเศรษฐกิจต่ออเมริกามากกว่าเดิม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะค่าใช้จ่ายด้านการทหารที่จะเพิ่มขึ้นราว 808,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 5 ปีข้างหน้า
การทำให้สงครามนี้สิ้นสุดในระยะเวลาอันสั้นจะช่วยให้อุตสาหกรรมในยูเครนเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งจะช่วยสร้างเสถียรภาพในยุโรป

 

เฟรเดริก เคแกน ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า หากรัสเซียได้รับชัยชนะเหนือยูเครน จะกลายเป็นชัยชนะของจีน อิหร่าน พร้อมทั้งเกาหลีเหนือด้วย เพราะจะทำให้ประเทศเหล่านั้นย่ามใจในการกระทำแบบเดียวกัน นอกจากนี้จะทำให้เกิดคลื่นผู้อพยพไปยังยุโรป ซึ่งยิ่งสั่นคลอนเถียรภาพของภูมิภาคนี้

 

4.แนวทางสายกลาง

รายงาน “Project 2025 Presidential Transition Project” ขององค์กรเฮอริเทจ ฟาวเดชั่น (Heritage Foundation) ระบุถึงคำแนะนต่าง ๆ เกี่ยวกับสงครามในยูเครน โดยเสนอให้เดินทางสายกลางที่ไม่โน้มเอียงไปทางการสนับสนุนหรือต่อต้านการช่วยเหลือยูเครนมากเกินไป:

ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ที่ให้แก่ยูเครนจะต้องได้รับการชดเชยทางการเงิน พร้อมทั้งต้องถูกจำกัดอยู่ที่ความช่วยเหลือทางทหารเท่านั้น โดยที่พันธมิตรของยูเครนในยุโรปจะเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งต้องมีการระบุถึงยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงแห่งชาติที่ชัดเจน
ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องว่าการรุกรานยูเครนนั้น-ม่ถูกต้อง พร้อมทั้งประชาชนยูเครนมีสิทธิ์ที่จะปกป้องมาตุภูมิของตนเอง ซึ่งความขัดแย้งนี้ทำให้กองทัพของปูตินอ่อนแอลง ในขณะที่องค์การนาโต้มีเอกภาพมากยิ่งขึ้น

 

เจมส์ คาราฟาโน ผู้เชี่ยวชาญของ The Heritage Foundation ยืนยันกับวีโอเอว่า การทำให้ยูเครนเป็นอิสระจากการรุกรานของรัสเซีย พร้อมทั้งสามารถปกป้องตนเองได้ คือผลประโยชน์ของสหรัฐฯ

ที่มา: วีโอเอ

 

Exit mobile version