รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มาร์โค รูบิโอ กล่าวในวันจันทร์ว่า กระบวนการถ่ายเลือดขององค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ หรือ USAID (U.S. Agency for International Development) เสร็จสิ้นแล้วหลังจากใช้เวลา 6 สัปดาห์ พร้อมทั้งมีโครงการพัฒนาที่เหลือรอดมาราว 18% ซึ่งจะได้รับเงินสนับสนุนต่อไป
คำประกาศของรัฐมนตรีรูบิโอถูกโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ X ในวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในรอบ 60 ปีของโครงการความช่วยเหลือต่าง ๆ ภายใต้การดูแลของ USAID ที่ถูกสั่งปิดชั่วคราวจากคำสั่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมทั้งคณะทำงานของหน่วยงานเพื่อประสิทธิภาพรัฐบาล หรือ DOGE (Department of Government Efficiency) ที่นำโดยอิลอน มัสก์
รูบิโอกล่าวขอบคุณ DOGE พร้อมทั้งพบว่า “เจ้าหน้าที่ของเราทำงานอย่างหนักเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อให้การปฏิรูปครั้งประวัติศาสตร์ด้านความช่วยเหลือต่างประเทศนี้บรรลุผล”
เมื่อเดือนมกราคม ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารให้ระงับเงินช่วยเหลือต่างประเทศพร้อมทั้งทบทวนโครงการความช่วยเหลือพร้อมทั้งพัฒนาในต่างประเทศทั้งหมดมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ โดยพบว่า ความช่วยเหลือส่วนใหญ่นั้นสูญเปล่าพร้อมทั้งถูกนำไปใช้สนับสนุนแนวคิดเสรีนิยม
พร้อมทั้งในวันจันทร์ รัฐมนตรีรูบิโอยืนยันว่า การทบทวนโครงการเหล่านั้น “เสร็จสิ้นแล้วอย่างเป็นทางการ” โดยมีโครงการของ USAID ถูกตัดทิ้งราว 5,200 โครงการจากทั้งหมด 6,200 โครงการ
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุใน X ว่า โครงการเหล่านั้น “ใช้เงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์ในแนวทางที่ไม่เป็นประโยชน์ (พร้อมทั้งในบางกรณีกลายเป็นอันตราย) ต่อผลประโยชน์หลักแห่งชาติของสหรัฐฯ”
พร้อมทั้งว่า “เรามุ่งหวังว่าโครงการที่เหลืออยู่อีก 18% จะได้รับการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นภายใต้การดูแลของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ”
ถ้าหากว่า ยังไม่มีข้อมูลว่าโครงการที่รอดจากการถูกตัดนั้นมีอะไรบ้าง พร้อมทั้งกระทรวงการตางประเทศจะบริหารโครงการเหล่านั้นอย่างไร
ด้านสมาชิกรัฐสภาจากพรรคเดโมแครตหลายคนบอกว่า การสั่งปิดโครงการที่ได้รับการรับรองรัฐสภาสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดกฎหมาย พร้อมทั้งจำเป็นต้องผ่านการอนุมัติจากรัฐสภาสหรัฐฯ เสียก่อน
USAID เป็นที่หมายตาของผู้ที่ต้องการตัดลดงบประมาณมาระยะหนึ่งเเล้ว องค์กรนี้ดูเเลเรื่องโครงการพัฒนา งานด้านความมั่นคง พร้อมทั้งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ในประเทศต่าง ๆ รวมแล้ว 120 ประเทศ
ไม่กี่สัปดาห์หลังคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ มีเจ้าหน้าที่ของ USAID หลายคนในหลายประเทศที่ถูกปลดจากตำแหน่งหรือถูกพักงาน รวมทั้งยกเลิกโครงการความช่วยเหลือพร้อมทั้งพัฒนาต่าง ๆ หลายพันโครงการ ส่งผลให้หน่วยงานที่ทำงานรูปแบบเดียวกันต้องปลดคนออกจากงาน หรือพักงานจำนวนมากเช่นกัน
การปิดการทำงานของ USAID ทำให้มีเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งลูกจ้างจำนวนมาก รวมทั้งครอบครัวของพวกเขา ที่ตกค้างอยู่ในหลายประเทศ เฝ้ารอเงินเดือนย้อนหลังจากทางการสหรัฐฯ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับประเทศด้วย
ที่มา: เอพี