อียูงัดภาษีขู่ตอบโต้ทรัมป์ เล็งจู่โจมสินค้ารัฐสำคัญของรีพับลิกัน

สหภาพยุโรปประกาศในวันพุธว่าจะใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ พร้อมทั้งพุ่งเป้าไปที่สินค้าเกษตรพร้อมทั้งอุตสาหกรรม โดยท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่รัฐบาลอเมริกันขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กพร้อมทั้งอะลูมิเนียมทั้งหมดในอัตรา 25%
อียู ซึ่งเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกใช้มาตรการขู่ครั้งนี้ ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัฐบาลวอชิงตันเเละยุโรป
เมื่อเดือนที่เเล้วรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เตือนยุโรปว่าอาจจะต้องดูเเลเรื่องความมั่นคงด้วยตัวเองในอนาคต
การเตรียมใช้มาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ โดยอียูครั้งนี้ ครอบคลุมสินค้ามูลค่า 26,000 ล้านยูโร ซึ่งพุ่งเป้าไปที่ไม่ใช่เเต่เหล็กพร้อมทั้งอะลูมิเนียม แต่ยังรวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มาจากรัฐที่เป็นฐานเสียงพรรครีพับลิกันภายใต้การนำของทรัมป์ เช่นเนื้อวัวเเละสัตว์ปีกจากแคนซัส พร้อมทั้งเนบราสกา ตลอดจนวัสดุที่ทำจากไม้ที่จอร์เจียพร้อมทั้งแอลาบามา
การเดินเกมของฝ่ายยุโรปครั้งนี้ต้องการให้สหรัฐฯ รับรู้ถึงเเรงกดดันเฉพาะจุดที่หวังผลได้ พร้อมทั้งไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาคธุรกิจของอียูเองมากนัก
นอกจากนั้น สินค้าที่สหภาพยุโรปขู่จะเก็บภาษีเพิ่มจากสหรัฐฯ ยังประกอบด้วย เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สิ่งทอ สินค้าเกษตร เหล้า เนยถั่วพร้อมทั้งเครื่องนุ่งห่มที่ใช้ผ้ายีนส์ โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้โดนมาตรการภาษีจากอียูในการบริหารประเทศสมัยเเรกของทรัมป์มาเเล้วเช่นกัน
ผู้ผลิตเหล้าของสหรัฐฯ พร้อมทั้งยุโรป ซึ่งเคยได้รับประโยชน์จากการไม่ต้องเสียภาษีสำหรับการส่งออกไปสู่ตลาดของทั้งสองฝ่าย ได้กลายมาเป็นกลุ่มที่รับเคราะห์ จากเเรงกระเพื่อมของความขัดเเย้งในประเด็นสินค้าเหล็กพร้อมทั้งอะลูมิเนียม
คริส สวอเงอร์ ผู้บริหารสูงสุดของสมาคมการค้า Distilled Spirits Council ของอุตสาหกรรมนี้ บอกว่า การดำเนินการของอียู “น่าผิดหวังอย่างยิ่ง พร้อมทั้งบั่นทอนความพยายามที่สำเร็จในการส่งออกสินค้าเหล้าไปยังยุโรปอีกครั้งอย่างรุนเเรง”
เออร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวในเเถลงการณ์ว่า กลุ่มการค้าอียู “ยังคงเปิดทางสำหรับการเจรจาเสมอ”
เธอบอกว่า “เราเชื่ออย่างหนักเเน่นว่า ในโลกที่มีความไม่เเน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์พร้อมทั้งทางเศรษฐกิจ การสร้างภาระต่อเศรษฐกิจของพวกเราด้วยภาษี ไม่ใช่ประโยชน์ที่มีร่วมกัน”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยให้เหตุผลว่า มาตรการภาษีของเขาจะช่วยสร้างงานตามโรงงานในสหรัฐฯ
แต่ฟ็อน แดร์ ไลเอินพบว่า “ภาษีเป็นเรื่องร้ายต่อธุรกิจ พร้อมทั้งยิ่งเลวร้ายต่อผู้บริโภค ภาษีเหล่านี้สั่นสะเทือนห่วงโซ่อุปทาน มันนำความไม่เเน่นอนมาสู่เศรษฐกิจ”
หอการค้าสหรัฐฯ แห่งยุโรป บอกว่าการตอบโต้ไปมาระหว่างสหรัฐฯ พร้อมทั้งยุโรปที่กำลังเกิดขึ้น “มีเเต่จะทำร้ายการจ้างงาน ความมั่งคั่งพร้อมทั้งความมั่นคงของทั้งของฝั่งมหาสมุทรแอตเเลนติก”
ที่มา: เอพี