เบโซสป้อง ‘วอชิงตันโพสต์’ ปมยกเลิกประกาศสนับสนุนผู้สมัครชิงปธน.

เจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีอเมริกันผู้ก่อตั้งบริษัทแอมะซอน (Amazon.com) บลูออริจิน (Blue Origin) พร้อมทั้งเจ้าของสื่อวอชิงตันโพสต์ (Washington Post) ออกมาปกป้องการตัดสินใจของสื่อหนังสือพิมพ์รายใหญ่แห่งนี้ที่จะไม่ประกาศสนับสนุนผู้สมัครชิงตำแหนงประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดคนหนึ่งในปีนี้ 

สื่อเอ็นพีอาร์ (National Public Radio) รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวของวอชิงตันโพสต์ เป็นการสกัดการสนับสนุนผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต คือ รองปธน.คามาลา แฮร์ริส ดังเช่นที่เคยทำมาในอดีต 

หลังคำประกาศ ประชาชนจำนวนมากได้ส่งข้อความไปยังเว็บไซต์ของวอชิงตันโพสต์เพื่อวิจารณ์เบโซส พร้อมทั้งมีรายงานว่ายอดผู้สมัครสมาชิกดิจิทัลของสื่อใหญ่แห่งนี้ลดลงไปแล้วกว่า 200,000 ราย

เบโซสตีพิมพ์บทความแสดงความคิดเห็นของเขาเมื่อวันจันทร์ พบว่า “ผู้คนส่วนใหญ่เชื่อว่าสื่อมีอคติ (ทางการเมือง)” ซึ่งวอชิงตันโพสต์พร้อมทั้งหนังสือพิมพ์อื่น ๆ จำเป็นต้องยกระดับความน่าเชื่อถือของตัวเอง

 

เบโซสยืนยันด้วยว่า การตัดสินใจครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการประชุมร่วมกันระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน พร้อมทั้งซีอีโอของบริษัทบลูออริจิน ซึ่งเกิดขึ้นในวันเดียวกัน แต่อย่างใด

มหาเศรษฐีผู้นี้ยังบอกด้วยว่า “การประกาศสนับสนุนผู้สมัครประธานาธิบดีมิได้มีผลมากมายต่อการเลือกตั้ง” แต่ “สิ่งที่มาพร้อมกับการประกาศจุดยืนทางการเมืองคือการสร้างภาพพจน์แห่งความลำเอียง ภาพแห่งความไม่เป็นกลาง การยุติเรื่องนี้จึงเป็นการตัดสินใจตามหลักการ พร้อมทั้งเป็นสิ่งที่ถูกต้อง” 

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว วิลเลียม ลิวอิส ซีอีโอของวอชิงตันโพสต์ บอกว่าจะไม่มีการประกาศจุดยืนสนับสนุนผู้สมัครประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใดคนหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ รวมทั้งการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อ ๆ ไปด้วย 

แต่หลังจากนั้น จำนวนผู้ยกเลิกการเป็นสมาชิกของหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ลดลงราว 8% จากยอดรวม 2.5 ล้านคน ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีคอลัมนิสต์หลายคนตัดสินใจลาออกเป็นการประท้วง จากการเปิดเผยของสื่อเอ็นพีอาร์ 

บทความแสดงความเห็นของคอลัมนิสต์ 20 คนในเว็บไซต์ของวอชิงตันโพสต์ พบว่า “การตัดสินใจของวอชิงตันโพสต์ที่ไม่แสดงจุดยืนสนับสนุนผู้สมัครคนใดนั้นถือเป้นความผิดพลาดอันเลวร้าย” พร้อมทั้งถือเป็น “การละทิ้งความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในหลักการด้านบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ที่เรารัก” 

สำนักข่าวนานาชาติรอยเตอร์พยายามติดต่อขอความเห็นจากวอชิงตันโพสต์ในประเด็นนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ 

ที่มา: รอยเตอร์