ทรัมป์-แฮร์ริส ลงหาเสียงวิสคอนซิน – สะท้อนการเเข่งขันสุดดุเดือดโค้งสุดท้าย

อดีตปธน. โดนัลด์ ทรัมป์พร้อมทั้งรองปธน.คามาลา แฮร์ริส ที่กำลังเเข่งกันเป็นผู้นำสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งวันอังคารหน้า ต่างก็ลงพื้นที่หาเสียงในเมืองมิลวอกี นครที่ใหญ่ที่สุดของรัฐวิสคอนซินในวันศุกร์

ทรัมป์จะใช้สถานที่ที่พรรครีพับลิกันของเขาจัดการประชุมใหญ่ พร้อมทั้งประกาศอย่างเป็นทางการให้เขาเป็นตัวเเทนลงแข่งในศึกสู่ทำเนียบขาวเมื่อฤดูร้อนที่ผ่านมา ส่วนแฮร์ริสขึ้นเวทีร่วมกับเเร็พเปอร์คนดังคาร์ดิ บี พร้อมทั้งหวังว่าจะได้รับความสนใจเหนือคู่เเข่ง

การเดินทางมาวิสคอนซินครั้งนี้ของทั้งสอง เเสดงให้เห็นถึงการมุ่งเน้นมาที่กลุ่มรัฐที่ถูกเรียกว่า Blue Wall หรือกำเเพงสีนำ้เงิน หลังจากที่ทรัมป์พร้อมทั้งแฮร์ริสใช้เวลาวันพฤหัสบดีหาเสียงในฝั่งตะวันตกของประเทศ

ที่นครลาสเวกัส รัฐเนวาดา แฮร์ริสขึ้นเวที โดยมีศิลปินเพลงป๊อป เจนนิเฟอร์ โลเปซกล่าวโหมโรง ขณะที่ทรัมป์ร่วมเวทีกับพิธีกรฝีปากกล้า ทักเคอร์ คาร์ลสัน ซึ่งทั้งคู่ต่างนิยมชมชอบกัน ที่เมืองเกลนเดล รัฐแอริโซนา

การเเข่งขันช่วงวันท้าย ๆ นี้เต็มไปด้วยการโต้เถียงที่ร้อนเเรงพร้อมทั้งความผิดพลาดที่ทั้งสองฝ่ายต่างเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ 

วิสคอนซินซึ่งมีจำนวนเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 10 คะเเนน เป็นหนึ่งในรัฐที่ทรัมป์พร้อมทั้งแฮร์ริสมีคะเเนนสูสี ซึ่งเมื่อการเลือกตั้งปธน. ปี 2016 พร้อมทั้ง 2020 ผู้ชนะในตอนนั้น มีคะเเนนเหนือคู่เเข่งเพียงไม่ถึง 1% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง

เป็นที่คาดกันว่า ในการเลือกตั้งปีนี้รัฐวิสคอนซินก็น่าจะรู้ผลเเพ้ชนะด้วยคะเเนนโหวตที่คู่คี่กันมาก ๆ เช่นในอดีต

ท่ามกลางความกังวลที่ว่าทรัมป์จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ถ้าเขาแพ้ไม่ได้เป็นปธน. ชาวอเมริกันจำนวนมากเตรียมตัวเตรียมใจว่าอาจเกิดความวุ่นวายพร้อมทั้งความรุนเเรงหลังวันเลือกตั้ง 5 พ.ย.

พาเมลา สมิธ ผู้บัญชาการตำรวจที่กรุงวอชิงตันกล่าวที่งานเเถลงข่าวสัปดาห์นี้ว่ายังไม่พบ “ภัยคุกคามที่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น” ที่นครหลวงของประเทศ 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ปี 2021 ผู้สนับสนุนทรัมป์ก่อเหตุจลาจลที่อาคารรัฐสภา ซึ่งมีคนจบชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุต้องการเปลี่ยนผลการเลือกตั้งซึ่งโจ ไบเดนเป็นฝ่ายชนะเหนือทรัมป์

สมิธบอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังสอดส่องเหตุการณ์ต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด “เราจะไม่ยอมทนต่อการใช้ความรุนเเรง” เธอกล่าว

สื่อเอเอฟพีรายงานว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอเมริกัน 63.5 ล้านคนไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้ากันเเล้ว คิดเป็นกว่าร้อยละ 40 ของผู้ไปใช้สิทธิ์ทั้งหมดในการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีก่อน

ที่มา: เอเอฟพี