เจ้าหน้าที่การทูตของสหรัฐฯ พร้อมทั้งรัสเซีย จะพบหารือกันที่ตุรกีในวันพฤหัสบดีนี้ ตามการเปิดเผยของรัฐมนตรีต่างประเทศเซอร์เก ลาฟรอฟ แห่งรัสเซีย ครอบคลุมประเด็นข้อพิพาทระดับทวิภาคีพร้อมทั้งการหารือในวงกว้างที่ทั้งสองมหาอำนาจมองว่าสำคัญต่อการยุติสงครามยูเครน ตามรายงานของรอยเตอร์
ลาฟรอฟ บอกว่า การหารือที่จะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดี จะมุ่งเน้นการสร้างเงื่อนไขที่ดีขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียในสหรัฐฯ พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในรัสเซีย หลังจากความบาดหมางทางการทูตระหว่างกันในช่วงที่ผ่านมา
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เสริมว่า ผลจากการหารือที่จะเกิดขึ้นในนครอิสตันบูล รวมทั้งการต่อสายตรงพูดคุยกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ พร้อมทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ พร้อมทั้งการหารือของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ พร้อมทั้งรัสเซียที่ซาอุดีอาระเบีย เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ “จะแสดงให้เห็นว่าเรา(รัสเซีย)สามารถเคลื่อนไหวได้รวดเร็วพร้อมทั้งมีประสิทธิภาพเพียงใด”
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์บอกว่าต้องการเดินหน้าข้อตกลงหยุดยิงในยูเครนอย่างรวดเร็ว แต่ในสัปดาห์นี้ปูตินปรับโทนความคาดหวังว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยบอกว่า ไม่มีอะไรที่จะบรรลุผลได้โดยปราศจากความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างรัสเซียพร้อมทั้งสหรัฐฯ
โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ กล่าวในวันพุธว่า มีความเข้าใจว่าทรัมป์พร้อมทั้งปูตินควรพบกับแบบตัวต่อตัว แต่ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับเวลาพร้อมทั้งสถานที่ที่จะเกิดขึ้น พร้อมทั้งว่าผู้นำทั้งสองอาจหารือกันอีกครั้งทางโทรศัพท์หากจำเป็น แม้ว่ายังไม่มีแผนการดังกล่าวในช่วงเวลานี้
ยูเครนชี้ดีลสินแร่วอชิงตัน-เคียฟ ไม่มีการรับประกันความมั่นคงที่ชัดเจน
อีกด้านหนึ่งในวันพุธ ยูเครนพบว่ารัฐบาลวอชิงตันควรยึดมั่นต่อการสนับสนุนรัฐบาลกรุงเคียฟ ด้วยการรับประกันด้านความมั่นคง ภายใต้ข้อตกลงสินแร่ที่สองประเทศหารือกันตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ แต่ฝั่งอเมริกาไม่ได้ให้คำรับรองใด ๆ ออกมา
ร่างของข้อตกลงสินแร่ ที่รอยเตอร์ได้รับมา ลงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ระบุชื่อว่า “ข้อตกลงทวิภาคีในการกำหนดเงื่อนไขสำหรับกองทุนการลงทุนเพื่อการฟื้นฟู” มีข้อมูลว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนความพยายามของยูเครนในการได้รับหลักประกันด้านความมั่นคงที่จำเป็นต่อการสร้างสันติภาพที่ยั่งยืน”
ดีลสินแร่เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของยูเครนในการขอแรงหนุนจากสหรัฐฯ ใต้การนำของทรัมป์ ที่พยายามผลักดันให้ยุติสงครามโดยเร็ว ซึ่งผู้สนับสนุนยูเครนต่างกลัวว่าสิ่งนี้จะมาพร้อมกับการสูญเสียผลประโยชน์ชาติ
ทรัมป์ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อค่ำวันอังคารว่า ปธน.โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ต้องการจะเดินทางมากรุงวอชิงตันในวันศุกร์ เพื่อลงนาม “ข้อตกลงที่ใหญ่มาก”
เดนิส ชมีฮาล นายกรัฐมนตรียูเครน บอกว่ารัฐบาลจะต้องยอมรับในข้อมูลข้อตกลงนี้ในวันพุธก่อนจะมีการลงนามเกิดขึ้น แต่ดีลดังกล่าวอยู่ในช่วงการหารือ “เบื้องต้น” เท่านั้น พร้อมทั้งว่า “หลังจากปธน.ยูเครนพร้อมทั้งปธน.สหรัฐฯ เห็นชอบเรื่องการรับรองความมั่นคงยูเครน การผูกยึดข้อตกลงนี้กับการรับประกันด้านความปลอดภัยจากสหรัฐฯ ที่ให้กับประเทศของเรา ในการพบกันของประธานาธิบดี(ทั้งสองชาติ) ตัวแทนรัฐบาลยูเครนจะลงนามข้อตกลงเบื้องต้นนี้”
ที่มา: รอยเตอร์