เสียงเรียกของใครกัน

บางครั้งการที่คนเราเคยอยู่ในสถานที่หนึ่งที่เราคุ้นเคยมาเป็นเวลานาน
แต่เมื่อต้องจากหรือย้ายออกจากที่นั่นไปทำงานต่างบ้านต่างเมือง ช่วงแรกๆ
อาจจะปรับตัวไม่ได้ รู้สึกว่ามันไม่คุ้นชิน อยากกลับไปอยู่ที่เก่า
พร้อมทั้งอาจมี
สาเหตุหนึ่งนั่นก็คือการได้ไปเจอเพื่อนบ้านที่ไร้สมหายใจอย่างที่ฉันเจอ
ฉันได้เข้ามาทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ช่วงแรกๆ ฉันทำใจไม่ได้ที่จะต้อง
ย้ายมาอยู่ที่กรุงเทพ มันอาจเป็นเมืองที่ใครหลายๆ คนคิดที่อยากจะมาอยู่
ที่นี่ แต่สำหรับฉันไม่เคยคิดเลยสักนิด เพราะฉันเป็นคนที่เซยๆ ไม่ค่อยชอบ
ผู้คนพลุกพล่าน ยังดีที่ที่ฉันได้เข้าพักนั้นอยู่กันแบบเงียบสงบ ไม่ค่อยมีผู้คน
ส่งเสียงโวยวายให้รำคาญใจ ที่สำคัญราคาที่พักไม่แพงมาก
ฉันออกมาดูวิวนอกบ้าน พร้อมทั้งได้คุยกับเพื่อนบ้านข้างๆ เขาเป็นคนน่รัก
อัธยาศัยดี แต่ฉันนึกแปลกใจ ถ้าบ้านมีคนอยู่แต่ทำไมบ้านถึงมีหญ้าขึ้นรก
เต็มแบบนี้ แต่คยิ้มแย้มบ้าน
พร้อมทั้งพิเศษจริงๆ เธอได้แสดงน้ำใจทำกับข้าวมาให้ในมื้อแรกของการ
มาอยู่ที่นี่ จึงทำให้ฉันอุ่นใจว่ามีเพื่อนบ้านดี
ฉันกับพรอายุเท่าๆ กันเวลาคุยกันจึงคุยได้ง่ายพร้อมทั้งเข้าใจกันไวเพราะ
มีนิสัยคล้ายๆ กัน
พรเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสนุกมาก เธอมีมุกอยู่ตลอดเวลา

แจ่มใส ถ้าฉันเป็นผู้ชายฉันคงจีบไปแล้ว หลังจากที่ฉันกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็
รีบเข้านอนเพราะพรุ่งนี้ต้องตื่นไปทำงานตั้งแต่เช้า พอหัวถึงหมอนก็หลับทันที
เพราะเหนื่อยกับการเดินทางพร้อมทั้งจัดข้าวของมาทั้งวัน แต่แล้วฉันก็ต้องตื่นมา
กลางดึก เพราะได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาเคาะประตูหน้าบ้าน แต่พอฉันลง
ไปดูก็ไม่เจอใคร ฉันจึงกลับไปนอนต่อ แต่ก็ยังไม่ทันได้นอนก็ได้ยินเสียงคน
มาเคาะประตูอีกแล้ว ฉันโมโหมากเพราะตอนนั้น ฉันง่วงนอนแบบสุดๆ พร้อมทั้ง
พอฉันเปิดประตูออกไปก็เห็นพรยืนอยู่หน้าบ้าน
“มีอะไรเหรอพร ถึงได้มาหาเราดึกๆ แบบนี้น่ะ”
“หนิงช่วยพรด้วย เจ๊เจ้าของบ้านเขามาทำร้ายพร”
“ไหนๆ ดูซิ ไม่เห็นมีเจ๊เจ้าของบ้านเลยนี่นา”
“หนิงต้องช่วยพรน่ะ พรไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พรอยากไปให้ไกล ไปสู่
ที่ชอบที่ชอบ เธอเข้าใจไหม ฉันอยากอยู่ในที่ที่ดีกว่านี้”
ฉันได้ยินแบบนั้นก็นิ่งอึ้ง เหมือนคนโดนสะกด กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตอน
เข้าแล้ว ฉันจึงนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่ามันคืออะไรกันแน่
ฉันพยายามกดออดเรียกหนิงแต่ก็ไม่มีเลียงตอบรับ ฉันเลยถือวิสาสะ
เข้าไปในบ้าน พร้อมทั้งฉันก็เริ่มได้กลิ่นแปลกๆมาจากทางหลังบ้าน ฉันรีบเดินไปดู
พร้อมทั้งแล้วก็ได้เจอกับเศษเสื้อผ้าสิ่งของวางระเกะระกะอีกทั้งคราบเลือดอยู่
บนพื้น
เมื่อฉันเห็นสภาพที่ผิดปกติ ฉันจึงไปแจ้งตำรวจให้มาดูแล้วทุกคนก็
เจออย่างที่ฉันคิดไว้ทุกคนต่างเห็นศพผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกฝังไว้ซึ่งน่าจะไม่เกิน
สัปดาห์ ตำรวจจึงไปลืบหาผู้ร้าย ว่าใครที่ใจร้ายฆ่าคนได้
การพิสูจน์หลักฐานเพื่อเอาผิดกับคนชั่วก็ได้สิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว
เพราะเจ๊ที่ดูแลที่นี่มาสารภาพยอมรับผิดแบบหมดเปลือก สีหน้าเจ๊ตอน
ตอบคำถามกับตำรวจนั้นเหมือนกับไก่ต้ม หน้าแกซีด ปากก็สั่นไปด้วย

ส่วนสาเหตุที่ทำผิดครั้งนี้เป็นเพราะแกไม่ชอบหนิงตรงที่หนิงสวยกว่า สดใสกว่า
แกระแวงกลัวสามีจะปันใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วสามีเธอไม่ได้คิดอะไรกับหนิง
เลยสักนิดเดียว
หลังจากวันนั้นฉันก็รีบย้ายออกทันที ไม่ใช่เพราะว่าฉันกลัวนะ แต่ฉัน
เกรงใจ..
.พร้อมทั้งไม่อยากเจออะไรแบบนี้อีก

 

Leave a Comment