2 อาหลานชาวจีน มาแก้บน “เรือตะเคียนโบราณ” เชื่อบันดาลให้หายป่วย

สองอาหลานชาวจีน เดินทางมาแก้บน “เรือตะเคียนโบราณ” จ.กาญจนบุรี หลังเคยมาขอพรให้หายป่วย ด้านคนดวงเฮง เดินทางมาแก้บนหลังได้โชคถูกรางวัล

กกต. แจง ไร้อำนาจสั่ง “ทักษิณ” ให้ข้อมูลปมครอบงำ ไม่ตื่นตูมสนาม อบจ.บ้านใหญ่เดือด

กกต. ไม่ตื่นตูมสนามเลือกตั้ง อบจ. บ้านใหญ่เดือด เผย ส่งคนสังเกตการณ์พรรคการเมืองตลอด แจง ไร้อำนาจสั่ง “ทักษิณ” ให้ข้อมูลเรื่องครอบงำ

“สันธนะ” ยื่นหนังสือ ยธ. ไฟเขียว “โกทร” แจงปม สจ.โต้ง ยันไม่ได้ออกตัวแรง

“สันธนะ ประยูรรัตน์” อดีตนายตำรวจสันติบาล ยื่นหนังสือกระทรวงยุติธรรม เรียกร้องให้ รมต.ทวี พิจารณาอนุญาตให้ “โกทร” ออกมาแถลงข่าว ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีการตายของ “สจ.โต้ง” ลั่นเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของ “พี่ทร” ตั้งแต่วันแรก ยันไม่ได้ออกตัวแรง

23 ธ.ค. 67 เตรียมเปิดให้เที่ยวภูกระดึง เฉพาะเส้นทางเลียบหน้าผา

อธิบดีกรมอุทยานฯ ตรวจความพร้อม-เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย ก่อนเปิดให้เที่ยวภูกระดึงอีกครั้ง วันที่ 23 ธ.ค. 67 พร้อมปรับปรุงระบบให้เป็นระเบียบมากขึ้น

หญิงวัย 82 เผยเคล็ดลับชะลอวัยด้วยการ ‘ปีนเขา’

หญิงชาวบราซิลวัย 82 ปี ยืนหนึ่งเหนือเพื่อนร่วมปีนเขาด้วยการท้าแรงโน้มถ่วงในการปีนยอดเขา ในนครริโอ เดอ จาเนโร โดยเผยว่านี่คือเคล็ดลับชะลอวัยอันยอดเยี่ยม ตามรายงานของรอยเตอร์

คาเซีย โวลารี หญิงบราซิลวัย 82 กะรัต โชว์ความฟิตในการพิชิตยอดเขามอร์โร ดา อูร์กา ในนครริโอ เดอ จาเนโร ของบราซิล

โวลารี นั่งคุยสบาย ๆ กับรอยเตอร์บนทางลาดชันที่ขรุขระว่า เธอ 82 ปีแล้ว พร้อมทั้งเป็นมังสวิรัติตั้งแต่อายุ 35 พ่วงด้วยการออกกำลังกายหนัก ๆ ที่ช่วยให้สุขภาพของเธอแข็งแรงแบบไม่ต้องพึ่งพายารักษาโรค ไม่ต้องกินวิตามินใด ๆ เว้นแต่วิตามินซี ที่คุณหมอของเธอบอกว่าช่วยเรื่องริ้วรอย

ด้านครูสอนปีนเขาของเธอ ราฟาเอล ไรน์ บอกว่า นักปีนเขาคนอื่น ๆ ที่อายุน้อยกว่าเธอมากใน หลัก 20-25 ปี ยังไม่แข็งแกร่งเท่าเธอ อีกทั้งเธอยังเป็นคนมีอารมณ์ขัน ซึ่งทำให้เส้นทางการปีนเขาที่ยากลำบากกลับสนุกขึ้นมาก

เมื่อรอยเตอร์ถามถึงเคล็ดลับอายุยืนพร้อมทั้งความแข็งแกร่งของเธอ โวลารี แนะว่า “จงใช้ชีวิต แต่กินอาหารที่ดี พร้อมทั้งออกกำลังเสริมสร้างกล้ามเนื้อ เพราะเมื่อคุณขยับร่างกาย คุณได้ช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานดีขึ้น ดังนั้น จงออกกำลังกาย จะเดิน จะวิ่ง จะเต้น อะไรก็ตาม จงออกไปใช้ชีวิตซะ พร้อมทั้งอย่าลืมกินอาหารที่มีประโยชน์ด้วย”

ที่มา: รอยเตอร์

มองย้อนสงครามในยูเครน: ปีแห่งสิ่งพลิกผันพร้อมทั้งความหวังเรื่องสันติภาพ

ตลอดปี 2024 สงครามในยูเครนเผชิญจุดพลิกผันหลายครั้ง เช่นการรุกของรัสเซีย พร้อมทั้งการโต้กลับที่แผ่วลงของยูเครน แต่ในเวลาต่อมาอาวุธที่ทันสมัยจากตะวันตก ช่วยให้ยูเครนมีอำนาจต่อรองมากขึ้น หากเกิดการเจรจาสันติภาพ

แต่ก็ยังมีความไม่เเน่นอนที่เพิ่มขึ้นมาจากการเปลี่ยนผู้นำประเทศของสหรัฐฯ จากโจ ไบเดน มาเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ในเดือนหน้านี้

ในสนามรบ เมื่อต้นปีนี้ยูเครนสามารถกลับมายึดคืนพื้นที่ของฝ่ายตนในเขตเคอร์ซอนพร้อมทั้งคาร์คิฟ แต่ในเวลาต่อมาความหวังของรัฐบาลเคียฟลดลงเมื่ออาวุธจากโลกตะวันตกไม่ได้หลั่งไหลเข้ามาช่วยอย่างรวดเร็วเท่าใดนัก

การจัดสรรงบประมาณ 60,000 ล้านดอลลาร์ที่รัฐบาลไบเดนเสนอ ประสบความล่าช้าในกระบวนการของรัฐสภา แต่ในที่สุดก็ผ่านการพิจารณาของฝ่ายนิติบัญญัติเมื่อเดือนเมษายนปีนี้

เเม้ว่ารัสเซียจะมีทหารบาดเจ็บพร้อมทั้งจบชีวิตจำนวนมาก แต่กองทัพมอสโกยังคลลุยบุกต่อไป โดยควบคุมพื้นที่ 2,700 ตารางกิโลเมตรทางตะวันออกของยูเครนได้

ในเวลาเดียวกันกองทัพเคียฟประสบความสำเร็จในการผลักให้ฝ่ายมอสโกถอยเข้าไปในเขตเคิร์สก์ทางฝั่งของรัสเซียเอง พร้อมทั้งสามารถยึดพื้นที่รัสเซีย ที่มีขนาด 1,200 ตารางกิโลเมตรพร้อมทั้งหมู่บ้าน 93 แห่ง

มาร์ค วอยเกอร์ นักวิจัยอาวุโสแห่ง Center for European Analysis บอกว่า ยูเครนไม่สามารถรักษาความสามารถในการบุกอย่างที่เคยทำได้เมื่อปี 2023 “โลกตะวันตกน่าจะช่วยได้มากกว่านี้มาก” วอยเกอร์กล่าว

ในปีนี้เช่นกัน ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี สามารถทำให้เกิดการประชุมสุดยอด Ukraine Peace Summit ที่มีผู้แทนจาก 101 ประเทศพร้อมทั้งองค์กรต่าง ๆ เข้าร่วมที่ประเทศสวิตเซอร์เเลนด์

เขากล่าวในตอนนั้นว่า “ยูเครนเชื่อเสมอในเรื่องพลังแห่งการทูต สงครามไม่ใช่สิ่งที่เราเลือก มันเป็นสิ่งที่ปูตินเลือก เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อเริ่มเดินเข้าสู่สันติภาพที่เเท้จริง”

ถ้าหากว่ารัสเซียไม่ได้ส่งตัวเเทนร่วมประชุมครั้งนั้น พร้อมทั้งทางตันยังคงดำเนินต่อไป

ทั้งนี้ หลังจากที่สหรัฐฯ จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชาวยูเครนมองว่าชัยชนะของทรัมป์เป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญ

บางคนกังวลว่าการที่ทรัมป์สัญญาที่จะช่วยให้สงครามจบลงโดยเร็ว การการเรียกร้องของเขาให้มีการหยุดยิง อาจหมายความว่ายูเครนจะถูกกดดันให้ยอมต่อข้อเรียกร้องมากกว่าที่รัฐบาลเคียฟต้องการ

เยฟเชน ฮาลิโบวิตสกี ผู้อำนวยการพร้อมทั้งผู้ร่วมก่อตั้งองค์กร Frontier Institute บอกว่า จากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ พร้อมทั้งยูเครนจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พร้อมทั้งการต่อรองกัน

“ดูเหมือนว่านโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ จะมีความเป็นเกมมากขึ้นโดยที่อยู่ภายใต้มุมมองว่าหากฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์พร้อมทั้งอีกฝ่ายจะเสียประโยชน์” ฮาลิโบวิตสกีกล่าว

ชาวยูเครนกังวลด้วยว่าถ้าประเทศตะวันตกไม่การันตีด้านความมั่นคงให้กับยูเครน สันติภาพที่ยั่งยืนจะเกิดยากมากขึ้น

มาร์ค วอยเกอร์ แห่ง Center for European Analysis บอกว่า “ทางออกในอุดมคติก็คือยูเครนได้รับการฟื้นฟูด้านอธิปไตย เเต่ในเวลานี้โดยเฉพาะในช่วงเดือนแห่งความหนาวเย็นนี้ มันยากมากที่จะเกิดขึ้น…. ที่น่าจะเป็นไปได้ก็คือการปกป้องดินเเดนให้ได้มากที่สุด พร้อมทั้งยูเครนเรียกร้องต่อไปให้ได้เป็นสมาชิกนาโต้พร้อมทั้งสหภาพยุโรป”

ความเหนื่อยหน่ายกับสงครามมีมากขึ้นในปีนี้ เมื่อโลกตะวันตกได้รับผลกระทบจากเงินเฟ้อพร้อมทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว ที่ถูกมองว่าเป็นผลของสงครามในยูเครนพร้อมทั้งมาตรการลงโทษต่อการส่งออกพลังงานของรัสเซีย

นอกจากนั้นรัสเซียยังได้รับความช่วยเหลือจากทหารเกาหลีเหนือในสงครามครั้งนี้ ขณะที่อัตราการละทิ้งหน้าที่ในหมู่ทหารยูเครนเพิ่มขึ้น

ในเวลานี้ รัฐบาลเคียฟส่งสัญญาณเปิดรับการเจรจามากขึ้น ส่วนรัสเซียยังไม่ได้ความตั้งใจที่จะเห็นสงครามยุติลงมากเท่าใดนัก

ที่มา: วีโอเอ

 

เร่งหามูลเหตุจูงใจวัยรุ่นหญิงยิงกราดโรงเรียนวิสคอนซิน

ตำรวจในรัฐวิสคอนซิน เร่งสอบปากคำเพื่อนพร้อมทั้งครอบครัวของวัยรุ่นหญิงอายุ 15 ปี เพื่อหามูลเหตุจูงใจที่ทำให้เธอตัดสินใจเปิดฉากยิงกราดในห้องเรียนที่โรงเรียนคริสเตียน เป็นเหตุให้เพื่อนร่วมชั้น 1 คนพร้อมทั้งครูอีก 1 คนจบชีวิต ก่อนจะปลิดชีพตนเอง ตามรายงานของรอยเตอร์

ผู้บัญชาการตำรวจในแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ชอน บาร์นส ได้บอกกล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอังคารว่า ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างที่ตรวจสอบโพสต์ออนไลน์พร้อมทั้งหลักฐานที่ผู้ก่อเหตุทิ้งไว้ก่อนจบชีวิต รวมทั้งค้นหาหลักฐานการติดต่อสื่อสารระหว่างเธอพร้อมทั้งคนอื่น ๆ ในโทรศัพท์มือถือพร้อมทั้งคอมพิวเตอร์ เพื่อค้นหามูลเหตุจูงใจ รวมทั้งหาคำตอบว่าวัยรุ่น 15 ปีรายนี้หาปืนมาไว้ในครอบครองได้อย่างไร พร้อมทั้งพ่อแม่ของเธอเข้าข่ายประมาทเลินเล่อในเรื่องนี้หรือไม่

เมื่อวันจันทร์ วัยรุ่นหญิงอายุ 15 ปีเปิดฉากยิงกราดในชั้นเรียน ที่โรงเรียน Abundant Life Christian School ในเมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ทำให้มีผู้จบชีวิต 2 คน พร้อมทั้งบาดเจ็บอีกหลายคน ขณะที่ผู้ก่อเหตุปลิดชีพตัวเองก่อนตำรวจมาถึง

ทั้งนี้ เหตุยิงกราดในโรงเรียนกลายเป็นเหตุเกือบรายวันในอเมริกา ด้วยตัวเลขเหตุยิงกราด 322 ครั้งแล้วในปีนี้ ซึ่งถือว่าเกือบจะสูงสุดเท่าที่เก็บสถิติมา อ้างอิงจากตัวเลขฐานข้อมูลเหตุยิงกราดโรงเรียนระดับประถมจนถึงมัธยมปลาย ที่รวบรวมมาตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งมีทั้งหมด 2,610 เหตุการณ์ ขณะที่เมื่อปีที่แล้วมีเหตุยิงกราดมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ที่ 349 ครั้ง

ถ้าหากว่า ผู้หญิงพร้อมทั้งเด็กหญิงมีแนวโน้มที่จะก่อเหตุยิงกราดน้อยกว่าผู้ชาย มีเหตุยิงกราดที่มีผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิงเพียง 107 คน ขณะที่มีเพียง 3% ของเหตุยิงกราดในอเมริกาที่มีผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิง

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนอเมริกันที่ดำเนินมาจนจะกลายเป็นเรื่องปกตินี้ ได้ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกัน มีแนวคิดสนับสนุนการตรวจสอบประวัติภูมิหลังของผู้ซื้อปืน การจำกัดการเข้าถึงอาวุธร้ายแรงนี้กับบุคคลที่เผชิญกับวิกฤตในชีวิต พร้อมทั้งมีมาตรการความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในการจัดเก็บปืนในบ้านที่มีเด็ก แต่ไม่มีผู้นำทางการเมืองคนใดที่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ โดยอ้างเหตุผลเรื่องรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ที่ปกป้องผู้ครอบครองปืน

ที่มา: รอยเตอร์

ยักษ์ใหญ่ยานยนต์ญี่ปุ่น ‘นิสสัน-ฮอนด้า’ เจรจาควบรวมกิจการ

ฮอนด้า มอเตอร์ พร้อมทั้งนิสสัน มอเตอร์ จะเริ่มต้นการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการ ระหว่างที่ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ญี่ปุ่น กำลังเผชิญกับการแข่งขันขับเคี่ยวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

รอยเตอร์อ้างอิงรายงานจากสื่อนิคเคอิ เมื่อวันอังคาร พบว่า ทั้ง 2 บริษัทยกระดับความสัมพันธ์ในช่วงหลายเดือนมานี้ ในช่วงที่ทั้ง 2 ค่ายรถยนต์เจอคู่แข่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากจีนเข้ามาตีตลาด

ทั้งสองกำลังพิจารณาที่จะให้บริษัทใหม่ที่ควบรวมกันนั้นดำเนินงานในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง หรือ บริษัทที่ถือหุ้นในกิจการอื่นเป็นหลัก พร้อมทั้งจะลงนามบันทึกความเข้าใจเร็ว ๆ นี้ ส่วนการถือหุ้นของทั้งสองบริษัทในบริษัทใหม่ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ จะมีการตัดสินใจในภายหลัง

นอกจากนั้น ยังตั้งเป้าที่จะนำมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) ซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 24% เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้บริษัทใหม่นี้กลายเป็นกลุ่มธุรกิจรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก โดยยอดขายรวมของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั้งสามค่ายนี้สูงถึง 8 ล้านคัน

ฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสัน ออกแถลงการณ์ที่เหมือนกันว่ารายงานของนิคเคอิยังไม่ได้มีการประกาศออกมาจากทางบริษัทอย่างเป็นทางการ โดยพบว่า “จากที่ประกาศในเดือนมีนาคมปีนี้ ฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสันอยู่ระหว่างที่สำรวจความเป็นไปได้ของความร่วมมือในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกันพร้อมทั้งกัน” ขณะที่รอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันข่าวนี้ได้

หลังข่าวนี้มีออกมา หุ้นฮอนด้าที่จดทะเบียนในตลาดซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 1.3% ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันอังคาร

นิสสันพร้อมทั้งฮอนด้า ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 พร้อมทั้ง 3 ของญี่ปุ่น ตามหลังโตโยต้า สูญเสียส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้กับจีน ที่ครองตลาดรถอีวีเกือบ 70% ของตลาดทั่วโลก ด้วยยอดขาย 1.27 ล้านคันในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของ 2 ค่ายญี่ปุ่นรวมกันที่ 7.4 ล้านคันในปี 2023

เมื่อมองถึงคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาดโลก อย่าง เจเนรัล มอเตอร์ส พร้อมทั้งฟอร์ด มอเตอร์ ได้ลดการลงทุนรถอีวี เนื่องจากต้นทุนกู้ยืมที่สูงพร้อมทั้งระบบการชาร์ตรถไฟฟ้าที่กระทบต่อยอดขาย แม้จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐก็ตาม ส่วนโฟล์คสวาเกน เจอปัญหาภายในกับสหภาพรถยนต์ ความต้องการรถไฟฟ้าที่ลดลง พร้อมทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยานยนต์โลกยังเตรียมรับมือกับนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าที่ลดลงไป หลังการเข้ามาของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ที่มา: รอยเตอร์

ผู้ผลิต ‘ชุดนอนไม่ได้นอน’ จีน หวั่นสงครามการค้าสหรัฐฯ

บรรดาผู้ประกอบการที่นิคมอุตสาหกรรม วีเมต (WeMet) ในเขตกวนหยุน ทางภาคตะวันออกของจีน กำลังกังวลต่ออนาคตของโรงงานของพวกตน สืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าของจีนกับสหรัฐฯ

ศูนย์อุตสาหกรรม WeMet ได้ชื่อว่า “เมืองวิคตอเรียส์ ซีเคร็ต” ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู่ ราว 290 กม. พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการผลิตชุดชั้นในสตรีแบบเซ็กซี่ ที่ส่งออกไปยังอเมริกาพร้อมทั้งยุโรป

อุตสาหกรรมผลิตชุดชั้นในที่เขตกวนหยุนรุ่งเรืองขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายยกเว้นภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมทั้งการลดขั้นตอนการขอเอกสารการนำเข้าที่ใช้กับสินค้าราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ต่อชิ้น ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เรียกว่า เดอ มินิมิส (de minimis)

รวมทั้งการเติบโตของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชของจีนที่เน้นขายสินค้าราคาถูก เช่น ชีน (Shein) พร้อมทั้ง ทีมู (Temu) ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของตลาดมืด เช่น การลักลอบขายยาเฟนทานิลจากจีนด้วย

ความพยายามของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ต้องการอุดช่องโหว่นี้ รวมทั้งนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังคุกคามภาคการลงทุนพร้อมทั้งชีวิตของผู้คนนับล้านคนที่กวนหยุนซึ่งส่วนใหญ่ทำงานโรงงาน

หลี่ เจ้าของโรงงานชุดชั้นในสตรี Midnight Charm Garment ซึ่งขายสินค้าผ่าน Shein พร้อมทั้งพึ่งพารายได้ราว 70% จากตลาดสหรัฐฯ บอกว่า อัตราภาษีที่แพงขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของตน พร้อมทั้งอาจทำให้ชาวอเมริกันต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น นอกจากนี้เขายังมีแผนเปลี่ยนมาใช้การขนส่งทางเรือพร้อมทั้งเครื่องบินเพื่อลดต้นทุน หรือลงทุนเช่าโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ตลอดจนหาตลาดใหม่ ๆ ในอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง พร้อมทั้งเอเชียกลาง

สถาบันการเงิน โนมูระ (Nomura) ประเมินว่า สินค้าจีนได้ประโยชน์จากนโยบายยกเว้นภาษีพร้อมทั้งกฎเดอ มินิมิส ราว 240,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ คิดเป็น 7% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดของจีน พร้อมทั้งคาดว่าการยกเลิกกฎดังกล่าว รวมทั้งอัตราภาษีใหม่ อาจลดรายได้จากการส่งออกของจีนลง 1.3%

โดยผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนทำงานในโรงงานขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าราคาถูกพร้อมทั้งใช้แรงงานสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอของจีน

ที่มา: รอยเตอร์