สายตรวจลาดพร้าว จับ “ชายคลุ้มคลั่ง” อาละวาด ใช้ท่อนเหล็กทำลายทรัพย์สิน

สายตรวจลาดพร้าว จับ “ชายคลุ้มคลั่ง” ป่วยทางจิตอาละวาด ใช้ท่อนเหล็กทำลายทรัพย์สิน ขณะที่ญาติมารับตัวที่ สน.ลาดพร้าว พร้อมส่งตัวไปทำการรักษาโรงพยาบาลแล้ว

“วิสุทธิ์” เผย ดันกฎหมาย 20 ฉบับในสมัยนี้ ขอ สส. ให้ความสำคัญประชุมสภา

“วิสุทธิ์” เผย สมัยประชุมนี้ดันกฎหมายเป็นประโยชน์กับประชาชน 20 ฉบับ ชี้ ต้องวางแนวให้ชัดก่อนเสนอกฎหมาย ลั่น วิปรัฐบาลต้องคุยให้จบ จะไม่ต่างคนต่างเสนอ ขอ สส. ให้ความสำคัญประชุมสภา

กกต. ส่งมอบหีบเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ คาดรู้ผลไม่ทางการ 5 ทุ่มพรุ่งนี้

กกต.อุบลราชธานี ตรวจความเรียบร้อยส่งมอบหีบบัตรเลือกตั้ง ก่อนเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี พรุ่งนี้ ระบุ ยังไม่มีอะไรน่าห่วง คาดทราบคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ 23.00 น. ของวันที่ 22 ธ.ค. นี้

ก.อุตฯ ตรวจพบสายไฟฟ้าที่วางขายในห้างโมเดิร์นเทรด ไม่ได้มาตรฐาน 3 พื้นที่

กระทรวงอุตสาหกรรม ส่งทีมตรวจสุดซอยโรงงาน ปูพรมตรวจสายไฟฟ้าห้างโมเดิร์นเทรด พบสายไฟผลิตไม่ตรงตามมาตรฐาน 3 พื้นที่ มูลค่า 8.9 ล้านบาท ชี้อันตรายกับผู้บริโภค

“โกทร” ไม่เข้าเกณฑ์พักโทษ แต่หากป่วยจริง อนุมัติไปรักษานอกเรือนจำ แบบ “ทักษิณ” ได้

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยขั้นตอน ย้ายโกทร กับลูกน้อง มาขังกรุงเทพฯ ระบุหากมีอาการเจ็บป่วยจริง หมอไฟเขียว อนุมัติไปรักษานอกเรือนจำ เหมือนอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ได้ ส่วนการพักการลงโทษ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีของนายสุนทรพร้อมทั้งพวก เพราะการพักโทษต้องเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดเท่านั้น

กกต. ประกาศวันเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 เปิดรับสมัคร 23-27 ธ.ค. นี้

คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศวันเลือกตั้งนายก อบจ. พร้อมทั้ง ส.อบจ. 29 จังหวัด เป็นวันที่ 1 ก.พ. 68 รับสมัคร 23 ธ.ค. – 27 ธ.ค. 67

เจ้าของเศร้า วอนคนใจบุญช่วยรับเลี้ยงลูกหมา 8 ตัว หลังแม่หมาถูกยิงตาย

เจ้าของเปิดใจหลังโพสต์คลิปแม่หมาถูกยิง นอนให้นมลูกจนสิ้นลม บอกสงสารลูกหมาทั้ง 8 ตัวมาก วอนคนใจบุญช่วยรับไปเลี้ยงต่อ

รัสเซียส่งขีปนาวุธจู่โจมกรุงเคียฟ หลังยูเครนยิงขีปนาวุธของสหรัฐฯ ถล่มข้ามแดน

รัสเซียส่งขีปนาวุธเข้าจู่โจมกรุงเคียฟในช่วงเช้าของวันศุกร์ ส่งผลให้มีผู้จบชีวิต 1 คนพร้อมทั้งบาดเจ็บ 9 คน โดยกรุงมอสโกอ้างว่า นี่เป็นการโต้ตอบยูเครนที่ยิงขีปนาวุธซึ่งสหรัฐฯ มอบให้ข้ามพรมแดนมาถล่มตน

รายงานข่าวพบว่า เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 3 ครั้งก่อนรุ่งสางในกรุงเคียฟ ขณะที่ กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า ได้ยิงสกัดขีปนาวุธแบบทิ้งตัวรุ่น Iskander จำนวน 5 ลูกที่รัสเซียส่งมาจู่โจมเมืองหลวงของประเทศได้

เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงเคียฟรายงานว่า การจู่โจมล่าสุดโดยรัสเซียทำให้ระบบทำความร้อนของอาคารที่พักอาศัย 630 แห่ง โรงพยาบาลพร้อมทั้งคลินิก 16 แห่ง รวมทั้งโรงเรียนพร้อมทั้งโรงเรียนอนุบาล 30 แห่ง หยุดทำงานไป ขณะที่ เศษซากของขีปนาวุธที่ถูกยิงตกลงมายังสร้างความเสียหายพร้อมทั้งทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ 3 เขตของเมืองหลวงด้วย

ในช่วงเกือบ 3 ปีของสงครามระหว่างทั้งสอง รัสเซียทิ้งระเบิดถล่มพื้นที่พลเรือนของยูเครนเป็นประจำ ด้วยจุดประสงค์หลัก ๆเพื่อสร้างความเสียหายให้กับโครงข่ายจ่ายพลังงานพร้อมทั้งสร้างความกลัวให้ชาวยูเครน

ในเวลาเดียวกัน ยูเครนได้พยายามสกัดกั้นกองทัพรัสเซียไม่ให้รุกคืบฝ่ายแนวหน้าของการรบมาได้ พร้อมทั้งยิงจู่โจมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามของมอสโกมาโดยตลอด

ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่า การจู่โจมของตนนั้นเป็นการโต้ตอบการยิงขีปนาวุธของยูเครนเข้าใส่แคว้นรอสตอฟที่ตั้งอยู่ตรงชายแดนระหว่างสองประเทศเมื่อ 2 วันก่อน

รัสเซียพบว่า การจู่โจมดังกล่าวของยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS (Army Tactical Missile System) ที่สหรัฐฯ ผลิตจำนวน 6 ลูกพร้อมทั้งขีปนาวุธที่ยิงจากอากาศสู่พื้นดิน Storm Shadow ซึ่งอังกฤษส่งมอบให้อีก 4 ลูก

ในเหตุการณ์วันนั้น ยูเครนอ้างว่า ได้ยิงจู่โจมเป้าหมายที่เป็นโรงกลั่นน้ำมันรอสตอฟ ภายใต้แผนงานถล่มโครงสร้างพื้นฐานที่รัสเซียใช้สนับสนุนปฏิบัติการทำสงครามครั้งนี้

ยูเครนเริ่มใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาผลิตยิงเข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียครั้งแรกเมื่อ 19 พฤศจิกายน หลังกรุงวอชิงตันปลดล็อกข้อจำกัดการอาวุธที่มอบให้ แต่การที่ยูเครนนำอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งมาให้จู่โจมรัสเซียทำให้ทำเนียบเครมลินเดือดดาลอย่างมาก

สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้รัสเซียเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “โอเรชนิก” รุ่นใหม่ของตนเพื่อใช้ในสงครามนี้เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า อาวุธใหม่นี้มีความสามารถที่จะบินไปยังเป้าหมายที่ไกลพร้อมทั้งเจาะจงอย่างอาคารต่าง ๆ ในกรุงเคียฟได้ แม้ว่า จะยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธนี้รอบที่ 2 ออกมาก็ตาม

ในส่วนของการโต้ตอบการจู่โจมด้วยขีปนาวุธจากสหรัฐฯ ของยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียพบว่า ได้ส่งขีปนาวุธจำนวนหนึ่งที่ “มีพิสัยไกลพร้อมทั้งมีความแม่นยำสูง” เข้าถล่มศูนย์บัญชาการหน่วยงานข่าวกรองกองทัพยูเครนพร้อมทั้งเป้าหมายอีกแห่งที่อ้างว่าเป็นพื้นที่ออกแบบพร้อมทั้งผลิตระบบขีปนาวุธ Neptune ของยูเครน รวมทั้ง เป้าหมายที่เป็นระบบขีปนาวุธแบบร่อนที่ยิงจากพื้นดินพร้อมทั้งระบบป้องกันการจู่โจมแพทริออตที่สหรัฐฯ มอบให้กรุงเคียฟด้วย

อย่างไรก็ดี เอพีไม่สามารถยืนยันว่า สิ่งที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวอ้าง เป็นความจริงหรือไม่

 

 

ที่มา: เอพี

มาเลเซียเดินหน้าหาซาก MH370 หลังหายปริศนาเกิน 10 ปี

รัฐมนตรีคมนาคมมาเลเซียประกาศในวันศุกร์ว่าจะเดินหน้าค้นหาซากเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 อีกครั้ง หลังจากวิเคราะห์ชุดข้อมูลใหม่ พร้อมทั้งมีความมั่นใจว่าสามารถระบุพิกัดของซากเครื่องบินได้ ตามการรายงานของรอยเตอร์

แอนโธนี โลค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ระบุในการแถลงข่าวว่า การค้นหาถือเป็นหน้าที่พร้อมทั้งความรับผิดชอบที่มีต่อลูกหลานของผู้สูญหาย พร้อมทั้งหวังว่าครั้งนี้จะค้นพบซากเครื่องบิน พร้อมทั้งคลี่คลายปมในใจของครอบครัวผู้สูญเสีย

เจียง ฮุ่ย สูญเสียแม่ไปในเที่ยวบินดังกล่าว บอกว่า ยินดีที่มีการกลับมาค้นหาอีกครั้ง แต่มองว่ากระบวนการกินเวลายาวนานเกินไป พร้อมทั้งจะดีกว่านี้ หากรัฐบาลจะเปิดให้มีคนเข้าร่วมการค้นหามากขึ้นด้วยการให้รางวัลกับผู้พบซากเครื่องบิน

เที่ยวบิน MH370 บรรทุกผู้โดยสาร 227 คน พร้อมทั้งลูกเรือ 12 คนบนเครื่องบินโบอิ้ง 777 หายไปจากจอเรดาร์ 40 นาทีหลังขึ้นบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014

นักบินส่งสัญญาณเป็นครั้งสุดท้ายขณะเครื่องบินเข้าสู่น่านฟ้าของเวียดนาม ในพื้นที่อ่าวไทย ก่อนที่อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณจะปิดตัวลง

เรดาร์ของทหารพบว่า MH370 ออกจากเส้นทางการบิน พร้อมทั้งพยายามกลับมาทางตอนเหนือของมาเลเซีย จากนั้นบินออกไปทางทะเลอันดามัน หันหัวลงใต้ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อใด ๆ ได้อีก

ชิ้นส่วนเครื่องบินหลายชิ้น ทั้งที่ได้รับการยืนยันพร้อมทั้งเป็นที่เชื่อว่ามาจาก MH370 ถูกพบตามแนวชายฝั่งทวีปแอฟริกาพร้อมทั้งหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย

รมต.โลค บอกว่า บริษัท Ocean Infinity ผู้ทำปฏิบัติการค้นหาเครื่องลำดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ ที่จบลงในปี 2018 เป็นผู้ส่งข้อเสนอรื้อฟื้นการค้นหาอีกครั้ง โดยลงพิกัดไปที่ตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย แต่ยังไม่มีการลงตำแหน่งปฏิบัติการอย่างชัดเจนมากไปกว่านี้

ปฏิบัติการครั้งใหม่จะใช้เวลา 18 เดือน ใต้ท้องทะเลกว้าง 15,000 กม. โดยจะได้รับค่าตอบแทน 70 ล้านดอลลาร์ หากพบซากเครื่องบิน

โลคบอกว่า ทางการมาเลเซียวิเคราะห์ข้อมูลชุดใหม่ที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญพร้อมทั้งบริษัท Ocean Infinity พร้อมทั้งมั่นใจว่ามีโอกาสที่จะค้นพบ MH370

ที่มา: รอยเตอร์

ผู้เชี่ยวชาญชี้ กองทัพเมียนมากำลังใช้การจับกุมชาวประมงไทยต่อรองกับรัฐบาลไทย

นักวิเคราะเชื่อว่า เหตุการณ์ที่รัฐบาลทหารเมียนมาจับกุมพร้อมทั้งดำเนินการลงโทษชาวประมงไทย 4 คนเมื่อเร็ว ๆ นี้ น่าจะเป็นแผนการเพื่อสร้างความชอบธรรมให้ประชาคมโลกยอมรับพร้อม ๆ กับสร้างแรงต่อรองก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับสูง

เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลเมียนมาในเกาะสอง (Kawthong) มีคำพิพากษาลงโทษเจ้าของเรือประมงที่เจ้าหน้าที่ยึดมาให้จำคุกเป็นเวลา 6 ปีพร้อมทั้งสั่งจำคุกชาวประมงอีก 3 คนเป็นเวลา 4 ปี ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศไทยพยายามผลักดันให้มีการปล่อยตัวทุกคนพร้อมทั้งรัฐบาลเมียนมากำลังให้ความสนใจกับการประชุมระดับสูงในกรุงเทพฯ

ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้บอกกล่าวกับวีโอเอ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นชัดเจนแล้วว่า เมียนมาใช้กรณีชาวประมงไทยเพื่อต่อรองผลประโยชน์ของตน พร้อมทั้งพบว่า การควบคุมตัวชาวประมงทั้ง 4 คนนั้นมีจุดประสงค์ที่จะบีบให้ไทยยอมยกระดับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับตนพร้อมทั้งให้มีการยอมรับสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC – State Administration Council)

อาจารย์ฐิตินันท์ให้ความเห็นว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ทำมีแต่จะทำให้ประเทศไทยดูอ่อนแอในสายตานานาชาติ

แซคคารี อาบูซา ศาสตราจารย์จาก National War College ในกรุงวอชิงตัน เห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่ก็ชี้ว่า เมียนมาอาจกลายมาเป็นผู้เสียผลประโยชน์ได้ หากควบคุมตัวชาวประมงไทยไว้นานเกินไป เพราะแม้ “รัฐบาลไทยจะพยายามสนับสนุนรัฐบาลทหารมากเท่าที่จะทำได้ อาจเกิดแรงต้านสะท้อนกลับจากประชาชนได้”

วีโอเอพยายามติดต่อขอความเห็นจากสภาบริหารแห่งรัฐเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับก่อนจัดพิมพ์รายงานข่าว

ข้อพิพาทด้านการประมงเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างไทยพร้อมทั้งเมียนมามานาน แต่ โดมินิก ธอมสัน ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Environmental Justice Foundation บอกว่า นี่เป็นครั้งแรกอย่างน้อยในรอบ 9 ปี พร้อมให้ความเห็นว่า ลักษณะของปัญหาพร้อมทั้งกรณีการกักเรือประมงพร้อมทั้งควบคุมตัวลูกเรือนั้น “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเพื่อนบ้านสองประเทศนี้เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมว่าด้วยเรื่องของความมั่นคงตามแนวชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งบทบาทของอาเซียนในวิกฤตเมียนมาที่เปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดี

ศ.ดร.ฐิตินันท์บอกว่า การที่ไทยจะทำงานร่วมกับเมียมาในระดับที่สูงขึ้นนั้น “เป็นปัญหาพอควร” จึงไม่น่าแปลกใจที่กองทัพเมียนมาดึงเรื่องชาวประมงไทยเอาไว้ พร้อมทั้งบอกว่า คำถามที่สำคัญคือ ทำไมรัฐบาลไทยจึงยอมเล่นตามเกมของเมียนมา

รายงานข่าวพบว่า เจ้าหน้าที่ไทยพยายามทำให้ประเด็นนี้ไม่เป็นข่าวใหญ่มาตลอด พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ออกมาบอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังแข็งแกร่ง พร้อมพบว่า เมียนมาจะปล่อยตัวชาวประมงทั้งหมดในวันที่ 4 มกราคม หรือ 5 สัปดาห์หลังจากที่ทั้งหมดถูกจับกุมตัวไป

 

 

ที่มา: วีโอเอ