admin 
โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ซุน หลี่-ฟาง กล่าวที่กรุงไทเปในวันอังคาร พบว่า กองทัพเรือของจีนที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ตั้งแต่หมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่นไปจนถึงทะเลจีนใต้นั้น มีขนาดใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่จีนซ้อมรบทางทะเลรอบไต้หวันเมื่อปี 1996 ก่อนที่ไต้หวันจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดี
โฆษกซุน บอกว่า “ขนาด (กองเรือจีน) ในขณะนี้ใหญ่ที่สุดเมื่อเทียบกับการซ้อมรบ 4 ครั้งที่ผ่านมา” พร้อมทั้งว่า “นี่ถือเป็นภัยคุกคามครั้งใหญ่ต่อไต้หวัน ไม่ว่าจีนจะประกาศการซ้อมรบหรือไม่”
ทางด้านกองทัพจีนยังคงไม่ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกองเรือที่ประจำการอยู่ในน่านน้ำรอบไต้หวันขณะนี้ พร้อมทั้งมิได้ยืนยันว่าจะมีการซ้อมรบใด ๆ หรือไม่
ผู้เชี่ยวชาญมองว่า จีนอาจจะเริ่มการซ้อมรบรอบใหม่เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการเยือนประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทธแปซิฟิกของประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ ที่จะสิ้นสุดลงในวันศุกร์นี้ ซึ่งรวมถึงการแวะที่รัฐฮาวายพร้อมทั้งเกาะกวมของสหรัฐฯ ด้วย
เมื่อวันจันทร์ กองทัพไต้หวันยกระดับการเตือนภัยหลังจากมีรายงานว่าจีนได้รุกล้ำน่านฟ้าพร้อมทั้งส่งเรือตระเวนใกล้ไต้หวัน แต่ยังไม่มีรายงานว่าจีนเริ่มการซ้อมรบในตอนนี้แม้จะมีกิจกรรมทางการของจีนเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนทางเหนือของไต้หวัน
แหล่งข่าวด้านความมั่นคงของไต้หวันได้บอกกล่าวกับรอยเตอร์ว่า จำนวนเรือของกองทัพเรือจีนพร้อมทั้งเรือลาดตระเวนชายฝั่งของจีนในภูมิภาคนี้อยู่ที่จำนวน 90 ลำ ซึ่ง “น่ากังวลอย่างยิ่ง” พร้อมทั้งนอกจากไต้หวันแล้ว จีนยังมุ่งเป้าไปที่ประเทศอื่นในแถบนี้ด้วย
ในวันอังคาร กระทรวงกลาโหมไต้หวันบอกว่า สามารถตรวจจับเครื่องบินทหารจีน 47 ลำรอบเกาะไต้หวันในช่วง 24 ชม. รวมทั้งเรือจีนกว่า 20 ลำ
กระทรวงกลาโหมไต้หวันพบว่า กองทัพเรือจีนกำลังสร้าง “กำแพงคู่” ในแปซิฟิก ด้านหนึ่งที่ฝั่งตะวันออกตรงจุดสิ้นสุดของเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศของไต้หวัน พร้อมทั้งอีกด้านหนึ่งอยู่ลึกเข้าไปในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า กำแพงคู่ดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ช่องแคบไต้หวันกลายเป็นน่านน้ำภายในของจีน
เฉพาะปีนี้ จีนซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวันไปแล้วสองครั้ง
ที่มา: รอยเตอร์
สำนักข่าวนานาชาติเอพีรายงานว่า มีเสียงระเบิดพร้อมทั้งการจู่โจมทางอากาศตลอดคืนที่ผ่านมาในแถบกรุงดามัสกัส ภาพที่เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตแสดงให้เห็นเครื่องยิงขีปนาวุธถูกทำลาย รวมทั้งเครื่องบินพร้อมทั้งเฮลิคอปเตอร์หลายลำ
ทางกลุ่มแข็งข้อต่อต้าน ฮายัต ทาห์เรีย อัล-ชาม หรือ HTS ซึ่งยึดพื้นที่หลายส่วนของซีเรียในขณะนี้ ยังคงไม่ออกมาให้ความเห็นเรื่องการจู่โจมของซีเรีย หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธนี้ได้เป็นผู้นำในการโค่นอำนาจของรัฐบาลอัซซาด พร้อมทั้งยุติการครองอำนาจของตระกูลนี้ที่ยาวนานต่อเนื่องถึงครึ่งศตวรรษ
หลังอัซซาดถูกโค่นอำนาจ กองทัพอิสราเอลได้เคลื่อนกำลังเข้ายึดครองเขตกันชนภายในดินแดนของซีเรียขนาดราว 400 ตารางกม. ซึ่งจัดตั้งขึ้นหลังสงครามในตะวันออกกลางเมื่อปี 1973 โดยพบว่าเพื่อเป็นการปกป้องพลเมืองของอิสราเอล
อิสราเอลยังได้จู่โจมทำลายสถานที่ที่เชื่อว่าเป็นโกดังเก็บอาวุธเคมีพร้อมทั้งขีปนาวุธของซีเรีย เพื่อไม่ให้อาวุธเหล่านั้นตกอยู่ในมือของกลุ่มแนวคิดสุดโต่ง
หลายสิบปีที่ผ่านมา อิสราเอลมักใช้วิธีเข้ายึดดินแดนของเพื่อนบ้านขณะที่เกิดสงครามพร้อมทั้งครอบครองไว้เป็นของตนเองในระยะยาวโดยอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงปลอดภัย เช่น การยึดครองพร้อมทั้งควบรวมที่ราบสูงโกลันจากซีเรียเมื่อปี 1967 ระหว่างสงครามตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ยกเว้นสหรัฐฯ
องค์กรตรวจสอบ Syrian Observatory for Human Rights ในอังกฤษ ซึ่งติดตามตรวจสอบความขัดแย้งพร้อมทั้งสงครามกลางเมืองในซีเรียมาตั้งแต่ปี 2011 หลังเหตุการณ์ลุกฮือของประชาชนที่เรียกว่า อาหรับสปริง บอกว่า อิสราเอลจู่โจมทางอากาศมากกว่า 300 ครั้งทั่วซีเรียนับตั้งแต่การล่มสลายของระบอบอัซซาด
องค์กรดังกล่าว รวมทั้งสื่อโทรทัศน์ มายาดีนทีวี ในกรุงเบรุต ซึ่งมีผู้สื่อข่าวประจำอยู่ในซีเรีย รายงานว่า ทหารอิสราเอลกำลังบุกลึกเข้าไปจากพรมแดนซีเรียกับเลบานอน พร้อมทั้งอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสเพียง 25 กม.
แต่ทางอิสราเอลยืนยันปฏิเสธรายงานที่ว่านี้ โดยทางโฆษกกองทัพอิสราเอล นาดาฟ โชชานี บอกว่า “รายงานที่แพร่สะพัดเกี่ยวกับข้อกล่าวหาว่ารถถังอิสราเอลเข้าใกล้กรุงดามัสกัสนั้นไม่เป็นความจริง” พร้อมยืนยันว่าทหารอิสราเอลยังคงประจำการภายในเขตกันชนบริเวณแนวพรมแดน
ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลเคยบอกว่า ทหารอิสราเอลจะบุกเข้าไปในเขตกันชนพร้อมทั้งพื้นที่อื่น ๆ “หากจำเป็น” ในการป้องกันตนเอง
อียิปต์ จอร์แดน พร้อมทั้งซาอุดิอาระเบีย ต่างออกมาประณามการกระทำล่าสุดของอิสราเอล โดยกล่าวหาว่าเป็นการหาประโยชน์จากความวุ่นวายในซีเรีย พร้อมทั้งละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
ด้านกระทรวงการต่างประเทศตุรกี กล่าวหาว่า อิสราเอลกำลังแสดงตนในฐานะผู้ยึดครอง ในช่วงที่สันติภาพพร้อมทั้งความมั่นคงกำลังเกิดขึ้นในซีเรีย
ที่มา: เอพี
