ผลชันสูตรผู้ต้องขังกีฬามวยไทย เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมอง รอยช้ำที่หลัง ไม่ได้มาจากการชก

ญาติติดต่อรับศพ ผู้ต้องขังกีฬามวยไทย จบชีวิตหลังขึ้นชกในเรือนจำกลางระยอง ภรรยาแจง แพทย์ยืนยันบาดแผลฟกช้ำบนแผ่นหลัง ไม่ได้เกิดจากการชกมวย ขณะที่ผลชันสูตร แพทย์ระบุตายเพราะเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองชั้นหนาจากใบหน้าได้รับบาดเจ็บจากวัตถุแข็งไม่มีคม รอกรมราชทัณฑ์ชี้แจงผลสอบข้อเท็จจริง

วิจารณ์ ไทยส่งกลับ 6 นักเคลื่อนไหวกัมพูชาสะท้อนสัมพันธ์การเมือง‘ปราบปรามข้ามชาติ’

ผู้เชี่ยวชาญได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า การที่ทางการไทยส่งตัวนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชา 6 คนที่ถูกกล่าวหาก่อกบฏจากการวิจารณ์รัฐบาล กลับไปกัมพูชาเพื่อขึ้นศาลเมื่อเดือนที่แล้วนั้น ชี้ให้เห็นว่าไทยยังคงมีส่วนในการ “ปราบปรามข้ามชาติ” ซึ่งหมายถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่มุ่งเป้าไปยังผู้เห็นต่างที่อยู่นอกประเทศ

รัฐบาลซีเรียยันทำงานต่อ หลัง “ระบอบอัซซาด” ล่ม

นายกรัฐมนตรีซีเรียยืนยันในวันจันทร์ว่า คณะรัฐมนตรีจะเดินหน้าทำงานต่อไปแม้ว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์กลุ่มแข็งข้อต่อต้านบุกยึดเมืองหลวงพร้อมทั้งโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบะชาร์ อัล-อัซซาด ในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความวุ่นวายครั้งใหญ่ในประเทศ

รวบผู้ต้องสงสัยยิงซีอีโอ บ. ประกันฯ เผยมีอาวุธปืนตรงกับที่ใช้ก่อเหตุ

ผู้บัญชาการตำรวจนครนิวยอร์ก หรือ NYPD กล่าววันจันทร์ว่า สามารถจับกุมตัวชายวัย 26 ปี ที่มีอาวุธปืนตรงกับที่ใช้สังหารซีอีโอบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ

รมต.กลาโหมจีนออกสื่ออีกครั้ง หลังหายหน้าไป ท่ามกลางข่าวปราบทุจริต

Taipei, Taiwan  — รัฐมนตรีกลาโหมจีน ต่ง จวินปรากฏตัวอีกครั้งในที่สาธารณะ หลังจากมีรายงานว่าเขาถูกตรวจสอบทางวินัย

นักวิเคราะห์บอกว่าแม้เขาะจะปลอดภัยทางการเมือง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ารัฐบาลปักกิ่งจะยุติการปราบปรามคอร์รัปชั่นในกองทัพ

เมื่อวันพฤหัสบดี สัปดาห์ก่อน ต่ง จวินเข้าร่วมประชุมด้านความมั่นคง เกี่ยวกับสถานการณ์ในอ่าวกินี

ครั้งนี้เป็นครั้งเเรก ที่เขาปรากฏตัวในที่สาธารณะ ตั้งเเต่ร่วมประชุมกับประเทศสมาชิกอาเซียนพร้อมทั้งสหรัฐฯ เมื่อเดือนที่เเล้วที่ประเทศลาว

ก่อนการกลับมาออกสื่ออีกครั้ง หนังสือพิมพ์ไฟเเนนเชียลไทมส์ รายงาน วันที่ 26 พ.ย. ว่ารัฐมนตรีผู้นี้เผชิญกับการสืบสวนเกี่ยวกับการทุจริต

รายงานดังกล่าวอ้างข้อมูลจากอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่ได้เปิดเผยชื่อ

กระทรวงกลาโหมจีน ปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยพบว่าเป็น “การเเต่งเรื่องขึ้นล้วน ๆ” ซึ่งถูกแพร่โดยผู้ที่ต้องการปั่นข่าวซุบซิบที่ประสงค์ร้าย

ผู้เชี่ยวชาญเรื่องกลาโหมจีน หลิน ยิงหยู แห่ง Tamkang University ในไต้หวัน บอกว่า “รัฐบาลจีนต้องการเเสดงให้เห็นว่า ต่งยังคงปลอดภัย แม้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงในหมู่ผู้นำกองทัพ กลุ่มผู้นำจีนยังคงสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง”

ทั้งนี้ คำถามเกี่ยวกับอนาคตของรัฐมนตรีต่ง มีเพิ่มขึ้นหลังจากที่กระทรวงกลาโหมประกาศเมื่อวันที่ 28 พ.ย. ว่านายทหารระดับสูงอีกผู้หนึ่ง พลเรือเอกเมี่ยว หัว ถูกตราจสอบด้านวินัย

เหวินตี ซง นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Australian National University บอกว่ายังไม่เป็นที่เเน่ชัดว่าความสัมพันธ์ระดับบุคคลของต่งพร้อมทั้งเมี่ยว จะมีผลกระทบต่อรัฐมนตรีผู้นี้ภายหลังหรือไม่

ตั้งแต่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำจีนเมื่อ 12 ปีก่อน เขาดำเนินการปราบปรามการทุจริตในกองทัพ พร้อมทั้งยกระดับมาตรการต่าง ๆ ในปีที่เเล้ว

มีนายพลอย่างน้อย 9 ราย พร้อมทั้งผู้บริหารอุตสาหกรรมกลาโหมหลายคน ถูกปลดออกจากองค์กรนิติบัญญัติของจีน เนื่องจากข้อหาคอร์รัปชั่น

ที่มา: วีโอเอ

“แบ่งขั้ว” ศัพท์แห่งปีของพจนานุกรม เมอร์เรียม-เว็บสเตอร์

ผู้จัดทำพจนานุกรมเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ พบว่าคำแห่งปี 2024 คือคำว่า “polarization” หรือการแบ่งขั้ว

ปีเตอร์ โซโคโลวสกี บรรรณาธิการใหญ่ของเมอร์เรียม-เว็บสเตอร์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวนานาชาติเอพีว่า “polarization  แปลว่าความแตกแยก… คำว่า polarization หมายถึงว่าเรากำลังมีเเนวโน้มไปทางความคิดสุดโต่ง มากกว่าเข้าสู่จุดตรงกลาง” 

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤศจิกายนสะท้อนถึงความเเตกเเยก ในหมู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอเมริกัน ซึ่งผู้สนับสนุนแต่ละฝ่ายต่างเห็นว่าตัวเเทนของฝ่ายตรงข้าม เป็นภัยมหันต์ต่อการคงอยู่ของประเทศ

ผลการสำรวจความเห็น AP VoteCast ที่ครอบคลุมผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 120,000 คนที่เป็นผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งสะท้อนว่า 8 ใน 10 ของคนที่เลือกรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส กังวลอย่างมาก หรือกังวลบ้าง ต่อมุมมองของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ในทางตรงข้าม  7 ใน 10 คนของผู้สนับสนุนทรัมป์ มีความรู้สึกเช่นนั้นต่อแฮร์ริส

คำว่า “polarization” มีความหมายที่ใช้ส่วนใหญ่ ว่าการทำให้เกิดความเห็นที่ไม่ตรงกันอย่างรุนเเรงระหว่างกลุ่มที่อยู่ตรงกันข้ามกัน”

เมอร์เรียมเว็บสเตอร์ ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากการที่คนเเวะเข้ามาดูเพจ 100 ล้านครั้งต่อเดือน เลือกคำศัพท์แห่งปีจากข้อมูลที่ติดตามการใช้พร้อมทั้งการค้นหาคำที่มากขึ้น 

เมื่อปีที่เเล้ว เมอร์เรียมเว็บสเตอร์ เลือกคำว่า “authentic” หรือแปลง่าย ๆ ว่า “ของแท้” ให้เป็นศัพท์แห่งปี ในช่วงเวลาที่คนจำนวนมากในสหรัฐฯ ประสบความยากลำบากในการเห็นตรงกันว่าอะไรคือเรื่องจริง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผู้จัดพิมพ์พจนานุกรมอ็อกซ์ฟอร์ด ยกให้คำว่า “brain rot” (เบรนร็อต) หรือ “สมองเน่า” เป็นคำแห่งปี 2024

Oxford University Press ระบุวันจันทร์ว่าคำว่า “brain rot” หรือที่แปลตรงๆ ว่า “สมองเน่า” ถูกใช้บ่อยมากขึ้นในปีนี้ 230% จากปีก่อน

อ็อกซ์ฟอร์ด ให้คำจำกัดความว่า “brain rot” หมายถึง การเสื่อมถอยของสภาพทางจิตใจพร้อมทั้งสติปัญญา โดยเฉพาะจากการบริโภคเนื้อหาออนไลน์ที่เป็นเรื่องสัพเพเหระพร้อมทั้งไม่ท้าทายความคิด มากเกินไป

ที่มา: เอพี

วิเคราะห์: ‘เหตุยิงเรือ’ สะท้อนปมพิพาทประมงไทย-เมียนมา

นักวิเคราะห์ต่างชี้ว่า ความบาดหมางระหว่างเรือประมงไทยพร้อมทั้งกองทัพเรือเมียนมา ได้ฉายภาพของความขัดแย้งของ 2 ประเทศในด้านสิทธิการประมงในน่านน้ำระหว่างกัน

เมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พฤศจิกายน เรือลาดตระเวนเมียนมายิงเรือประมงไทย 15 ลำ นอกชายฝั่งจังหวัดระนองทางภาคใต้ของประเทศไทย ทำให้มีคนไทยจบชีวิต 1 ราย พร้อมทั้งทัพเรือเมียนมาจับกุมลูกเรือไทยอีก 4 คน ชาวเมียนมาอีก 27 คน พร้อมยึดเรือประมงไทย 1 ลำ ในเหตุการณ์ดังกล่าว

นับตั้งแต่นั้นมา ทางการไทยพยายามเจรจากับทางการเมียนมาเพื่อขอปล่อยตัวลูกเรือไทยทั้ง 4 คน

นิกรเดช พลางกูร โฆษกกระทรวงการต่างประเทศไทย ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันศุกร์ว่า ลูกเรือทั้ง 4 ถูกนำตัวส่งไปยังเกาะสอง บริเวณพรมแดนไทย-เมียนมา เพื่อรอส่งตัวกลับ แต่จนถึงวันจันทร์ลูกเรือทั้ง 4 ยังอยู่ในการควบคุมของทางการเมียนมา

รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย ยืนยันว่าชาวไทยวัย 24 ที่จบชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าว เนื่องจากจมน้ำหลังกระโดดลงไปในทะเลในช่วงที่กองทัพเรือเมียนมาเปิดฉากยิงเข้าใส่เรือประมงที่เขาร่วมออกเรือด้วยเป็นครั้งแรก

นายภูมิธรรมได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ด้วยว่า ทางการไทยยังรอการตอบกลับจากรัฐบาลทหารเมียนมา พร้อมทั้งตอนนี้ยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับกรอบเวลาที่ชาวไทยทั้ง 4 จะได้รับอิสรภาพ

ก่อนหน้านี้ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทย บอกว่าการยิงเรือของเมียนมาเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ของทัพเรือเมียนมา แต่รัฐบาลทหารกรุงเนปิดอว์ยังยืนยันว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้อง เนื่องจากเรือประมงไทยรุกล้ำน่านน้ำ

นอกจากนี้ กองทัพเมียนมา ที่กำลังเผชิญความขัดแย้งกลับกลุ่มแข็งข้อต่อต้านแนวคิดสนับสนุนประชาธิปไตยในประเทศ กำลังสืบสวนว่าพบวัตถุบนเรือประมงไทยที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มปฏิวัติในเมียนมา

ทั้งนี้ ไทยพร้อมทั้งเมียนมามีพรมแดนเชื่อมต่อกันทอดยาวกว่า 2,400 กิโลเมตร พร้อมทั้งมีพื้นที่ทางทะเลร่วมกัน 263 กิโลเมตรในทะเลอันดามัน ซึ่งก่อตั้งขึ้นอย่างเป็นทางการตามข้อตกลงทวิภาคีเมื่อปี 1980 แต่เรือประมงไทยมักรุกล้ำเส้นแบ่งน่านน้ำดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง

ฟิล โรเบิร์ตสัน อดีตรองผู้อำนวยการฝ่ายภูมิภาคเอเชีย องค์กรสิทธิมนุษชน Human Rights Watch ซึ่งปัจจุบันเป็นประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษชนแห่งเอเชีย (Asian Human Rights Commission – AHRC) ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่าฝั่งไทยกำลังทำประมงโดยผิดกฎหมาย

โรเบิร์ตสัน อธิบายว่า “กลุ่มเรือประมงไทยเดินหน้าทำประมงในรูปแบบที่ไร้ขื่อแปรแบบเดิม ๆ ด้วยการรุกล้ำน่านน้ำเมียนมา พร้อมทั้งครั้งนี้พวกเขาถูกจับโดยกองทัพเรือที่ละเมิดสิทธิ์ผ่านการยิงเรือก่อนแล้วค่อยสอบถามทีหลัง เหตุการณ์ล่าสุดนี้ซ้ำรอยตามการปฏิบัติที่เคยเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองฝ่าย”

เรือประมงไทยสนใจน่านน้ำเมียนมาเพราะเป็นแหล่งประมงที่อุดมสมบูรณ์ ขณะที่ภาคประมงไทยทำรายได้มากกว่า 2% ของผลผลิตมวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ของปี 2023

 

โดมินิก ทอมสัน ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แห่ง the Environmental Justice Foundation ได้บอกกล่าวกับวีโอเอฝ่ายอีเมลว่า ข้อพิพาทด้านการประมงระหว่างสองชาติดำเนินมาหลายทศวรรษแล้ว แต่การเผชิญหน้าลักษณะนี้ถือเป็นครั้งแรก

ทอมสัน บอกว่า “ไทยพร้อมทั้งเมียนมายังไม่แก้ปมเรื่องพื้นที่ทางทะเลร่วมกันในอันดามัน ซึ่งนำไปสู่การละเมิดน่านน้ำระหว่างกัน ความบาดหมางด้านสิทธิการประมงย้อนกลับไปตั้งแต่คริสต์ทศวรรษที่ 1980 ที่ไทยขยายกองเรือประมงตามความต้องการสินค้าอาหารทะเลในประเทศที่สูงขึ้น พ่วงด้วยปริมาณสัตว์ทะเลในน่านน้ำไทยที่ลดลงอย่างรุนแรง การประมงเกินขนาดในน่านน้ำไทยได้ทำให้เรือประมงของไทยรุกล้ำเข้าไปในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาตอยู่บ่อยครั้ง”

เมื่อปี 2015 สหภาพยุโรป หรือ อียู ยื่น ‘ใบเหลือง’ ให้ไทยปฏิรูปนโยบายเรื่องการประมงที่ผิดกฎหมาย ที่ไม่มีการรายงาน พร้อมทั้งที่ไม่มีกฎข้อบังคับ หรือที่เรียกย่อๆ ว่า IUU ซึ่งถือเป็นมาตรการขั้นแรกที่สหภาพยุโรปใช้เตือนหุ้นส่วนการค้าให้แก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย แต่หากได้รับ ‘ใบแดง’ จะหมายถึงไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งจะไม่สามารถส่งออกอาหารทะเลไปยังอียูได้อีก

หลังจากนั้น ไทยได้ออกกฎระเบียบใหม่ที่ระบุให้เรือประมงไทยต้องติดตั้งเทคโนโลยีเตือนการรุกล้ำน่านน้ำ

ถ้าหากว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่าระบบเตือนดังกล่าวถูกเพิกเฉย หรือไม่ได้เปิดใช้งาน ในช่วงที่เรือประมงถูกทางการเมียนมายิงใส่เมื่อ 30 พฤศจิกายน

ทอมสัน บอกว่า “ไม่มีรายงานเกี่ยวกับเหตุการณ์ลักษณะนี้มาตั้งแต่ปี 2015 เป็นอย่างน้อย พร้อมทั้งรูปการณ์ของเหตุพิพาทนี้ รวมทั้งการควบคุมตัวลูกเรือพร้อมทั้งยึดเรือประมงไทยเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ยังคงมีอีกหลายคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์นี้

ด้านโรเบิร์ตสัน บอกว่า “แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้เผยว่ามีเรือประมงไทยอีกมากที่ทำประมงผิดกฎหมายเกินกว่าที่รายงานออกมา นำไปสู่คำถามที่ว่าทำไมหน่วยงานกำกับดูแลทางทะเลของไทยล้มเหลวในการควบคุมกลุ่มเรือประมงไทยให้เคารพน่านน้ำของเมียนมา แม้ว่าชาวประมงไทยดูเหมือนเหยื่อในเหตุการณ์นี้ แต่ก็เป็นต้นตอของปัญหาในเวลาเดียวกัน”

ทอมสัน บอกว่าทางการไทยควรหันกลับมาดูระบบติดตามการรุกล้ำน่านน้ำของเรือประมง พร้อมทั้ง “เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีอำนาจควบคุมดูแลพร้อมทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง” เพื่อป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยในอนาคต

ที่ต้องติดตามกันต่อไป คือ การที่เมียนมาพร้อมทั้งสมาชิกอาเซียนจะเข้าร่วมประชุมระดับรัฐมนตรีของกลุ่มประชาคม ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ว่าจะมีการหยิบยกข้อพิพาทดังกล่าวมาหารือด้วยหรือไม่

ที่มา: วีโอเอ

วิจารณ์ไทยส่งตัว 6 นักเคลื่อนไหวกลับกัมพูชา เข้าข่าย “การปราบปรามข้ามชาติ”

ผู้เชี่ยวชาญได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า การที่ทางการไทยส่งตัวนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชาหกคนที่โดนกล่าวหาในข้อหาก่อกบฏทรยศชาติจากการวิจารณ์รัฐบาลบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก กลับไปกัมพูชาเพื่อขึ้นศาลเมื่อเดือนที่แล้วนั้น ชี้ให้เห็นว่าไทยยังคงมีส่วนในการ “ปราบปรามข้ามชาติ” ซึ่งหมายถึงความร่วมมือระหว่างรัฐบาลที่มุ่งเป้าไปยังผู้เห็นต่างที่อยู่นอกประเทศ

ผู้ถูกส่งตัวกลับครั้งนี้เป็นหญิงสี่คน เป็นชายสองคน พร้อมทั้งทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา พรรคฝ่ายค้านที่มีชื่อเสียงในประเทศที่โดนปราบปรามด้วยการยุบพรรคเมื่อปี 2017 การดำเนินคดี พร้อมทั้งการจับกุมคุมขังสมาชิกพรรคจำนวนมาก

เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของไทย ให้ข้อมูลโดยไม่เปิดเผยตัวตนว่า ผู้ลี้ภัยทั้งหกคน บวกกับอีกหนึ่งที่เป็นเด็กอายุ 5 ขวบ ถูกคุมตัวที่ จ.ปทุมธานี เมื่อปลายเดือน พ.ย. ก่อนถูกส่งตัวกลับกัมพูชา ตามการรายงานของเรดิโอ ฟรี เอเชีย ที่อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงาน USAGM เช่นเดียวกับวีโอเอ

สำนักข่าวนานาชาติเอพีรายงานว่า กลุ่มนักเคลื่อนไหวนี้ถูกศาลแขวงกรุงพนมเปญดำเนินคดีเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาในข้อหาทรยศชาติ สืบเนื่องจากการโพสต์ข้อความวิจารณ์รัฐบาลกัมพูชากรณีโครงการสามเหลี่ยมความร่วมมือกัมพูชา-ลาว-เวียดนาม (CLV-DTA)

โครงการดังกล่าวเป็นข้อตกลงในแผนพัฒนา พร้อมทั้งร่วมมือกันทางการค้าพร้อมทั้งการเดินทางย้ายถิ่นในพื้นที่สี่จังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมทั้งพื้นที่ชายแดนของกัมพูชาที่ติดกับลาวพร้อมทั้งเวียดนาม ซึ่งลงนามในปี 1999 พร้อมทั้งริเริ่มอย่างเป็นทางการในปี 2004

สามเหลี่ยมความร่วมมือนี้ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นการมอบผลประโยชน์ให้กับต่างชาติ โดยเฉพาะการมอบสัมปทานที่ดิน ที่ถูกมองว่าเป็นการเสียที่ดินพร้อมทั้งอำนาจอธิปไตยให้กับเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่มีความบาดหมางในทางประวัติศาสตร์

กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยขแมร์ หรือ Khmer Movement for Democracy ที่ก่อตั้งโดยแกนนำฝ่ายค้านที่ลี้ภัยอยู่ต่างแดน วิจารณ์ว่าการส่งตัวกลับ จะทำให้ผู้ถูกกล่าวหาทั้งหกเผชิญกับ “การปฏิบัติที่ไร้ความเป็นมนุษย์พร้อมทั้งต่ำทราม” ในทัณฑสถานกัมพูชาที่แออัด

เรดิโอ ฟรี เอเชีย รายงานว่า ทั้งหกคนถูกควบคุมตัวไว้แยกกันก่อนการพิจารณาคดีในกรุงพนมเปญ ซึ่งหากถูกตัดสินว่ามีความผิด พวกเขาอาจต้องโทษจำคุกเป็นเวลานานหลายปี 

เสียงวิจารณ์ “การปราบปรามข้ามชาติ”

เตีย ชุง โฆษกของสำนักข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR (U.N. High Commissioner for Refugees) ระบุทางอีเมลถึงวีโอเอ “แสดงความกังวลอย่างยิ่ง” ต่อการส่งตัวนักเคลื่อนไหวทั้งหกคนกลับประเทศ ซึ่งขัดกับพันธะผูกพันของไทยที่รับประกันว่าจะไม่มีการส่งตัวผู้ใดกลับประเทศหากว่าพวกเขาเผชิญความเสี่ยงต่อชีวิตหรือเสรีภาพของพวกเขา

โฆษก UNHCR บอกว่า “เราต้องการคำอธิบายอย่างเร่งด่วนจากทางการไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอให้เคารพในกฎหมายของไทยพร้อมทั้งพันธะผูกพันระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันไม่ให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก” 

 

ทั้งนี้ กรณีการปราบปรามข้ามชาติในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ นักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชาสามคนที่ UNHCR พบว่าเป็นผู้ที่อาจตกอยู่ในความเสี่ยง ถูกทางการไทยจับกุมพร้อมครอบครัวของพวกเขาสืบเนื่องจากการวางแผนประท้วงระหว่างที่นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ฮุน มาเนต เยือนประเทศไทย 

องค์กรสิทธมนุษยชน Freedom House ระบุเมื่อปี 2022 ว่า ตั้งแต่ปี 2014 มีพลเมืองต่างชาติในไทยกว่า 150 คนที่กลายเป็นเหยื่อของการปราบปรามข้ามชาติลักษณะนี้ 

ฟิล โรเบิร์ตสัน ผอ.ขององค์กร Asia Human Rights Labor Advocates บอกว่า ไทยไม่ใช่สถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา “เนื่องจากความสัมพันธ์อันดีระหว่างครอบครัวฮุน กับครอบครัวชินวัตร ที่อยู่เหนือพันธะผูกพันใด ๆ ก็ตามที่ไทยควรต้องยึดถือไว้ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ”  

โดยความสัมพันธ์ส่วนตัวดังกล่าวสานต่อมาจากรุ่นพ่อ คือ อดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน พร้อมทั้งทักษิณ ชินวัตร จนมาถึงรุ่นลูก คือ ฮุน มาเนต พร้อมทั้งแพทองธาร ชินวัตร​ 

ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองครอบครัวอาจเป็นกุญแจสำคัญในกรณีการส่งตัวชาวกัมพูชากลับประเทศครั้งนี้ 

“ความสัมพันธ์ส่วนตัวอันใกล้ชิดของสองครอบครัวสร้างความกังขาต่อการส่งตัวนักเคลื่อนไหวชาวกัมพูชากลับประเทศ เป็นเรื่องยากที่จะไม่คิดว่าความเชื่อมโยงนี้ช่วยให้เกิดกรณีดังกล่าวขึ้น ซึ่งการส่งตัวนี้ถือเป็นการตัดสินใจที่ไม่ดีเลยสำหรับแพทองธารพร้อมทั้งรัฐบาลไทยที่อ้างความชอบธรรมทางประชาธิปไตย แม้ว่าเป็นฝ่ายพ่ายแพ้การเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2023” ศ.ดร.ฐิตินันท์ ได้บอกกล่าวกับวีโอเอ

ทางด้าน เปรม ซิงห์ กิลล์ นักวิชาการรับเชิญที่ Universitas Muhammadiyah Yogyakarta ในอินโดนีเซีย ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า รัฐบาลไทยพร้อมทั้งกัมพูชามีผลประโยชน์ร่วมกันในเรื่องการควบคุมผู้เห็นต่าง ทั้งสองประเทศล้วนมีสถาบันพร้อมทั้งกลุ่มการเมืองที่คล้ายกันในการรักษาฐานอำนาจเอาไว้ พร้อมทั้งได้ร่วมกันสร้างกลไกที่ครอบคลุมเพื่อจำกัดการเคลื่อนไหวของบรรดาผู้เห็นต่าง 

พร้อมทั้งว่า “การปราบปรามข้ามชาติกลายมาเป็นเครื่องมือที่ซับซ้อนของบรรดาผู้มีอำนาจในภูมิภาคนี้ ที่ซึ่งนักเคลื่อนไหวถูกจำกัดอยู่ในเครือข่ายของการคุกคามทั้งทางกฎหมายพร้อมทั้งนอกกฎหมาย ขณะที่รัฐบาลใช้ความร่วมมือผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการ แบ่งปันข้อมูลข่าวสาร ร่วมมือกันส่งตัวข้ามชายแดน พร้อมทั้งสร้างสิ่งแวดล้อมที่เปราะบางต่อผู้เห็นต่างทางการเมือง” 

ก่อนหน้านี้ ไทยได้รับเลือกให้นั่งในสภาสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติ ซึ่งจะเริ่มทำหน้าที่อย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม ปีหน้า 

วีโอเอพยายามติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศของไทยเพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ

ที่มา: เอพี, วีโอเอ พร้อมทั้ง เรดิโอ ฟรี เอเชีย

หนังมิวสิคคัล ‘เอมิเลีย เปเรซ’ ประกาศศักดาเข้าชิงลูกโลกทองคำ 10 สาขา

ภาพยนตร์แนวมิวสิคคัล “Emilia Pérez” เรื่องราวของเจ้าพ่อยาเสพติดชาวเม็กซิกันที่ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้หญิง ได้รับการเสนอชื่อให้เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ 10 สาขาในปีนี้ มากที่สุดเหนือภาพยนตร์เรื่องอื่น ๆ โดยมีหนังแนวจินตนิยายมิวสิคคัล “Wicked” หนังแนวสืบสวน “Conclave” พร้อมทั้งหนังมหากาพย์สงคราม “The Brutalist” ได้รับการเสนอชื่อรอง ๆ ลงมา

“The Brutalist” ได้รับเสนอชื่อเข้าชิง 7 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์แนวดราม่ายอดเยี่ยม พร้อมทั้งดารานำชายยอดเยี่ยม โดยหนังจากค่าย A24 เรื่องนี้กำลังจะออกฉายเร็ว ๆ นี้

ตามมาติด ๆ คือ “Conclave” เรื่องของพระคาร์ดินัลที่เป็นผู้นำคณะนักบวชในการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่ เข้าชิง 6 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์แนวดราม่ายอดเยี่ยม ดารานำชายยอดเยี่ยม พร้อมทั้งดารานำหญิงยอดเยี่ยม

“Anora” หนังแนวโรแมนติกเกี่ยวกับโสภาณีในนครนิวยอร์กที่จับพลัดจับผลูแต่งงานกับทายาทมหาเศรษฐีชาวรัสเซีย พร้อมทั้งเพิ่งคว้ารางวัลปาล์มทางคำเมื่อไม่นานนี้ เข้าชิง 5 สาขา รวมทั้งภาพยนตร์แนวตลกหรือมิวสิคคัลยอดเยี่ยม ดารานำหญิงยอดเยี่ยม พร้อมทั้งดาราสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยม  

ส่วน “The Apprentice” หนังดราม่าเกี่ยวกับชีวิตวัยหนุ่มของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดลันด์ ทรัมป์ มีชื่อเข้าชิงในสาขาดารานำชายยอดเยี่ยมจาก เซบาสเตียน สแตน ที่แสดงเป็นทรัมป์ พร้อมทั้งสาขาดาราสมทบฝ่ายชายยอดเยี่ยม จาก เจเรมี สตรอง ที่แสดงเป็น รอย โคห์น แต่ดูเหมือนตัวทรัมป์เองจะไม่ค่อยชื่นชอบหนังเรื่องนี้มากนักโดยบอกว่าเป็น “งานวิจารณ์การเมืองที่สับเละอย่างน่ารังเกียจ” โดย “มนุษย์ชั้นต่ำ”

การประกาศผลรางวัลลูกโลกทองคำ หรือ Golden Globes ครั้งที่ 82 จะมีขึ้นในวันที่ 5 มกราคม โดยจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทางสถานีโทรทัศน์ซีบีเอส พร้อมทั้งพาราเมาท์พลัส พร้อมทั้งได้นักแสดงตลก นิกกี เกลเซอร์ มารับหน้าที่พิธีกร ซึ่งตัวเธอเองก็ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงในสาขาแสดงตลกแบบสแตนอัพยอดเยี่ยมด้วย

ผู้จัดงานคาดหวังว่าการมีดารานักแสดงพร้อมทั้งนักร้องหลายคนที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลในปีนี้ อาจช่วยดึงกระแสความนิยมในการประกาศผลรางวัลนี้ให้กลับมาอีกครั้งหลังจากซบเซาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากข่าวอื้อฉาวต่าง ๆ รวมทั้งเสียงวิจารณ์ในแง่ลบที่มีต่อนักแสดงตลก โจ กอย ที่ทำหน้าที่พิธีกรเมื่อปีที่แล้ว

ส่วนหนึ่งของรายชื่อดาราพร้อมทั้งนักร้องที่เข้าชิง ได้แก่ เซนดายา, แองเจลินา โจลี, แดเนียล เคร็ก, แดนเซล วอชิงตัน, แอริอะนา แกรนเด, เกลน พาวเวลล์ พร้อมทั้งเซเรนา โกเมซ  

รายชื่อภาพยนตร์พร้อมทั้งซีรีย์โทรทัศน์ที่เข้าชิงสาขาต่าง ๆ 

ภาพยนตร์แนวดราม่ายอดเยี่ยม: “The Brutalist”; “A Complete Unknown,”; “Conclave”; “Dune: Part Two”; “Nickel Boys;” “September 5.”

ภาพยนตร์แนวตลกหรือมิวสิคคัลยอดเยี่ยม: “Wicked”; “Anora”; “Emilia Pérez”; “Challengers”; “A Real Pain”; “The Substance.”

ภาพยนตร์แอนิเมชั่นยอดเยี่ยม: “Flow”; “Inside Out 2”; “Memoir of a Snail”; “Moana 2”; “Wallace and Gromit: Vengeance Most Fowl”; “The Wild Robot.”

ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จจากโรงภาพยนตร์พร้อมทั้งบ็อกซ์ออฟฟิศยอดเยี่ยม: “Alien: Romulus”; Beetlejuice Beetlejuice”; Deadpool & Wolverine”; “Gladiator II”; “Inside Out 2”; “Twisters”; “Wicked”; “The Wild Robot.”

ซีรีย์โทรทัศน์แนวดราม่ายอดเยี่ยม: “Shogun”; “The Diplomat”; “Slow Horses”; “Mr. and Mrs. Smith”; “The Day of the Jackal”; “Squid Game.”

ซีรีย์โทรทัศน์แนวตลกหรือมิวสิคคัลยอดเยี่ยม: “Abbott Elementary”; “The Bear; “Hacks”; “Nobody Wants This”; “Only Murders in the Building”; “The Gentlemen.”

ที่มา: เอพี

รัฐบาลซีเรียยืนยันทำงานต่อ ท่ามกลางความวุ่นวายหลังระบอบอัซซาดล่ม

นายกรัฐมนตรีซีเรียยืนยันในวันจันทร์ว่า คณะรัฐมนตรีจะเดินหน้าทำงานต่อไปแม้ว่าเพิ่งเกิดเหตุการณ์กลุ่มแข็งข้อต่อต้านบุกยึดเมืองหลวงพร้อมทั้งโค่นล้มรัฐบาลของประธานาธิบดีบะชาร์ อัล-อัซซาด ในช่วงสุดสัปดาห์ ท่ามกลางความวุ่นวายครั้งใหญ่ในประเทศ

สัญญาณแห่งปัญหาพร้อมทั้งความท้าทายในซีเรียปรากฎขึ้นทันทีภายใต้การควบคุมของพันธมิตรกลุ่มติดอาวุธที่นำโดย อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี อดีตสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัล-ไคยดา เมื่อประชาชนจำนวนมากตัดสินใจลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ท่ามกลางวิกฤตสงครามระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มที่อิหร่านให้การสนับสนุน

ในวันจันทร์ อิสราเอลพบว่าได้จู่โจมทางอากาศใส่เป้าหมายที่เชื่อว่าเป็นสถานที่เก็บอาวุธเคมีพร้อมทั้งขีปนาวุธพิสัยไกล เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในการครอบครองของกลุ่มติดอาวุธแนวคิดสุดโต่ง นอกจากนี้กองทัพอิสราเอลยังเข้าประจำการในเขตกันชนภายในดินแดนของซีเรียหลังจากทหารซีเรียถอนกำลังออกไป

ด้านทางการตุรกีเปิดเผยว่า กองกำลังพันธมิตรของตุรกีได้เข้ายึดหมู่บ้านแห่งหนึ่งทางเหนือของซีเรียมาจากกองกำลังชาวเคิร์ดที่สหรัฐฯ ให้การสนับสนุน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกในพื้นที่ต่าง ๆ ของซีเรีย หลังการล่มสลายของระบอบการปกครองที่นำโดยบะชาร์ อัล-อัซซาด

ทางด้านรัฐบาลรัสเซียพบว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ได้อนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยทางการเมืองให้แก่อัซซาดแล้ว โดยทางโฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นว่าขณะนี้อัซซาดหลบอยู่ที่ไหน พร้อมทั้งยืนยันว่าปูตินยังไม่มีแผนจะพบกับอัซซาดในตอนนี้

รัฐบาลเดินหน้าทำงานต่อไป

นายกรัฐมนตรีโมฮัมเหม็ด กาซี จาลาลี ซึ่งยังคงอยู่ในตำแหน่งต่อไปแม้รัฐบาลอัซซาดถูกโค่นอำนาจ ได้บอกกล่าวกับสื่อ Sky News Arabia TV ในวันจันทร์ ว่า “เราจะทำงานต่อไปเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านอำนาจเป็นไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งราบรื่น” พร้อมพบว่าสถานการณ์ด้านความมั่นคงขณะนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว

นายกฯ ซีเรีย กล่าวด้วยว่า รัฐบาลกำลังร่วมมือกับกลุ่มต่อต้าน พร้อมทั้งตนพร้อมที่จะพบกับ อัล-กอลานี ผู้นำกลุ่ม ซึ่งปรากฎตัวประกาศชัยชนะที่สุเหร่าแห่งหนึ่งในกรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ 

แถลงการณ์ของกลุ่มแข็งข้อต่อต้านยืนยันว่า จะรับประกันเสรีภาพสำหรับประชาชนทุกคน พร้อมทั้งจะไม่บังคับให้สตรีต้องสวมเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม 

บรรยากาศทั่วไปในกรุงดามัสกัสค่อนข้างเงียบเหงาในวันจันทร์ ประชาชนเริ่มใช้ชีวิตตามปกติแม้ร้านค้าต่าง ๆ พร้อมทั้งระบบขนส่งมวลชนยังคงปิดบริการ ผู้คนจำนวนหนึ่งยังคงชุมนุมฉลองชัยชนะของกลุ่มต่อต้านตามจตุรัสต่าง ๆ ขณะที่บางพื้นที่มีชายถืออาวุธยืนประจำการอยู่บนถนน

 

อิสราเอลจู่โจมใส่โกดังอาวุธเคมี

ทางการอิสราเอลแสดงความยินดีต่อการโค่นอำนาจรัฐบาลอัซซาดของซีเรียซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอิหร่านพร้อมทั้งกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอน 

ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลบุกยึดครองพื้นที่ในเขตกันชนภายในซีเรียหลังจากที่ทหารซีเรียถอนกำลังออกไป

รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอล กิเดียน ซาร์ ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ว่า “ผลประโยชน์เดียวที่อิสราเอลมีอยู่คือความปลอดภัยของพลเมืองอิสราเอล” “พร้อมทั้งนั่นคือสาเหตุที่เราจู่โจมใส่ระบบยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อาวุธเคมีที่ยังคงมีอยู่ หรือขีปนาวุธพิสัยไกลพร้อมทั้งจรวด เพื่อที่จะไม่ให้ตกอยู่ในการครอบครองของกลุ่มแนวคิดสุดโต่ง” 

ผู้สื่อข่าวของเอพีในกรุงดามัสกัส รายงานว่า เกิดการจู่โจมที่สนามบินทหารทางตะวันตกเฉียงใต้ของกรุงดามัสกัสเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งเคยเป็นเป้าหมายของการจู่โจมทางอากาศจากอิสราเอล

ทั้งนี้ ซีเรียตกลงยุติการสั่งสมอาวุธเคมีตั้งแต่ปี 2013 หลังเกิดเหตุการณ์ที่รัฐบาลซีเรียถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีจู่โจมใส่แถบชานกรุงดามัสกัสจนทำให้มีผู้จบชีวิตนับร้อยคน ถ้าหากว่า เช่อว่ารัฐบาลซีเรียยังคงลักลอบเก็บอาวุธเคมีบางส่วนเอาไว้เพื่อใช้ในการจู่โจมศัตรูในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ที่มา: เอพี