admin
อินโดบอกปัดแผนลงทุนจากแอปเปิล ระบุน้อยไปเมื่อเทียบไทย-เวียดนาม
ในเดือยพฤศจิกายนอินโดนีเซียเพิ่งออกคำสั่งห้ามเเอปเปิลขาย ไอโฟน 16 ในประเทศ หลังจากที่แอปเปิลไม่สามารถทำตามเงื่อนไขการใช้ส่วนประกอบที่ผลิตภายในอินโดนีเซียขั้นต่ำ 40%
รัฐบาลจาการ์ตาใช้มาตรการเช่นเดียวกันนี้กับสมาร์ทโฟนของกูเกิลในเครือบริษัทอัลฟาเบท
เมื่อสัปดาห์ที่เเล้วทางการอินโดนีเซียบอกว่าแอปเปิลเสนอเงินลงทุนในประเทศ เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาว่ายังควรยกเลิกการห้ามขายไอโฟน 16 หรือไม่
แอปเปิลไม่ได้ตอบกลับการขอความเห็นโดยทันทีจากรอยเตอร์ต่อข่าวนี้
อากัส กุมิวัง รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซียบอกว่า หลังจากพิจาณาการเสนอเงินลงทุนแล้ว ข้อเสนอนี้ “ไม่เป็นไปตามหลักการความยุติธรรม” โดยเขาเปรียบเทียบเงินลงทุนของแอปเปิลในไทยพร้อมทั้งเวียดนามที่มากกว่า
ถ้าหากว่า เขาบอกว่ากระทรวงฯ จะเชิญตัวเเทนของแอปเปิลมาอินโดนีเซียเพื่อเจรจาเพิ่มเติม
ที่มา: รอยเตอร์
ห้างดังสหรัฐฯ พบ พนักงานซุกยอดรายจ่าย 5 พันล้านบาท
เดิมที่เป็นที่คาดกันว่าเมซีส์จะเผยแพร่ผลประกอบการรายไตรมาสในวันอังคาร แต่ทางบริษัทเปิดเผยในวันจันทร์ว่าขอเลื่อนกำหนดการออกไปก่อนเพื่อทำการสอบสวนปัญหาในส่วนของงบรายจ่ายที่เพิ่งพบในเดือนนี้
การตรวจสอบพร้อมทั้งวิเคราะห์พบว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากพนักงานคนหนึ่งที่ตั้งใจลงบัญชีผิด เพื่อซ่อนค่าใช้จ่ายจำนวนราว 132-154 ล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลาตั้งแต่ไตรมาสสี่ของปี 2021 จนถึง 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ในภาพรวม เมซีส์มีค่าใช้จ่ายในส่วนการส่งสินค้าที่ 4,360 ล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาที่เกิดปัญหา
ทางห้างระบุด้วยว่า การซุกซ่อนรายจ่ายดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการเงินสดรวมถึงการชำระเงินให้ผู้ค้า ผู้ก่อเหตุสิ้นสถานะพนักงานแล้ว พร้อมทั้งการตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่คนอื่นมีส่วนเกี่ยวข้อง
นอกจากห้างเมซีส์แล้ว บริษัทยังเป็นเจ้าของห้างหรูแบรนด์บลูมมิงเดลส์ (Bloomingdale’s) พร้อมทั้งแบรนด์ร้านเครื่องสำอางเครือบลูเมอร์คิวรี (Bluemercury)
คาดว่าเมซีส์จะเผยแพร่รายงานการเงินไตรมาสสามภายใน 11 ธันวาคม
โทนี สปริง ประธานพร้อมทั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) บริษัทเมซีส์กล่าวในแถลงการณ์ว่าจะเริ่มสอบสวนปัญหาให้เร็วที่สุด ไปพร้อม ๆ กับให้บริการลูกค้าในช่วงเทศกาลปลายปี
แม้ยังไม่เผยแพร่ผลประกอบการ แต่ทางบริษัทประเมินว่ารายได้ในช่วงไตรมาสที่สามลดลง 2.4% อยู่ที่ 4,740 ล้านดอลลาร์ สูงกว่าค่าเฉี่ยของนักวิเคราะห์ที่ตั้งไว้ที่ 4,720 ล้านดอลลาร์
ราคาหุ้นของเมซีส์ลดลง 2.2% อยู่ที่ 15.94 ดอลลาร์ ในช่วงใกล้ปิดตลาดซื้อขายหลักทรัพย์วันจันทร์
ที่มา: เอพี
‘โปรจีโน่’ คว้าแชมป์ LPGA ท้ายปี เงินรางวัล 138 ล้านบาท สูงสุดเท่าที่เคยมีมา!
รอยเตอร์รายงานว่า ในการแข่งขันที่เมืองเนเปิลส์ รัฐฟลอริดาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โปรจีโน่ในวัย 21 ปี ทำคะแนนได้ 22 อันเดอร์พาร์ เฉือนเอาชนะแองเจิล หยิน คู่แข่งชาวอเมริกันไปหนึ่งสโตรค หลังพลิกกลับมานำได้จากการทำอีเกิลส์ในหลุมที่ 17 พร้อมทั้งเบอร์ดีในหลุมที่ 18
เธอบอกว่าสองหลุมสุดท้ายเป็นอะไรที่เกินความคาดหมาย “เหนือกว่าทุกอย่างที่เธอเคยทำมา” พร้อมทั้งรู้สึกว่าการฝึกฝนหนักที่ผ่านมาได้หวนกลับมาตอบแทนเธอในวันนี้
00.44 “ก็คือเขาก็มีสองสโตรคลีดเลย จีนก็แค่รู้สึกว่าทำเบอร์ดีได้หลุม 17 ทำเบอร์ดีได้ในสองหลุมที่เหลือก็น่าจะเป็นอะไรที่ดีที่สุดที่เราจะทำได้แล้ว แต่ทำอีเกิลส์ได้มันก็เป็นอะไรที่งง ๆ พร้อมทั้งพิเศษมาก ๆ” 01.03
ชัยชนะในการลงเล่น 72 หลุมที่สนามกอล์ฟ Tiburon เมืองเนเปิลส์ รัฐฟลอริดา ได้รับตำแหน่ง 2024 Race to the CME Globe champion ซึ่งมอบให้กับแชมป์ของทัวร์นาเมนท์นี้ หลังจากเก็บแต้มในทัวร์นาเมนท์ LPGA อื่น ๆ มาก่อนในรอบปี
ข้อมูลจากเว็บไซต์ LPGA พบว่าโปรจีโน่มีคะแนนอยู่ในลำดับที่ 4 ในตาราง Race to the CME Globe champion ส่วนอันดับหนึ่งเป็นของเนลลี คอร์ดา โปรกอล์ฟชาวอเมริกัน
สำหรับเงินรางวัล 4 ล้านดอลลาร์ อาฒยากล่าวปนหัวเราะว่า จะเอาไปใช้จ่ายอย่างแน่นอน แต่ก็จะเก็บออมไว้สำหรับครอบครัวด้วย
“อย่าบอกพ่อแม่ว่าฉันจะเอาเงินไปใช้จนหมดนะ” คือคำกล่าวของโปรจีโน่ตามการรายงานของรอยเตอร์
หยินที่ทำคะแนนเข้ามาเป็นอันดับที่สอง บอกว่าพอใจกับผลงานในวันนี้ เพราะสนามนี้ไม่ใช่สนามที่เธอทำผลงานได้ดีนัก
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาฒยาเพิ่งได้รับรางวัล 1 ล้านดอลลาร์ จากรางวัล เอออน ริสก์ รีวอร์ด ชาลเลนจ์ (Aon Risk Reward Challenge) ที่มอบให้กับผู้เล่นที่มีค่าเฉลี่ยผลงานดีที่สุดในการเล่นหลุมยากตลอดฤดูกาล LPGA
ที่มา: รอยเตอร์, เอพี, แอลพีจีเอ
ชาวอเมริกันเดินทางคึกคักวันขอบคุณพระเจ้าปีนี้
ท่ามกลางการสัญจรที่คึกคัก การโดยสารทางอากาศดูเหมือนว่าจะไม่ได้เกิดปัญหาใหญ่เป็นพิเศษ ในวันจันทร์
ข้อมูลของ FlightAware พบว่าจำนวนเที่ยวบินที่ถูกยกเลิกอยู่ที่ไม่ถึง 40 เที่ยว ถ้าหากว่า ณ ครึ่งวันในวันจันทร์ มีเที่ยวบินที่เลื่อนเวลาบิน 1,600 เที่ยว ทางฝั่งตะวันออกของประเทศ
คนที่เดินทางด้วยการขับรถเอง ได้รับผลดีจากราคานำ้มันที่ต่ำลง คืออยู่ที่ 3.06 ดอลลาร์ต่อแกลลอน น้อยกว่า 3.26 ดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีก่อน
หน่วยงานดูเเลความปลอดภัยด้านคมนาคมสหรัฐฯ คาดว่าจะต้องตรวจความปลอดภัยของผู้เดินทางทางอากาศ 18.3 ล้านคน ช่วงสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ไม่เเตกต่างจากความคึกคักที่เห็นตั้งเเต่ต้นปี
ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จำนวนผู้เดินทางมาสนามบินทั่วสหรัฐฯ ผ่านด่านตรวจความปลอดภัยน่าจะอยู่ที่ราว 3 ล้านคน เทียบกับ 3.01 ล้านคน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดที่เกิดขึ้นในวันอาทิตย์หลังจากที่ชาวอเมริกันได้ฉลองวันชาติอสหรัฐฯ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา
ที่มา: เอพี
กลุ่มชาติพันธุ์ต่อต้านรัฐบาลเมียนมาเเย้มพร้อมเจรจา
กองทัพของชนกลุ่มน้อยนี้ Ta’ang National Liberation Army หรือ TNLA ซึ่งมีนักรบของตนประมาณ 7,000 คน ได้ต่อสู้เรียกร้องเป็นเวลากว่าสิบปีเพื่อสิทธิ์การปกครองตนเองให้กับกลุ่มชาติพันธ์ุชาวปะหล่องในรัฐฉานทางเหนือของเมียนมา
เมื่อปีที่เเล้วกองทัพ TNLA พร้อมทั้งแนวร่วมกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมาอีกสองกลุ่ม จู่โจมกองทัพของทางการ ที่ได้ยึดพื้นที่ในรัฐฉาน ซึ่งรวมถึงเหมืองทับทิม พร้อมทั้งเส้นทางเดินรถสำคัญทางเศรษฐกิจที่เชื่อมการค้ากับจีน
ฝ่ายรัฐบาลจู่โจมใส่พื้นที่ที่เสียการควมคุมไปด้วยปืนใหญ่พร้อมทั้งเครื่องบินรบ
กองทัพ TNLA กล่าวผ่านเเพลตฟอร์มเทเลเเกรม ว่า “เราขอประกาศว่าเราพร้อมที่จะเจรจาเพื่อให้ความขัดเเย้งทางทหารยุติลงจากทั้งสองฝั่ง….คนท้องถิ่นได้รับความเดือดร้อนมากจากสงคราม”
ถ้าหากว่า TNLA บอกว่า เเม้จะพร้อมเจรจาแต่ก็ขอสงวนสิทธิ์ในการปกป้องตนเอง พร้อมทั้งยังได้บอกกับสื่อเอเอฟพีว่าจะไม่ยกพื้นที่ให้กับฝ่ายตรงข้าม
เอเอฟพีไม่สามารถติดต่อไปยังโฆษกของกองทัพรัฐบาลทหารเมียนมาได้เพื่อขอความคิดเห็น
เมื่อเดือนกันยายน รัฐบาลทหารเมียนมาออกเทียบเชิญให้ฝ่ายตรงเข้าร่วมเจรจา ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ความพยายามนี้ถูกปฏิเสธโดยบรรดากลุ่มต่อต้านรัฐบาล
นักวิเคราะห์บอกว่า รัฐบาลปักกิ่งกดดันให้กองทัพ TNLA ของกลุ่มตะอาง พร้อมทั้งแนวร่วมจากกลุ่ม Myanmar National Democratic Alliance Army หรือ MNDAA หยุดการต่อสู้กับรัฐบาลทหารเมียนมา
ทั้งนี้จีน เป็นพันธมิตรพร้อมทั้งผู้ส่งอาวุธให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา แต่ในเวลาเดียวกันก็รักษาสัมพันธ์กับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ต่าง ๆ โดยกลุ่มเหล่านี้ปักหลักตามดินเเดนใกล้ชายเเดนจีน
ที่ผ่านมา จีนต้องการให้เกิดการยุติการต่อสู้ในรัฐฉานซึ่งเป็นส่วนเชื่อมต่อที่สำคัญของโครงการ ‘หนึ่งเเถบหนึ่งเส้นทาง’ มูลค่าหนึ่งล้านล้านดอลลาร์ของจีน
ที่มา: เอเอฟพี
นักวิจัยชี้ เกาหลีเหนือขยายโรงงานขีปนาวุธเพื่อช่วยรัสเซียบุกยูเครน
แซม แลร์ นักวิจัยจากศูนย์ James Martin Center for Nonproliferation Studies (CNS) ของสถาบัน Middlebury Institute of International Studies ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองมอนเทอร์เรย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย บอกว่า โรงงานดังกล่าวมีชื่อว่า February 11 พร้อมทั้งเป็นส่วนหนึ่งของ Ryongsong Machine Complex ในเมืองฮัมฮัง ซึ่งเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ พร้อมทั้งเป็นโรงงานแห่งเดียวที่ทราบกันดีว่า เป็นสถานที่ผลิตขีปนาวุธ Hwasong-11 ที่ใช้เชื้อเพลิงแข็งเป็นส่วนประกอบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานว่า ขีปนาวุธ Hwasong-11 ที่ชาติตะวันตกรู้จักกันในชื่อขีปนาวุธ KN-23 ถูกกองทัพรัสเซียนำมาใช้เพื่อจู่โจมยูเครนอยู่
รอยเตอร์พบว่า ไม่เคยมีรายงานข่าวการขยายพื้นที่โรงงานที่ว่ามาก่อนเลย
ทั้งมอสโกพร้อมทั้งเปียงยางต่างปฏิเสธข่าวที่ว่า เกาหลีเหนือโอนถ่ายอาวุธต่าง ๆ ให้รัสเซียเพื่อใช้รบกับยูเครน แม้สองประเทศนี้จะลงนามในสนธิสัญญาด้านกลาโหมระหว่างกันเมื่อเดือนมิถุนายนพร้อมทั้งประกาศคำมั่นที่จะยกระดับความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างทั้งคู่ก็ตาม
รอยเตอร์ติดต่อคณะผู้แทนเกาหลีเหนือประจำสหประชาชาติเพื่อขอความเห็นในเรื่องนี้แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
ทั้งนี้ การวิเคราะห์โดยนักวิจัยของ CNS พบว่า ภาพถ่ายดาวเทียมที่บันทึกไว้โดยบริษัทดาวเทียม Planet Labs เมื่อต้นเดือนตุลาคมแสดงให้เห็นว่า มีการเดินหน้าสร้างอาคารโรงงานต่อเติมเพิ่ม รวมทั้งอาคารที่พักซึ่งเชื่อว่ามีเอาไว้รองรับคนงานด้วย
นอกจากนั้น การวิเคราะห์ยังเชื่อว่า กรุงเปียงยางกำลังทำการปรับปรุงทางเข้าโรงงานใต้ดินของพื้นที่ตั้งคอมเพล็กซ์โรงงานนี้ด้วย
แลร์ นักวิจัยของ CNS กล่าวเสริมว่า การตรวจสอบทั้งหมดชี้ให้เห็นว่า เกาหลีเหนือกำลังเร่งขยายพื้นที่โรงงานอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมทั้งทำให้ตัวโรงงานประกอบอาวุธดังกล่าวใหญ่กว่าเดิม 60-70% ด้วย
เมื่อปีที่แล้ว รอยเตอร์ตรวจสอบภาพถ่ายที่สื่อรัฐบาลเปียงยางเผยแพร่ออกมาพร้อมทั้งแสดงให้เห็น คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ กำลังเดินผ่านโรงงานใหม่ในฮัมฮัง ขณะที่ คนงานกำลังประกอบส่วนหางพร้อมทั้งส่วนหัวของสิ่งที่นักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นขีปนาวุธ KN-23
นักวิเคราะห์บอกกับรอยเตอร์ว่า ขีปนาวุธดังกล่าวถูกทดสอบใช้งานครั้งแรกเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2019 โดยถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถหลบหลีกระบบป้องกันขีปนาวุธด้วยการบินในระดับต่ำ ทำให้อาวุธนี้กลายมาเป็นสิ่งที่รัสเซียเลือกใช้ในการบุกทะลวงระบบป้องกันการจู่โจมของยูเครน
ในเวลาเดียวกัน นักวิจัยจาก SI Analytics ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมในเกาหลีใต้ยังใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อตรวจสอบภาพชุดเดียวกันกับที่ CNS ทำการวิเคราะห์พร้อมทั้งยืนยันในรายงานที่เปิดเผยออกมาในวันจันทร์ว่า มีการก่อสร้างใหม่ ๆ ที่โรงงาน February 11 จริง พร้อมพบว่า โครงการก่อสร้างบางส่วนใกล้กับพื้นที่ขนถ่ายสินค้าน่าจะเป็นการสร้างเพื่อปกปิดตัวโรงงานไม่ให้ภาพถ่ายดาวเทียมจับข้อมูลได้อย่างชัดเจนในอนาคตด้วย
ที่มา: รอยเตอร์
ทรัมป์ ‘กังวลอย่างมาก’ เกี่ยวกับสงครามรัสเซีย-ยูเครน
ไมเคิล วอลซ์ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาคองเกรสตัวแทนรัฐฟลอริดา กล่าวระหว่างที่ให้สัมภาษณ์กับรายการ “Fox News Sunday” ว่า การตัดสินใจของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่อนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในการสกัดการรุกล้ำเข้ามาของทหารราบรัสเซียได้ทำให้การต่อสู้ในภูมิภาคตะวันออกของยูเครนกลายมาเป็นสถานการณ์คล้าย ๆ กับ “สงครามสนามเพลาะในสงครามโลกครั้งที่ 1” แล้ว
วอลซ์บอกว่า การตัดสินใจดังกล่าว “จำเป็นต้องอยู่ในกรอบกว้าง ๆ ของการหาทางยุติความขัดแย้งนี้” พร้อมทั้งว่า “(อาวุธดังกล่าว)คือเครื่องบดเนื้อของผู้คนพร้อมทั้งบุคลากรที่แนวหน้าไปโดยปริยายแล้ว”
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ บอกว่า สหรัฐฯ กำลังส่งทุ่นระเบิดสังหารบุคคลไปยังยูเครนเนื่องจากสภาพความขัดแย้งในภาคตะวันออกของประเทศซึ่งเป็นสนามรบหลักนั้นได้เปลี่ยนแปลงไป
ลอยด์กล่าวด้วยว่า ทหารราบของรัสเซียคือหน่วยที่นำทีมของกองทัพมอสโกในการรุกคืบเข้ามา พร้อมทั้งยูเครน “จำเป็นต้องมีสิ่งที่จะมาช่วยชะลอความพยายามที่ว่านี้”
แต่วอลซ์บอกว่า ทรัมป์มีความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์นองเลือดที่อาจเกิดขึ้น แต่ก็ยอมรับว่า ในภาพกว้างนั้น คำถามสำคัญกว่าก็คือ “เราจะทำให้มีการป้องปรามพร้อมทั้งนำสันติภาพกลับคืนมาได้อย่างไร”
ที่ผ่านมา ทรัมป์กล่าวเสมอว่า ตนจะทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนยุติลงก่อนจะเข้าพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า แต่ก็ไม่เคยเปิดเผยว่า จะทำอย่างไรพร้อมทั้งปฏิเสธที่จะกล่าวในระหว่างที่โต้อภิปรายเมื่อเดือนกันยายนว่า ตนนั้นต้องการให้ยูเครนเป็นฝ่ายชนะหรือไม่
ไบเดนเพิ่งให้ไฟเขียวแก่ยูเครนในการใช้ขีปนาวุธที่กรุงวอชิงตันส่งให้พร้อมทั้งมีสมรรถนะที่จะจู่โจมลึกเข้าไปเป็นระยะทางถึง 300 กิโลเมตรในดินแดนของรัสเซียได้ เพื่อตอบโต้การที่เกาหลีเหนือส่งทหารจำนวน 10,000 นายไปช่วยมอสโกรบ
หลังได้รับอนุญาตจากวอชิงตัน ยูเครนยิงขีปนาวุธของอเมริกาเข้าจู่โจมคลังอาวุธของรัสเซียในแคว้นบรีแยงสก์ทันที ก่อนที่ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะสั่งยิงทดสอบจรวดแบบใหม่เข้าไปยังเมืองดนิโปร ทางตะวันออกของยูเครน
ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลปธน.ทรัมป์บอกว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “การยกระดับ(ของสถานการณ์)ที่ชัดเจน” พร้อมทั้งว่า “แล้วการยกระดับที่ว่านี่จะไปถึงไหน พร้อมทั้งเราจะทำให้ทั้งสองฝ่ายยอมลงนั่งที่โต๊ะ” เพื่อเจรจาสันติภาพได้อย่างไร
ส.ส.วอลซ์ที่จะก้าวขึ้นรับตำแหน่งใหม่ได้โดยไม่ต้องได้รับการยืนยันรับรองจากวุฒิสภาสหรัฐฯ กล่าวด้วยว่า ตนได้เข้าประชุมกับเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของปธน.ไบเดนแล้ว พร้อมชี้ว่า ศัตรูของสหรัฐฯ นั้น “คิดผิด” หากจะพยายาม “ชี้นำให้ฝ่ายหนึ่งปะทะกับอีกฝ่าย” ในช่วงที่มีการโอนถ่ายอำนาจระหว่างไบเดนพร้อมทั้งทรัมป์
วอลซ์แสดงความมั่นใจด้วยว่า ทรัมป์จะสามารถสร้างสันติภาพในพื้นที่ ๆ มีความขัดแย้งอยู่ในตะวันออกกลางที่เป็นการต่อสู้ระหว่างอิสราเอลพร้อมทั้งนักรบกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังอยู่ ทั้งกลุ่มฮามาสในกาซ่าพร้อมทั้งกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอนด้วย
ที่มา: วีโอเอ