‘แพทองธาร’ โชว์สปีชบนเวที ‘ฟอร์บส์’ ย้ำไทยพร้อมรับลงทุนต่างชาติ

นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ใช้เวลาช่วงเที่ยงวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น แสดงวิสัยทัศน์ต่อหน้านักธุรกิจพร้อมทั้งนักลงทุนชั้นนำหลายร้อยคนในการประชุมซีอีโอระดับโลก เพื่อส่งข้อความว่า ถึงเวลาที่จะมาลงทุนที่เมืองไทยแล้ว

ในงาน Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ที่กรุงเทพฯ แพทองธารนั่งพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับมอยรา ฟอร์บส์ รองประธานบริหาร Forbes Media โดยมีประเด็นซักถามเกี่ยวกับทิศทางด้านเศรษฐกิจพร้อมทั้งโอกาสทางการลงทุนในไทยในปัจจุบันพร้อมทั้งอนาคต

เวทีที่จัดขึ้นระหว่าง 20 – 21 พฤศจิกายน มีแขกรับเชิญอื่นที่มาแสดงวิสัยทัศน์อีกราว 50 คน เช่นศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) เครือเจริญโภคภัณฑ์ เจนนี จอห์นสัน ซีอีโอบริษัทบริหารการลงทุนระดับโลก Franklin Templeton รวมถึงอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

เธอพบว่า ในช่วงหนึ่งปีของรัฐบาลเพื่อไทย ตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน สามารถเชิญชวนบริษัทใหญ่ ๆ มาลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เช่นการสร้างระบบศูนย์ข้อมูล หรือ data center ในไทยจากกูเกิล แอมะซอนพร้อมทั้งไมโครซอฟต์ พร้อมทั้งรัฐบาลนี้ก็จะเดินหน้ามองหาการลงทุนให้มากยิ่งขึ้น

แพทองธารกล่าวเป็นภาษาอังกฤษ ใจความว่า “เมื่อใดที่ดิฉัiนมีโอกาสพูดคุยกับซีอีโอ หรือคนที่สนใจในการลงทุน ดิฉันบอกพวกเขาว่ารัฐบาลสนับสนุนการลงทุนอย่างเต็มที่”

บลูมเบิร์กอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ที่พบว่า มูลค่าข้อเสนอการลงทุนในไทยในช่วงเก้าเดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 723,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าสูงที่สุดในรอบเกือบสิบปี

ข้อมูลจากทางการพบว่าบริษัท Nvidia ผู้ผลิตชิประดับโลกมีกำหนดการเปิดเผยแผนการลงทุนในไทยในเดือนธันวาคม พร้อมทั้งหลายบริษัทเทคโนโลยี เช่น Seagate Technology Holding พร้อมทั้ง Western Digital Corp ก็มีแผนเพิ่มการลงทุนในไทยด้วยเช่นกัน

แพทองธารพบว่าขณะนี้เป็นเวลาที่ควรมาลงทุนที่ไทย เพราะเป็นช่วงเวลาที่การเมืองไทยมีสเถียรภาพมากขึ้น ความพร้อมด้านอุตสาหกรรมการเกษตรพร้อมทั้งอาหาร รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของไทยที่ทั้งอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พร้อมทั้งอยู่ไม่ไกลจากจีน

แพทองธารบอกว่า “ดิฉันคิดว่าตอนนี้ไทยมีความพร้อม พร้อมในแง่เทคโนโลยี พร้อมในด้านเสถียรภาพของรัฐบาล”

แพทองธารบอกว่า รัฐบาลเตรียมปรับนโยบายเพื่อสนับสนุนภาคการส่งออก เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายการค้าของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่มูลค่าการส่งออกของไทยคิดเป็นสัดส่วน 10% ของจีดีพี พร้อมทั้งจะต้องปรับตัวกับนโยบายของรัฐบาลทรัมป์เพื่อขยายการส่งออกกับสหรัฐฯ ในอนาคต

ในการหาเสียงที่ผ่านมา ทรัมป์ใช้นโยบายตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากจีนหลายครั้ง ซึ่งยังต้องจับตามองกันต่อไปว่า เมื่อขึ้นดำรงตำแหน่งแล้วจะเดินหน้าทำตามสิ่งที่หาเสียงเอาไว้มากน้อยเพียงใด

การปรากฏตัวบนเวทีของนายกฯ ไทยครั้งนี้มีขึ้นในช่วงที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 ขยายตัว 3% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่สอง พร้อมทั้งคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2568 จะขยายตัวในปีหน้าที่ 2.3-3.3% อ้างอิงตามรายงานของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจพร้อมทั้งสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) เมื่อ 18 พฤศจิกายน

ในด้านการเมือง รัฐบาลแพทองธารยังต้องเผชิญบททดสอบเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล จากการถูกร้องเรียนในขั้นองค์กรอิสระอย่างน้อย 20 กรณี ที่มีมูลเหตุตั้งแต่เรื่องการแต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บทบาทของอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตรกับพรรคเพื่อไทย ไปจนถึงเรื่องยิบย่อยอย่างการทำท่ามินิฮาร์ทถ่ายภาพหมู่หน้าทำเนียบรัฐบาล

ในวันที่ 22 พฤศจิกายน ศาลรัฐธรรมนูญมีนัดประชุมว่าจะรับหรือไม่รับคำร้องของธีรยุทธ สุวรรณเกษร ที่ผู้ขอให้วินิจฉัยว่าทักษิณพร้อมทั้งพรรคเพื่อไทยใช้สิทธิเสรีภาพล้มล้างการปกครองหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่เคยนำไปสู่การยุบพรรคก้าวไกลในช่วงกลางปี 2567

เวทีประชุมซีอีโอของฟอร์บส์ครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนโดยธุรกิจใหญ่ของไทยพร้อมทั้งต่างชาติ เช่น เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัทไทยเบฟเวอเรจ ธนาคารกรุงเทพ รวมถึงแอมะซอน เว็บ เซอร์วิส พร้อมทั้งเฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ อ้างอิงตามเอกสารของผู้จัดสำหรับสื่อมวลชน

ที่มา: ทำเนียบรัฐบาล, บลูมเบิร์ก, สภาพัฒน์

เหตุรุนแรงต่อเนื่องในจีน กับคำถามเรื่องการจัดการปัญหาสุขภาพจิต

เหตุสลดในจีนล่าสุดเมื่อ 19 พฤศจิกายน กรณีชายขับรถพุ่งชนหน้าโรงเรียนประถมในมณฑลหูหนาน จนมีผู้บาดเจ็บหลายคน เป็นเพียงหนึ่งเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงเวลาไม่นานนี้

ก่อนหน้านั้นเพียงสามวันก็มีเหตุชายแทงคนจบชีวิต 8 คนที่โรงเรียนอาชีวะอู๋ซี ในเดือนเดียวกันก็เพิ่งมีเหตุคนขับรถพุ่งชนคนมีคนตาย 35 คนในเมืองจูไห่ 

พร้อมทั้งตั้งแต่เดือนกันยายน เหตุคล้ายคลึงกันก็เกิดขึ้นอย่างน้อย 4 ครั้งในกรุงปักกิ่ง เสิ่นเจิ้น ซูโจว พร้อมทั้งนครเซี่ยงไฮ้ มีทั้งผู้จบชีวิตพร้อมทั้งบาดเจ็บหลายสิบคน

เอพีรายงานแรงจูงใจส่วนมากของผู้ก่อเหตุที่เจ้าหน้าที่ทางการเผยแพร่ ก็เป็นเรื่องราวเหตุฉุนเฉียว ไม่พอใจในเรื่องส่วนตัว เช่นเรื่องเงินหรือการหย่าร้าง

ซามี่ หว่อง ที่เป็นนักจิตบำบัดที่ฮ่องกง บอกกับรอยเตอร์ว่าคนเครียดกันมากขึ้นจากเศรษฐกิจพร้อมทั้งสังคมที่เปลี่ยนไปหลังการระบาดของไวรัสโคโรน่า-19 พร้อมทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจีนนี้ ก็ยิ่งเป็นการโหมกระพือความเครียดเข้าไปอีก 

เธอแนะนำว่าอย่าเก็บความเครียดเอาไว้คนเดียว ควรหาทางจัดการปัญหาด้วยการพูดคุยกับคนใกล้ชิดหรือว่านักจิตบำบัด ซึ่งทุกวันนี้ยังมีผู้ที่ไม่อยากทำในเรื่องนี้ ซึ่งอาจมีเหตุผลจากเรื่องทัศนคติในสังคมที่ไม่นิยมให้คนไปหาความช่วยเหลือจากนักบำบัดทางจิต

ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพีพร้อมทั้งรอยเตอร์

ศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับ ‘เนทันยาฮู’!

ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ  ไอซีซี (International Criminal Court) ออกหมายจับนายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู พร้อมทั้งอดีตรัฐมนตรีกลาโหมของเขา โยอาฟ กัลเเลนต์ สืบเนื่องจากการที่อิสราเอลทำสงครามปราบปรามกลุ่มติดอาวุธฮามาสในกาซ่า 

ในเอกสารบนเว็บไซต์ ไอซีซีบอกว่าทั้งสองคน ถูกออกหมายจับกรณีอาชญากรรมสงครามจากที่ใช้วิธีทำให้ผู้คนขาดแคลนอาหารเป็นยุทธวิธีการทำสงคราม

พวกเขาถูกกล่าวหาด้วยว่าก่ออาชญากรรมต่อมุษยชาติ ซึ่งรวมถึงการสังหาร กดขี่ประหัตประหาร รวมทั้งพฤติกรรมอื่น ๆ ที่ปราศจากความปราณี

เนทันยาฮูประณามการออกหมายจับครั้งนี้ว่า อิสราเอล “ปฏิเสธด้วยความรังเกียจต่อการกระทำที่น่าขันพร้อมทั้งไม่เป็นความจริง” ของไอซีซี

ทั้งนี้อิสราเอลไม่ได้เป็นสมาชิกไอซีซี พร้อมทั้งผู้ที่ถูกหมายจับทั้งสองไม่ได้จะถูกดำเนินคดีโดยทันที เเต่อาจมีความเสี่ยงหากเดินทางไปต่างประเทศ

นอกจากเนทันยาฮู พร้อมทั้งกัลเเลนต์แล้ว ศาลยังได้่ออกหมายจับมูฮัมมัด เดอิฟ หัวหน้าฝ่ายทหารของฮามาส ในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ ซึ่งรวมถึงการสังหาร จับตัวประกันเเละความรุนเเรงทางเพศ

ทั้งนี้ฮามาสจู่โจมอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ปีที่เเล้ว พร้อมทั้งได้สังหารผู้คน 1,200 รายพร้อมทั้งจับตัวประกันไปราว 250 คน

หลังจากนั้นอิสราเอลตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางทหารเพือกำจัดฮามาสในกาซ่า พร้อมทั้งมีผู้ถูกสังหารไปประมาณ 44,000 คนตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า

กระทรวงฯ ไม่ได้จำเเนกว่ามีพลเรือนพร้อมทั้งนักรบฮามาสกี่คนในจำนวนผู้จบชีวิต เพียงเเต่พบว่าวาครึ่งหนึ่งเป็นผู้หญิงพร้อมทั้งเด็ก

ทั้งนี้กลุ่มฮามาสถูกระบุโดยประเทศตะวันตกว่าเป็นกลุมก่อการร้าย

เมื่อปีที่เเล้ว ไอซีซีออกหมายจับประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม จากข้อกล่าวหาที่ว่าเขามีส่วนร่วมสั่งการลักพาตัวเด็ก ๆ ชาวยูเครนระหว่างปฏิบัติการทหารของรัสเซีย

 

ระยะเวลาที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าการดำเนินคดีต่อพลเมืองประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกไอซีซีนั้นทำได้ยาก 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา แถลงในเวลานั้นว่า “คำตัดสินของศาลอาญาระหว่างประเทศ ไม่มีความหมายต่อประเทศของเรา แม้แต่ในมุมมองทางกฎหมาย”

นอกจากนั้น ปูตินยังสามารถเดินทางไปมองโกเลียในปีนี้ พร้อมทั้งไม่ได้มีการบังคับให้ดำเนินการตามหมายจับ แม้ว่ามองโกเลียเป็นสมาชิกของศาลดังกล่าว

ที่มา: วีโอเอ

เเมตต์ เกตซ์ ถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเป็นรมต.ยุติธรรมสหรัฐฯ

เเมตต์ เกตซ์ อดีตส.ส. พรรครีพับลิกันถอนตัวจากการถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมในรัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ 

เขากล่าวผ่านเเพลตฟอร์ม X ว่า “แม้ว่ามีเเรงหนุนที่ดี มันชัดเจนว่ากระบวนการยืนยันตำแหน่งของผมได้กลายเป็นสิ่งก่อกวนสมาธิอย่างไม่ยุติธรรมในกระบวนการสำคัญของงานเปลี่ยนผ่านอำนาจ” สู่รัฐบาลใหม่ 

เกตซ์วัย 42 ปีระบุเมื่อวานนี้ ว่าเขาได้พบกับสมาชิกวุฒิสภาหลายคน พร้อมทั้งเป็นการหารือกันกันที่ “ยอดเยี่ยม” พร้อมทั้งเขาเเสดงการขอบคุณการสนับสนุนของบรรดาสว.

ทั้งนี้เกตซ์ถูกกล่าวหาว่ากระผิดทางเพศพร้อมทั้งใช้ยาเสพติด ก่อนที่ทรัมป์เสนอชื่อเขาเป็นรัฐมนตรียุติธรรม พร้อมทั้งคณะกรรมาธิการจริยธรรมของสภาผู้แทนฯ ได้ดำเนินการสืบสวนหาความจริงมาระยะหนึ่งเเล้ว จนกระทั้งเกตซ์ลาออกจากการเป็นส.ส. ทั้งที่เพิ่งชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ห้า 

การลาออกของเขาทำให้การสืบสวนของคณะกรรมาธิการยุติลง

เมื่อวานนี้ คณะกรรมาธิการดังกล่าวไม่สามารถตกลงกันได้ว่าจะเปิดเผยข้อมูลการสืบสวน ที่ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้วหรือไม่

สื่อเอบีซีนิวส์พร้อมทั้งวอชิงตันโพสต์รายงานว่าคณะกรรมาธิการได้เอกสารที่เเสดงให้เห็นว่าเกตซ์จ่ายเงินผู้หญิงสองคน รวมแล้วกว่า 10,000 ดอลลาร์ หรือกว่า 340,000 บาท ระหว่างกรกฎาคม 2017 ถึงปลายมกราคม 2019

ผู้หญิงทั้งสองคนอายุมากกว่า 18 ปี ณ เวลาที่มีการรับเงิน พวกเธอบอกกับคณะกรรมาธิการว่าเงินบางส่วนจากเกตซ์เป็นการซื้อบริการ ทางเพศ

โฆษกของทีมงานทรัมป์ที่ทำงานด้านการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลกล่าวปกป้องส.ส.ผู้นี้ ว่า “กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงธุรกรรมการเงินของเมตต์ เกตซ์แทบทุกธุรกรรม พร้อมทั้งได้สรุปว่าไม่มีการกระทำผิดอาญา การปล่อยข่าวนี้มีจุดประสงค์เพื่อบั่นทอนฉันทามติของประชาชนที่ต้องการปฏิรูปกระทรวงยุติธรรม”

สว. สหรัฐฯ ทั้งจากพรรคเดโมเเครตพร้อมทั้งรีพับลิกัน เรียกร้องให้เปิดเผยรายงานการสืบสวนของคณะกรรมาธิการ โดยพวกเขามีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการกลั่นกรองความเหมาะสมของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าร่วมคณะรัฐมนตรี

ที่มา: วีโอเอ

นักธุรกิจคริปโต ทุ่มกว่า 200 ล้านบาท ซื้องานศิลป์ ‘กล้วยติดเทปกาว’

ผลงานศิลปะที่มีเพียงกล้วยหอมติดเทปกาวบนกำแพง ขายไปได้ในราคา 6.2 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 214 ล้านบาท ที่การประมูลในนิวยอร์กเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยนักธุรกิจคริปโตเป็นผู้ชนะประมูลไปได้

ผลงานในชื่อ Comedian โดยศิลปินชาวอิตาลี เมาริซิโอ คัตเตลัน กลายเป็นที่กล่าวขวัญเมื่อผลงานของเขาปรากฏสู่สายตาชาวโลกครั้งแรกเมื่อปี 2019 ที่ Art Basel Miami Beach พร้อมทั้งทำให้ผู้ร่วมชมงานพยายามจะกระเทาะแก่นของผลงานศิลปะที่มีเพียงกล้วยหอมสีเหลืองถูกเทปกาวสีเงินแปะอยู่บนกำแพงนี้ว่าเป็นเพียงเรื่องตลก หรือเป็นการวิจารณ์ถึงมาตรฐานที่ชวนกังขาในหมู่นักสะสมงานศิลปะกันแน่ อีกทั้งในช่วงหนึ่งที่ผลงานจัดแสดงอยู่ มีศิลปินอีกรายหยิบกล้วยหอมออกมาจากกำแพงพร้อมทั้งกินไปจนหมดด้วย

ผลงานชิ้นนี้ดึงดูดความสนใจอย่างล้นหลามถึงขั้นต้องถอดผลงานออกไปจากการจัดแสดง แต่ผลงานนี้ที่ทำมาแล้วถึง 3 ครั้ง สามารถขายได้ในราคา 120,000- 150,000 ดอลลาร์ หรือราว 4.2-5.2 ล้านบาท อ้างอิงจากแกลอรีที่ดูแลการซื้อขายผลงานนี้

5 ปีต่อมา จัสติน ซัน ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์มคริปโต TRON ทุ่มเงินมากกว่า 40 เท่าตัวจากราคาสูงสุดที่ผลงานนี้เคยทำได้ ในการประมูลที่ Sotheby’s ซึ่งถ้าจะพูดให้เห็นภาพชัดเจนคือเขาซื้อใบรับรองผลงานว่าเป็นของแท้ เพื่อให้เขาแปะเทปกาวที่กล้วยหอมบนผนังพร้อมทั้งเรียกมันว่า Comedian นั่นเอง

ในการประมูลเมื่อวันพุธ ได้รับความสนใจอย่างมาก ผู้เข้าร่วมงานถือโทรศัพท์เพื่อถ่ายผลงานนี้ ในช่วงที่มีเจ้าหน้าที่สวมถุงมือสีขาวประจำการข้าง ๆ กล้วยหอมร้อยล้านนี้ ราคาประมูลเริ่มต้นที่ 800,000 ดอลลาร์ พร้อมทั้งอีกไม่กี่นาทีต่อมา ราคาพุ่งไปถึง 2 ล้าน 3 ล้าน พร้อมทั้ง 4 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ จนผู้ดำเนินการประมูล โอลิเวอร์ บาร์คเกอร์ ถึงกับเล่นมุกว่า “นี่คือสิ่งที่ผมไม่คิดว่าจะได้พูดออกมา นั่นคือ 5 ล้านดอลลาร์สำหรับกล้วยหอม 1 ลูก” พร้อมทั้งราคาสุดท้ายก็จบลงที่ 5.2 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังไม่รวมค่าธรรมเนียมการประมูลอีก 1 ล้านดอลลาร์ที่ผู้ชนะต้องจ่ายเพิ่ม

ซัน กล่าวในแถลงการณ์ว่าผลงานนี้ “แสดงถึงปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงโลกแห่งศิลปะ มีม พร้อมทั้งชุมชนสกุลเงินดิจิทัล” พร้อมทั้งว่าผลงานชิ้นนี้อาจไม่ได้อยู่นานนัก เนื่องจาก “ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ผมจะกินกล้วยลูกนี้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์งานศิลปะที่มีเอกลักษณ์ ให้เกียรติผลงานในฐานะประวัติศาสตร์งานศิลป์พร้อมทั้งวัฒนธรรมป๊อปด้วย”

ที่มา: เอพี

โต้กลับ! ยูเครนเผยรัสเซียใช้ ‘ขีปนาวุธข้ามทวีป’ เข้าจู่โจมเป็นครั้งแรก

ยูเครนเผยรัสเซียยิงขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป (intercontinental ballistic missile-ICBM) จู่โจมเมืองดนิโปร ทางตะวันออกของยูเครนในช่วงข้ามคืน ซึ่งหากได้รับการยืนยัน จะถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพมอสโกใช้อาวุธพิสัยไกลดังกล่าวในสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี

ในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีบนแพลตฟอร์มเทเลแกรม กองทัพอากาศยูเครนไม่ได้ระบุรูปแบบของขีปนาวุธที่รัสเซียใช้ แต่กล่าวเพียงว่าถูกปล่อยออกมาจากแคว้นอัสตราคาห์น ซึ่งติดกับทะเลแคสเปียน โดยขีปนาวุธ ICBM นี้มาพร้อมกับขีปนาวุธอื่น ๆ อีก 8 ลูกมุ่งจู่โจมที่เมืองดนิโปร พร้อมทั้งกองทัพยูเครนได้ยิงตกไป 6 ลูก

ทางการท้องถิ่นของยูเครนเผยด้วยว่า มีรายงานผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 2 คนจากเหตุจู่โจมดังกล่าว มีความเสียหายที่เขตอุตสาหกรรม พร้อมทั้งศูนย์ดูแลผู้พิการในพื้นที่

แม้ว่าการใช้ขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีปของรัสเซีย ดูเหมือนจะเกินความจำเป็นในสงครามกับยูเครน อาวุธดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ พร้อมทั้งใช้เพื่อเป็นเครื่องเตือนถึงศักยภาพด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย อีกทั้งยังเป็นการส่งสัญญาณที่ทรงพลังของการยกระดับความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้นได้

การจู่โจมครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 2 วัน หลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ลดระดับข้อจำกัดการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้รัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์ในการตอบโต้ได้ง่ายขึ้น ตอบโต้กรณีเมื่อวันอังคาร ที่ยูเครนยิงขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีกองทัพบก ATACMS (Army Tactical Missile System) ที่ผลิตในสหรัฐฯ 6 ลูก เข้าใส่แคว้นบรีแยนสก์ของรัสเซีย ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่กองทัพกรุงเคียฟใช้ขีปนาวุธจู่โจมระยะไกลที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น พร้อมทั้งในวันพุธ ยูเครนใช้ขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Storm Shadows ของอังกฤษเข้าไปในรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดีว่า ระบบป้องกันทางอากาศได้ยิงขีปนาวุธ Storm Shadows ตกไป 2 ลูก จรวด HIMARS 6 ลูก พร้อมทั้งโดรนอีก 67 ลำ แต่ไม่ได้พบว่าอาวุธดังกล่าวมุ่งหน้าจู่โจมที่ไหนพร้อมทั้งเมื่อใด

พัฒนาการในสมรภูมิรัสเซีย-ยูเครน มีขึ้นในช่วงที่สงครามเปลี่ยนแปลงพลวัติไปมากขึ้น หลังการเข้ามาของกองทัพเกาหลีเหนือที่เข้ามาช่วยรัสเซียในสงคราม ทำให้สหรัฐฯ ปรับนโยบายด้วยการอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลที่ผลิตในสหรัฐฯ เข้าจู่โจมในรัสเซียได้ ขณะที่รัฐบาลมอสโกตอบโต้ด้วยการข่มขู่ยกระดับสงครามมาโดยตลอด

โดยก่อนหน้านี้ ปธน.ปูตินได้เตือนสหรัฐฯ พร้อมทั้งพันธมิตรนาโต้ว่าหากยอมให้ยูเครนใช้อาวุธพิสัยไกลจู่โจมดินแดนรัสเซีย นั่นหมายถึงนาโต้กำลังเผชิญหน้าในสงครามกับรัสเซียโดยตรง

ที่มา: เอพี

ออสเตรเลียเตือนนทท.ระวัง ‘สุราปนเปื้อนในวังเวียง’ หลังหญิงออสซี่จบชีวิต 1 ราย

วัยรุ่นออสเตรเลีย 1 รายจบชีวิตหลังดื่มสุราปนเปื้อนที่วังเวียง เมืองยอดนิยมของเหล่าแบ็กแพ็คเกอร์ที่ไปเยือนประเทศลาว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จบชีวิตไปแล้ว 3 รายจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ ตามรายงานของเอพี

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบาเนซี กล่าวต่อที่ประชุมสภาในวันพฤหัสบดีว่า บิอังกา โจนส์ วัยรุ่นออสเตรเลียวัย 19 ปี จบชีวิตหลังถูกนำตัวออกจากวังเวียง ประเทศลาว เพื่อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ประเทศไทย

ขณะที่ฮอลลี โบวลส์ เพื่อนของเธอในวัย 19 ปีอีกราย ยังรักษาตัวอยู่ที่ไทยเช่นกัน ตามการเปิดเผยของครอบครัวที่พบว่าเธอยังอยู่อาการขั้นวิกฤต

ทั้งนี้ เชื่อว่าโจนส์พร้อมทั้งโบวลส์ ดื่มสุราปนเปื้อนเมทานอล ซึ่งมักใช้เป็นส่วนผสมแทนเอธานอลในราคาที่ถูกกว่า แต่อาจทำให้เกิดอาการป่วยหนักหรือจบชีวิตได้ พร้อมทั้งทางออสเตรเลียออกคำเตือนนักท่องเที่ยวให้ระวังการดื่มสุราปนเปื้อนในลาวแล้ว

ทางการไทยยืนยันว่า โจนส์ จบชีวิตเนื่องจาก “ภาวะสมองบวมเพราะมีระดับเมทานอลในระบบร่างกายสูง”

สุราปนเปื้อนเริ่มกลายเป็นประเด็นขึ้นมา หลังจากหญิงออสเตรเลีย 2 รายล้มป่วยเมื่อ 13 พฤศจิกายน หลังออกไปดื่มกับกลุ่มเพื่อนที่นั่น พร้อมทั้งการจบชีวิตของโจนส์ ถือเป็นนักท่องเที่ยวรายที่ 4 ที่จบชีวิตเพราะดื่มสุราปนเปื้อนในวังเวียง

ทางการออสเตรเลีย พบว่า “นักท่องเที่ยวต่างชาติหลายราย” ต่างเป็นเหยื่อของสุราปนเปื้อนเมทานอลนี้ กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ยืนยันแล้วว่ามีชาวอเมริกัน 1 รายจบชีวิตที่วังเวียง พร้อมทั้งกระทรวงต่างประเทศเดนมาร์ก ยืนยันว่ามีพลเมือง 2 รายจบชีวิตในเหตุการณ์นี้เช่นกัน

นอกจากนี้ กระทรวงต่างประเทศนิวซีแลนด์ เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า มีพลเมือง 1 รายล้มป่วยในลาว พร้อมทั้งคาดว่าอาจเป็นเหยื่อของสุราปนเปื้อน พร้อมทั้งออกคำเตือนการเดินทางของพลเมืองนิวซีแลนด์ที่ไปเยือนลาวให้ระมัดระวังในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งอาจมีการปนเปื้อนเมทานอลในลาวด้วยเช่นกัน

กระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ พร้อมทั้งเดนมาร์กไม่ได้ให้ความเห็นโดยตรงว่ามีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ของโจนส์หรือไม่ แต่ทางกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุกับเอพีว่าทางการท้องถิ่นกำลังสอบสวนคดีนี้พร้อมทั้งจะให้ข้อมูลข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่เอพีพยายามติดต่อไปยังกระทรวงสาธารณสุขลาวเพื่อขอความเห็น แต่หมายเลขที่ระบุเอาไว้ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนตำรวจลาวปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังได้บอกกล่าวกับเอพี

เมืองวังเวียง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเวียงจันทน์ราว 160 กม. ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่แบ็กแพ็กเกอร์ที่ชื่นชอบการผจญภัยพร้อมทั้งงานปาร์ตี้

ที่มา: เอพี

นักท่องเที่ยวคึกคัก แห่ชมความน่ารักซุปตาร์ “น้องเอวา” เสือโคร่งหน้าแบ๊ว

นักท่องเที่ยวคึกคัก แห่ชมความน่ารักซุปตาร์ “น้องเอวา” กับ “ลูน่า” เสือโคร่งหน้าแบ๊ว ที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี

“สนธิ ลิ้มทองกุล” ร้องสภาทนายความตรวจสอบมรรยาท “ทนายษิทธา-ทนายเดชา”

“สนธิ ลิ้มทองกุล” ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ ตรวจสอบมรรยาท “ทนายษิทธา-ทนายเดชา” ระบุใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย