มรดกเจ๊อ้อย ตำรวจยังไม่พบความผิด เล็งสอบเพิ่ม ปมทนายตั้ม แอบติด GPS เบนซ์หรู

“รองผบช.ก.” เผยมรดกเจ๊อ้อย ยังไม่พบความผิด ด้าน GPS เป็นของรถอยู่แล้ว เร่งตรวจสอบเพิ่ม ส่วน 2 คนสนิท “ทนายตั้ม” ที่สอบไปแล้วยังไม่ได้กันใครเป็นพยาน

“แพทองธาร” เผย คำถามแรกที่เจอบ่อยบนเวทีต่างประเทศ คือ “พ่อพร้อมทั้งอาเป็นอย่างไร”

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์ Forbes ยืนยัน รัฐบาลหนุนลงทุนเต็มที่ หวังไม่ว่าจะยุคไหนนโยบายยังมีต่อเนื่องไม่หลุดไปตามรัฐบาล บอกไปเวทีต่างชาติ คำถามแรกที่เจอคือ “พ่อพร้อมทั้งอาเป็นอย่างไร”

อำลาเศร้า! ปิดตำนาน ‘นาดาล’ สิงห์มือซ้ายผู้ยิ่งใหญ่แห่งโลกเทนนิส

ราฟาเอล นาดาล ตำนานนักเทนนิสชาวสเปนวัย 38 ปี ประกาศเลิกเล่นเทนนิสอาชีพเมื่อคืนวันอังคาร หลังจากพาทีมชาติสเปนแพ้ให้กับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในการแข่งขันเทนนิส เดวิสคัพ ท่ามกลางบรรยากาศที่โศกเศร้าในเมืองมาลากา 

นาดาล ถือเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่กลายเป็นไอคอนของวงการ เขาคว้าแชมป์แกรนด์สแลมชายเดี่ยว 22 รายการ มากเป็นอันดับสองรองจาก โนวัค โยโควิช ยอดนักเทนนิสชาวเซอร์เบีย 

นาดาลเริ่มเล่นเทนนิสอาชีพเมื่อ 23 ปีที่แล้ว พร้อมทั้งโดดเด่นขึ้นมาจากการตีด้วยมือซ้ายพร้อมทั้งการเล่นอันดุดัน เต็มไปด้วยพลัง โดยเฉพาะบนคอร์ตดิน จนได้รับฉายาว่า “King of clay” หรือ “ราชาแห่งคอร์ตดิน” 

นาดาลเป็นที่รู้จักจากการตีโต้อย่างเหนียวแน่นพร้อมทั้งแม่นยำจากท้ายคอร์ต โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญที่กดดันมาก ๆ ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่สามารถรักษาแต้มเบรกพอยท์ได้ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

ถ้าหากว่า สไตล์การตีอันหนักหน่วงของเขาทำให้เขามีอาการบาดเจ็บอยู่เป็นประจำตลอดการเล่นในระดับอาชีพ รวมทั้งอาการบาดเจ็บที่สะโพกที่ทำให้นาดาลต้องเข้ารับการผ่าตัดสะโพกเมื่อปีที่แล้ว พร้อมทั้งไม่สามารถกลับมาอยู่ในจุดเดิมได้อีก  

พีท แซมพราส ตำนานนักเทนนิสอเมริกันเจ้าของแกรนด์สแลม 14 รายการ เคยกล่าวไว้กับรอยเตอร์ในการให้สัมภาษณ์เมื่อปี 2010 ว่า “คำถามเดียวที่มีต่อราฟา คือร่างกายของเขาจะสามารถแบกรับการเล่นอันหนักหน่วงในทุกแต้มได้มากแค่ไหน” “ดูเขาเล่นสิ เด็กคนนี้วิ่งพล่านไม่หยุดเลย”

อาการบาดเจ็บของนาดาลทำให้เขาพลาดการแข่งขันรายการแกรนด์สแลมถึง 16 ครั้งด้วยกัน ถึงกระนั้น เขายังสามารถคว้ามาได้ถึง 22 รายการ โดยเฉพาะเฟรนซ์โอเพ่น ซึ่งเป็นแกรนด์สแลมรายการเดียวที่แข่งบนคอร์ตดิน พร้อมทั้งนาดาลคว้าแชมป์มาได้ถึง 14 ครั้ง สร้างสถิติเป็นนักเทนนิสที่ได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเขาแพ้เพียง 4 แมตช์จากการแข่งขันในเฟรนซ์โอเพ่นทั้งหมด 116 แมตช์

ในวัย 38 ปี นาดาลยังคงสามารถเอาชนะคู่แข่งรุ่นน้องได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบนคอร์ตดินพร้อมทั้งคอร์ตหญ้า โดยมีเพียง เคน รอสวอลล์, โนวัค โยโควิช พร้อมทั้งโรเจอร์ เฟดเดอเรอร์ ที่มีอัตราส่วนชัยชนะใกล้เคียงกันในวัยที่เท่า ๆ กัน 

ที่มา: รอยเตอร์

องค์การนาโต้ซ้อมรบครั้งใหญ่แถบขั้วโลกเหนือติดรัสเซีย

ทหารหลายพันคนขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ เข้าร่วมการซ้อมรบครั้งใหญ่แถบขั้วโลกเหนือในเขตประเทศฟินแลนด์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย พร้อมทั้งถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณไปถึงสงครามที่ดำเนินอยู่ในยูเครน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ทหาร 3,600 นายจากสหรัฐฯ สวีเดน อังกฤษ ฝรั่งเศส พร้อมทั้งชาติสมาชิกอื่น ๆ ขององค์การนาโต้ ได้เริ่มการซ้อมรบแบบใช้กระสุนจริงตลอดเดือนนี้ ซึ่งเป็นการซ้อมยิงปืนใหญ่ครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยจัดขึ้นในยุโรป มีชื่อว่า Dynamic Front 25

นอกจากนี้จะมีการซ้อมรบเพิ่มในเอสโตเนีย เยอรมนี โรมาเนีย พร้อมทั้งโปแลนด์ โดยมีทหารเข้าร่วมรวม 5,000 นาย 

โจเอล ลินเนนมากิ นักวิจัยแห่งสถาบันกิจการระหว่างประเทศของฟินแลนด์ (Finnish Institute of International Affairs) บอกว่า การซ้อมรบครั้งใหญ่นี้สามารถตีความได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณไปยังรัสเซียที่มีพรมแดนติดกับฟินแลนด์ราว 1,340 กม. ว่า พันธมิตรนาโต้มีความเป็นเอกภาพพร้อมทั้งสามารถปกป้องซึ่งกันพร้อมทั้งกันได้

ถือเป็นครั้งแรกที่มีการซ้อมรบขนาดใหญ่ในฟินแลนด์นับตั้งแต่ประเทศนี้เข้าร่วมองค์การนาโต้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการยุติสถานะความเป็นกลางทางการทหารที่ฟินแลนด์ยึดถือมาหลายทศวรรษ ท่ามกลางความไม่พอใจของรัฐบาลกรุงมอสโก

พันเอกยานน์ มากิทาโล ผู้อำนวยการการซ้อมรบ Dynamic Front 25 ในฟินแลนด์ บอกว่า เป้าหมายหลักคือการฝึกฝนพร้อมทั้งพัฒนาการทำงานของหน่วยทหารปืนใหญ่นาโต้ พร้อมทั้งเตรียมกำลังทหารสำหรับสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายของขั้วโลกเหนือ พร้อมทั้งว่า “ปืนใหญ่คือราชาพร้อมทั้งราชินีแห่งสมรภูมิ ดังที่เราได้เห็นจากประสบการณ์ในสงครามยูเครน” 

พันเอกมากิทาโลปฏิเสธด้วยว่า การซ้อมรบครั้งนี้ไม่ใช่การแสดงอานุภาพของนาโต้ให้ประเทศอื่นยำเกรงแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่องค์การนาโต้ พบว่า การที่ฟินแลนด์เข้าร่วมนาโต้ ทำให้พันธมิตรนี้มีทหารเพิ่มอีก 280,000 นายในแถบทางเหนือของยุโรปซึ่งมีอุณหภูมิติดลบเกือบตลอดทั้งปี 

ที่มา: เอเอฟพี

 

สหรัฐฯ เตรียมส่ง ‘ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล’ ให้ยูเครน

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายหนึ่งยืนยันว่า รัฐบาลกรุงวอชิงตันใกล้ที่จะส่งอาวุธประเภท ‘ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล’ เพื่อการใช้โดยกองทัพยูเครน

เจ้าหน้าที่ผู้นี้กล่าวในค่ำวันอังคารว่าสหรัฐฯ คาดหวังให้ยูเครนตกลงว่าจะใช้อาวุธนี้ เฉพาะในเขตเเดนยูเครนที่ไม่มีพลเรือนอาศัยอยู่

เเหล่งข่าวย้ำด้วยว่าทุ่นระเบิดมีระยะเวลาทำงานจำกัด ตามอายุของเเบตเตอรี่ ที่ใช้ได้ตั้งเเต่ 2-3 ชั่วโมง ไปจนถึง 2 สัปดาห์

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ยูเครนเริ่มใช้ขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลที่สหรัฐฯส่งให้เพื่อการจู่โจมไปยังรัสเซีย

กองทัพยูเครนพุ่งเป้าไปที่สถานที่เก็บกระสุนในเขตบริเเยนสก์ของรัสเซียก่อนรุ่งสางวันอังคาร โดยฝ่ายยูเครนต้องการสร้างความเสียหายต่อบริเวณดังกล่าวมานาน เพราะรัสเซียใช้เป็นจุดยิงขีปนาวุธพร้อมทั้งส่งโดรนเข้าไปทำลายพื้นที่หลายเมืองในยูเครน

ไม่เป็นที่เเน่ชัดว่าการจู่โจมของยูเครนสร้างความเสียหายได้ผลเพียงใด

กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่าขีปนาวุธ Army Tactical Missile System ที่ทำขึ้นในสหรัฐฯ 6 ลูก ที่ถูกใช้ในการจู่โจมครั้งนี้โดนยิงร่วงพร้อมทั้งถูกทำลายทั้งหมด

รัสเซียบอกด้วยว่าไม่มีผู้บาดเจ็บหรือจบชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

แต่เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวผ่านเฟซบุ๊กว่าปฏิบัติการของตนก่อให้เกิดเพลิงไหม้คลังเก็บกระสุนของรัสเซียที่อยู่ในเตบริแยงสก์ ซึ่งห่างจากชายแดนยูเครน 100 กิโลเมตร

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ยกระดับการสนับสนุนด้านอาวุธต่อรัสเซียขณะที่เขาจะพ้นตำแหน่งในอีก 2 เดือนจากนี้

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะมารับช่วงบริหารประเทศต่อเคยเเสดงความลังเลต่อการช่วยเหลือด้านการทหารต่อยูเครนต่อไปในอนาคตอย่างต่อเนื่อง

ทรัมป์เคยบอกว่าเขาน่าจะสามารถทำให้สงครามรัสเซีย-ยูเครนจบลง ก่อนวันเข้าบริหารประเทศอย่างเป็นทางการ โดยไม่ได้ให้ข้อมูลต่อประชาชนถึงเเนวทางยุติสงครามของเขา

หลังจากที่ยูเครนสามารถยิงจู่โจมรัสเซียจากระยะไกลได้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินลงนามเปลี่ยนแนวทางด้านนิวเคลียร์ของรัสเซีย

ภายใต้การเปลี่ยนแปลงนี้ รัสเซียจะสามารถพิจารณาว่า การจู่โจมฝ่ายตนแม้จะด้วยอาวุธเพียงเเค่ธรรมดา ก็อาจเจอการโต้กลับด้วยอาวุธนิวเคลียร์

ถ้าหากว่าไม่มีความชัดเจนว่าการโต้กลับของรัสเซีย จำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธนิวเคลียร์อย่างเเเน่นอนหรือไม่

ที่มา: วีโอเอ

วิเคราะห์: ภารกิจอันหนักหน่วงของ ‘กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล’

ในช่วงที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ เป็นสมัยที่ 2 ในเดือนมกราคมปีหน้า บุคคลดังซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์ 2 คน จะได้รับหน้าที่ในหน่วยงานที่ออกแบบมาเพื่อหั่นการใช้จ่ายภาครัฐพร้อมทั้งยกระดับศักยภาพของรัฐบาลกลางให้ดีขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์มองว่าเป็นภารกิจใหญ่ที่ดูไร้ความชัดเจน

กระทรวงใหม่ที่ได้รับการจับตาใกล้ชิดในรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ที่จะเข้ามาบริหารประเทศในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า คือ กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (Department of Government Efficiency – DOGE) ซึ่งมีบทบาทเป็นคณะกรรมาธิการฝ่ายที่ปรึกษามากกว่าการเป็นกระทรวงในตัวเอง โดยมีอิลอน มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลาพร้อมทั้งสเปซเอ็กซ์ พร้อมทั้งวิเวก รามาสวามี นักธุรกิจเชื้อสายอินเดีย ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

หน่วยงาน DOGE ที่ออกเสียงเหมือน ‘โดห์จ’ ดูเหมือนจะเป็นผลิตภัณฑ์จากความมีอารมณ์ขันของมัสก์ ในฐานะที่เขาเป็นแฟนตัวยงของเหรียญคริปโตแบบมีมรูปสุนัขพันธุ์ชิบะ ที่รู้จักในชื่อ โดจคอยน์ (Dogecoin)

ทั้งมัสก์ พร้อมทั้งรามาสวามี ตั้งเป้าในวันที่ 4 กรกฎาคม 2026 ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 250 ปีการลงนามในคำประกาศอิสรภาพของอเมริกา ให้เป็นหมุดหมายที่ภารกิจของพวกเขาจะเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าทั้งคู่จะเข้าถึงในทุกซอกทุกมุมของรัฐบาลอเมริกันพร้อมทั้งค้นหางบประมาณพร้อมทั้งระบบราชการที่จะเข้าไปลดทอนหรือตัดออกไปได้

คำมั่นสัญญาอันยิ่งใหญ่

ทรัมป์ กล่าวในแถลงการณ์การประกาศการจัดตั้ง DOGE ว่า หน่วยงานนี้ “จะปูทางให้คณะทำงานของตน รื้อระบบราชการ ตัดกฎระเบียบส่วนเกิน หั่นรายจ่ายสิ้นเปลือง พร้อมทั้งปรับโครงสร้างหน่วยงานรัฐบาลกลางเสียใหม่”

มัสก์ได้คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่จะตัดงบประมาณภาครัฐราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นเกือบ 1 ใน 3 ของการใช้จ่ายรัฐบาลกลางในปีงบประมาณ 2023 ที่ 6.1 ล้านล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งสิ่งนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้โดยปราศจากการปรับลดหน่วยงานพร้อมทั้งโครงการของรัฐบาลครั้งใหญ่

ด้านรามาสวามีพบว่าการปรับโครงสร้างดังกล่าวจะเป็นไปตามที่ตนพร้อมทั้งมัสก์แนะนำ โดยในการให้สัมภาษณ์ทาง Fox News เมื่อวันอาทิตย์ เขาถูกตั้งคำถามว่าจะตัดกระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาลไปทั้งหมดหรือไม่ เขาตอบว่า “เราคาดว่าจะมีการปรับลดครั้งใหญ่ เราคาดว่าจะเห็นบางหน่วยงานถูกตัดออกไปทั้งหมด เราคาดว่าจะมีการปรับลดคนในภาคส่วนของรัฐบาลกลางที่มีมากเกินไป เราจะเห็นการปรับลดจำนวนคนครั้งใหญ่ ในหมู่ลูกจ้างชั่วคราวพร้อมทั้งอื่น ๆ ที่เรียกเก็บเงินจากรัฐบาลกลางมากเกินไป” พร้อมทั้งเสริมว่า “ผมคิดว่าคนจะประหลาดใจที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้รวดเร็วขนาดนี้”

ครั้งแรกหลังยุคปธน.เรแกน

องค์กรที่ผลักดันการตรวจสอบการใช้จ่ายภาครัฐอย่างใกล้ชิด แสดงความเห็นเชิงบวกแบบระมัดระวังเกี่ยวกับการจัดตั้งกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลครั้งนี้

ทอม แชทซ์ ประธาน Citizens Against Government Waste หน่วยงานที่เคลื่อนไหวในการจัดการความไร้ประสิทธิภาพของหน่วยงานภาครัฐ ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า DOGE จะเป็น “การตรวจสอบรัฐบาลกลางโดยเอกชนครั้งแรกที่ครอบคลุมพร้อมทั้งมีนัยสำคัญ” นับตั้งแต่ยุคประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ซึ่งเคยก่อตั้ง Grace Commission คณะกรรมาธิการที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพของรัฐบาล เมื่อปี 1982

ถ้าหากว่า ประสิทธิภาพของหน่วยงาน DOGE จะขึ้นอยู่กับปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของหน่วยงานนี้ โดยแชทซ์ มองว่า “ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ประธานาธิบดีทรัมป์จะทำกับคำแนะนำเหล่านี้ .. คำแนะนำต่าง ๆ จะต้องถูกนำไปบังคับใช้ ไม่ว่าจะผ่านคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร หรือกฎหมาย” พร้อมทั้งว่าต้องมีการผลักดันจากฝ่ายบริหารพร้อมทั้งนิติบัญญัติในการนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้ให้เป็นรูปธรรม

ด้านมายา แมคกินนีส์ กล่าวยกย่องในแนวคิดเบื้องหลังความพยายามดังกล่าว ซึ่งระบุในแถลงการณ์ของทรัมป์ แต่ได้เตือนว่าสิ่งนี้ต้องการความร่วมมือจากนักการเมืองทั้งสองพรรค เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ถูกนำไปใช้

แมคกินนีส์ บอกว่า “สำคัญที่สุด กระบวนการจะต้องเป็นไปโดยความเห็นชอบจากทั้งสองพรรคให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยในการผลักดันพร้อมทั้งบังคับใช้แนวคิดเหล่านี้” พร้อมทั้งว่า “คำแนะนำต่าง ๆ จะต้องให้คองเกรสเห็นด้วย .. พร้อมทั้งมีทางเลือกต่าง ๆ เพื่อจัดการการขาดดุลการคลังของประเทศ”

งบประมาณมหาศาล

กระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาลในความดูแลของมัสก์พร้อมทั้งรามาสวามี จะตรวจสอบการใช้งบประมาณของรัฐบาลกลางอย่างละเอียด ซึ่งงบส่วนใหญ่คือ “งบประมาณที่ถูกกำหนดไว้โดยกฎหมาย” (Mandatory Spending) ของรัฐบาลกลาง ที่ในปีงบประมาณ 2023 อยู่ที่ 3.8 ล้านล้านดอลลาร์ จากงบประมาณ 6.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปีดังกล่าว

เมื่อดูในข้อมูล งบประมาณราว 1.3 ล้านล้านดอลลาร์จ่ายไปโดยหน่วยงานประกันสังคม (Social Security) โครงการภาครัฐที่จ่ายเงินเป็นรายได้ให้กับผู้เกษียณ อ้างอิงจากหน่วยงานวิเคราะห์งบประมาณ Congressional Budget Office งบประมาณอีก 448,000 ล้านดอลลาร์เป็นค่าใช้จ่ายให้กับชาวอเมริกันผู้มีรายได้น้อย 839,000 ล้านดอลลาร์ เป็นค่าใช้จ่ายโครงการประกันสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุชาวอเมริกัน หรือ Medicare พร้อมทั้ง 616,000 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการสนับสนุนด้านสุขภาพของผู้มีรายได้น้อยชาวอเมริกัน หรือ Medicaid

งบก้อนที่สอง คือ งบประมาณที่จะจัดสรรขึ้นในแต่ละปีซึ่งไม่ได้มีกฎหมายกำหนดไว้ (Discretionary Spending) จำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจากสภาคองเกรส โดยในปีงบประมาณ 2023 อยู่ที่ 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ งบก้อนนี้จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางดำเนินการต่อไปได้ โดยเกือบครึ่งหนึ่ง หรือราว 805,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2023 นั้นใช้ไปกับงบกลาโหม ส่วนอีก 917,000 ล้านดอลลาร์ใช้ไปกับคองเกรส ทำเนียบขาว พร้อมทั้งกระทรวงสำคัญต่าง ๆ ของรัฐบาล

หมวดหมู่สุดท้าย คือ ดอกเบี้ยหนี้ภาครัฐ ซึ่งเป็นพิกัดคลุมเครือระหว่างงบก้อนแรกพร้อมทั้งก้อนที่สอง แม้ในทางทฤษฎีแล้วสหรัฐฯ เลือกที่จะไม่ชำระดอกเบี้ยหนี้ก็ได้ แต่การตัดสินใจดังกล่าวอาจหมายถึงหายนะต่อเศรษฐกิจอเมริกาพร้อมทั้งทั่วโลก โดยการชำระส่วนนี้อยู่ที่ 659,000 ล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2023

โครงสร้างที่ไร้ความชัดเจน

ตอนนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า DOGE จะวางโครงสร้างอย่างไร เพราะหากจัดตั้งโดยคำสั่งพิเศษฝ่ายบริหาร จะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคณะกรรมาธิการที่ปรึกษาของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ Federal Advisory Committee Act ที่มีขั้นตอนที่ต้องทำเพื่อความโปร่งใสพร้อมทั้งมีกฎระเบียบเพื่อป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

เรื่องนี้อาจเป็นปัญหาสำหรับมัสก์ ซึ่งเป็นเจ้าของพร้อมทั้งผู้ก่อตั้งหลายบริษัท ที่มีสัญญาจ้างมูลค่านับพันล้านดอลลาร์กับรัฐบาลกลางอเมริกัน

ถ้าหากว่า หาก DOGE จัดตั้งเป็นองค์กรเอกชนทั้งหมด ที่มีหัวหน้าหน่วยงานเป็นที่ปรึกษาของประธานาธิบดี ก็ไม่ต้องปฏิบัติตามระเบียบในกฎหมายดังกล่าวได้นั่นเอง

ที่มา: วีโอเอ

ซีเรียกล่าวหาอิสราเอลจู่โจมเมืองประวัติศาสตร์ ‘พัลไมรา’ สังหาร 36 ศพ

สื่อของทางการซีเรียรายงานว่า เกิดการจู่โจมที่เมืองประวัติศาสตร์ พัลไมรา (Palmyra) ในวันพุธ สังหารประชาชน 36 คน บาดเจ็บมากกว่า 50 คน ซึ่งรัฐบาลซีเรียเชื่อว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล

สื่อ SANA รายงานว่า การจู่โจมดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อวัตถุพร้อมทั้งสิ่งก่อสร้างสำคัญทางประวัติศาสตร์พร้อมทั้งพื้นที่โดยรอบ 

ทางกองทัพอิสราเอลยังมิได้ให้ความเห็นเรื่องนี้

ที่ผ่านมา อิสราเอลมักจู่โจมสถานที่ทางการทหารในซีเรียที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธที่มีอิหร่านหนุนหลัง แต่มักไม่ออกมายอมรับว่าเป็นผู้จู่โจม

เมืองพัลไมรา เป็นหนึ่งในมรดกโลกขององค์การ UNESCO ตั้งอยู่ตอนกลางของซีเรีย โดยมีวิหารเก่าแก่ตั้งแต่ยุคโรมันตั้งเรียงราย

ระหว่างปี 2016 – 2016 เมืองโบราณแห่งนี้ถูกทำลายระหว่างที่ปกครองของกลุ่มรัฐอิสลามทั่วซีเรีย รวมทั้งการระเบิดโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง

หลังการล่มสลายของกลุ่มรัฐอิสลาม ได้มีความพยายามฟื้นฟูบูรณะโบราณสถานเหล่านั้นแต่ต้องถูกชะลอไว้เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัย เนื่องจากยังมีกับระเบิดของกลุ่มรัฐอิสลามฝังอยู่เป็นจำนวนมาก รวมทั้งปัญหาขาดแคลนเงินทุน

การจู่โจมเมืองพัลไมราเกิดขึ้นในขณะกำลังมีการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มเฮซบอลลาห์ในเลบานอน แต่ยังคงไม่ชัดเจนว่าข้อตกลงหยุดยิงนี้จะรวมซีเรียด้วยหรือไม่ 

ที่มา: เอพี

ปิดประชุมจี20 หลังการหารือโลกร้อน-ความยากจน-เก็บภาษีมหาเศรษฐี

ผู้นำของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก สรุปการประชุมจี20 ที่นครริโอ เดอจานาโร ประเทศบราซิล โดยออกแถลงการณ์สนับสนุนประเด็นที่มีความสำคัญต่อกลุ่มประเทศ Global South ซึ่งส่วนมากเป็นประเทศกำลังพัฒนา 

ประเด็นเหล่านั้นประกอบด้วยปัญหาจากสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลง การบรรเทาความยากจน พร้อมทั้งเเนวทางเก็บภาษีต่อมหาเศรษฐีพันล้าน

นอกจากประเทศกำลังพัฒนา กลุ่ม Global South ยังประกอบด้วยจีนพร้อมทั้งรัสเซีย รวมทั้งประเทศในตะวันออกกลาง

ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ‘ลูลา’ ดา ซิลวา แห่งบราซิลประเทศเจ้าภาพจี20 ในครั้งนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องใหญ่ ๆสามหัวข้อ อันได้เเก่ การคำนึงถึงคนทุกภาคส่วนในสังคมพร้อมทั้งการต่อสู้กับความหิวโหยท่ามกลางความยากจน รวมทั้งมาตรการด้านพลังงานพร้อมทั้งการดำเนินการเพื่อสภาวะอากาศที่ดีขึ้น เเละการปฏิรูปธรรมาภิบาลของโลก

ประธานาธิบดีลูลา กล่าวถึงความล้มเหลวของโลกภิวัฒน์

เขาบอกว่า “ท่ามกลางความปั่นป่วนที่เพิ่มมากขึ้น ประชาคมโลกดูปล่อยวางที่จะล่องผ่านปัญหาความขัดเเย้งของประเทศเจ้ามหาอำนาจ… ราวกับว่าเราถูกพัดไป โดยคลื่นที่พาเราเข้าใกล้โศกนาฏกรรม”

ในแถลงการณ์ร่วม ประเทศจี20 ยำ้ถึงความจำเป็นที่จะต้องแก้ปัญหาภาวะโลกร้อนพร้อมทั้งความยากจน

ประเทศสมาชิกเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องช่วยกันทำให้เเน่ใจว่า จะมีวิธีที่ “อภิมหาเศรษฐีจะถูกเก็บภาษีอย่างได้ผล”

กลุ่มจี20 กล่าวในเเถลงการณ์ว่าการเก็บภาษีเเบบก้าวหน้าเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมทั้งสร้างความยั่งยืนให้กับการพัฒนา

นอกจากนี้ประเทศสมาชิกเรียอกร้องให้ขยายจำนวนสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาติจากปัจจุบันที่มีเพียง 5 ประเทศ

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่จะพ้นตำแหน่งในเดือนมกราคม ร่วมการประชุมจี20 ครั้งนี้เช่นกัน

นักวิเคราะห์อย่าง เเมตธิว กูดเเมน ผู้อำนวยการศูนย์ Greenberg Center for Geoeconomic Studies แห่งสถาบัน Council on Foreign Relations บอกว่ายังคงไม่เเน่นอนถึงจุดยืนของสหรัฐฯ ต่อประเด็นที่ถูกกล่าวถึงที่จี20 ครั้งนี้ เมื่อสหรัฐฯ เปลี่ยนรัฐบาลมาสู่ยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไบเดนบอกว่า พวกเขากำลังทำงานเพื่อให้พันธกิจของสหรัฐฯ ภายใต้เเนวทางความร่วมมือหลายฝ่าย ดำเนินไปในระยะยาว

ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ บอกว่าไบเดนยังคงแสดงบทบาทผู้นำโลกในเวทีจี20 ครั้งนี้ เช่นผลักดันเรื่องพลังงานสะอาดพร้อมทั้งเรื่องการรับมือกับความเสี่ยงด้านสาธารณสุข ตลอดจนการเปลี่ยนผ่านด้านดิจิทัลที่คำนึงถึงคนทุกภาคส่วน

สำหรับประเด็นความขัดเเย้งในต่างประเทศ จี20 เรียกร้องให้เกิดการหยุดยิงในกาซ่า พร้อมทั้งเลบานอน แต่ไม่ได้พูดถึงสิทธิการป้องกันตนเองของอิสราเอล แม้ว่าส่วนนี้เป็นเรื่องที่ไบเดนพยายามผลักดันในหลายการประชุม

ไบเดนบอกว่า “ผมขอให้ทุกคนเพิ่มเเรงกดดันฮามาส ซึ่งไม่ต้องการให้ความตกลงในเวลานี้”

ในเรื่องสงครามรัสเซีย-ยูเครน เช่นเดียวกับปีที่เเล้ว ที่ประชุมจี20 ไม่ได้ประณามรัสเซีย พร้อมทั้งเพียงเเต่กล่าวถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับประชาชนเเละเศรษฐกิจ

ท่าทีดังกล่าวถูกวิจารณ์จากรัฐบาลยูเครน 

ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกีบอกว่า “วันนี้ประเทศจี20 ไปนั่งประชุมกันที่บราซิล พวกเขากล่าวอะไรกันบ้าง? ไม่มีอะไรที่เเข็งขันจริงจัง”

ทั้งนี้แอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมจี20ในปีหน้า

ที่มา: วีโอเอ

ทรัมป์เสนอชื่อ ‘ลินดา เเมคมาฮอน’ ผู้บริหารภาคธุรกิจ เป็นรมต.ศึกษาธิการ

ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศวันอังคารว่าได้เลือกให้ ลินดา เเมคมาฮอน เป็นผู้ที่จะได้รับเสนอเพื่อดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

เเมคมาฮอน เคยเป็นผู้บริหารหน่วยงานรัฐเพื่อช่วยธุรกิจขนาดเล็ก Small Business Administration ภายใต้รัฐบาลทรัมป์สมัยเเรก

นอกจากนี้ เธอเป็นที่รู้จักในบทบาทผู้บริหารบริษัทสื่อด้านมวยปล้ำ World Wrestling Entertainment 

ว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวในเเถลงการณ์ว่า “ลินดาจะใช้ประสบการณ์หลายสิบปีในฐานะผู้นำ พร้อมทั้งความเข้าใจที่ลึกซึ้งด้านการศึกษาพร้อมทั้งธุรกิจ เพื่อสร้างพลังให้กับนักเรียนนักศึกษาพร้อมทั้งคนทำงานอเมริกันรุ่นใหม่ พร้อมทั้งจะทำให้สหรัฐฯ เป็นที่หนึ่งด้านการศึกษาของโลก”

“เราจะเอาเรื่องการศึกษาไปสู่ระดับรัฐ  ลินดาจะเป็นผู้นำในความพยายามนี้” ทรัมป์กล่าว

ในวันเดียวกัน  ทรัมป์แต่งตั้งฮาวเวิร์ด ลัทนิคมหาเศรษฐีด้านการเงิน นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตามการเปิดเผยของเขาเมื่อวันอังคาร

ลัทนิค ซีอีโอของบริษัทด้านการเงิน Cantor Fitzgerald วัย 63 ปี ดำรงตำแหน่งประธานร่วมของทีมช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของทรัมป์ พร้อมทั้งช่วยในการพิจารณาคัดสรรบุคคลที่จะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงของรัฐบาลหลังทรัมป์ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคมนี้

อีกตำแหน่งหนึ่งที่มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเช่นกันคือผู้ที่มาดูเเลโครงการดูเเลสุขภาพชาวอเมริกันในบริการที่เรียกว่า Medicare ที่เป็นสวัสดิการของผู้สูงอายุ พร้อมทั้ง Medicaid สำหรับผู้ยากไร้

ทรัมป์เสนอให้ ดร.เมห์เม็ต ออซ นักจัดรายการโทรทัศน์ มาดำรงตำแหน่งผู้บริหาร Medicare and Medicaid Services 

เมื่อสองปีก่อน ออซลงเลือกตั้งเป็นสมาชิกวุฒิสภาในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยได้รับการสนับสนุนจากทรัมป์ แต่แพ้เลือกตั้งให้กับตัวเเทนของพรรคเดโมเเครต

ทั้งนี้เเมคมาฮอน ลัตนิคพร้อมทั้งออซจะต้องผ่านการพิจารณาโดยวุฒิสภา ก่อนเข้ารับหน้าที่อย่างเป็นทางการ

ที่มา: วีโอเอ

ซุปตาร์ตัวใหม่มาแล้ว เปิดภาพ “น้องเอวา” เสือโคร่งหน้าแบ๊ว ดาวดวงใหม่ไนท์ซาฟารี

ซุปตาร์ตัวใหม่มาแล้ว เปิดภาพ “น้องเอวา” เสือโคร่งหน้าแบ๊ว สุดน่ารัก ดาวดวงใหม่ประจำไนท์ซาฟารี