‘ทรัมป์’ เสนอคนใกล้ชิด ‘จอห์น แรทคลิฟฟ์’ นั่งผอ.ซีไอเอ

ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ หันไปเสนอชื่อคนใกล้ชิดพร้อมทั้งบุคคลที่เหนือความคาดหมายให้มารับหน้าที่สำคัญของหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ในวาระการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยสองของเขาที่จะเริ่มต้นในเดือนมกราคมปีหน้า

เมื่อวันอังคาร ทรัมป์ เสนอชื่อ จอห์น แรทคลิฟฟ์ อดีตผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA)

โดยทรัมป์ ยกย่องแรทคลิฟฟ์ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ว่าเป็น “นักต่อสู้เพื่อความจริงพร้อมทั้งความซื่อสัตย์” พร้อมทั้งยกย่องการ “เปิดโปงการสมรู้ร่วมคิดของรัสเซียจอมปลอม”

แรทคลิฟฟ์ อดีตส.ส.รัฐเท็กซัสที่ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมาธิการด้านข่าวกรองแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ พร้อมทั้งเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์อย่างเหนียวแน่น

ขณะที่การเสนอชื่อแรทคลิฟฟ์เมื่อปี 2019 พร้อมทั้งปี 2020 ในช่วงที่ทรัมป์เป็นผู้นำสมัยแรก ก็สร้างประเด็นถกเถียงในเรื่องข้อกล่าวหาว่าพูดเกินจริงเรื่องผลงานความสำเร็จในด้านการต่อต้านการก่อการร้ายเมื่อสมัยดำรงตำแหน่งอัยการรัฐ ก่อนจะได้รับการรับรองให้ดำรงตำแหน่งด้วยแรงสนับสนุนจากสว.รีพับลิกันในช่วงนั้น

แรทคลิฟฟ์ สร้างประวัติศาสตร์ในการเป็นผอ.ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ที่มีบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ทวิตเตอร์เป็นคนแรก พร้อมทั้งเผยแพร่ข้อมูลข่าวกรองระหว่างอดีตที่ปรึกษาความมั่นคงของทรัมป์ ไมเคิล ฟลินน์ กับเจ้าหน้าที่รัสเซีย

นอกจากนี้ เขายังกล่าวหากจีนว่าเป็นฝ่ายต้องรับผิดชอบในการปล่อยให้ไวรัสโคโรน่า-19 ระบาด ซึ่งก่อนเขาจะพ้นจากตำแหน่งไป เขาได้เขียนบทความที่เผยแพร่ใน The Wall Street Journal โดยเรียกจีนว่าเป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตยพร้อมทั้งชาติตะวันตกที่เป็นวาระเร่งด่วนที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

ปัจจุบัน แรทคลิฟฟ์ นั่งเก้าอี้ประธาน Center for American Security ที่ America First Policy Institute พร้อมทั้งเป็นผู้ร่วมเขียนสรุปนโยบายเกี่ยวกับการรุกรานยูเครนของรัสเซีย โดยแสดงการสนับสนุนชัยชนะของยูเครนในระหว่างที่สนับสนุนการผลักดันการเจรจาพร้อมทั้งการลดระดับความขัดแย้งที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำด้วย

พร้อมทั้งในค่ำวันพุธ ทรัมป์เสนอชื่ออดีตส.ส.พรรคเดโมแครต ทุลซี แกบบาร์ด ให้เป็นผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ พร้อมทั้งดูแลหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ 18 แห่ง ซึ่งทั้งสองต้องได้รับมติรับรองจากวุฒิสภาที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากในขั้นตอนต่อไป

การเสนอชื่อแกบบาร์ด ให้รับตำแหน่งผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติ ได้สร้างความประหลาดใจให้กับส.ส.พร้อมทั้งอดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองมากมาย โดยแกบบาร์ด เป็นเจ้าหน้าที่แนชันแนลการ์ดแห่งกองทัพบกสหรัฐฯ มานานกว่า 20 ปี ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในอิรักพร้อมทั้งคูเวต ก่อนจะกลายเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายฮินดูคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในรัฐฮาวาย ซึ่งตอนนั้นเธอสังกัดพรรคเดโมแครต

ทรัมป์ ผู้ให้สัญญาในช่วงหาเสียงว่าจะจัดการสิ่งที่เขาเรียกว่าการทุจริตในหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ได้ยกย่องวิถีทางของแกบบาร์ดว่า “จะนำความกล้าหาญในอาชีพของเธอมาสู่ชุมชนข่าวกรองของเรา ปกป้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญของเรา พร้อมทั้งรักษาสันติภาพด้วยความเข้มแข็ง”

ถ้าหากว่า จุดยืนของแกบบาร์ด ได้ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ทั้งจากพรรคเดโมแครตพร้อมทั้งรีพับลิกัน อย่างเมื่อปี 2017 เธอถูกวิจารณ์เรื่องการเดินทางไปซีเรียเพื่อพบกับประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ที่ถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งเธอแย้งว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องพบกับศัตรูหาก “คุณจริงจังในการสร้างสันติภาพ”

ซึ่งส.ส.รัฐเวอร์จิเนีย แอบิเกล สแปนเบอร์เกอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ Cybersecurity and Infrastructure Security Agency โพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ X เมื่อวันพุธว่าเธอตกใจกับการเสนอชื่อแกบบาร์ด “ไม่ได้แค่เธอไม่มีคุณสมบัติเพียงพอ แต่เธอส่งต่อทฤษฎีสมคบคิดพร้อมทั้งใกล้ชิดกับผู้นำเผด็จการอย่างบาชาร์ อัล-อัสซาด พร้อมทั้งวลาดิเมียร์ ปูติน” พร้อมทั้งแสดงความกังวลเรื่องการเสนอชื่อแกบบาร์ดต่อความมั่นคงแห่งชาติ

ที่มา: วีโอเอ

‘โอลิวิเยร์ ริอูซ์’ วัยรุ่นตัวสูงสุดในโลก เตรียมเล่นให้ ‘ฟลอริดา เกเตอร์ส’

โอลิวิเยร์ ริอูซ์ เจ้าของสถิติวัยรุ่นตัวสูงสุดในโลก อาจต้องรอไปอีก 1 ปี เพื่อให้ได้สถิติใหม่ในฐานะนักกีฬาลีกบาสเก็ตบอลระดับมหาวิทยาลัยที่ตัวสูงที่สุดในโลก

เอพีรายงานว่า ทอดด์ โกลเดน โค้ชทีมฟลอริดา เกเตอร์ส ลีกบาสเก็ตบอลระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐฯ เผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า นักแม่นห่วงดาวรุ่งชาวแคนาดา วัย 18 ปี โอลิวิเยร์ ริอูซ์ เจ้าของสถิติวัยรุ่นที่มีความสูงมากที่สุดในโลกของกินเนสต์บุ๊ก มีแผนจะร่วมทีมโดยยังไม่ได้ลงสนามแข่งในฤดูกาลนี้ โดยเขาจะร่วมฝึกซ้อมกับเพื่อนร่วมทีมพร้อมทั้งสะสมทักษะการเล่น ก่อนจะลงสนามจริงในปีหน้า

โกลเดน เผยว่า ตนได้ทำให้ริอูซ์ตกอยู่ในสถานการณ์อันยากลำบาก ที่เขาต้องนั่งอยู่ข้างสนามในช่วงท้ายเกม พร้อมทั้งทุกคนตะโกนใส่เขาเพื่อให้เขาลงเล่น โดยที่ไม่เข้าใจถึงแผนการของทีมสำหรับตัวเขา

เมื่อค่ำวันจันทร์ นักศึกษามหาวิทยาลัย University of Florida ตะโกนเรียกริอูซ์ ในการแข่งขันเปิดฤดูกาลที่มหาวิทยาลัย ก่อนที่โค้ชทีมฟลอริดา เกเตอร์ส รายนี้ จะลุกออกจากที่นั่งในช่วงนาทีสุดท้าย แม้ว่าทีมจะเป็นฝ่ายชนะไปก็ตาม พร้อมทั้งทิ้งให้ริอูซ์อยู่ในสถานการณ์วุ่นวายในเกมดังกล่าว

แต่โกลเดน เผยว่า ริอูซ์รับมือกับทุกอย่างได้ดี พร้อมทั้งเข้าใจเหตุผลของโค้ช ทีมงาน พร้อมทั้งครอบครัวที่สนับสนุนเขา

ทั้งนี้ โอลิวิเยร์ ริอูซ์ เป็นหนุ่มเฟรชชี่ของ University of Florida เจ้าของความสูง 7 ฟุต 9 นิ้ว หรือราว 2.40 เมตร ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมของนักบาสเก็ตบอลชายระดับมหาวิทยาลัย เคนนี จอร์จ จาก UNC Asheville ไปได้ อีกทั้งเขายังสูงกว่าอดีตนักบาสเก็ตบอลเอ็นบีเอ จอร์จ มูเรซัน พร้อมทั้ง มานูต โบล ไป 2 นิ้ว พร้อมทั้งยังสูงกว่านักบาสเอ็นบีเอชื่อดังอย่าง เหยา หมิง ไปราว 3 นิ้วอีกด้วย

ที่มา: เอพี

เดโมเเครตถอดบทเรียนความพ่ายแพ้ เมื่อกระเเสทรัมป์แรงเกินต้าน

หลังจากที่เดโมเเครตที่มีรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส เป็นตัวเเทนลงเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ไม่สามารถเอาชนะโดนัลด์  ทรัมป์ได้ กระบวนการถอดบทเรียนจากความพ่ายเเพ้จึงเริ่มขึ้น

นักวิเคราะห์บอกว่าประเด็นเศรษฐกิจที่อยู่ในปัจจัยการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชน มีนำ้หนักมากที่สุดที่ทำให้แฮร์ริสแพ้ครั้งนี้ แต่นั่นไม่เช่นปัจจัยเดียวเท่านั้น

เมื่อเกิดการกล่าวโทษประธานาธิบดีโจ ไบเดนว่าลังเลที่จะถอนตัวเพื่อจะให้แฮร์ริสลงเเข่งแทนในนามของพรรค โฆษกทำเนียบขาว คารีน ฌอง-ปิแอร์กล่าวตอบโต้เเนวคิดดังกล่าว

“ในตอนที่ (ไบเดน) ตัดสินใจที่จะส่งต่อหน้าที่ให้กับรองประธานาธิบดีแฮร์ริส เขาเชื่อว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในเวลานั้น” เธอกล่าว

นักวิเคราะห์บอกว่า โอกาสของเเฮร์ริสในการเเข่งขันกับอดีต ประธานาธิบดีทรัมป์ ถูกบั่นทอนจากการที่เธอเองไม่สามารถสร้างความแตกต่างไปจากนโยบายเศรษฐกิจของไบเดน

ศาสตราจารย์ เดวิด กรีนเบิร์ก ที่สอนวิชาประวัติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรัตเกอร์ บอกว่า “มุมมองที่คนส่วนมากมีต่อ (ไบเดน) คือเขาไม่ได้เป็นผู้ทำหน้าที่บริหารจัดการด้านเศรษฐกิจได้ดี ซึ่งผมจะบอกว่า ส่วนมากเเล้วมีสาเหตุจากเงินเฟ้อที่สูงในช่วงสองปีเเรกของการบริหารประเทศของเขา” 

“นั่นเป็นสิ่งกีดขวางที่ยากยิ่งสำหรับเเฮร์ริส” กรีนเบิร์กกล่าว

ในช่วงการหาเสียง ประเด็นเรื่องสิทธิการทำเเท้งถูกจับมองอย่างมาก แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงไม้ได้ออกมาโหวตให้แฮร์ริสมากเท่ากับที่เดโมเเครตคาดหวังไว้

จูลี โอกินสกี นักวางยุทธศาสตร์ของเดโมเเครต บอกว่า “มีหลายรัฐ ที่มีการทำประชามติผ่านบัตรลงคะเเนนเรื่องสิทธิการเจริญพันธุ์ ดังนั้นคนจึงสามารถออกมาโหวตสนับสนุนประเด็นดังกล่าว พร้อมทั้งในเวลาเดียวกันก็โหวตให้ทรัมป์”

เธอบอกว่า นอกเหนือไปจากการใช้เวลาไปกับการมองว่าเดโมเเครตพลาดพลั้งเรื่องใดบ้างในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคจะต้องมองหาวิธีแก้ปัญหาโครงสร้างที่มีมานานด้วย

“เรามีประวัติอันน่าภาคภูมิใจ แต่เราไม่รู้ว่าจะสื่อสารออกไปอย่างไร เราไม่ได้ทำให้คนรู้สึกว่าสิ่งที่เราพูดตรงกับส่งที่เราเป็น” เธอกล่าว

แนวทางหนึ่งที่จะส่งแรงหนุนให้กับพรรคอีกครั้งหนึ่ง อาจมากจากคนหน้าใหม่ ๆ ที่เข้ามาทำงานให้พรรค ตามความเห็นของจอห์น เเลปพาย รองศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไพลมัธ สเตท 

“พวกเขาต้องมีผู้นำชุดใหม่ ที่อายุน้อยลง พร้อมทั้งเข้าใจถึงสภาพการณ์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งเเน่นอนนว่าต้องเข้าใจคนชนชั้นเเรงงาน” นักวิชาการผู้นี้กล่าว

เนื่องจากพรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมากแบบปริ่มน้ำในสภา อาจารย์แลปพายบอกว่า เดโมเเครตน่าจะมีโอกาสทัดทานการผลักดันนโยบายที่พวกเขาไม่เห็นด้วยกับรีพับลิกัน ในเวลาเดียวกันก็รอโอกาสในการเลือกตั้งสมาชิกสภาในอีกสองปีจากนี้

ที่มา: วีโอเอ

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่างกฎหมายนิวซีแลนด์

ชาวนิวซีแลนด์นับพันคนมุ่งหน้ามายังกรุงเวลลิงตันของนิวซีแลนด์ เพื่อประท้วงการรับรองการตีความใหม่ของสนธิสัญญาการก่อตั้งประเทศที่มีอายุกว่า 184 ปี ซึ่งเป็นการลิดรอนสิทธิ์ของชนพื้นเมืองในประเทศ

การประท้วงเพื่อคัดค้านร่างกฎหมายการตีความหลักการสนธิสัญญาไวทังกิ เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วนิวซีแลนด์เป็นเวลา 9 วัน

ตำรวจนิวซีแลนด์ เผยว่า กลุ่มผู้ประท้วงราว 10,000 คน ที่สวมเครื่องแต่งกายดั้งเดิม ถือธง พร้อมตะโกนคำขวัญของชาวเมารี มุ่งหน้ามาจากเมืองโรโตรัว ห่างออกไปราว 450 กิโลเมตรจากกรุงเวลลิงตัน พร้อมทั้งคาดว่าจะถึงเมืองหลวงนิวซีแลนด์ในวันอังคารหน้า

เมื่อวันพฤหัสบดี ผู้นำชนพื้นเมืองเมารี ได้เต้นฮากา ซึ่งเป็นการเต้นดั้งเดิมของชาวเมารีที่ใช้ในการท้าทายคู่ต่อสู้ ระหว่างที่ประชุมสภานัดแรกเกี่ยวกับการรับรองการตีความสนธิสัญญาไวทังกิครั้งใหม่

ส.ส.ฮานา-ราวิติ ไมปิ-คลาร์ก วัย 22 ปี ฉีกสำเนาของร่างกฎหมาย พร้อมทั้งลุกขึ้นเต้นฮากาในสภา พร้อมทั้งมีชาวเมารีพร้อมทั้งคนอื่น ๆ ร่วมเต้นกับเธอด้วย เป็นเหตุให้ต้องพักการประชุมสภาชั่วคราว

สนธิสัญญาไวทังกิ เป็นการลงนามระหว่างผู้นำชนเผ่าเมารี 500 คน กับมกุฎราชกุมารอังกฤษ เมื่อปี 1840 หรือ 184 ปีก่อน ที่จะแบ่งปันอำนาจปกครองร่วมกัน พร้อมทั้งการตีความของเอกสารดังกล่าวมีผลต่อนโยบายพร้อมทั้งการบริหารประเทศนิวซีแลนด์มาจนถึงปัจจุบัน

แต่ร่างกฎหมายการตีความสนธิสัญญาใหม่ของรัฐบาลนิวซีแลนด์ สร้างความไม่พอใจของชาวเมารีมองว่า การตีความสนธิสัญญาเก่าแก่ฉบับนี้ขึ้นมาใหม่ของรัฐบาลนิวซีแลนด์ จะเป็นการริดรอนสิทธิของชาวเมารี ซึ่งเป็นชนพื้นเมืองมีจำนวน 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด 5.3 ล้านคนของนิวซีแลนด์

ที่มา: รอยเตอร์

อิหร่านเผยจะยืนข้างเลบานอน “ในทุกสถานการณ์” ท่ามกลางเจรจาหยุดยิง

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่าน กล่าววันศุกร์ว่า รัฐบาลเตหะรานจะยืนเคียงข้างเลบานอน “ในทุกสถานการณ์” ในเวลาเดียวกันสหรัฐฯ พร้อมทั้งอีกหลายประเทศพยายามทำให้เกิดความตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลพร้อมทั้งกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ชาวเลบานอน

อาลี ลาริจานี เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายนี้ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของผู้นำสูงสุดอิหร่าน เดินทางไปกรุงเบรุตวันศุกร์เพื่อหารือกับนายกรัฐมนตรีรักษาการของเลบานอน นาจิบ มาคาติ 

ลาริจานี ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากการพบกับผู้นำเลบานอน ว่า อิหร่านสนับสนุนประชาชนพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ของเลบานอน

เขาบอกด้วยว่าอิหร่านไม่ได้พยายามที่จะสั่นคลอนสิ่งใด พร้อมทั้งต้องการหาทางออกให้กับสถานการณ์

เจ้าหน้าที่อิหร่านรายนี้บอกว่า กลุ่มเฮซบอลลาห์ เป็น “การเคลื่อนไหวที่ฉลาด” พร้อมทั้งเลบานอนเป็น “ประเทศที่ฉลาด”

“แต่พวกเขารู้ว่าการดำเนินการอะไรที่พวกเขาจำเป็นต้องทำ” ลาริจานี กล่าว

เขาบอกว่าอิหร่านหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้น “เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เพื่อที่ว่าประชาชนต้องออกจากบ้านเรือนจะได้กลับไปอยู่ที่เดิม

ทั้งนี้อิหร่านให้การสนับสนุนเฮซบอลลาห์ในเลบานอนพร้อมทั้งฮามาสในกาซ่า โดยโลกตะวันตกพบว่าทั้งสองกลุ่มเป็นองค์การก่อการร้าย

คำพูดของลาริจานีถูกมองว่าเป็นสัญญาณโดยตรงจากอิหร่านว่ารัฐบาลเตหะรานสนับสนุนแนวทางที่นำไปสู่ความตกลงหยุดยิงกับอิสราเอล

ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน สื่อเลบานอนรายงานว่า ทูตสหรัฐฯ ประจำเลบานอน ลิซา จอห์นสันเสนอร่างการสร้างสันติภาพในความขัดเเย้งระหว่างอิสราเอลพร้อมทั้งเฮซบอลลาห์ ไปยังประธานสภาผู้เเทนราษฎรของประเทศตะวันออกกลางแห่งนี้ 

ประธานสภาผู้เเทนราษฎรของเลบานอน นาบิห์ เบอร์ริ เป็นตัวแทนฝ่ายเฮซบอลลาห์ในการเจรจาเพื่อหาทางออกของความขัดเเย้ง

ลาริจานี จากอิหร่านยังได้พบกับเบอร์ริ ด้วยในวันศุกร์เช่นกัน 

ข้อมูลของแผนสันติภาพไม่ได้ถูกเปิดเผย ส่วนสถานทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงเบรุตไม่ได้ยืนยันหรือปฏิเสธข่าวการเสนอทางออกโดยทูต ลิซา จอห์นสัน

ถ้าหากว่า ในเวลานี้ อิสราเอลยังคงจู่โจมทางอากาศใส่เลบานอน

ในวันศุกร์ อาคารหลายแห่งในเขตชานเมืองของกรุงเบรุตถูกจู่โจม หลังจากที่ กองทัพอิสราเอลประกาศให้ผู้คนอพยพ

คลิปวิดีโอเเสดงให้เห็นภาพการระเบิดขนาดใหญ่ จนทำให้ตึกพังทลายลง

กองทัพอิสราเอลกล่าวผ่านเเพลตฟอร์ม X ว่า กองทัพอากาศดำเนินการตามข้อมูลข่าวกรอง ในการจู่โจมสองระลอกวันศุกร์เพื่อทำลายเป้าหมายของกลุ่มเฮซบอลลาห์ “ที่ซ่อนอยู่ในใจกลางของกลุ่มประชาชนที่เป็นพลเรือน” ในย่านหนึ่งชานกรุงเบรุต

รายงานของธนาคารโลกเมื่อวันพฤหัสบดีพบว่า การต่อสู้ข้ามฝั่งชายแดนอิสราเอลกับเฮซบอลลาห์สร้างความเสียหายทางกายภาพพร้อมทั้งความสูญเสียทางเศรษฐกิจต่อเลบานอนมูลค่า 8 พัน 5 ล้านดอลลาร์ 

รายงานกล่าวด้วยว่า ภาคที่อยู่อาศัยของประชาชนได้รับความเสียหายมากที่สุด โดยที่อยู่เกือบ 100,000 หลังคาเรือน ถูกทำลายบางส่วนหรือทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าความสูญเสีย 2. พัน 8 ร้อยล้านดอลลาร์ 

ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีพร้อมทั้งรอยเตอร์

สุโขทัย ลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ เข้าสู่วันที่ 8 ยอดนักท่องเที่ยวทะลุ 2.5 แสนคน

สุโขทัย ประเพณีลอยกระทง เผาเทียน เล่นไฟ ย่างเข้าสู่วันที่ 8 ยอดนักท่องเที่ยวเข้าชมงานทะลุ 2.5 แสนคนแล้ว 5 ทุ่มคืนนี้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.สธ. เป็นประธานในพิธีอัญเชิญไฟพระฤกษ์พร้อมทั้งพระประทีปพระราชทาน

คุมเข้มลอยกระทง 2567 ใช้กำลังตำรวจกว่า 30,000 นาย สายด่วน 191 /1599 ตลอด 24 ชม.

ผบ.ตร.แถลงผลระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ใช้กำลังตำรวจกว่า 30,000 นาย ปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนงานฟูลมูนที่มีกระแสว่าอาจเกิดเหตุวุ่นวาย การข่าวยังไม่พบความผิดปกติ

“สัตหีบ” ห้ามลอยกระทงลงทะเล “บางแสน” แนะใช้วัสดุทำกระทงที่เหมาะกับแหล่งน้ำ

“สัตหีบ” ติดป้ายประกาศ ห้าม “ลอยกระทง” ลงทะเล ขณะที่ “บางแสน” แนะใช้วัสดุทำกระทงที่เหมาะกับแหล่งน้ำ หรือเปลี่ยนไปลอยออนไลน์ เพื่อลดขยะทะเล

บ้าน “กฤษอนงค์” หรือ “เจ๊พัช” ปิดเงียบ หลังข่าวสะพัดหมายจับมาแน่

บ้าน “กฤษอนงค์” หรือ “เจ๊พัช” ปิดเงียบ เหมือนไม่มีคนอยู่ หลังข่าวสะพัดหมายจับมาแน่ ขณะที่ รปภ. คุมเข้ม ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าไปภายในหมู่บ้านแต่อย่างใด

“วันนอร์” ยัน “รัฐสภาไทย” พร้อมเป็นเจ้าภาพ “รัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกฯ”

ประธานรัฐสภา เผย ประเทศไทยพร้อมทั้งรัฐสภาไทยได้รับความไว้วางใจพร้อมทั้งได้รับเกียรติจากรัฐสภาโลกให้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐสภาภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 2-3 ธ.ค. นี้