เกาหลีใต้เผยเปียงยางเตรียมส่งทหาร-อาวุธ ให้รัสเซียเพิ่ม

ผู้บัญชาการกองทัพเกาหลีใต้เปิดเผยในวันจันทร์ว่า มีสิ่งบ่งชี้ว่าเกาหลีเหนือกำลังเตรียมส่งกำลังพลพร้อมทั้งอาวุธเพิ่มเติมให้แก่รัสเซีย เพื่อใช้ในการทำสงครามกับยูเครน

แถลงการณ์ของประธานผู้บัญชาการเหล่าทัพร่วมของเกาหลีใต้ พบว่า อาวุธที่จะส่งไปเพิ่มนั้นรวมถึงโดรนพิฆาต โดยก่อนหน้านี้ทางเกาหลีเหนือได้ส่งเครื่องยิงจรวดขนาด 240 มม. พร้อมทั้งปืนใหญ่ลำกล้อง 170 มม. ให้แก่กองทัพรัสเซียไปแล้ว

นอกจากนี้ ทั้งเกาหลีใต้ สหรัฐฯ พร้อมทั้งยูเครน ต่างรายงานตรงกันว่า รัฐบาลกรุงเปียงยางได้จัดส่งทหาร 12,000 คนไปช่วยทำการสู้รบในรัสเซีย

“ทักษิณ” ซัดพรรคประชาชน อู้เก่งแต่เดี๋ยวนี้ด่าเก่ง ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม

“ทักษิณ ชินวัตร” ยาหอมชาวเจียงใหม่ปีหน้าม่วนแน่ จบหมดทุกปัญหาทั้งยาเสพติด-หนี้สิน-คอลเซ็นเตอร์-เอาเศรษฐกิจใต้ดินขึ้นมาบนดิน บอกแก้ยาเสพติดไม่ได้ ผู้กำกับ-ผวจ-นอภ. เตรียมจูงมือเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ยันรัฐบาลอยู่ครบเทอม แซะ “ปชน.” อู้เก่งแต่เดี๋ยวนี้ด่าเก่ง ขอ “สว.ก๊อง” ชนะขาด อย่าให้อายนะ

สธ. เตรียมยาต้านอหิวาตกโรค-วัคซีนช่วยเมียนมา ในไทยพบติดเชื้อ 4 คน ยังควบคุมได้

“สมศักดิ์” เผยเตรียมยาต้านอหิวาตกโรค 24,000 เม็ด พร้อมวัคซีนช่วยเมียนมา หลังพบเชื้อระบาดหนักในหลายเมือง ส่วนในไทยพบผู้ติดเชื้อแล้ว 4 คน ชาวไทย 2 เมียนมา 2 ยัน ยังควบคุมได้ ย้ำ กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ

ปูนบำเหน็จ 3 ชั้นยศ “ร.ต.ท.วิมุตต์” ตำรวจเหยื่อเมาแล้วขับ เป็น พ.ต.ท.

คืบหน้าเก๋งเมาซิ่งชนคนหน้าโรงเรียนดอนขวาง จ.นครราชสีมา พร้อมเยียวยาครอบครัว ร.ต.ท.วิมุตต์ แทนสุโพธิ์ ปูนบำเหน็จ 3 ชั้นยศ จากร้อยตำรวจโทเป็นพันตำรวจโท พร้อมทั้งมีการเพิ่มเงินพิเศษ 3 ขั้น

บุกค้น 3 จุดเชียงราย รวบ 8 แอดมินเว็บพนัน พบเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้าน

ผบช.สอท. นำกำลังบุกค้น จับกุมเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ในพื้นที่ จ.เชียงราย รวบ 8 แอดมินพร้อมของกลาง พบมีเงินหมุนเวียนหลายร้อยล้านบาท

6 เทคนิคขับรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ไปต่างจังหวัดหรือเดินทางไกลอย่างไรให้สนุก

รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมจากคนไทย โดยเฉพาะคนเมืองที่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้แล้วประหยัด แต่ถ้าจะต้องเดินทางไกลข้ามจังหวัดประมาณ 250 กิโลเมตรเป็นต้นไป ก็ต้องวางแผนการเดินทางกันสักหน่อย

ผู้นำเก่า เงื่อนไขใหม่: จับสัญญาณเกาหลีเหนือก่อน ‘ทรัมป์’ เถลิงอำนาจ

คิม จอง อึน เอ่ยถึงสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง ยืนกรานว่าการพัฒนาศักยภาพด้านนิวเคลียร์ “อย่างไม่มีขีดจำกัด” เป็นสิ่งเดียวที่จะต้านภัยคุกคามจากภายนอกได้

ท่าทีของผู้นำเกาหลีเหนือมีขึ้นระหว่างงานแสดงแสนยานุภาพทางทหารของกองทัพโสมแดง โดยกล่าวด้วยว่า การเจรจาที่มีขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา สะท้อนว่ากรุงวอชิงตันมีเจตนาไม่ดีอันเป็นสิ่งที่ “เปลี่ยนแปลงไม่ได้”

ในสายตาของเอแวนส์ รีเวียร์ อดีตรักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกเเละแปซิฟิก มองว่า คิม จอง อึน คนปัจจุบัน แตกต่างไปจาก ‘คิม’ คนที่ทรัมป์เคยเจอหน้าแบบตัวต่อตัวเมื่อปี  2019 อย่างสิ้นเชิง

รีเวียร์บอกว่า “คิม จอง อึน เชื่อว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า พร้อมทั้งผมเชื่อว่าหนึ่งในไพ่ที่ถืออยู่คือความสัมพันธ์ที่เพิ่งพานพบกับรัสเซีย”

เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเกาหลีเหนือส่งทหารมากกว่า 10,000 นายไปช่วยรัสเซียรบในสมรภูมิยูเครน

เมื่อเดือนที่แล้ว อันเดรย์ เบลูซอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียเดินทางไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือเพื่อขยายขอบเขตข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เบลูซอฟมองว่าช่วยลดความเสี่ยงการเกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี

มาร์ค รุทเทอร์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) บอกว่าพันธมิตรระหว่างกรุงมอสโกพร้อมทั้งกรุงเปียงยาง เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลทรัมป์สมัยที่สอง

รุทเทอร์บอกว่า “เทคโนโลยีนิวเคลียร์พร้อมทั้งขีปนาวุธกำลังหลั่งไหลเข้าไปในเกาหลีเหนือ มันจึงเป็นความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะใช้มัน ไม่เพียงในแง่การคุกคามเราที่นี่ แต่กับแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ เช่นกัน”

ซิดนีย์ ซายเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ด้านเกาหลีเหนือ มองว่าความร่วมมือของเกาหลีเหนือพร้อมทั้งรัสเซีย จะเป็นภัยคุกคามเสถียรภาพโลกมากยิ่งขึ้น 

ซายเลอร์บอกว่าความร่วมมือนี้กำลังกลายเป็นพันธมิตรทางทหารที่มีอันตรายทั้งในระยะสั้นพร้อมทั้งระยะยาว ที่อาจทำให้สงครามในยูเครนขยายวง สั่นคลอนความมั่นคงทั้งบนคาบสมุทรเกาหลีพร้อมทั้งประชาคมนานาประเทศ

อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายนี้เพิ่มเติมว่า ความช่วยเหลือจากรัสเซีย ทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ เทคโนโลยีการผลิตยุทธภัณฑ์กระสุน ไปจนถึงเชื้อเพลิง อาหาร พร้อมทั้งเงิน ทำให้เกาหลีเหนือมีความจำเป็นต้องพึ่งพิงสหรัฐฯ น้อยกว่าเมื่อครั้งรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก

ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ เคยใช้เวลาในวาระแรก ร่วมมือกับผู้นำเกาหลีใต้เพื่อหาทางให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เพียงเท่านั้นยังได้พบปะกันแบบซึ่งหน้าที่สิงคโปร์พร้อมทั้งเวียดนามเมื่อปี 2018 พร้อมทั้ง 2019 ตามลำดับ

แต่ในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งประธานาธิบดี รัฐบาลเปียงยางระดมทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ที่มีระยะทำการครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ของแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการแสดงท่าทีจากผู้นำคิม ที่มีไปถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองสหรัฐฯ 

รีเวียร์ อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มองว่า ทรัมป์ในวาระที่สอง ต้องเจอกับเกาหลีเหนือที่ปิดประตูสู่การล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์

รีเวียร์บอกว่า “สิ่งที่เกาหลีเหนือตามหามาตลอดคือการเป็นที่ยอมรับ หรืออย่างน้อยก็คือการรับรู้จากสหรัฐฯ ว่าเกาหลีเหนือเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์อย่างชอบธรรม พร้อมทั้งทั้งสองประเทศควรนั่งคุยกันเรื่องการดำรงอยู่ร่วมกัน”

ที่มา: วีโอเอ

เตรียมสายไหม้! เด็กนับล้านต่อสาย ‘ศูนย์ติดตามซานต้า’ ก่อนวันคริสต์มาส

กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในช่วงคริสต์มาสทั่วโลกไปเสียแล้ว ที่เด็ก ๆ จากทั่วทุกมุมโลก จะติดตามการเดินทางของซานตาคลอสที่มุ่งหน้าส่งของขวัญให้เด็ก ๆ ไปรอบโลก 24 ชั่วโมงสุดท้ายก่อนวันคริสต์มาส

ในแต่ละปีจะมีเด็กอย่างน้อย 100,000 คน ที่ต่อสายไปยังศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command) หรือ NORAD เพื่อสอบถามพิกัดที่ซานตาคลอสอยู่ ณ เวลานั้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลออนไลน์ 9 ภาษา ตั้งแต่ภาษาอังกฤษไปจนถึงภาษาญี่ปุ่น

ช่วงเวลาอื่น ๆ ของปี NORAD จะตรวจตราน่านฟ้าให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้ อย่างเช่น เหตุบอลลูนสอดแนมเมื่อปีที่แล้ว แต่พอถึงวันคริสต์มาสอีฟ อาสาสมัครจากโคโลราโด สปริงส์ จะเตรียมชุดคำตอบสำหรับคำถามเช่นว่า “เมื่อไหร่ซานต้าจะมาถึงบ้านหนูซักที?” หรือคำถามที่ว่า “ตอนนี้ผมอยู่ในรายการเด็กดื้อหรือเด็กดีกันแน่?”

บ็อบ ซอมเมอร์ส เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของ NORAD ในช่วงคริสต์มาส บอกว่า “ได้ยินทั้งเสียงกรีดร้องพร้อมทั้งเสียงหัวเราะชอบใจ” ในช่วงเวลานี้ พร้อมทั้งเขามักต้องบอกให้เด็ก ๆ นอนหลับก่อนซานต้ามาถึง ก่อนที่จะมีเสียงของพ่อแม่บอกว่า “ได้ยินที่เขาพูดไหมจ๊ะ? เราต้องนอนแต่หัวค่ำนะ”

ศูนย์ติดตามซานต้าของ NORAD เริ่มต้นตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์วันคริสต์มาส นอกเหนือจากเสื้อไหมพรมธีมคริสต์มาสสุดเชยพร้อมทั้งเพลงคริสต์มาสอันเป็น passive income ของมารายห์ แครีย์ที่ต้องฟังทุกปี พร้อมทั้งประเพณีติดตามซานต้านี้ยังยืนหยัดอยู่แม้จะเผชิญกับการปิดทำการของรัฐบาล หรือ government shutdown หลายต่อหลายครั้ง

เริ่มต้นด้วยการ ‘โทรผิด’

จุดเริ่มต้นของศูนย์ติดตามซานต้า มาจากการต่อสายโทรศัพท์ผิดเมื่อปี 1955 หนังสือพิมพ์ในโคโรลาโด สปริงส์ แปะโฆษณาของห้างเซียร์ส ที่ชวนเด็ก ๆ โทรหาซานต้า พร้อมแนบเบอร์เอาไว้ แต่ปรากฏว่าเด็กชายคนหนึ่งโทรผิดมาที่หน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมสหรัฐฯ แคนาดา NORAD ซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามเย็น

พร้อมทั้งผู้ที่รับสายเด็กชายคนนั้น คือ พันอากาศเอกแฮร์รี่ ชุป ซึ่งเข้าเวรกะกลางคืนเพื่อรอรับ “สายด่วนฉุกเฉิน” แต่กลับได้ยินปลายสายเป็นเสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายที่เล่าถึงรายการของขวัญที่อยากได้ในวันคริสต์มาส ซึ่งก่อนที่เด็กชายคนนี้จะจับได้ เขาก็ได้สมอ้างเป็นซานต้าคลอสเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งเขายังต้องรับสายแบบเดียวกันนี้อีก 50 ครั้ง พร้อมทั้งท้ายที่สุดสิ่งนี้ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมา 69 ปีในปัจจุบัน

ผู้ปกครองพร้อมทั้งเด็ก ๆ สามารถติดตามเส้นทางของซานตาคลอสได้ ผ่านสายด่วนในอเมริกา 1-877-HI-NORAD ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนของวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี พร้อมทั้งที่เว็บไซต์ noradsanta.org ติดตามแฮชแท็ก #NORADTracksSanta พร้อมทั้งบัญชี @NoradSanta ทาง X หรือใช้แอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่รองรับ รวมถึงติดตามทางอีเมล noradtrackssanta@outlook.com ได้เช่นกัน

ที่มา: เอพี

ดีลใหญ่ยานยนต์โลก! ฮอนด้า-นิสสัน เคาะแผนควบรวมกิจการในปี 2026

ฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสันอยู่ระหว่างที่หารือควบรวมกิจการภายในปี 2026 ตามการยืนยันของทั้ง 2 บริษัทเมื่อวันจันทร์ นับเป็นช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ที่ตอกย้ำถึงภัยคุกคามที่ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจีนเข้ามาสร้างแรงสั่นสะเทือนยักษ์ใหญ่ยานยนต์เจ้าเก่าที่ครองตลาดมายาวนานนี้

การควบรวมกิจการของฮอนด้า ค่ายรถใหญ่อันดับ 2 พร้อมทั้งนิสสัน ค่ายรถใหญ่อันดับ 3 ของแดนปลาดิบ จะทั้งสองค่ายรถญี่ปุ่นกลายเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ใหญ่อันดับ 3 ของโลกในด้านยอดขาย ตามหลังโตโยต้า พร้อมทั้งโฟล์คสวาเกน อีกทั้งยังมอบโอกาสให้ทั้ง 2 บริษัทแลกเปลี่ยนทรัพยากรเพื่อรับมือกับคู่แข่งด้านรถยนต์ไฟฟ้า อย่างเทสลา พร้อมทั้งบีวายดี

ทั้งฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสัน มุ่งเป้ายอดขายรวม 30 ล้านล้านเยน พร้อมทั้งทำกำไรมากกว่า 3 ล้านล้านเยนผ่านการควบรวมกิจการนี้ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสรุปข้อมูลของการผนวกกิจการช่วงเดือนมิถุนายนปีหน้า เพื่อจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน ภายในเดือนสิงหาคมปี 2026 ที่หุ้นของทั้ง 2 บริษัทจะออกจากตลาดซื้อขายหุ้น

ส่วนสัดส่วนการถือหุ้นต่าง ๆ ฮอนด้า ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 4 เท่าของนิสสัน จะเป็นฝ่ายจัดตั้งบอร์ดบริหารของบริษัทโฮลดิ้งนี้

ดีลฮอนด้า-นิสสันนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมของอุตสาหกรรมยานยนต์ครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ดีลควบรวมกิจการ 52,000 ล้านดอลลาร์ ระหว่างเฟียต ไครส์เลอร์ พร้อมทั้งพีเอสเอ เมื่อปี 2021 ซึ่งกลายเป็นสเตแลนทิส ในปัจจุบัน

นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ ก็พิจารณาการเข้าร่วมกลุ่มยานยนต์ใหม่นี้เช่นกัน พร้อมทั้งคาดว่าจะประกาศการตัดสินใจในช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า อ้างอิงจากการเปิดเผยของบริษัท ระหว่างที่ซีอีโอของฮอนด้า นิสสัน พร้อมทั้งมิตซูบิชิ ร่วมงานแถลงข่าวประกาศควบรวมกิจการนี้ที่กรุงโตเกียวเมื่อวันจันทร์

ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ จะทำให้กลุ่มธุรกิจยานยนต์ใหม่นี้มีสัดส่วนยอดขายรถทั่วโลกมากกว่า 8 ล้านคัน แซงหน้าอันดับ 3 เดิมอย่างฮุนไดพร้อมทั้งเกียของเกาหลีใต้

ที่มา: รอยเตอร์

แมนจิโอนี ไม่รับสารภาพคดีสังหารซีอีโอบ.ประกันใหญ่

ลุยจิ แมนจิโอนี ผู้ต้องหาคดียิงซีอีโอบริษัทยูไนเต็ดเฮลธ์แคร์ ไบรอัน ธอมป์สัน ปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดในการสังหารธอมป์สัน ที่รัฐนิวยอร์กตั้งข้อหาฆาตกรรมที่จะทำให้เขากลายเป็นผู้ก่อการร้าย

ลุยจิ แมนจิโอนี ในวัย 26 ปี ปรากฎตัวที่ศาลรัฐนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันแน่นหนา พร้อมทั้งมีผู้สนับสนุนเขาออกมาปักหลักชุมนุมให้กำลังใจเขาท่ามกลางอากาศหนาวจัด

แมนจิโอนี พบว่าตนไม่ได้กระทำผิดในข้อหาฆาตกรรม 11 กระทง ซึ่งรวมถึงการฆ่าคนตายด้วยอาวุธปืนพร้อมทั้งฆ่าผู้อื่นโดยเป็นการกระทำก่อวินาศกรรม

หากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง จะเผชิญกับการจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีเงื่อนไขภาคทัณฑ์

ก่อนหน้านี้ แมนจิโอนี ถูกจับตัวในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากธอมป์สันถูกสังหารบนเกาะแมนฮัตตันเมื่อ 4 ธ.ค.

เมื่อสัปดาห์ก่อนเขาปรากฎตัวที่ศาลในรัฐนิวยอร์ก จากข้อหาฆ่าคนตายพร้อมทั้งติดตามสะกดรอยรวม 4 กระทง โดยในเอกสารของรัฐบาลกลางที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี ชี้ว่า แมนจิโอนีเผชิญข้อหาสะกดรอยสองข้อหา พร้อมทั้งแต่ละข้อหานั้นพ่วงด้วยข้อหาฆ่าคนตายด้วยอาวุธปืนพร้อมทั้งกระทำผิดด้านอาวุธปืนด้วย

ส่วนข้อหาของรัฐบาลกลางเรื่องการสังหารผู้อื่นด้วยปืน อาจมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หากผู้ต้องหาถูกตัดสินว่ามีความผิด ถ้าหากว่า ทางอัยการยังไม่ได้พบว่าจะดำเนินการเพื่อให้เเมนจิโอนีถูกประหารชีวิตหรือไม่

ด้านแคเรน ฟรีดแมน แอคนิฟิโล ทนายของแมนจิโอนี กล่าวเมื่อวันจันทร์ด้วยว่าลูกความของเธออาจไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดี เพราะได้รับการปฏิบัติเหมือนกับเหยื่อทางการเมือง

ทั้งนี้ แมนจิโอนีจะมีกำหนดการขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีหน้า

ที่มา: รอยเตอร์