‘ไบเดน – ทรัมป์’ ส่งสารวันคริสต์มาส ก่อนการเปลี่ยนแปลงในทำเนียบขาว

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน พร้อมทั้งว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสารถึงประชาชนอเมริกันเนื่องในวันคริสต์มาส โดยมีข้อความที่แสดงถึงจุดยืนที่แตกต่างกันของสองผู้นำที่กำลังเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนผ่านของทำเนียบขาว

ประธานาธิบดีไบเดนปรากฎตัวทางวิดีโอนำชมบรรยากาศคริสต์มาสในทำเนียบขาวที่เผยแพร่ทางยูทูบ (YouTube) เมื่อคืนวันอังคาร กระตุ้นให้คนอเมริกันหลีกเลี่ยงสิ่งที่สร้างความแตกแยกในประเทศ

ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันบอกว่า “เราอยู่บนโลกนี้เพื่อดูแลกันพร้อมทั้งกัน พร้อมทั้งรักผู้อื่น” พร้อมทั้งว่า “บ่อยครั้งที่เรามองคนอื่นเป็นศัตรู ไม่ใช่เพื่อนบ้าน ไม่ใช่คนอเมริกันด้วยกัน” 

ไบเดนขอให้ประชาชนอเมริกันมองหาช่วงเวลาที่สงบในการเตือนตนเองให้ปฏิบัติต่อผู้อื่นอย่างให้เกียรติพร้อมทั้งให้ความเคารพ “จงใช้ชีวิตในแสงสว่าง” พร้อมทั้งจดจำว่ามีสิ่งที่สร้างเอกภาพมากกว่าความแตกแยกในประเทศนี้ 

ทางด้านว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์รูปของตนกับภริยา เมเลานีย ทรัมป์ พร้อมข้อความอวยพรเนื่องในวันคริสต์มาส บนสื่อสังคมออนไลน์ ทรูธ โซเชียล (Truth Social) ในวันพุธ พร้อมทั้งแชร์บทความต่าง ๆ เกี่ยวกับจุดยืนทางการเมืองของตนเอง รวมทั้งการรื้อฟื้นแผนซื้อเกาะกรีนแลนด์ พร้อมทั้งขู่ยึดคลองปานามากลับมาเป็นของสหรัฐฯ เป็นต้น 

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังแชร์มีมรูปของตนเองกับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในพิธีปฏิญาณตนรับตำแหน่งเมื่อปี 2017 พร้อมกับข้อความว่า “เมื่อคุณเจอกับคนที่เคยบอกว่า ‘คุณไม่มีทางได้เป็นประธานาธิบดี’ ที่งานปฏิญาณตนรับตำแหน่ง” 

นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่า อเมริกามีความแตกแยกทางการเมืองมากยิ่งขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งที่ผู้แทนของทั้งสองพรรคกล่าวจู่โจมกันพร้อมทั้งกันอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ก่อนที่ทรัมป์จะคว้าชะยชนะในการเลือกตั้งในที่สุด 

ที่มา: รอยเตอร์

สลดรับคริสต์มาส เครื่องบินโดยสารโหม่งโลกในคาซัคสถาน หักกลางลำ-ไฟลุก (คลิป)

เกิดเหตุเครื่องบินโดยสารของสายการบินอาเซอร์ไบจานแอร์ไลน์ มุ่งหน้าไปยังประเทศรัสเซีย ประสบเหตุตกกระแทกพื้น เครื่องหักกลางลำ ไฟลุกท่วมในประเทศคาซัคสถาน⁣ เบื้องต้นพบผู้รอดชีวิต 27 ราย

“พิชัย” ยังไม่ทราบผลประชุมกฤษฎีกา ปมคุณสมบัติ “กิตติรัตน์” นั่ง ปธ.บอร์ด ธปท.

“พิชัย ชุณหวชิร” เผย ยังไม่ทราบผลประชุมกฤษฎีกา ร่วม 3 คณะ พิจารณาคุณสมบัติ “กิตติรัตน์ ณ ระนอง” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ขอรอดูก่อน

ศาลรธน. ตีตก 2 คำร้อง ปม กล่าวหา กกต. จัดเลือก สว. ไม่สุจริต

ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้อง “เสฐียร ศรีเมือง” พร้อมทั้ง “สุวิทย์ เหมตะศิลป” ปม กล่าวหา กกต. จัดเลือก สว. ปี 66 ไม่สุจริตเที่ยงธรรม

4 คนงาน หมดสติก้นบ่อบำบัด ในโรงงานที่บางปู ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งช่วย 4 คนงาน หมดสติก้นบ่อบำบัด ในโรงงานที่บางปู ปั๊มหัวใจช่วยชีวิต ก่อนพาส่งโรงพยาบาล อาการล่าสุด ตอบสนองดี 2 ราย อีก 2 รายยังสาหัส

ชาวบ้านผวา คนร้ายข่มขืน 2 ยายยังจับไม่ได้ ตำรวจเก็บดีเอ็นเอเร่งติดตามตัว

ชาวบ้านอำเภอบัวใหญ่หวาดผวา หลังคนร้ายก่อเหตุข่มขืน 2 ยายกลางทุ่งนาแต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ ล่าสุดตำรวจเก็บดีเอ็นเอตรวจสอบหาคนร้าย อาจเป็นคนในพื้นที่หรือนอกพื้นที่ก็ได้

‘อเมริกัน แอร์ไลนส์ งดให้บริการช่วงสั้น ๆ วันคริสต์มาสอีฟ

สายการบินอเมริกัน แอร์ไลนส์ (American Airlines) พบว่าเที่ยวบินกลับมาให้บริการได้ตามปกติแล้ว หลังจากเผชิญกับปัญหาด้านเทคนิค ที่ทำให้ไม่สามารถนำเครื่องขึ้นบินได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมงของวันคริสต์มาสอีฟ กระทบเที่ยวบินหลายพันเที่ยวในวันแห่งการเดินทางที่คึกคักที่สุดวันหนึ่งของปีในสหรัฐฯ ตามรายงานของรอยเตอร์

ทางอเมริกัน แอร์ไลน์ส พบว่าเป็นปัญหาของระบบที่กระทบต่อการนำเครื่องขึ้นบิน โดยไม่ได้ลงข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม ขณะที่ผู้โดยสารกดดันเพื่อให้มีการชี้แจงเหตุผลที่เครื่องบินล่าช้าในช่วงเวลาสั้น ๆ ของวันอังคาร ขณะที่หุ้นของสายการบินร่วง 0.3% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันอังคารที่เกิดเหตุ ก่อนจะปิดบวก 0.58% เมื่อปิดตลาด

ทางองค์การบริหารการบินแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration – FAA) ระบุในวันอังคารว่าได้รับแจ้งเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นของทางสายการบินแล้ว

อเมริกัน แอร์ไลนส์ ให้บริการเที่ยวบินหลายพันเที่ยวต่อวัน ใน 350 จุดหมายปลายทางใน 60 ประเทศทั่วโลก

ปัญหาขัดข้องนี้ถือเป็นประเด็นด้านเทคนิครอบล่าสุด หลังจากสายการบินต่าง ๆ ได้รับผลกระทบจากปัญหาระบบคลาวด์ Azure ของไมโครซอฟท์ พร้อมทั้งปัญหาด้านซอฟต์แวร์ของบริษัทด้านความมั่นคงไซเบอร์ CrowdStrike เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยครั้งนั้นได้สร้างความเสียหายกับสายการบินเดลต้า แอร์ไลนส์ อย่างน้อย 500 ล้านดอลลาร์ทีเดียว

ที่มา: รอยเตอร์

สธ.กาซ่าเผย อิสราเอลออกคำสั่งอพยพผู้ป่วยจากรพ.

หน่วยงานสาธารณสุขกาซ่า เผยเมื่อวันอังคารว่า กองทัพอิสราเอลออกคำสั่งอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาลทางตอนเหนือของดินแดนปาเลสไตน์ พร้อมทั้งมีรายงานผู้ป่วยหลายรายต้องอพยพด้วยการเดินเท้าไปยังโรงพยาบาลอีกแห่งซึ่งไกลออกไปหลายไมล์ในกาซ่าซิตี้

โรงพยาบาล Indonesian Hospital ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งที่เหลืออยู่ทางตอนเหนือของกาซ่า พร้อมทั้งอยู่ในภายใต้แรงกดดันของกองทัพอิสราเอลมานานเกือบ 3 เดือน ต้องอพยพผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล ตามคำสั่งของกองทัพกรุงเทลอาวีฟ ที่อ้างว่าชุมชนใกล้เคียงโรงพยาบาลเป็นเป้าหมายของกลุ่มฮามาส แต่ฝั่งปาเลสไตน์กล่าวหาอิสราเอลว่าพยายามสร้างเขตกันชนเพื่อลดจำนวนประชาชนในพื้นที่ตอนเหนือของดินแดนปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิสราเอลออกมาปฏิเสธ

ในพื้นที่อื่น ๆ ของกาซ่า อิสราเอลระดมจู่โจมคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 9 รายเมื่อวันอังคาร อ้างอิงจากทีมแพทย์ปาเลสไตน์

ส่วนในเขตเวสต์แบงก์ กองทัพอิสราเอลสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 รายในการบุกค้นค่ายผู้อพยพทุลคาร์ม ช่วงเช้าวันอังคาร อ้างอิงจากทางการปาเลสไตน์พร้อมทั้งอิสราเอลที่ยืนยันตรงกัน

อีกปัญหาในกาซ่า คือ การปล้นขบวนรถขนสิ่งของบรรเทาทุกข์โดยแก็งติดอาวุธ ซึ่งอิสราเอลล้มเหลวในการจัดการปัญหานี้ที่เริ่มต้นตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากสหประชาชาติพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่อเมริกัน 3 รายที่เกี่ยวข้อง แต่ทางโฆษกกองทัพอิสราเปลปฏิเสธจะให้ความเห็นเมื่อรอยเตอร์ติดต่อสอบถามในเรื่องนี้

มีเนื้อหาบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี พร้อมทั้งรอยเตอร์

ได้เวลาอาหารเย็น! แวะ ‘ภัตตาคารน้ำแข็ง’ ในฟินแลนด์

ใครที่ค้นหากิจกรรมท้าความหนาวช่วงคริสต์มาส ขอแนะนำการลิ้มรสอาหารเย็นจัดต่ำจุดเยือกแข็ง ที่ภัตตาคารน้ำแข็ง ในฟินแลนด์

ผู้ที่ไปเยือนหมู่บ้านซานตาคลอส ในเมืองโรวาเนียมิ ของฟินแลนด์ ต่างมาสัมผัสประสบการณ์ทานอาหารมื้อค่ำในอุณหภูมิต่ำติดลบ ที่บนโต๊ะอาหารคงไม่มีเมนูจานด่วนจานร้อนหรือสลัดอยู่ในรายการอย่างแน่นอน

หมู่บ้านซานตาคลอส ถือเป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนฟินแลน์ในช่วงคริสต์มาสต้องไปแวะเวียนกันทุกปี โดยสวนสนุกธีมฤดูหนาวแห่งนี้ตั้งอยู่บนเส้นอาร์กติกเซอร์เคิล ห่างออกไปราว 7 กิโลเมตรทางตอนเหนือของเมืองโรวาเนียมิ ที่เป็นบ้านเกิดของซานตาคลอส

นอกเหนือจากการสัมผัสหิมะหนา นั่งรถลากเลื่อนกวางเรนเดียร์ หรือพบกับนักบุญนิโคลัสด้วยตนเองแล้ว ผู้ที่อยากเจอประสบการณ์หนาวจัดอีกขั้น สามารถไปเยือนภัตตาคารน้ำแข็ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสวนสนุกโซนสโนว์แมนเวิลด์ ที่เต็มไปด้วยน้ำแข็งแกะสลักพร้อมทั้งหิมะปกคลุมอยู่ภายใน

ภัตตาคารน้ำแข็ง ปีนี้มาในธีมซาฟารี มีทั้งลิงบาบูน นกแก้ว อิกัวนา พร้อมทั้งสัตว์ต่าง ๆ อีกมากมาย พร้อมทั้งใช้เวลาหลายสัปดาห์ในการแกะสลักสิ่งของประดับภายในจากหิมะพร้อมทั้งน้ำแข็ง พร้อมทั้งต้องควบคุมอุณหภูมิไม่ให้เกินกว่า 0 องศาเซลเซียส

ผู้ที่แวะเวียนลิ้มลองอาหารร้านนี้ จะต้องสวมใส่ชุดที่ป้องกันความหนาวเย็นอย่างเต็มที่ เพราะต้องนั่งบนโต๊ะที่แกะสลักด้วยน้ำแข็ง พร้อมทั้งใช้ส้อมมีดที่ทำจากโลหะในการรับประทาน ขณะที่ผู้ที่มาทานอาหารที่นี่จะเป็นแบบอาหารคาว 3 จาน พร้อมทั้งใช้เวลาดื่มด่ำอาหารเหล่านี้ไม่นานเท่ากับภัตตาคารทั่วไป คือประมาณ 1-1.30 ชั่วโมงเท่านั้น ก่อนที่ลูกค้าจะเริ่มรู้สึกว่าหนาวเกินไปในสภาวะอากาศ -30 องศาเซลเซียส

ส่วนเมนูของทางร้านเป็นอาหารท้องถิ่นในโรวาเนียมิ มีทั้ง ซุปครีมแซลมอน เนื้อกวางเอลก์ หรือเนื้อกวางเรนเดียร์อบ แซลมอนตุ๋น เป็นต้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเมนูอย่างสลัดผัดหรือมันฝรั่งทอดแต่อย่างใด เพราะเชฟเผยว่าอาหารเหล่านี้ไม่สามารถทนต่อสภาวะอากาศหนาวจัดได้ ยกตัวอย่างเช่น เฟรนช์ฟรายส์ที่หากวางเสิร์ฟไปได้ 3 นาทีก็เย็นหมดแล้ว พร้อมทั้งเมนูที่มีจะเป็นอาหารรสเข้มข้น เช่นซุปครีมพร้อมทั้งพาสต้า

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบของหวาน ทางร้านมีเค้กสปันจ์จัดเสิร์ฟบนจานน้ำแข็งให้โดยเฉพาะ พร้อมกับเตือนว่าไม่ต้องอร่อยถึงขั้นชิมจานไปด้วยเพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้

ผู้ที่มาเยือนภัตตาคารน้ำแข็งแห่งนี้ต่างแชร์ประสบการณ์กับเอพี อย่างอเล็กซานเดอร์ ที่เดินทางมาจากมอลโดวา บอกว่า “มันยอดเยี่ยมมาก มันหนาวดี แต่ยอดเยี่ยม” พร้อมทั้งว่าเขาชอบประสบการณ์ที่ร้านนี้อย่างยิ่ง

ส่วนวิโอเล็ตต์ แฟลน จากฝรั่งเศส บอกว่า “มันหนาวมาก ทั้งโต๊ะ เก้าอี้น้ำแข็ง แต่เป็นสิ่งที่เจ๋งมาก ๆ ”

เมืองโรวาเนียมิ ที่ถูกทำลายเกือบทั้งหมดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่กำลังได้รับความนิยมอย่างยิ่ง ในฐานะบ้านเกิดของซานตาคลอส พร้อมทั้งการคงความเป็นธรรมชาติที่ยังไม่ถูกทำลายไปมาก สภาวะอากาศในช่วงฤดูหนาวพร้อมทั้งคริสต์มาสที่ดูมีมนต์ขลัง จึงถือเป็นหนึ่งจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกอยากมาเยือน

หลังฟื้นตัวจากช่วงการระบาดใหญ่ เมืองโรวาเนียมิ ต้อนรับนักท่องเที่ยวทำสถิติใหม่ที่ 1.2 ล้านคนเมื่อปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นเกือบ 30% จากปี 2022 พร้อมทั้งในปีนี้สนามบินโรวาเนียมิเพิ่มเที่ยวบินระหว่างประเทศมาอีก 13 เที่ยว ทั้งจากเจนีวา เบอร์ลิน บอร์โด พร้อมทั้งอีกหลายเมือง ทำให้คาดหมายว่าปีนี้จะเป็นอีกปีที่นักท่องเที่ยวมาเยือนจนทำสถิติใหม่อีกปีเช่นกัน

ที่มา: เอพี

พนักงานสตาร์บัคส์ 300 สาขาทั่วสหรัฐฯ หยุดงานประท้วงวันคริสต์มาสอีฟ

สหภาพแรงงานพนักงานสตาร์บัคส์ พบว่าการหยุดงานประท้วงขยายวงไปกว่า 300 สาขาในสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร พร้อมทั้งมีพนักงานกว่า 5,000 คนที่คาดว่าจะผละงานประท้วงในวันคริสต์มาสอีฟ ตามรายงานของรอยเตอร์

ทางสหภาพ Starbucks Workers United ที่เป็นตัวแทนของพนักงานสตาร์บัคส์ 525 สาขาทั่วอเมริกา เผยกับรอยเตอร์ว่า มีมากกว่า 290 สาขาในอเมริกาที่ “ปิดให้บริการทั้งหมด” พร้อมทั้งกว่า 300 สาขาที่มีพนักงานร่วมประท้วง ใน 45 รัฐทั่วประเทศ ในวันคริสต์มาสอีฟ พร้อมทั้งคาดว่าจะเป็นการประท้วงใหญ่ที่สุดที่เกิดขึ้นกับแฟรนไชส์กาแฟดังในอเมริกาแห่งนี้

ทางสหภาพ เริ่มต้นประท้วงเป็นเวลา 5 วัน เริ่มต้นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว หลังจากการหารือระหว่างสตาร์บัคส์พร้อมทั้งสหภาพเผชิญกับทางตัน

แถลงการณ์ของสหภาพฯ พบว่า “การประท้วงเหล่านี้เป็นการแสดงพลังในช่วงแรกเริ่ม พร้อมทั้งเราเพิ่มเริ่มต้นเท่านั้น” พร้อมเรียกร้องให้พนักงานสาขาต่าง ๆ ใน 12 เมืองใหญ่ของสหรัฐฯ รวมทั้งนิวยอร์ก ลอส แองเจลิส บอสตัน พร้อมทั้งซีแอตเติล ออกมาเดินขบวน เพื่อเรีกยร้องให้สตาร์บัคส์แก้ปัญหาเรื่องค่าแรง จำนวนพนักงาน พร้อมทั้งตารางงาน

ขณะที่สตาร์บัคส์ ที่มีสาขาให้บริการมากกว่า 10,000 สาขาในสหรัฐฯ ระบุในวันอังคารเช่นกันว่า 98% ของสาขาต่าง ๆ ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ พร้อมทั้งมีราว 170 สาขาที่ปิดทำการในวันเดียวกันนี้ พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้ความเห็นกับรอยเตอร์เกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับธุรกิจจากการประท้วงครั้งนี้ แต่ได้ระบุไปก่อนหน้านี้แล้วว่าผลกระทบจากการประท้วงจะ “มีอย่างจำกัด”

เมื่อต้นเดือนธันวาคม สหภาพแรงงานของพนักงานสตาร์บัคส์ ปฏิเสธข้อเสนอการรับประกันว่าจะปรับขึ้นค่าแรง 1.5% ในอีกหลายปีข้างหน้า โดยไม่มีการปรับขึ้นค่าแรงให้พนักงานโดยทันที ซึ่งทางสหภาพฯ ชี้ว่า สตาร์บัคส์ยังไม่ได้ให้ “ข้อเสนอด้านเศรษฐกิจที่จริงจัง” แก่พนักงานแต่อย่างใด

ขณะที่สตาร์บัคส์ พบว่า “พร้อมที่จะหารือเมื่อสหภาพกลับมาเจรจาต่อรองกันอีกครั้ง” พร้อมทั้งอ้างว่าตัวแทนสหภาพยุติการเจรจาต่อรองกับบริษัทเสียเอง

ที่มา: รอยเตอร์