รัสเซียเดินหน้ายิงขีปนาวุธถล่มยูเครน
ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า “ความป่าเถื่อนอย่างไร้สติ คือ คำที่เข้ามาในสมองเมื่อเห็นรัสเซียส่งขีปนาวุธเข้ามาถล่มเมืองอันเงียบสงบทั้งหลายของยูเครนอีกชุด ก่อนวันปีใหม่” พร้อมทั้งว่า “ไม่มีคำว่า ‘ความเป็นกลาง’ ในอาชญากรรมสงครามเช่นนี้ … การเสแสร้งว่า ‘เป็นกลาง’ เท่ากับว่า เข้าข้างรัสเซียนั่นเอง”
ในเวลาเดียวกัน มีไคโล โพลโดยัก ทวีตข้อความออกมาว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าถล่มยูเครนอย่างน้อย 120 ลูก “เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญพร้อมทั้งฆ่าพลเรือนยกกลุ่ม”
การจู่โจมครั้งล่าสุดนี้ทำให้สัญญาณเตือนการจู่โจมทางอากาศดังไปทั่วยูเครน
ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟยอมรับว่า ระบบป้องการกันการจู่โจมทางอากาศบางส่วนเสียหายเพราะขีปนาวุธระลอกล่าสุด กองทัพยูเครนพบว่า สามารถยิงขีปนาวุธของรัสเซียยิงเข้ามา 54 ลูกจากทั้งหมดที่ตรวจจับได้ 69 ลูก
ทั้งนี้ รัสเซียใช้ขีปนาวุธยิงถล่มเมืองต่าง ๆ ของยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ หลายแห่งของประเทศไปแล้ว
ออกซานา มาร์คาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันพฤหัสบดีด้วยว่า “เมื่อถึงจุดหนึ่ง พวกผู้ก่อการร้ายรัสเซียก็จะไม่มีขีปนาวุธใช้ แต่ชาวยูเครนจะไม่มีวันที่จะไร้ซึ่งความกล้าหาญ หยุดอุทิศตนให้กับเสรีภาพพร้อมทั้งประชาธิปไตย พร้อมทั้งหมดรักในประเทศของเรา”
การสู้รบในยูเครนยังดำเนินต่อไป หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประกาศข้อเสนอแผนสันติภาพ 10 ข้อให้รัสเซีย แต่ทำเนียบเครมลินปฏิเสธพร้อมทั้งยืนยันว่า กรุงเคียฟต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า พื้นที่ 4 เขตของตนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว
ในวันพุธ ปธน.เซเลนสกียังขึ้นกล่าวปราศรัยต่อหน้ารัฐสภาที่จัดการประชุมแบบปิด โดยร้องขอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมสามัคคีกันตลอดไปเพื่อต้านการรุกรานของรัสเซีย พร้อมย้ำว่า คนทั่วโลกได้ประจักษ์ด้วยสายตาแล้วว่า ยูเครนสามารถประสบความสำเร็จในสนามรบจนได้เสรีภาพกลับคืนมาบ้างแล้ว พร้อมทั้งว่า กองทัพยูเครนสามารถปลดปล่อยเชลยศึกจำนวน 1,456 คนที่ถูกรัสเซียจับกุมไประหว่างที่รุกรานที่ดำเนินมากว่า 10 เดือนนี้
ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์ พร้อมทั้งเอเอฟพี