ข่าวด่วนวันนี้
thailandtvhd.com
“เรืองไกร” ยัน ไม่รู้จัก “บอสพอล” ท้าเพจดังแจ้งตำรวจ ขู่หากแจ้งเท็จ เจอแน่ความผิดอาญา
อัปเดต คดี “ดิไอคอน” สอบปากคำผู้เสียหายแล้ว 2,702 ราย มูลค่ากว่า 933 ล้านบาท
เผยเกาหลีเหนือส่งทหาร หมื่นนายช่วยรัสเซียรบยูเครน
สื่อนอกชี้หนี้ครัวเรือนไทย 5 แสนล้าน ภาระหนักถ่วงรัฐนาวาแพทองธาร
เผยภาพสุดท้าย ‘ยาห์ยา ซินวาร์’ ผู้นำฮามาส ก่อนถูกสังหาร หลบในตึก-ปาไม้ไล่โดรน
เจโฮป แห่งวง BTS เสร็จสิ้นการฝึกทหารภาคบังคับ
ในวันที่เจโฮป ออกจากกรมทหารเมื่อวันพฤหัสบดีราคาหุ้นของ HYBE ดีดตัวขึ้น 7% ตอนบ่ายขณะที่ตลาดหุ้นโดยรวมไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลง
เจโฮปแห่งของวง BTS ที่มีสมาชิก 7 คน เป็นศิลปินคนที่ 2 ของกลุ่มบอยเเบนด์นี้ ที่ฝึกทหารภาคบังคับเสร็จสิ้น โดยในช่วงดังกล่าวเขาพักงานดนตรีไป โดยก่อนหน้านี้ จิน เพื่อนร่วมวงที่อายุมากที่สุดฝึกเส็รจตามกำหนดตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
เจโฮปปรากฏตัวในวันพฤหัสบดี ที่ค่ายทหารวอนจู จังหวัดกังวอน ในชุดทหารพร้อมทั้งหมวกเบเรต์สีดำ โดยมีจินรอต้อนรับ พร้อมด้วยแฟน ๆ ประมาณ 100 คน รวมทั้งบรรดานักข่าว
เจโฮปกล่าวขอบคุณเเฟน ๆ “ผมสามารถที่จะเสร็จสิ้น (การรับใช้ชาติ) ได้อย่างปลอดภัยเเละมีสุขภาพดี เพราะแฟน ๆ” เขากล่าว
เขาบอกว่า “สิ่งที่ผมรู้สึกตลอดในช่วงหนึ่งปีครึ่ง คือทหารจำนวนมากทำงานอย่างหนัก อุทิศตน พร้อมทั้งทุ่มเทเพื่อปกป้องประเทศ” พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้สาธารณชนสนใจพร้อมทั้งรักคนที่ทำงานในกองทัพ
สมาชิก BTS ที่เหลืออีก 4 คน ได้เริ่มการฝึกทหารเมื่อเดือนธันวาคมปีที่เเล้ว ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะมีการกลับมารียูเนียนในปีหน้า เมื่อทุกคนรับใช้ชาติเสร็จเรียบรอย
แฟนวง BTS คนหนึ่งชาวชิลี ที่ชื่อคอนสเเตนซา โกดอย วัย 33 ปี ซึ่งไปต้อนรับเจโฮปที่กรมทหารบอกว่ารอคอยการกลับมาของทุกคนอีกครั้งหนึ่ง
“คิดว่าหลังจากช่วงเวลาสั้น ๆ ที่อยู่ห่างกัน พวกเขาจะสนิทกันมากขึ้น พร้อมทั้งนำเรื่องราวต่าง ๆ มาทำเพลงใหม่ ๆ” โกดอยกล่าว
สถิติที่รวบรวมโดย chartmasters.org พบว่าวง BTS เป็นกลุ่มนักดนตรีที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลอันดับ 41 โดยอันดับหนึ่งคือวง The Beatles
ตั้งเเต่ที่ BTS ออกผลงานชิ้นเเรก สามารถขายอัลบัมพร้อมทั้งซิงเกิลเวอร์ชันแผ่นจริงจำนวน กว่า 56 ล้านแผ่น
อัลบัม 6 ผลงานยังขึ้นอันดับ 1 ของ Billboard 200 ตามข้อมูลของ chartmasters.org พร้อมทั้ง Billboard
เกาหลีใต้มีกฎให้ชายที่ร่างกายปกติอายุระหว่าง 18 ถึง 28 ปี ปฏิบัติหน้าที่ในกรมทหารหรือทำงานเพื่อสังคมเป็นเวลา 18 ถึง 21 เดือน
แต่รัฐบาลเปลี่ยนกฎเมื่อ 4 ปีก่อน ให้ศิลปิน K-pop เลื่อนเวลาการทำตามกฎดังกล่าวได้จนอายุ 30 ปี
ที่มา: รอยเตอร์
อิสราเอลเผยวาระสุดท้ายผู้นำฮามาส หลบในตึก-ปาไม้ไล่โดรน
วิดีโอที่รอยเตอร์นำมาเผยแพร่ต่อ ทำให้เห็นซินวาร์ที่โพกผ้าเพื่ออำพรางตัวตน นั่งอยู่บนเก้าอี้ในอาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่ทัล เอล สุลต่าน พร้อมทั้งพยายามโยนท่อนไม้เพื่อไล่โดรนขนาดเล็กของอิสราเอลที่บินเข้ามาสังเกตการณ์หลังจากทหารยิงปะทะกับกลุ่มฮามาส
อาคารหลังดังกล่าวถูกยิงด้วยปืนใหญ่รถถังหลังจากนั้นไม่นาน อ้างอิงข้อมูลจากกองทัพอิสราเอล
การจบชีวิตของซินวาร์ได้รับการยืนยันโดยกลุ่มฮามาสในวันศุกร์ ซึ่งตรงกับผลการตรวจสอบดีเอ็นเอพร้อมทั้งบันทึกทันตกรรมจากทางฝั่งอิสราเอล
ซินวาร์ขึ้นเป็นผู้นำกลุ่มฮามาส หลังอิสราเอลสามารถสังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำกลุ่มคนก่อนหน้า โดยซินวาร์นั้นเป็นผู้อยู่เบื้องหลังแผนบุกอิสราเอลสายฟ้าแลบเมื่อ 7 ตุลาคมปีที่แล้ว ซึ่งกลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามในกาซ่าที่ยังดำเนินอยู่
ผู้นำรายนี้พบกับจุดจบในลักษณะที่แตกต่างจากแกนนำรายอื่น ๆ ที่ถูกปลิดชีพเป็นการเฉพาะจากปฏิบัติการพิเศษ แต่ซินวาร์นั้นถูกสังหารโดยทหารกองพลน้อยบิสลาช หน่วยที่ใช้ฝึกผู้บัญชาการหน่วยทหาร ก่อนจะระบุตัวตนได้ในภายหลัง
พ.ท.นาดาฟ ชอชานี โฆษกกองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) ลำดับเหตุการณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ทหารที่กำลังตรวจค้นพื้นที่ซึ่งเชื่อว่ามีสมาชิกระดับสูงของฮามาสกบดานอยู่ พบนักรบฮามาสจำนวนสามคนกำลังเคลื่อนไหวไปมาระหว่างตัวอาคาร โดยมีสองคนที่ปิดตัวตนด้วยผืนผ้า
หลังจากนั้น ทหารอิสราเอลก็เปิดฉากยิงจนนำไปสู่การยิงโต้ตอบกัน ระหว่างนั้นนักรบฮามาสสองคนวิ่งเข้าไปในอาคารหลังหนึ่ง ส่วนอีกคน ซึ่งต่อมาระบุตัวตนได้ว่าเป็นซินวาร์ แยกตัวไปยังตึกอีกหลัง ก่อนที่โดรนจะบินเข้าไปบันทึกวิดีโอดังกล่าว
กองทัพอิสราเอลเข้าไปในอาคารที่มีร่างของซินวาร์หนึ่งวันหลังจากนั้น เนื่องจากการสู้รบเกิดขึ้นในช่วงใกล้ค่ำพร้อมทั้งต้องระวังกับดักที่กลุ่มฮามาสอาจวางเอาไว้
การตรวจค้นร่างของซินวาร์พบเงินสดราว 40,000 เชเกล (ราว 350,000 บาท) ชุดป้องกันสะเก็ดระเบิด พร้อมทั้งเอกสารจำนวนหนึ่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าเขาเดินทางโยกย้ายที่อยู่มาแล้วหลายแห่ง
ในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายของซินวาร์ เขาหลบหนีการติดตามตัวจากหน่วยข่าวกรองอิสราเอลด้วยการเลิกใช้โทรศัพท์มือถถือพร้อมทั้งอุปกรณ์สื่อสารอื่น ๆ ที่เสี่ยงต่อการถูกระบุพิกัด
เจ้าหน้าที่อิสราเอลเชื่อว่าเขาหลบซ่อนอยู่ในโครงข่ายอุโมงค์ในฉนวนกาซ่า พร้อมทั้งปฏิบัติการค้นหาของทหารพร้อมทั้งหน่วยข่าวกรองหลายสิบครั้ง ค่อย ๆ จำกัดความเคลื่อนไหวของซินวาร์ให้อยู่ในเมืองราฟาห์ ทางตอนใต้ของกาซ่า จนกระทั่งถูกจับตายในที่สุด
พล.ท.เฮอร์ซี ฮาเลวี ผู้บัญชาการ IDF บอกว่า ปฏิบัติการไล่ล่าตัวซินวาร์ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้เขา “ทำตัวเหมือนคนหนีคดี ทำให้เขาเปลี่ยนที่อยู่หลายแห่ง”
เดิมทีเจ้าหน้าที่อิสราเอลกังวลว่าผู้นำฮามาสรายนี้จะซ่อนตัวอยู่กับตัวประกันจำนวนหนึ่งจากทั้งหมด 101 คน เพื่อใช้ป้องกันตัวเองจากการจู่โจมของอิสราเอลในฐานะโล่มนุษย์ แต่การค้นหาในพื้นที่สังหารกลับไม่พบตัวประกันแม้แต่รายเดียว
ถ้าหากว่า พลเรือตรีแดเนียล ฮาการี โฆษก IDF พบว่าผลการตรวจดีเอ็นเอของซินวาร์นั้นตรงกับดีเอ็นเอที่พบในอุโมงค์ที่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร ซึ่งเป็นจุดที่ตัวประกันชาวอิสราเอลฮามาสสังหารเมื่อสิ้นเดือนสิงหาคม
ที่มา: รอยเตอร์
สื่อเทศชี้ภาระหนักหนี้ครัวเรือน 5 แสนล้านกำลังถ่วงรัฐนาวาแพทองธาร
รัฐบาลชุดใหม่ของไทยที่ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งในเดือนกันยายน กำลังหารือกับธนาคารหลายแห่งเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความยากลำบากในการชำระหนี้บ้านพร้อมทั้งรถ พร้อมทั้งมีการคาดการณ์ว่าจะประกาศมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ในทางข้อมูล การช่วยเหลืออาจรวมถึงการลดค่าธรรมเนียมกองทุนช่วยเหลือธุรกิจ แลกกับการผ่อนปรนเงื่อนไขชำระหนี้ให้แก่ลูกหนี้
หนี้ครัวเรือนของไทยปัจจุบันมีอัตราส่วนเป็น 90% ของจีดีพี ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ หรือ emerging market เกือบสองเท่า พร้อมทั้งสูงกว่าจุดห่วงกังวลที่ 80% ของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ
เกียรติพงศ์ อริยปรัชญา นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสประจำประเทศไทย ณ ธนาคารโลก ให้สัมภาษณ์กับบลูมเบิร์กว่า ระดับหนี้สินครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับที่น่ากังวล พร้อมทั้งอาจมีผลต่อการใช้จ่ายของภาคธุรกิจพร้อมทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจ ภายใต้บริบทที่ประชาชนพร้อมทั้งภาคเอกชนยังคงเผชิญผลกระทบมาจากการระบาดของไวรัสโคโรน่า-19
นโยบายประชานิยมพร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจเองก็มีส่วนที่ส่งผลต่อระดับหนี้ที่สูงขึ้น นับตั้งแต่โครงการกองทุนหมู่บ้านในรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร โครงการรถคันแรกของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไปจนถึงการแจกเงินช่วยเหลือประชาชนในช่วงโรคระบาด ในยุครัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
อดีตนายกฯ ทักษิณ กล่าวในงานแสดงวิสัยทัศน์เมื่อเดือนสิงหาคมว่าไทยต้องหาทางปรับโครงสร้างหนี้ เพราะประชาชนกำลังติดกับดักหนี้สิน พร้อมทั้งมีข้อเสนอแนะว่า นโยบายการเงินที่ ธปท. ดูแล พร้อมทั้งนโยบายการคลังที่กระทรวงการคลังดูแล ควรดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน โดยที่ยังเคารพความเป็นอิสระของ ธปท. อยู่
ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เศรษฐกิจของไทยถือว่าเติบโตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้าน ด้วยอัตราการโตที่ 2% ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดในภูมิภาค โดยพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาล วางเป้าหมายการขยายตัวต่อปีอยู่ที่ 5% ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับค่าเฉลี่ยสมัยที่ทักษิณบริหารประเทศเมื่อราว 20 ปีก่อน
ในการแถลงนโยบายที่รัฐสภาเมื่อเดือนกันยายน นายกฯ แพทองธารบอกว่าการปรับโครงสร้างหนี้จะเจาะกลุ่มเป้าหมายไปที่ลูกหนี้บ้านพร้อมทั้งรถ พร้อมทั้งจะไปแก้ไขหนี้นอกระบบผ่านเครื่องมือของสถาบันการเงินของรัฐ ธนาคารพาณิชย์พร้อมทั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์
เมื่อ 16 ตุลาคม ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลัง ธปท. ฝืนแรงกดดันของรัฐบาลมาหลายเดือน
เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. ได้บอกกล่าวกับบลูมเบิร์กเมื่อเดือนมิถุนายนว่า ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็น “ปัญหาที่ร้ายแรงมาก” โดยเปรียบเปรยว่าเป็นเหมือนโรคเบาหวานที่จะส่งผลต่อสุขภาพอย่างเรื้อรังเป็นเวลายาวนาน
ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันดำเนินไปพร้อมกับอัตราการฆ่าตัวตายที่ไต่ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 7.9 คนต่อ 1 แสนประชากรในปี 2566 อ้างอิงตามข้อมูลของศูนย์ป้องกันการฆ่าตัวตายระดับชาติ กรมสุขภาพจิต เข้าใกล้กับระดับ 8.59 ต่อแสนประชากรในยุควิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ปี 2540-2541
นพ.ธรณินทร์ กองสุข ผู้ดูแลศูนย์ป้องกันฆ่าตัวตาย บอกว่า เห็นตัวเลขผู้ฆ่าตัวตายที่มีหนี้สินนอกระบบเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมองว่า “เจ้าหนี้มักพยายามประจานพร้อมทั้งข่มขู่ลูกหนี้ บางครั้งก็ถึงกับทำร้ายพวกเขาเพื่อเอาเงินคืน เมื่อคนรู้สึกว่าไม่เหลือความหวังอะไรในชีวิต แรงจูงใจในการฆ่าตัวตายก็จะเริ่มผุดขึ้นมา”
การสำรวจของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยในปีนี้ คาดว่าหนี้ครัวเรือนของไทยจะโตขึ้น 8.4% ไปอยู่ที่ 606,378 บาทต่อครัวเรือน พร้อมทั้งประเมินว่าหนี้นอกระบบอาจจะมีมูลค่าอยู่ที่ 10-20% ของจีดีพี หมายความว่าหนี้ครัวเรือนทั้งหมดของไทยอาจจะมีมูลค่ามากกว่าจีดีพี
ดีปาลี เซธ-ชาเบรีย นักวิเคราะห์จากเอสแอนด์พี โกลบอล เรตติ้ง มองว่าระดับหนี้ครัวเรือนของไทยอยู่ในระดับที่ไม่มีความยั่งยืน พร้อมทั้งคาดว่าระดับหนี้สินจะทยอยหดตัวลงต่อเนื่องเล็กน้อยในไม่กี่ปีข้างหน้า
ที่มา: บลูมเบิร์ก
เกาหลีใต้เผยเกาหลีเหนือส่งทหารช่วยรัสเซียรบในยูเครน
หากว่าเกิดขึ้นจริง การกระทำดังกล่าวถือเป็นการมีส่วนร่วมของประเทศที่สามในสงครามนี้พร้อมทั้งน่าจะยิ่งทำให้เกิดการเผชิญหน้ากันยิ่งขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือพร้อมทั้งโลกตะวันตก
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน ประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีบอกว่ารัฐบาลของเขามีข้อมูลข่าวกรองที่ชี้ว่าทหารเกาหลีเหนือจำนวน 10,000 คนกำลังเตรียมที่จะร่วมกองทัพรัสเซียในการต่อสู้กับยูเครน
หน่วยงานข่าวกรองเกาหลีใต้ หรือ NIS (National Intelligence Service) ระบุในเเถลงการณ์ว่าเรือรบของรัสเซียได้ลำเลียงทหารเกาหลีเหนือ 1,500 คนมาสู่ท่าเรือเมืองวลาดิวอสตอกของรัสเซียระหว่างวันที่ 8 – 13 ต.ค. พร้อมทั้งว่ากรุงเปียงยางอาจส่งทหารไปรัสเซียเพิ่มมากขึ้นอีกไม่นานนี้ด้วย
NIS พบว่าทหารเกาหลีเหนือที่ถูกส่งไปช่วยรัฐบาลมอสโก ได้รับคำสั่งให้สวมชุดทหารพร้อมทั้งใช้อาวุธของรัสเซีย ทั้งยังใช้เอกสารระบุตัวตนปลอม เเละเสริมว่าทหารเหล่านี้น่าจะถูกส่งไปรบภาคพื้นดินหลังได้รับการฝึกเพื่อปรับตัวกับพื้นที่
ทั้งนี้ เท่าที่ผ่านมา NIS สามารถเก็บข้อมูลเกี่ยวกับเกาหลีเหนืออย่างได้ผลบ้าง แต่ก็มีบางครั้งที่ไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งนี้รัฐบาลเปียงยางบริหารประเทศอย่างเป็นความลับที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
หากว่าข่าวนี้ได้รับการยืนยัน ถือว่าเป็นการเข้าร่วมสงครามของเกาหลีเหนือครั้งใหญ่ครั้งเเรกในต่างเเดน โดยเกาหลีเหนือมีทหาร 1.2 ล้านคน มากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ถ้าหากว่า เกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมสงครามครั้งใหญ่ตั้งเเต่สงครามเกาหลีปี 1950-53
เมื่อถูกถามถึงรายงานฉบับนี้ของ NIS เลขาธิการนาโต้ มาร์ค รุตเทอ บอกว่ายังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของรายงานชิ้นนี้ในเวลานี้ “แต่มันอาจเปลี่ยนไปจากนี้ได้”
โฆษกทำเนียบรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ พบว่าเรื่องนี้ “เป็นข่าวปลอมอีกชิ้นหนึ่ง” เท่านั้น ส่วนสื่อทางการเกาหลีเหนือยังไม่ความเห็นในเรื่องนี้
ผู้เชี่ยวชาญบางรายไม่คิดว่า หากเกาหลีเหนื่อส่งทหารไปช่วยรัสเซียจริง จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพมอสโกได้มาก ส่วนหนึ่งเพราะทหารเกาหลีเหนือขาดประสบการณ์ในสนามรบ
แต่ในทางกลับกันสิ่งที่รัฐบาลเปียงยางจะได้กลับมาจารัสเซียอาจจะเป็นข้อดีอย่างมีนัยสำคัญ
เลฟ-เอริค อีสลีย์ ศาสตราจารย์ด้านความสัมพันธ์ระหว่งประเทศที่มหาวิทยาลัย Ewha Womans University ที่กรุงโซลบอกว่า “ในทางการทูตเกาหลีเหนืออาจสูญเสียความสัมพันธ์กับประเทศยุโรปในอนาคตอันใกล้ สิ่งที่จะได้เเลกเปลี่ยนกลับมาจากรัสเซียที่จะเป็นเทคโนโลยีการทหาร อาจเพียงพอที่จะเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของเกาหลีใต้ได้”
นักวิเคราะห์ฮอง มิน จากสถาบัน Seoul’s Korea Institute for National Unification บอกว่าเทคโนโลยีจากรัสเซียที่รัฐบาลเปียงยางอาจจะได้รับ น่าจะอยู่ในกลุ่ม ขีปนาวุธข้ามทวีป เรือดำน้ำพลังงานิวเคลียร์พร้อมทั้งระบบป้องกันที่ยิงจากพื้นสู่อากาศ เป็นต้น
มินบอกว่าเครื่องมือเหล่านี้อาจช่วงป้องปรามสหรัฐฯพร้อมทั้งเกาหลีใต้ที่กดดันเกาหลีเหนือได้ พร้อมทั้งว่าทหารเกาหลีเหนืออาจได้เรียนรู้ด้านเทคโนโลยีกลาโหมใหม่ ๆ จากการร่วมรบกับรัสเซียด้วย
แต่อาจารย์อีสลีย์แสดงความไม่เเน่ใจว่าเกาหลีเหนือส่งทหารไปรัสเซียตามที่หน่วยงาน NIS รายงานหรือไม่ ส่วนนักวิเคราะห์บางรายในรายงานของเอพีพบว่าทรัพยากรของเกาหลีเหนือน่าจะถูกใช้ไปในกับความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีมากแล้ว
อีสลีย์บอกว่าเขาจะรู้สึกแปลกใจถ้ารัฐบาลเปียงยางส่งกำลังพลนับหมื่นคนไปในฐานะทหารรับจ้าง พร้อมทั้งว่าที่น่าจะเป็นไปได้คือการส่งคนงานก่อสร้าง วิศวกร พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารไปช่วยรัสเซียมากกว่า
ที่มา: เอพี