ถอดรหัส “ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น” คำตอบของพลังงานสะอาดไร้ขีดจำกัด

เมื่อไม่นานมานี้ นักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งเพิ่งประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญของการวิจัยปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น (nuclear fusion) ที่กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐฯ โดยเป็นครั้งแรกที่มีการใช้กระบวนการทำปฏิกิริยาซึ่งสร้างพลังงานออกมาได้มากกว่าพลังงานตั้งต้น

นักวิทยาศาสตร์จากห้องทดลอง Lawrence Livermore National Laboratory ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำการยิงลำแสงเลเซอร์ที่มีพลังงานมหาศาลไปยังแคปซูลที่มีขนาดราวครึ่งหนึ่งของลูกกระสุนปืน BB ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาที่สร้างพลังงานได้มากกว่าแหล่งพลังงานเดิมที่ยิงออกมาถึง 1.5 เท่า

อย่างไรก็ดี การค้นพบที่น่าสนใจครั้งนี้ยังต้องใช้เวลาอีกนานหลายทศวรรษ ก่อนที่ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นจะถูกนำมาใช้เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้งานทั่วไป

ถ้าหากได้รับการควบคุมพร้อมทั้งใช้ประโยชน์อย่างเหมาะสม วิธีนี้จะสามารถผลิตพลังงานในปริมาณที่เกือบไร้ขีดจำกัดพร้อมทั้งปราศจากก๊าซคาร์บอนที่จะตอบสนองการใช้งานไฟฟ้าของมนุษยชาติ โดยที่ไม่ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นหรือทำให้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศเลวร้ายลงไปกว่าที่เป็นอยู่ได้

มาร์วิน “มาร์ฟ” อดัมส์ รองผู้อำนวยการของสำนักงานความมั่นคงทางนิวเคลียร์แห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวในงานแถลงข่าวว่า แม้จะมีการทดลองเช่นนี้มาแล้วหลายร้อยครั้ง แต่การทดลองครั้งล่าสุดนี้เป็นครั้งแรกที่มีการออกแบบกระบวนการที่ช่วยให้เชื้อเพลิงฟิวชั่นในแคปซูลถูกบีบอัด รักษาสถานะความร้อนพร้อมทั้งความหนาแน่นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเพียงพอที่จะนำไปสู่การจุดติดลุกไหม้ต่อได้ โดยปฏิกริยานี้ผลิตพลังงานได้มากกว่าพลังงานที่แสงเลเซอร์ยิงส่งเข้าไปเสียอีก

อ้างอิงตามคำอธิบายของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นเมื่อนิวเคลียสของอะตอมของธาตุที่มีน้ำหนักเบาคู่หนึ่ง หลอมรวมกันจนเกิดเป็นนิวเคลียสที่มีน้ำหนักของธาตุมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งมีพลังงานส่วนเกินถูกผลิตออกมาจากกระบวนการดังกล่าว

ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นเป็นแหล่งพลังงานของดาวต่าง ๆ รวมถึงดวงอาทิตย์ที่ซึ่งอุณหภูมิความร้อนที่สูงนับล้านองศาเซลเซียส ผนวกกับแรงดันที่เกิดจากแรงโน้มถ่วงในดวงอาทิตย์ ก่อให้เกิดปฏิกริยาทำให้อะตอมหลอมรวมกันเกิดเป็นพลังงานนั่นเอง

นักวิทยาศาสตร์มีความเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นมานานแล้ว พร้อมทั้งได้จำลองกระบวนการข้างต้นทดลองบนโลกมาตั้งแต่ในช่วงปี 1930

รายงานของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ พบว่า ในปัจจุบันมีความพยายามที่จะหลอมรวมไอโซโทปไฮโดรเจนคู่หนึ่ง ได้แก่ ดูเทอเรียม (deuterium) พร้อมทั้งทริเทียม (tritium) โดยกระบวนการนี้จะปลดปล่อย “พลังงานมากกว่าปฏิกิริยาฟิวชั่นส่วนใหญ่” พร้อมทั้งใช้อุณหภูมิความร้อนที่ต่ำกว่า

ศาสตราจารย์แดเนียล เเคมเมน ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานพร้อมทั้งมิติด้านสังคม ที่มหาวิทยาลัยแห่งเเคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเบิร์คลีย์ ชี้ว่า พลังงานจากปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นอาจนำไปต่อยอดได้อย่างไร้ขีดจำกัด เมื่อมีเทคโนโลยีมารองรับในการใช้งานเชิงพานิชย์ โดยอะตอมของธาตุที่ต้องใช้ก็มีอยู่ในน้ำทะเลอยู่แล้ว อีกทั้งกระบวนการดังกล่าวยังไม่ก่อให้เกิดกากกัมมันตภาพรังสี แบบที่พบได้จากกระบวนการนิวเคลียร์ฟิชชั่น (nuclear fission) ซึ่งเป็นการแบ่งแยกนิวเคลียส

แคโรลีน คูรานซ์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งมิชิแกนพร้อมทั้งเป็นนักฟิสิกส์ด้านการทดลองพลาสมา กล่าวเสริมว่า การสร้างพลังงานได้มากกว่าพลังงานสุทธิถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญอย่างยิ่ง

 

หนึ่งในวิธีที่นักวิทยาศาสตร์เคยพยายามสร้างนิวเคลียร์ฟิวชั่น โดยใช้เตาปฏิกรณ์โทคาแมค (tokamak) ซึ่งเป็นห้องสุญญากาศรูปทรงคล้ายโดนัทพร้อมทั้งใช้พลังงานมหาศาลจากแม่เหล็กในการเปลี่ยนเชื้อเพลิงให้เป็นพลาสมาที่มีอุณหภูมิความร้อนสูงถึงระหว่าง 150 ล้าน ถึง 300 ล้านองศาเซลเซียส จนอาจก่อให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่น

แต่ในการทดลองครั้งล่าสุด ห้องปฏิบัติการ Livermore ใช้เทคนิคที่ต่างออกไป โดยนักวิจัยทำการยิงแสงเลเซอร์ 192 ลำแสงใส่แคปซูลขนาดเล็กที่บรรจุเชื้อเพลิงดูทีเรียมพร้อมทั้งทริเทียม

 

รายงานผลการทดสอบในเดือนสิงหาคม ปี 2021 พบว่า การทดลองครั้งนั้นสามารถผลิตพลังงานฟิวชั่นได้ 1.35 เมกะจูล ซึ่งถือว่ามากกว่าประมาณ 70% ของพลังงานที่ยิงเข้าไป อย่างไรก็ดี การทดลองที่ตามมาอีกหลายครั้งได้ผลลัพธ์ที่ลดลง แต่นักวิจัยเชื่อว่า พวกเขาสามารถระบุปัจจัยในการแก้ไขให้ดีขึ้นได้ อย่างเช่น คุณภาพของเชื้อเพลิงในแคปซูล หรือการตั้งค่าความสมมาตรของลำแสงเลเซอร์

ทั้งนี้ สเตฟานี ดีม ศาสตราจารย์ด้านฟิสิกส์วิศวกรรม จากมหาวิทยาลัยแห่งวิสคอนซิน-เมดิสัน อธิบายว่า องค์ประกอบที่สำคัญของการสร้างปฏิกิริยานี้ไม่ใช่เรื่องของความร้อนพร้อมทั้งแรงกดดันมหาศาลเท่านั้น แต่พลังงานจากลำแสงเลเซอร์ยังต้องถูกยิงออกไปอย่างแม่นยำเพื่อที่จะก่อเกิดเชื้อเพลิงฟิวชั่น

ถ้าหากว่า แม้ความสำเร็จในห้องปฏิบัติการนี้จะยืนยันว่า การผลิตพลังงานฟิวชั่นนั้นเป็นไปได้จริง การพัฒนาต่อยอดไปสู่การผลิตไฟฟ้าในขั้นของโรงไฟฟ้ายังถือว่าเป็นเรื่องยากกว่ามาก

แคโรลีน คูรานซ์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยแห่งมิชิแกน ยกตัวอย่างให้ฟังว่า การยิงแสงเลเซอร์ในห้องปฏิบัติการนั้นสามารถทำได้เพียงไม่กี่ครั้งต่อวัน แต่ในการผลิตพลังงานเพื่อใช้งานจริง จำเป็นที่จะต้องยิงลำแสงอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งต้องมีการบรรจุแคปซูลหลายครั้งภายในช่วงเวลา 1 นาทีหรืออาจต้องเร็วกว่านั้นด้วยซ้ำ

เจเรมี ชิทเทนเดน ศาสตราจารย์ที่เชี่ยวชาญด้านพลาสมาฟิสิกส์ จาก Imperial College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายอีกข้อ ซึ่งก็คือ การเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการนี้ โดยบอกว่า เลเซอร์ในห้องปฏิบัติการของ Livermore ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งหมายความว่า เหล่านักวิจัยจำเป็นต้องหาวิธีที่ที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์แบบเดียวกันได้อีกเรื่อย ๆ ในแบบที่ให้ผลตอบแทนที่สูงแต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าให้ได้

 

ที่มา: เอพี

 

ไฟไหม้ทางด่วนเกาหลีใต้ปลิด 5 ชีวิต-บาดเจ็บนับสิบ

เกิดเหตุไฟไหม้บนทางด่วนสายหนึ่งในเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี ขณะที่สภาพการจราจรติดขัดหนัก โดยมีผู้จบชีวิตอย่างน้อย 5 รายพร้อมทั้งบาดเจ็บเกือบ 40 ราย ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติรอยเตอร์ที่อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่พร้อมทั้งสื่อท้องถิ่น

คลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นภาพของหลังคากันเสียงเหนือทางด่วนเส้น Second Gyeongin Expressway ใกล้ ๆ กับกรุงโซล ขณะที่มีไฟลุกท่วม เมื่อเวลา 13.49 น. ตามเวลาท้องถิ่น

สถานีโทรทัศน์ YTN ของเกาหลีใต้รายงานการสัมภาษณ์พยานรายหนึ่งที่พบว่า สภาพการจราจรติดขัดหนักทำให้พาหนะบนทางด่วนไม่สามารถขับหนีหรือเลี่ยงบริเวณเกิดเหตุได้อย่างง่ายดาย พร้อมทั้งไฟก็ขยายวงต่อเนื่อง โดยได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นครั้งหนึ่งด้วย

สื่อเกาหลีใต้ยังรายงานด้วยว่า จุดเริ่มต้นของเหตุไฟไหม้นี้น่าจะเกิดจากรถโดยสารคันหนึ่งพร้อมทั้งรถบรรทุกอีกคันชนกัน แต่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงรายหนึ่งที่เข้าปฏิบัติหน้าที่ ณ ที่เกิดเหตุ บอกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังคงสืบสวนหาสาเหตุอยู่

เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบอกกับรอยเตอร์ด้วยว่า มีพาหนะจำนวน 44 คันที่ถูกทำลายเสียหายในเหตุการณ์ครั้งนี้ที่คร่าชีวิตผู้คนไป 5 คนพร้อมทั้งทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 37 คน โดย 3 คนมีอาการสาหัส

 

ที่มา: รอยเตอร์

‘ทีเอสเอ็มซี’ เริ่มผลิตชิปไฮเทคในไต้หวัน

บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ TSMC เริ่มต้นการผลิตชิปไฮเทคทางตอนใต้ของไต้หวัน เมื่อวันพฤหัสบดี พร้อมทั้งทางบริษัทเตรียมเพิ่มกำลังการผลิตในไต้หวันมากขึ้น ตามรายงานของรอยเตอร์

มาร์ค หลิว ประธานบริษัท TSMC กล่าวในพิธีเปิดสายการผลิตในเมืองไถหนานว่า “TSMC ยังคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระหว่างที่ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในไต้หวัน จะเดินหน้าลงทุนพร้อมทั้งประสบความสำเร็จต่อไป” พร้อมทั้งว่าความต้องการชิป 3 นาโนเมตรอยู่ในระดับที่ “แข็งแกร่งอย่างมาก” ขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูงพร้อมทั้งรองรับเครือข่ายบริการสัญญาณ 5จี แต่ไม่ได้ลงข้อมูลเพิ่มเติม

หลิว เสริมว่า การผลิตชิปล็อตใหญ่ประสบความสำเร็จพร้อมทั้งให้ผลตอบแทนที่ดี พร้อมทั้งว่าเทคโนโลยีชิป 3 นาโนเมตร เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคที่มีมูลค่าตลาด 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในเวลา 5 ปี

นอกจากนี้ TSMC เตรียมสร้างโรงงานสำหรับชิป 2 นาโนเมตร ที่ตอนเหนือพร้อมทั้งตอนกลางของไต้หวันเพิ่มเติมด้วย

การผลิตชิป 3 นาโนเมตรล็อตใหญ่ของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ไต้หวัน มาในช่วงที่ทั่วโลกจับตาแผนการลงทุนทั้งในพร้อมทั้งต่างประเทศของบริษัท TSMC ผู้นำด้านการผลิตชิปชั้นสูงรองรับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงเครื่องบินรบ

เมื่อต้นเดือนธันวาคม บริษัท TSMC พบว่า จะขยายการลงทุน 40,000 ล้านดอลลาร์ในโรงงานผลิตที่รัฐแอริโซนา นับเป็นการลงทุนทางตรงจากต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ พร้อมทั้งกำลังสร้างโรงงานผลิตชิปประมวลผลในญี่ปุ่น รวมทั้งพบว่ายังอยู่ในขั้นเริ่มต้นของการพิจารณาการขยายการลงทุนในเยอรมนีด้วย

ด้านรัฐบาลไต้หวัน ปฏิเสธประเด็นความกังวลเรื่องการย้ายฐานการผลิตชิปออกจากไต้หวัน โดยพบว่า ไต้หวันยังคงบทบาทในฐานะผู้ผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่พร้อมทั้งผู้ผลิตชิปขั้นสูงต่อไป

ที่มา: รอยเตอร์

ผู้อพยพมุสลิมโรฮีนจานับร้อยหนีตายขึ้นฝั่งอินโดนีเซีย

ผู้อพยพชาวมุสลิมโรฮีนจาหลายร้อยคนรอดชีวิตจากที่ต้องลอยคออยู่ในทะเลเป็นเวลา 40 วัน หลังได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่จากอินโดนีเซีย ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติรอยเตอร์

ชาวมุสลิมโรฮีนจาจำนวน 174 คนเพิ่งได้รับการช่วยชีวิตจากเรือหาปลาที่ถูกซัดเข้าฝั่งในจังหวัดอาเจห์ในสัปดาห์นี้

รายงานข่าวพบว่า ผู้อพยพกลุ่มนี้ประกอบด้วยชาวโรฮีนจาราว 200 คนซึ่งตัดสินใจหลบหนีขึ้นเรือลำเดียวกันออกมาจากบังกลาเทศเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน ก่อนที่กว่า 20 คนจะจบชีวิตระหว่างที่ล่องเรือกันในมหาสมุทรอินเดีย โดยบางรายกระโดดลงน้ำ หลังเรือเริ่มแตกพร้อมทั้งมีน้ำรั่วเข้ามา จนทำให้ผู้อพยพกลัวว่า เรือจะล่มในที่สุด

การประเมินโดยองค์การสหประชาชาติชี้ว่า ชาวมุสลิมโรฮีนจาประมาณ 800,000 คนถูกบีบให้ต้องลี้ภัยออกจากเมียนมา หลังกองทัพทำการปรามปรามชนกลุ่มน้อยนี้ในปี ค.ศ. 2017 โดยจำนวนมากยอมหนีตายเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในค่ายผู้อพยพที่มีสภาพความเป็นอยู่ย่ำแย่ในบังคลาเทศแทน

ในเวลาเดียวกัน หน่วยงานของยูเอ็นที่ดูแลผู้อพยพลี้ภัยเปิดเผยว่า ชาวโรฮีนจาส่วนหนึ่งเลือกหนีไปอยู่ที่อินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก โดยในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนเกือบ 500 คนที่รอนแรมมาถึงจุดหมายดังกล่าวสำเร็จ

รายงานข่าวเปิดเผยว่า ทางการอินโดนีเซียได้จัดหาความช่วยเหลือด้านการแพทย์ อาหารพร้อมทั้งที่พักชั่วคราวให้กลุ่มคนเหล่านี้ พร้อม ๆ กับประสานงานกับหน่วยงานด้านผู้อพยพระหว่างประเทศเพื่อให้คนเหล่านี้มีสถานะเป็นผู้ลี้ภัยเต็มตัว

 

ที่มา: รอยเตอร์

เหตุเพลิงไหม้โรงแรม-คาสิโนกัมพูชาคร่า 19 ชีวิต-เจ็บหลายสิบ

มีผู้จบชีวิตอย่างน้อย 19 คนในเหตุการณ์ไฟไหม้ที่โรงแรมพร้อมทั้งคาสิโนแห่งหนึ่งในกัมพูชา ขณะที่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยว่า จำนวนเหยื่อเพลิงไหม้ครั้งนี้น่าจะสูงกว่านี้

เจ้าหน้าที่กัมพูชาเปิดเผยว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นที่ Grand Diamond City hotel-casino ในเมืองปอยเปต ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ในช่วงดึกของคืนวันพุธที่ผ่านมา

อาสาสมัครรายหนึ่งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ทีมงานมาถึงที่เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 2 นาฬิกาพร้อมทั้งพบว่า มีผู้ประสบเหตุหลายคนพยายามกระโดดหนีตายออกมาจากอาคารโรงแรมแห่งนี้

คลิปวิดีโอของเหตุเพลิงไหม้ที่มีผู้บันทึกไว้แสดงให้เห็นว่า ตัวอาคารนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิง ขณะที่ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงพยายามเข้าควบคุมสถานการณ์พร้อมทั้งหน่วยกู้ภัยพยายามเอาตัวผู้ประสบเหตุที่หนีออกมานอกหน้าต่างอาคารลงมาที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน

ผู้ว่าการจังหวัดสระแก้ว ปริญญา โพธิสัตย์ เปิดเผยว่า โรงพยาบาลในฝั่งไทยรับตัวเหยื่อเหตุการณ์ครั้งนี้กว่า 100 คน โดยเป็นชาวไทย 79 คน ชาวกัมพูชา 30 คนพร้อมทั้งชาวอินโดนีเซีย 8 คน

เอเอฟพีรายงานโดยอ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทางการไทยในจังหวัดสระแก้วซึ่งอยู่ติดกันว่า มีเหยื่อเหตุเพลิงไหม้นี้ข้ามมารักษาตัวในโรงพยาบาลที่ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยพยุงชีพ 13 คน

 

ที่มา: เอเอฟพี

ตำนานลูกหนังโลก ‘เปเล่’ จบชีวิตแล้ว

ราชาลูกหนังบราซิล ‘เปเล่’ ผู้นำพาแดนแซมบ้าคว้าแชมป์บอลโลก 3 สมัย พร้อมทั้งเป็นตำนานแห่งวงการฟุตบอลแห่งศตวรรษ จบชีวิตแล้วเมื่อวันพฤหัสบดี ในวัย 82 ปี หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่

 

ตำนานแห่งวงการฟุตบอลผู้นี้ ซึ่งได้รับการขนานนามว่าคือสุดยอดของวงการลูกหนังตลอดกาล เข้ารับการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่มาตั้งแต่ปีที่แล้ว พร้อมทั้งเพิ่งถูกหามส่งโรงพยาบาลเมื่อเดือนก่อน จากภาวะอาการแทรกซ้อนหลายอย่าง ก่อนจะจบชีวิตในวันพฤหัสบดี ตามการเปิดเผยของตัวแทนของเปเล่

ความโดดเด่นของเปเล่ในวงการลูกหนังในช่วงเกือบ 3 ทศวรรษ จากความรวดเร็ว ปราดเปรียว ในสไตล์การเล่นทั้งสองเท้าพร้อมทั้งการโหม่งบอลอันเฉียบคม เปเล่ถูกสร้างมาเพื่อทำประตูพร้อมทั้งโชว์ทักษะอันเปี่ยมด้วยพรสวรรค์ของเขาในสนาม

เปเล่ ลงแข่งขันฟุตบอลมากกว่า 1,300 เกม พร้อมทั้งทำประตูได้เกือบทุกเกมที่ลงแข่ง เขาพาทีมชาติบราซิลคว้าชัยในการแข่งขันฟุตบอลโลก 3 สมัย ด้วยวัยเพียง 17 ปี เขาพาทีมแซมบ้าคว้าถ้วยบอลโลกเมื่อปี 1958 ตามมาด้วยแชมป์บอลโลก ปี 1962 พร้อมทั้ง 1970 ตามลำดับ

ที่มา: รอยเตอร์

รัสเซียเดินหน้ายิงขีปนาวุธถล่มยูเครน

กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าจู่โจมยูเครนในวันพฤหัสบดีด้วยการยิงขีปนาวุธถล่มหลายเมือง รวมถึงกรุงเคียฟ

ดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า “ความป่าเถื่อนอย่างไร้สติ คือ คำที่เข้ามาในสมองเมื่อเห็นรัสเซียส่งขีปนาวุธเข้ามาถล่มเมืองอันเงียบสงบทั้งหลายของยูเครนอีกชุด ก่อนวันปีใหม่” พร้อมทั้งว่า “ไม่มีคำว่า ‘ความเป็นกลาง’ ในอาชญากรรมสงครามเช่นนี้ … การเสแสร้งว่า ‘เป็นกลาง’ เท่ากับว่า เข้าข้างรัสเซียนั่นเอง”

ในเวลาเดียวกัน มีไคโล โพลโดยัก ทวีตข้อความออกมาว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าถล่มยูเครนอย่างน้อย 120 ลูก “เพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญพร้อมทั้งฆ่าพลเรือนยกกลุ่ม”

การจู่โจมครั้งล่าสุดนี้ทำให้สัญญาณเตือนการจู่โจมทางอากาศดังไปทั่วยูเครน

ขณะที่ เจ้าหน้าที่กรุงเคียฟยอมรับว่า ระบบป้องการกันการจู่โจมทางอากาศบางส่วนเสียหายเพราะขีปนาวุธระลอกล่าสุด กองทัพยูเครนพบว่า สามารถยิงขีปนาวุธของรัสเซียยิงเข้ามา 54 ลูกจากทั้งหมดที่ตรวจจับได้ 69 ลูก

ทั้งนี้ รัสเซียใช้ขีปนาวุธยิงถล่มเมืองต่าง ๆ ของยูเครนมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ๆ หลายแห่งของประเทศไปแล้ว

ออกซานา มาร์คาโรวา เอกอัครราชทูตยูเครนประจำสหรัฐฯ ทวีตข้อความในวันพฤหัสบดีด้วยว่า “เมื่อถึงจุดหนึ่ง พวกผู้ก่อการร้ายรัสเซียก็จะไม่มีขีปนาวุธใช้ แต่ชาวยูเครนจะไม่มีวันที่จะไร้ซึ่งความกล้าหาญ หยุดอุทิศตนให้กับเสรีภาพพร้อมทั้งประชาธิปไตย พร้อมทั้งหมดรักในประเทศของเรา”

การสู้รบในยูเครนยังดำเนินต่อไป หลังประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประกาศข้อเสนอแผนสันติภาพ 10 ข้อให้รัสเซีย แต่ทำเนียบเครมลินปฏิเสธพร้อมทั้งยืนยันว่า กรุงเคียฟต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า พื้นที่ 4 เขตของตนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว

ในวันพุธ ปธน.เซเลนสกียังขึ้นกล่าวปราศรัยต่อหน้ารัฐสภาที่จัดการประชุมแบบปิด โดยร้องขอให้สมาชิกรัฐสภาร่วมสามัคคีกันตลอดไปเพื่อต้านการรุกรานของรัสเซีย พร้อมย้ำว่า คนทั่วโลกได้ประจักษ์ด้วยสายตาแล้วว่า ยูเครนสามารถประสบความสำเร็จในสนามรบจนได้เสรีภาพกลับคืนมาบ้างแล้ว พร้อมทั้งว่า กองทัพยูเครนสามารถปลดปล่อยเชลยศึกจำนวน 1,456 คนที่ถูกรัสเซียจับกุมไประหว่างที่รุกรานที่ดำเนินมากว่า 10 เดือนนี้

 

ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์ พร้อมทั้งเอเอฟพี

อุซเบกิสถานโยง ยาน้ำแก้ไออินเดีย ทำเด็กตาย 18 ศพ

อุซเบกิสถานเผยมีเด็กจบชีวิต 18 ราย หลังจากดื่มยาน้ำแก้ไอซึ่งผลิตโดยบริษัทหนึ่งในอินเดีย โดยพบว่าเด็กๆ ดื่มยาในปริมาณมากกว่ามาตรฐานที่ควรได้รับ

รั้งหรือปล่อย “คลอปป์” ตอบชัดอนาคต “เฟอร์มิโน” หลังลิเวอร์พูลซิว “กัคโป”

เยอร์เกน คลอปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ตอบชัดเรื่องอนาคตของ โรแบร์โต เฟอร์มิโน หลังทีมเพิ่งคว้า โคดี กัคโป มาร่วมทัพ

ยูเครนจวกรัสเซียป่าเถื่อนไร้สติ หลังยิงมิสไซล์เกิน 100 ลูกถล่มรอบใหม่

รัสเซียจู่โจมยูเครนระลอกใหม่ ยิงมิสไซล์มากกว่า 100 ลูกเข้าใส่ทั่วยูเครนเมื่อวันพฤหัสบดี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 3 ราย ไฟดับหลายเมือง