ข่าวด่วนวันนี้
thailandtvhd.com
6 เทคนิคขับรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ไปต่างจังหวัดหรือเดินทางไกลอย่างไรให้สนุก
ผู้นำเก่า เงื่อนไขใหม่: จับสัญญาณเกาหลีเหนือก่อน ‘ทรัมป์’ เถลิงอำนาจ
ท่าทีของผู้นำเกาหลีเหนือมีขึ้นระหว่างงานแสดงแสนยานุภาพทางทหารของกองทัพโสมแดง โดยกล่าวด้วยว่า การเจรจาที่มีขึ้นในช่วงเวลาที่ผ่านมา สะท้อนว่ากรุงวอชิงตันมีเจตนาไม่ดีอันเป็นสิ่งที่ “เปลี่ยนแปลงไม่ได้”
ในสายตาของเอแวนส์ รีเวียร์ อดีตรักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกเเละแปซิฟิก มองว่า คิม จอง อึน คนปัจจุบัน แตกต่างไปจาก ‘คิม’ คนที่ทรัมป์เคยเจอหน้าแบบตัวต่อตัวเมื่อปี 2019 อย่างสิ้นเชิง
รีเวียร์บอกว่า “คิม จอง อึน เชื่อว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า พร้อมทั้งผมเชื่อว่าหนึ่งในไพ่ที่ถืออยู่คือความสัมพันธ์ที่เพิ่งพานพบกับรัสเซีย”
เจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเกาหลีเหนือส่งทหารมากกว่า 10,000 นายไปช่วยรัสเซียรบในสมรภูมิยูเครน
เมื่อเดือนที่แล้ว อันเดรย์ เบลูซอฟ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมรัสเซียเดินทางไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือเพื่อขยายขอบเขตข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เบลูซอฟมองว่าช่วยลดความเสี่ยงการเกิดสงครามบนคาบสมุทรเกาหลี
มาร์ค รุทเทอร์ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) บอกว่าพันธมิตรระหว่างกรุงมอสโกพร้อมทั้งกรุงเปียงยาง เป็นโจทย์ที่ท้าทายรัฐบาลทรัมป์สมัยที่สอง
รุทเทอร์บอกว่า “เทคโนโลยีนิวเคลียร์พร้อมทั้งขีปนาวุธกำลังหลั่งไหลเข้าไปในเกาหลีเหนือ มันจึงเป็นความเสี่ยงที่เกาหลีเหนือจะใช้มัน ไม่เพียงในแง่การคุกคามเราที่นี่ แต่กับแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ เช่นกัน”
ซิดนีย์ ซายเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ด้านเกาหลีเหนือ มองว่าความร่วมมือของเกาหลีเหนือพร้อมทั้งรัสเซีย จะเป็นภัยคุกคามเสถียรภาพโลกมากยิ่งขึ้น
ซายเลอร์บอกว่าความร่วมมือนี้กำลังกลายเป็นพันธมิตรทางทหารที่มีอันตรายทั้งในระยะสั้นพร้อมทั้งระยะยาว ที่อาจทำให้สงครามในยูเครนขยายวง สั่นคลอนความมั่นคงทั้งบนคาบสมุทรเกาหลีพร้อมทั้งประชาคมนานาประเทศ
อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรายนี้เพิ่มเติมว่า ความช่วยเหลือจากรัสเซีย ทั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศ เทคโนโลยีการผลิตยุทธภัณฑ์กระสุน ไปจนถึงเชื้อเพลิง อาหาร พร้อมทั้งเงิน ทำให้เกาหลีเหนือมีความจำเป็นต้องพึ่งพิงสหรัฐฯ น้อยกว่าเมื่อครั้งรัฐบาลทรัมป์สมัยแรก
ว่าที่ผู้นำสหรัฐฯ คนใหม่ เคยใช้เวลาในวาระแรก ร่วมมือกับผู้นำเกาหลีใต้เพื่อหาทางให้เกาหลีเหนือล้มเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์ ไม่เพียงเท่านั้นยังได้พบปะกันแบบซึ่งหน้าที่สิงคโปร์พร้อมทั้งเวียดนามเมื่อปี 2018 พร้อมทั้ง 2019 ตามลำดับ
แต่ในช่วงฤดูกาลเลือกตั้งประธานาธิบดี รัฐบาลเปียงยางระดมทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ที่มีระยะทำการครอบคลุมแทบทุกพื้นที่ของแผ่นดินใหญ่สหรัฐฯ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นการแสดงท่าทีจากผู้นำคิม ที่มีไปถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองสหรัฐฯ
รีเวียร์ อดีตเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ มองว่า ทรัมป์ในวาระที่สอง ต้องเจอกับเกาหลีเหนือที่ปิดประตูสู่การล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์
รีเวียร์บอกว่า “สิ่งที่เกาหลีเหนือตามหามาตลอดคือการเป็นที่ยอมรับ หรืออย่างน้อยก็คือการรับรู้จากสหรัฐฯ ว่าเกาหลีเหนือเป็นมหาอำนาจนิวเคลียร์อย่างชอบธรรม พร้อมทั้งทั้งสองประเทศควรนั่งคุยกันเรื่องการดำรงอยู่ร่วมกัน”
ที่มา: วีโอเอ
เตรียมสายไหม้! เด็กนับล้านต่อสาย ‘ศูนย์ติดตามซานต้า’ ก่อนวันคริสต์มาส
ในแต่ละปีจะมีเด็กอย่างน้อย 100,000 คน ที่ต่อสายไปยังศูนย์บัญชาการป้องกันอวกาศแห่งทวีปอเมริกาเหนือ (North American Aerospace Defense Command) หรือ NORAD เพื่อสอบถามพิกัดที่ซานตาคลอสอยู่ ณ เวลานั้น โดยมีเจ้าหน้าที่คอยให้ข้อมูลออนไลน์ 9 ภาษา ตั้งแต่ภาษาอังกฤษไปจนถึงภาษาญี่ปุ่น
ช่วงเวลาอื่น ๆ ของปี NORAD จะตรวจตราน่านฟ้าให้ปลอดภัยจากภัยคุกคามที่เกิดขึ้นได้ อย่างเช่น เหตุบอลลูนสอดแนมเมื่อปีที่แล้ว แต่พอถึงวันคริสต์มาสอีฟ อาสาสมัครจากโคโลราโด สปริงส์ จะเตรียมชุดคำตอบสำหรับคำถามเช่นว่า “เมื่อไหร่ซานต้าจะมาถึงบ้านหนูซักที?” หรือคำถามที่ว่า “ตอนนี้ผมอยู่ในรายการเด็กดื้อหรือเด็กดีกันแน่?”
บ็อบ ซอมเมอร์ส เจ้าหน้าที่อาสาสมัครของ NORAD ในช่วงคริสต์มาส บอกว่า “ได้ยินทั้งเสียงกรีดร้องพร้อมทั้งเสียงหัวเราะชอบใจ” ในช่วงเวลานี้ พร้อมทั้งเขามักต้องบอกให้เด็ก ๆ นอนหลับก่อนซานต้ามาถึง ก่อนที่จะมีเสียงของพ่อแม่บอกว่า “ได้ยินที่เขาพูดไหมจ๊ะ? เราต้องนอนแต่หัวค่ำนะ”
ศูนย์ติดตามซานต้าของ NORAD เริ่มต้นตั้งแต่ยุคสงครามเย็น จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์วันคริสต์มาส นอกเหนือจากเสื้อไหมพรมธีมคริสต์มาสสุดเชยพร้อมทั้งเพลงคริสต์มาสอันเป็น passive income ของมารายห์ แครีย์ที่ต้องฟังทุกปี พร้อมทั้งประเพณีติดตามซานต้านี้ยังยืนหยัดอยู่แม้จะเผชิญกับการปิดทำการของรัฐบาล หรือ government shutdown หลายต่อหลายครั้ง
เริ่มต้นด้วยการ ‘โทรผิด’
จุดเริ่มต้นของศูนย์ติดตามซานต้า มาจากการต่อสายโทรศัพท์ผิดเมื่อปี 1955 หนังสือพิมพ์ในโคโรลาโด สปริงส์ แปะโฆษณาของห้างเซียร์ส ที่ชวนเด็ก ๆ โทรหาซานต้า พร้อมแนบเบอร์เอาไว้ แต่ปรากฏว่าเด็กชายคนหนึ่งโทรผิดมาที่หน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมสหรัฐฯ แคนาดา NORAD ซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงสงครามเย็น
พร้อมทั้งผู้ที่รับสายเด็กชายคนนั้น คือ พันอากาศเอกแฮร์รี่ ชุป ซึ่งเข้าเวรกะกลางคืนเพื่อรอรับ “สายด่วนฉุกเฉิน” แต่กลับได้ยินปลายสายเป็นเสียงเล็ก ๆ ของเด็กชายที่เล่าถึงรายการของขวัญที่อยากได้ในวันคริสต์มาส ซึ่งก่อนที่เด็กชายคนนี้จะจับได้ เขาก็ได้สมอ้างเป็นซานต้าคลอสเป็นที่เรียบร้อย อีกทั้งเขายังต้องรับสายแบบเดียวกันนี้อีก 50 ครั้ง พร้อมทั้งท้ายที่สุดสิ่งนี้ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติมา 69 ปีในปัจจุบัน
ผู้ปกครองพร้อมทั้งเด็ก ๆ สามารถติดตามเส้นทางของซานตาคลอสได้ ผ่านสายด่วนในอเมริกา 1-877-HI-NORAD ตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนของวันที่ 24 ธันวาคมของทุกปี พร้อมทั้งที่เว็บไซต์ noradsanta.org ติดตามแฮชแท็ก #NORADTracksSanta พร้อมทั้งบัญชี @NoradSanta ทาง X หรือใช้แอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ที่รองรับ รวมถึงติดตามทางอีเมล noradtrackssanta@outlook.com ได้เช่นกัน
ที่มา: เอพี
ดีลใหญ่ยานยนต์โลก! ฮอนด้า-นิสสัน เคาะแผนควบรวมกิจการในปี 2026
การควบรวมกิจการของฮอนด้า ค่ายรถใหญ่อันดับ 2 พร้อมทั้งนิสสัน ค่ายรถใหญ่อันดับ 3 ของแดนปลาดิบ จะทั้งสองค่ายรถญี่ปุ่นกลายเป็นกลุ่มธุรกิจยานยนต์ใหญ่อันดับ 3 ของโลกในด้านยอดขาย ตามหลังโตโยต้า พร้อมทั้งโฟล์คสวาเกน อีกทั้งยังมอบโอกาสให้ทั้ง 2 บริษัทแลกเปลี่ยนทรัพยากรเพื่อรับมือกับคู่แข่งด้านรถยนต์ไฟฟ้า อย่างเทสลา พร้อมทั้งบีวายดี
ทั้งฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสัน มุ่งเป้ายอดขายรวม 30 ล้านล้านเยน พร้อมทั้งทำกำไรมากกว่า 3 ล้านล้านเยนผ่านการควบรวมกิจการนี้ โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการสรุปข้อมูลของการผนวกกิจการช่วงเดือนมิถุนายนปีหน้า เพื่อจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน ภายในเดือนสิงหาคมปี 2026 ที่หุ้นของทั้ง 2 บริษัทจะออกจากตลาดซื้อขายหุ้น
ส่วนสัดส่วนการถือหุ้นต่าง ๆ ฮอนด้า ที่มีมูลค่าตลาดมากกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่า 4 เท่าของนิสสัน จะเป็นฝ่ายจัดตั้งบอร์ดบริหารของบริษัทโฮลดิ้งนี้
ดีลฮอนด้า-นิสสันนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมของอุตสาหกรรมยานยนต์ครั้งใหญ่ นับตั้งแต่ดีลควบรวมกิจการ 52,000 ล้านดอลลาร์ ระหว่างเฟียต ไครส์เลอร์ พร้อมทั้งพีเอสเอ เมื่อปี 2021 ซึ่งกลายเป็นสเตแลนทิส ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่อยู่ ก็พิจารณาการเข้าร่วมกลุ่มยานยนต์ใหม่นี้เช่นกัน พร้อมทั้งคาดว่าจะประกาศการตัดสินใจในช่วงปลายเดือนมกราคมปีหน้า อ้างอิงจากการเปิดเผยของบริษัท ระหว่างที่ซีอีโอของฮอนด้า นิสสัน พร้อมทั้งมิตซูบิชิ ร่วมงานแถลงข่าวประกาศควบรวมกิจการนี้ที่กรุงโตเกียวเมื่อวันจันทร์
ซึ่งหากเป็นไปตามคาดการณ์ จะทำให้กลุ่มธุรกิจยานยนต์ใหม่นี้มีสัดส่วนยอดขายรถทั่วโลกมากกว่า 8 ล้านคัน แซงหน้าอันดับ 3 เดิมอย่างฮุนไดพร้อมทั้งเกียของเกาหลีใต้
ที่มา: รอยเตอร์
แมนจิโอนี ไม่รับสารภาพคดีสังหารซีอีโอบ.ประกันใหญ่
ลุยจิ แมนจิโอนี ในวัย 26 ปี ปรากฎตัวที่ศาลรัฐนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ โดยมีเจ้าหน้าที่คุ้มกันแน่นหนา พร้อมทั้งมีผู้สนับสนุนเขาออกมาปักหลักชุมนุมให้กำลังใจเขาท่ามกลางอากาศหนาวจัด
แมนจิโอนี พบว่าตนไม่ได้กระทำผิดในข้อหาฆาตกรรม 11 กระทง ซึ่งรวมถึงการฆ่าคนตายด้วยอาวุธปืนพร้อมทั้งฆ่าผู้อื่นโดยเป็นการกระทำก่อวินาศกรรม
หากเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง จะเผชิญกับการจำคุกตลอดชีวิตโดยไม่มีเงื่อนไขภาคทัณฑ์
ก่อนหน้านี้ แมนจิโอนี ถูกจับตัวในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากธอมป์สันถูกสังหารบนเกาะแมนฮัตตันเมื่อ 4 ธ.ค.
เมื่อสัปดาห์ก่อนเขาปรากฎตัวที่ศาลในรัฐนิวยอร์ก จากข้อหาฆ่าคนตายพร้อมทั้งติดตามสะกดรอยรวม 4 กระทง โดยในเอกสารของรัฐบาลกลางที่เปิดเผยในวันพฤหัสบดี ชี้ว่า แมนจิโอนีเผชิญข้อหาสะกดรอยสองข้อหา พร้อมทั้งแต่ละข้อหานั้นพ่วงด้วยข้อหาฆ่าคนตายด้วยอาวุธปืนพร้อมทั้งกระทำผิดด้านอาวุธปืนด้วย
ส่วนข้อหาของรัฐบาลกลางเรื่องการสังหารผู้อื่นด้วยปืน อาจมีโทษสูงสุดถึงขั้นประหารชีวิต หากผู้ต้องหาถูกตัดสินว่ามีความผิด ถ้าหากว่า ทางอัยการยังไม่ได้พบว่าจะดำเนินการเพื่อให้เเมนจิโอนีถูกประหารชีวิตหรือไม่
ด้านแคเรน ฟรีดแมน แอคนิฟิโล ทนายของแมนจิโอนี กล่าวเมื่อวันจันทร์ด้วยว่าลูกความของเธออาจไม่ได้รับความเป็นธรรมในการพิจารณาคดี เพราะได้รับการปฏิบัติเหมือนกับเหยื่อทางการเมือง
ทั้งนี้ แมนจิโอนีจะมีกำหนดการขึ้นศาลอีกครั้งในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ปีหน้า
ที่มา: รอยเตอร์
ทรัมป์ฟื้นแผนซื้อกรีนแลนด์ หลังหมายตาคลองปานามา
ทรัมป์ ระบุเมื่อวันอาทิตย์หลังเสนอชื่อทูตสหรัฐฯ ประจำเดนมาร์กว่ามีการซื้อเกาะกรีนแลนด์ “เพื่อเป้าหมายด้านความมั่นคงพร้อมทั้งเสรีภาพทั่วโลก สหรัฐฯ รู้สึกว่าการเป็นเจ้าของพร้อมทั้งควบคุมกรีนแลนด์เป็นสิ่งจำเป็นอย่างที่สุด”
กรีนแลนด์มีประชากร 56,000 คน มีจุดเด่นด้านแหล่งประมงพร้อมทั้งพลังงานสะอาด รวมทั้งเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ Thule Air Base ซึ่งเป็นฐานทัพอเมริกันที่อยู่เหนือสุดของโลก พร้อมทั้งเป็นที่หมายตาของสหรัฐฯมายาวนานตั้งแต่ในอดีต ย้อนกลับไปเมื่อปี ค.ศ. 1946 ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ประธานาธิบดีแฮร์รี ทรูแมนของสหรัฐฯในยุคนั้นขอซื้อกรีนเเลนด์ที่มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์ แต่ถูกปฏิเสธโดยเดนมาร์ก
เมื่อปี 2019 ทรัมป์เคยแสดงความสนใจที่จะให้สหรัฐฯ ซื้อเกาะกรีนแลนด์ ก่อนที่รัฐบาลกรีนแลนด์ จะออกแถลงการณ์ว่า “กรีนแลนด์ไม่ได้มีไว้ขาย” จนเป็นเหตุให้ทรัมป์ยกเลิกแผนเยือนเดนมาร์กในปีเดียวกัน
พร้อมทั้งในครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลกรีนแลนด์ ยืนยันถ้อยคำดังกล่าวหลังทรัมป์ปัดฝุ่นข้อเรียกร้องนี้อีกครั้ง
การฟื้นแผนซื้อเกาะกรีนแลนด์ของทรัมป์ มีขึ้นหลังจากเขาขู่ว่าจะยึดคืนคลองปานามาหากไม่มีการแก้ปัญหาค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น ที่เรือสินค้าของสหรัฐฯ แล่นผ่านคลองดังกล่าว
ทรัมป์ระบุในสื่อสังคมออนไลน์ ทรูธ โซเชียล ว่า “กองเรือพร้อมทั้งการค้าของเราได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมในแนวทางที่ไม่ถูกต้อง ค่าธรรมเนียมที่ปานามาเรียกเก็บนั้นเหลวไหลจริง ๆ” พร้อมทั้งว่าการเอาเปรียบต่ออเมริกา “ต้องยุติลงทันที”
ทรัมป์ยังบอกว่า หากปานามาไม่สามารถรับรองความปลอดภัย ประสิทธิภาพพร้อมทั้งความน่าเชื่อถือของคลองแห่งนี้ได้ “สหรัฐฯ จะขอนำคลองปานามากลับคืนมาเป็นของเราอย่างสมบูรณ์โดยไม่มีข้อสงสัย”
ทั้งนี้ สหรัฐฯ เป็นผู้ขุดคลองปานามาเสร็จสิ้นเมื่อปี 1914 ก่อนที่จะส่งคืนให้แก่ปานามาภายใต้สนธิสัญญาเมื่อปี 1977 ที่ลงนามโดยอดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จากพรรคเดโมแครต พร้อมทั้งปานามาครอบครองคลองนี้อย่างสมบูรณ์ในปี 1999
ในเรื่องนี้ ประธานาธิบดีปานามา โฮเซ่ ราอูล มูลิโน ตอบโต้ท่าทีของทรัมป์ในวิดีโอว่า “ทุกตารางเมตรของคลองเป็นของปานามาพร้อมทั้งจะเป็นเช่นนั้นต่อไป” แต่ทรัมป์โต้กลับผ่านสื่อสังคมออนไลน์ของตนว่า “เดี๋ยวได้รู้กัน”
ยิ่งไปกว่านั้น เอพีรายงานว่า ทรัมป์เคยแนะให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา พร้อมทั้งเรียกนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ว่า “ผู้ว่าการ” ของ “รัฐแคนาดาอันยิ่งใหญ่”
ในกรณีนี้ นายกฯ แคนาดา เห็นว่าทรัมป์แค่หยอกเล่น แต่ทั้งคู่ได้พบกันเมื่อไม่นานมานี้ที่รัฐฟลอริดา เพื่อหารือเรื่องที่ทรัมป์จะขึ้นกำแพงภาษีกับสินค้านำเข้าจากแคนาดา 25%
สตีเฟน ฟาร์นสเวิร์ธ อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์จาก University of Mary Washington ในรัฐเวอร์จิเนีย บอกว่า ทรัมป์ใช้แนวทางอันก้าวร้าวแบบนักธุรกิจในการหยิกแกมหยอกประเทศที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ พร้อมทั้งมองว่าทั้งกรณีของแคนาดาพร้อมทั้งกรีนแลนด์ ทรัมป์เพียงแค่ต้องการเอาชนะ ไม่ว่าจะในเรื่องการค้า พรมแดน หรือในประเด็นอื่น ๆ กับประเทศพันธมิตร
ที่มา: เอพี