ข่าวด่วนวันนี้
thailandtvhd.com
นทท.รัสเซียแห่เยือนไทยหลังการท่องเที่ยวฟื้นตัว
ข้อมูลเมื่อปี 2019 ช่วงก่อนไวรัสโคโรน่าระบาด มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเยือนไทยที่ 1.48 ล้านคน แต่เฉพาะในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมาไทย 108,985 คน เป็นรองแค่นักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย พร้อมทั้งอินเดีย ที่เดินทางเข้าไทยที่ระดับ 258,873 คน พร้อมทั้ง 145,628 คนตามลำดับ
รอยเตอร์อ้างอิงจากข้อมูลการเดินทางเข้าไทยของนักท่องเที่ยวรัสเซียช่วงเดือนพฤศจิกายน ซึ่งพบว่าปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 44,314 คนในเดือนตุลาคม พร้อมทั้งเพิ่มขึ้นเกือบ 7 เท่าตัวเมื่อเทียบกับ15,900 คนที่มาเยือนไทยช่วงเดือนกันยายนปีนี้
ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมในเอเชียของนักท่องเที่ยวต่างชาติ พร้อมทั้งไทยเริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ด้วยยอดนักท่องเที่ยว 1.75 ล้านคนในเดือนพฤศจิกายน พุ่งขึ้น 4 เท่าตัวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่มาเยือนตลอดทั้งปีที่แล้ว ซึ่งเที่ยวบินระหว่างประเทศยังจำกัดอยู่เพราะการระบาดของไวรัสโคโรน่า-19
เมื่อเดือนกรกฎาคม ไทยปลดล็อคมาตรการคุมไวรัสโคโรน่าสุดเข้มงวดเพื่อหวังฟื้นภาคการท่องเที่ยวที่ทรุดหนัก พร้อมทั้งตั้งแต่เดือนกันยายน ยอดนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดเมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวจากประเทศอื่น ๆ ที่มาเยือนไทย
สำหรับจุดหมายปลายทางยอดนิยมในไทยของนักท่องเที่ยวรัสเซีย คือ ภูเก็ต ซึ่งมีนักท่องเที่ยวรัสเซียไปเยือนราว 1 ใน 4 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติในภูเก็ต เนื่องจากอานิสงส์ของเที่ยวบินตรงจากกรุงเทพไปภูเก็ต ตามการเปิดเผยของนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับทางรอยเตอร์
ในทัศนะของสจ๊วต เรดดิ้ง ผู้บริหาร Laguna Resorts and Hotels เห็นว่า “ปีนี้เราได้เห็นตลาดนักท่องเที่ยวรัสเซียกลับมา โดยเฉพาะหลังจากความขัดแย้งกับยูเครน” พร้อมทั้งประเด็นค่าเงินรูเบิลแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินบาท ช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของชาวรัสเซียในไทยมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น นักท่องเที่ยวรัสเซียยังใช้เวลาอยู่ในไทยมากกว่าชาติอื่น ๆ ในมุมมองของเรดดิ้ง ที่เห็นว่านักท่องเที่ยวรัสเซีย ใช้เวลาพักผ่อนในไทยราว 7-10 วัน ส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่ม “หนีหนาว” จะใช้เวลาอยู่ในไทยนานถึง 3 เดือน ขณะที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลว่าครอบครัวชาวรัสเซียจะใช้เวลาอยู่ในไทยตั้งแต่ 16 วันไปจนถึงสองสามเดือนทีเดียว
ส่วนตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยรวม ททท. คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกิน 11.5 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเกิน 1 ใน 4 ของยอดนักท่องเที่ยว 40 ล้านคนที่เยือนไทยในปี 2019 พร้อมทั้งมีเงินสะพัดจากนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 1.91 ล้านล้านบาท
ที่มา: รอยเตอร์
‘ริชี ซูแน็ก’ ติดโผคำศัพท์ออกเสียงผิดมากที่สุดแห่งปี 2022
การจัดอันดับคำศัพท์ที่ผู้คนอ่านออกเสียงผิดมากที่สุดแห่งปี 2022 โดย U.S. Captioning Company บริษัทที่ดูแลเรื่องการวางข้อความคำบรรยายแบบเรียลไทม์ในรายการโทรทัศน์ ร่วมกับ Babbel แพลตฟอร์มเรียนภาษา ที่มีสำนักงานใหญ่ในมหานครนิวยอร์กของสหรัฐฯ พร้อมทั้งกรุงเบอร์ลินของเยอรมนี ร่วมกันรวบรวมคำศัพท์ที่ผู้ประกาศข่าวพร้อมทั้งผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ยกให้เป็นคำศัพท์ที่ท้าทายทักษะการอ่านออกเสียงต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 7 แล้ว
ในปีนี้ ชื่อของนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ริชี ซูแน็ก (Rishi Sunak) ซึ่งแม้กระทั่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ยังเคยอ่านชื่อผู้นำอังกฤษที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนตุลาคมผิดไปในสุนทรพจน์แสดงความยินดีในการเข้ารับตำแหน่งของนายกฯ อังกฤษ โดยเคยเรียกผิดไปเป็น “ราชีด ซานูค” (Rasheed Sanook) มาแล้ว
อีกคนที่เพิ่งเฉลยการออกเสียงชื่อของตัวเอง คือ ศิลปินหญิงชาวอังกฤษ อะเดล (Adele) ซึ่งเมื่อเดือนตุลาคม เธอได้ออกมาบอกแฟน ๆ ในอเมริกาว่าพวกเขาอ่านชื่อเธอผิดมาตลอด โดยบอกว่าต้อง อะ-เดล (uh-DALE) แบบติดสำเนียงคนลอนดอนหน่อย ๆ
คำศัพท์ที่ท้าทายผู้ประกาศข่าวชาวอเมริกันอีกคำหนึ่ง คือ เอดินบะระ (Edinburgh) ระหว่างช่วงพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา พร้อมทั้งมีคลิปไวรัลที่นักท่องเที่ยวอเมริกันถูกแก้ไขการออกเสียงชื่อเมืองดังบอกว่า เอ-ดิน-บรา (ed-in-BRUH) จนกลายเป็นไวรัลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
อีกเมืองที่ได้รับการพูดถึงบ่อยพร้อมทั้งออกเสียงยาก คือ ซาปอริซห์เชีย (Zaporizhzhia) ที่เป็นทั้งชื่อเมืองพร้อมทั้งชื่อเขตปกครอง อันเป็นพิกัดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทางตะวันออกเฉียงใต้แห่งยูเครน
ถัดมาที่วงการกีฬา ชื่อของโนวัค โยโควิช (Novak Djokovic) ที่เป็นประเด็นจากการถูกส่งตัวออกจากออสเตรเลียพร้อมทั้งไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันเทนนิสออสเตรเลียนโอเพ่นได้ เพราะประเด็นไม่เข้ารับวัคซีนไวรัสโคโรน่า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา นักกีฬาเบสบอลที่คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าเมื่อปี 2021 โชเฮย์ โอทานิ (Shohei Ohtani)
ปิดท้ายที่เครื่องดื่มจากแดนมักโรนีที่กลายเป็นไวรัล จากบทสัมภาษณ์นักแสดงซีรีส์ House of the Dragon ที่พูดถึงเครื่องดื่มสุดโปรด นามว่า Negroni sbagliato (อ่านว่า เน-โกร-นี-สปา-ลี-อา-โต) โดยคลิปสัมภาษณ์ดังกล่าวมีผู้ชมกว่า 14 ล้านครั้ง พร้อมทั้งถูกนำไปทำคลิปไวรัลอื่น ๆ บนแพลตฟอร์ม TikTok ด้วย
เอสตาบัน โทว์มา ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาพร้อมทั้งอาจารย์จาก Babbel บอกว่า ผู้คนมักกังวลเกี่ยวกับการอ่านชื่อภาษาต่างประเทศผิดไปก็จริง แต่การได้เห็นชื่ออ่านยากในข่าว “แสดงให้เห็นถึงหนทางในการสื่อสารกับคนต่างชาติต่างภาษา พร้อมทั้งให้มุมมองถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นบนโลก รวมทั้งวิธีที่ผู้คนเชื่อมต่อกับคนต่างชาติในเวลาเดียวกัน”
ที่มา: เอพี
ฮ่องกงยกเลิกกฎคุมไวรัสโคโรน่าเกือบทั้งหมด ยกเว้นการบังคับสวมหน้ากาก
จอห์น ลี ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า มาตรการทั้งหมดนั้นจะถูกยกเลิกตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป ยกเว้นแต่การบังคับให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากป้องกันต่อไป เนื่องจาก “อัตราการฉีดวัคซีนในเมือง(ฮ่องกง)นั้นค่อนข้างสูงพอจะเป็นด่านต่อต้านการระบาดแล้ว”
ลี ยังกล่าวด้วยว่า “ฮ่องกงมียามากเพียงพอที่จะต่อสู้กับไวรัสโคโรน่า พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต่างก็มีประสบการณ์มากพอที่จะรับมือกับการระบาดใหญ่ด้วย”
นอกจากนั้น ผู้บริหารสูงสุดของเกาะฮ่องกงบอกว่า รัฐบาลของตนตั้งเป้าที่จะเปิดพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่ภายในวันที่ 15 มกราคมหน้า พร้อมทั้งกำลังร่วมทำงานกับหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้กระบวนการดังกล่าวเกิดขึ้นอย่างเป็นระบบระเบียบ
ในส่วนของเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนที่ฮ่องกงบังคับให้ประชาชนต้องแสดงออกมาก่อนเข้าใช้บริการสาธารณะต่าง ๆ ตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้น ก็จะถูกยกเลิกตั้งแต่วันพฤหัสบดี เช่นเดียวกับกฎการรักษาระยะห่างทางสังคมที่ห้ามการรวมกลุ่มของผู้คนในที่สาธารณะไม่เกิน 12 คน
การยกเลิกมาตรการเกือบทุกรายการนี้น่าจะส่งผลให้จำนวนผู้เดินทางเข้ามาฮ่องกงเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ทางการของเกาะแห่งนี้เพิ่งยกเลิกมาตรการติดตามตัวผู้เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศพร้อมทั้งคำสั่งห้ามนักเดินทางเหล่านั้นเข้าไปในพื้นที่บางจุดเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ตามรายงานของรอยเตอร์
ที่มา: รอยเตอร์
การผ่อนคลายมาตรการคุมไวรัสโคโรน่าของจีนทำทั่วโลกกระวนกระวายใจ
เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา จีนประกาศยกเลิกมาตรการบังคับผู้ที่เดินทางเข้าประเทศให้กักตัวเฝ้าระวังอาการ โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 8 มกราคมของปีหน้าเป็นต้นไป โดยมาตรการนี้ถือเป็นเหมือนส่วนสุดท้ายของนโยบายคุมเข้ม “ไวรัสโคโรน่าเป็นศูนย์” พร้อมทั้งทำให้เกิดจุดสิ้นสุดของการดำเนินแผนงานปิดพรมแดนที่เข้มงวดที่สุดแผนหนึ่งในโลกด้วย
ท่าทีดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่งทำให้เกิดความปีติยินดีของประชาชนชาวจีนถ้วนหน้า พร้อมทั้งหลายคนเริ่มทำการจองเที่ยวบินระหว่างประเทศกันอย่างเร่งด่วน ส่งผลให้ราคาตั๋วเครื่องบินพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทันที
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวพบว่า โรงพยาบาลพร้อมทั้งฌาปนสถานทั่วจีนยังคงตกอยู่ในภาวะงานล้นมือโดยเฉพาะจากกลุ่มผู้สูงอายุที่เข้ามาใช้บริการกันอย่างมากมาย
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ในวันพุธ มีผู้ป่วยไวรัสโคโรน่าที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุหลายสิบรายนอนรอการรักษาอยู่ในเปลล้นห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลทั่วเมืองเทียนจิน ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงปักกิ่งราว 140 กิโลเมตร
แพทย์รายหนึ่งบอกกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์นั้น “น่าจะต้อง” ทนทำงานต่อไปแม้จะมีผลการตรวจไวรัสโคโรน่า-19 เป็นบวกก็ตาม
ในเวลาเดียวกัน หลายประเทศแสดงความกังวลเกี่ยวกับความน่าจะเป็นของการพบเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ในช่วงเวลาที่จีนยังคงพยายามรับมือกับการแพร่ระบาดที่พุ่งสูงรุนแรงที่สุดในโลกอยู่
ที่สหรัฐฯ เจ้าหน้าที่รัฐบาลเปิดเผยเมื่อคืนวันอังคารว่า กรุงวอชิงตันกำลังพิจารณาเตรียมดำเนินการจำกัดการเดินทางเข้าประเทศเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรน่า-19 สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากจีน หลังหลายประเทศเช่น ญี่ปุ่น อินเดียพร้อมทั้งมาเลเซียประกาศดำเนินการตรวจการติดเชื้อแบบ PCR สำหรับชาวจีนที่เดินทางเข้าประเทศแล้ว
ในวันพุธ ไต้หวันประกาศว่า จะดำเนินมาตรการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย ส่วนอิตาลีเปิดเผยว่า จะบังคับให้ผู้ที่เดินทางมาจากจีนต้องตรวจ PCR ก่อนเข้าประเทศเช่นกัน
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวในวันพุธว่า “ปัจจุบัน สถานการณ์การระบาดในจีนโดยทั่วไปอยู่ในทิศทางที่พอจะคาดการณ์ได้พร้อมทั้งอยู่ภายใต้การควบคุมแล้ว” พร้อมทั้งพูดเกี่ยวกับรายงานของสื่อตะวันตกเกี่ยวกับภาวระบาดไวรัสโคโรน่าในจีนว่าเป็น “การมีอคติอย่างเต็มตัว” พร้อมบอกว่า “การออกมาพูดเกินจริง การป้ายสีพร้อมทั้งการบีบบังคับทางการเมืองด้วยเจตนาแอบแฝงนั้นไม่สามารถอยู่เหนือความจริงไปได้”
นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2020 ผู้ที่เดินทางเข้าจีนมาจากต่างประเทศต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวเฝ้าระวังอาการของรัฐบาล ทุกคน โดยมีการปรับลดระยะเวลาการแยกตัวจากเดิม 3 สัปดาห์ เป็น 1 สัปดาห์ มาเหลือ 5 วันในเดือนที่แล้ว
สำหรับสถานการณ์การระบาดของจีนที่พุ่งสูงในช่วงนี้เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จีนจะฉลองเทศกาลวันตรุษจีนในเดือนหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่ประชาชนหลายร้อยล้านคนจะเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดทั่วประเทศกัน
ทั้งนี้ ทางการจีนกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ภายใต้ภาวการณ์ระบาดของไวรัสโคโรน่าในปัจจุบัน “เป็นไปไม่ได้แล้ว” ที่จะติดตามพร้อมทั้งชี้ชัดว่า การจบชีวิตของผู้ป่วยรายใดเกิดขึ้นจากโคโรนาไวรัสจริง
ศูนย์ป้องกันพร้อมทั้งควบคุมโรคของจีนรายงานในวันพุธว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า-19 ใหม่ 5,231 คน โดยมีผู้จบชีวิต 3 คน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เชื่อกันว่า ต่ำกว่าความเป็นจริงอย่างมาก เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้บังคับให้ประชาชนต้องรายงานการติดเชื้อของตนต่อทางการแล้ว
ที่มา: เอเอฟพี
รัสเซียปัดตก 10 ข้อเสนอแผนสันติภาพของยูเครน
โฆษกรัฐบาลเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ กล่าวในวันพุธว่า “ไม่มีแผนสันติภาพสำหรับยูเครนที่ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นจริงในวันนี้เกี่ยวกับดินแดนของรัสเซีย กับการเข้ามาของ 4 ภูมิภาคที่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย แผนการที่ว่าไม่ได้รวมเอาความเป็นจริงดังกล่าวไม่สามารถเป็นแผนสันติภาพได้”
รัสเซียประกาศผนวกพื้นที่ใน 4 เขตปกครองของยูเครนเข้ากับรัสเซีย อันได้แก่ เขตปกครองลูอันสก์ ดอแนตสก์ เคอร์ซอน พร้อมทั้งซาปอริซห์เชีย เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม้ว่ารัสเซียจะไม่ได้ควบคุมเขตปกครองทั้ง 4 โดยทั้งหมดก็ตาม เรียกเสียงประณามจากยูเครนพร้อมทั้งชาติตะวันตก
เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ประธานาธิบดีเซเลนสกี แห่งยูเครน ได้ผลักดัน 10 ข้อเสนอแผนสันติภาพ พร้อมทั้งได้หารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำโลกคนอื่น ๆ ให้หยิบข้อเสนอดังกล่าวมาหารือในการจัดการประชุมสุดยอดสันติภาพโลก
ภายใต้ข้อเสนอแผนสันติภาพที่ผู้นำยูเครนเสนอนั้น มีข้อเรียกร้องให้รัสเซียถอนทหารออกจากดินแดนที่ได้รับการยอมรับจากนานาชาติว่าเป็นของยูเครน ซึ่งนั่นหมายความถึงการที่รัสเซียต้องยอมคืนดินแดน 4 เขตปกครองที่อ้างสิทธิผนวกรวมไปในปีนี้ รวมถึงแคว้นไครเมีย ที่รัสเซียควบรวมเป็นส่วนหนึ่งเมื่อปี 2014
ที่ผ่านมา รัฐบาลเครมลิน ย้ำหลายครั้งว่าพร้อมที่จะเปิดการเจรจาสันติภาพกับยูเครน แต่พบว่ายังไม่เห็นความเต็มใจในการเจรจาสันติภาพจากฝั่งรัฐบาลกรุงเคียฟแต่อย่างใด
ที่มา: รอยเตอร์
หมอกทำพิษ รถชนระนาว 200 คันบนสะพานจีน ตาย 1 เจ็บอื้อ
จัดเต็ม รายชื่อ 11 ตัวจริง แมนฯ ซิตี้ บุกฟัด ลีดส์ ยูไนเต็ด ศึกพรีเมียร์ลีกคืนนี้
“สมศักดิ์” เปิดปฏิบัติการปราบยาเสพติดช่วงปีใหม่ ขอทุกคนร่วมแจ้งเบาะแส
ยูเครนเผย รัสเซียยิงขีปนาวุธเข้าใส่เคอร์ซอน
กองบัญชาการเสนาธิการทหารของกองกำลังยูเครนรายงานว่า มีขีปนาวุธ 33 ลูกที่ถูกยิงเข้าใส่เคอร์ซอน ซึ่งฝ่ายยูเครนยึดคืนกลับมาได้หลังฝ่ายรัสเซียถอนทัพออกไปเมื่อเดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ดี รัสเซียออกมาปฏิเสธว่า ตนทำการจู่โจมด้วยการพุ่งเป้าไปยังพลเรือน
นอกจากที่เคอร์ซอนแล้ว กองทัพยูเครนรายงานว่า มีการสู้รบในวันพุธที่รอบ ๆ เมืองบาคห์มุตพร้อมทั้งอีกหลายพื้นที่ในเขตปกครองดอนบาสด้วย
ในการแถลงข่าวประจำวันเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี บอกว่า การประชุมล่าสุดที่กองบัญชาการทหารยูเครน “ได้จัดทำขั้นตอนที่จะมีการดำเนินการต่อไปในอนาคตอันใกล้แล้ว” พร้อมทั้งว่า “เราจะเดินหน้าเตรียมการให้กองกำลังทหารพร้อมทั้งความมั่นคงของยูเครนในปีหน้า นี่จะเป็นปีที่ตัดสินชี้ชะตา เราเข้าใจถึงความเสี่ยงของฤดูหนาว เราเข้าใจดีว่าจะต้องทำอะไรบ้างในฤดูใบไม้ผลิ”
ผู้นำยูเครนกล่าวด้วยว่า ตนได้พูดคุยกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ “เกี่ยวกับการทำงานของระบบการธนาคารพร้อมทั้งความร่วมมือของเรากับไอเอ็มเอฟ เราต้องจัดหาโอกาสเพิ่มขึ้นให้ชาวยูเครนในปีที่จะมาถึงพร้อมทั้งให้การรับรองความแข็งแกร่งของระบบธนาคารพร้อมทั้งการเงินของเรา”
พลเอกเจมส์ โจนส์ นายทหารที่เกษียณไปแล้วพร้อมทั้งเคยดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการกองบัญชาการภูมิภาคยูโรป บอกกับผู้สื่อข่าววีโอเอ แผนกยูเรเซีย เมื่อวันอังคารว่า สองสิ่งจากมุมมองทางทหารที่ได้จากสงครามในยูเครนที่ดำเนินมา 10 เดือนก็คือ กองกำลังยูเครนนั้นมีการฝึกอบรมมาอย่างดี พร้อมทั้งกองกำลังรัสเซียนั้นทำหน้าที่ของตนเองได้แย่มาก
พลเอกโจนส์ ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงให้กับอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวด้วยว่า ตนนั้นมั่นใจว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เชื่อมั่นมากว่า สงครามที่รัสเซียเป็นฝ่ายเริ่มต้นนั้นจะจบลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งน่าจะเป็นสิ่งที่กองทัพรัสเซียแจ้งไปเพราะคิดว่าเป็นสิ่งผู้นำของตนต้องการจะได้ยิน
พร้อมทั้งเมื่อถามถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า พลเอกโจนส์บอกว่า “ยังคงต้องดูกันต่อไป” พร้อมทั้งว่า ตน “หวังว่าทุกอย่างจะเดินหน้ามาถึงบทสรุปเสียที”
ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์ พร้อมทั้งเอเอฟพี