ไบเดนเผยความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนชุดใหม่ 425 ล้านดอลลาร์

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน หารือทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี ในวันพุธ พร้อมทั้งได้ระบุถึงความช่วยเหลือทางทหารชุดใหม่แก่ยูเครน เพื่อใช้รับมือการรุกรานของรัสเซีย 

ความช่วยเหลือทางทหารมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์ จะรวมถึงการเสริมระบบการป้องกันตนเองทางอากาศของยูเครน ตลอดจนกระสุนสำหรับการจู่โจมทางอากาศ ยานพาหนะหุ้มเกราะ พร้อมทั้งอาวุธอื่น ๆ ที่จำเป็นสำหรับกองทัพยูเครน

สหรัฐฯ มีกำหนดจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ทางการทหารให้แก่ยูเครนในช่วงไม่กี่เดือนจากนี้ รวมทั้งปืนสกัดการจู่โจมทางอากาศหลายร้อยชุด ระบบป้องกันตนเองเชิงยุทธศาสตร์หลายสิบชุด ระบบปืนใหญ่เพิ่มเติม พร้อมทั้งยานพาหนะหุ้มเกราะหลายร้อยคัน

โดยประธานาธิบดีไบเดนจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทางไกลร่วมกับกลุ่มพันธมิตรที่ร่วมปกป้องยูเครนในเดือนหน้า เพื่อร่วมจัดหาความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้แก่ยูเครน

ข้อมูลบางส่วนจากรอยเตอร์

จีนกร้าว! เดินหน้าความพร้อมใช้กำลังทหารกับไต้หวัน

รัฐบาลกรุงปักกิ่งประกาศในวันพุธว่า จีนจะไม่ยอมละทิ้งแผนการใช้กำลังทหารกับไต้หวันเป็นอันขาด ขณะที่ กองทัพจีนเดินหน้าทำการซ้อมรบรอบใหม่ โดยมีประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางไปเยี่ยมชมปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ด้วย ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติรอยเตอร์

จีนเริ่มการฝึกซ้อมรบครั้งใหญ่รอบใหม่ใกล้ ๆ ไต้หวันตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ โดยบอกว่า ปฏิบัติการนี้คือ คำเตือนสำหรับ “พฤติกรรมแบ่งแยกดินแดน” ที่เป็นการตอบโต้สุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไล่ ชิง-เต๋อ ในวันชาติไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปธน.ไล่ บอกว่า จีนไม่มีสิทธิ์ที่จะมาอ้างเป็นตัวแทนไต้หวัน แต่รัฐบาลไทเปยินดีที่จะทำงานร่วมกับกรุงปักกิ่งในการต่อสู้กับความท้าทายต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โดยคำพูดนี้นำเสนอจุดยืนที่ทั้งแข็งกร้าวพร้อมทั้งประนีประนอมต่อจีน พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ไต้หวันก็บอกว่า คำปราศรัยของไล่นั้นเป็นการแสดงออกถึงไมตรีจิตแล้ว

แต่เฉิน ปินหัว โฆษกของสำนักงานกิจการด้านไต้หวันของจีน บอกว่า สิ่งที่ไล่พูดนั้นแสดงให้เห็นถึง “จุดยืนของความดื้อดึงในการการแบ่งแยกดินแดน” พร้อมทั้งไม่ใช่ “ไมตรีจิตแต่อย่างใด”

เฉินกล่าวในงานแถลงข่าวในกรุงปักกิ่งว่า “เรายินดีที่จะสู้เพื่อโอกาสของการรวมชาติอย่างสันติ ด้วยความจริงใจพร้อมทั้งความมานะอุตสาหะอันเต็มที่” พร้อมทั้งว่า “แต่เราจะไม่มีทางสละวิธีการใช้กำลังเป็นอันขาด”

เฉินกล่าวด้วยว่า การใช้กำลังที่ว่าคือการพุ่งเป้าขจัดความพยายามแทรกแซงของ “กำลังจากภายนอก” พร้อมทั้งพวกแบ่งแยกดินแดนไต้หวันกลุ่มเล็ก ๆ แต่ไม่ใช่ต่อคนส่วนใหญ่ของไต้หวัน

ทั้งนี้ ไต้หวันมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอย่างไม่เป็นทางการกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้จัดส่งอาวุธรายใหญ่ของกรุงไทเป รวมทั้งกลับพันธมิตรอื่น ๆ ของสหรัฐฯ ด้วย

โฆษกของสำนักงานกิจการด้านไต้หวันของจีนกล่าวเสริมว่า ไม่ว่าไต้หวันจะมีกำลังทัพพร้อมทั้งอาวุธมากมายเพียงใด หรือมีกำลังจากภายนอกเข้ามาแทรกแซงหรือไม่ ถ้าไต้หวัน “กล้าที่จะเสี่ยง นั่นก็จะนำไปสู่การทำลายตนเอง” พร้อมทั้งว่า “การทำการต่าง ๆ ของเราเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติพร้อมทั้งบูรณภาพแห่งดินแดนจะไม่หยุดลงในเวลานี้”

สื่อรัฐบาลจีนรายงานในวันพุธด้วยว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เดินทางมายังเกาะตงซาน ในมณฑลฝูเจี้ยน ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร โดยเกาะดังกล่าวนั้นตั้งอยู่ในจุดที่เผชิญหน้ากับไต้หวันพร้อมทั้งเป็นจุดที่กองทัพจีนเคยเอาชนะกองทัพไต้หวันที่พยายามบุกแผ่นดินใหญ่ในปี 1953 ได้สำเร็จ

สื่อ People’s Daily รายงานว่า ปธน.สีเดินทางไปยังเกาะตงซานเพื่อรับฟังรายงานเกี่ยวกับการดำเนินการปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ชนบทนี้ รวมทั้ง “การส่งต่อยีนสีแดง (สีของพรรคคอมมิวนิสต์) พร้อมทั้งการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับการปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม”

ในเวลาเดียวกัน ไช่ หมิง-เหยิน อธิบดีสำนักความมั่นคงแห่งชาติไต้หวัน ได้บอกกล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันพุธว่า การซ้อมรบของจีนส่งผลตรงกันข้ามกับที่ตั้งใจไว้ เพราะแผนงานดังกล่าวทำให้เกิดเสียงประณามจากนานาชาติ ซึ่งรวมถึงกรุงวอชิงตัน พร้อมทั้ง “ทำให้ประชาคมโลกยิ่งสนับสนุนไต้หวันมากขึ้นไปอีก”

 

 

ที่มา: รอยเตอร์

แพทย์อเมริกันเตือน ‘โรคเครียดจากเลือกตั้ง’ ก่อนวันเข้าคูหา

แพทย์อเมริกันเตือนว่า ในขณะที่วันเลือกตั้งกำลังใกล้เข้ามา ระดับความเครียดของประชาชนจำนวนมากกำลังเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นผลจากการเสพข่าวสาร การถกเถียงเรื่องการเมือง พร้อมทั้งความกังวลต่ออนาคตของประเทศ โดยไม่เกี่ยวว่าคน ๆ นั้นเลือกพรรคไหน ซึ่งแพทย์เรียกอาการนี้ว่า ‘โรคเครียดจากเลือกตั้ง’  

สมาคมจิตเวชอเมริกัน (American Psychiatric Association) บอกว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ กำลังก่อให้เกิดความกังวลต่อชาวอเมริกันเกือบ 3 ใน 4 ในการสำรวจครั้งล่าสุด

ลินน์ บัฟกา แห่งสมาคมจิตเวชอเมริกัน บอกว่า “บรรยากาศการเลือกตั้งพร้อมทั้งการถกเถียงทางการเมืองมีความร้อนแรงขึ้นพร้อมทั้งเกิดความเห็นที่แตกต่างมากขึ้น ทำให้เราเกิดความสงสัยว่าเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อปัจเจาบุคคลหรือไม่ พร้อมทั้งผลจากการสอบถามประสบการณ์ของกลุ่มตัวอย่างก็พบว่ามีจริง ๆ ซึ่งนั่นคือสาเหตุสำคัญของความเครียดของแต่ละคน โดยผลการวิจัยอื่น ๆ ก็พบผลลัพธ์คล้าย ๆ กัน” 

‘โรคเครียดจากเลือกตั้ง’ สามารถส่งผลกระทบหลายอย่าง ตั้งแต่เรื่องงานจนถึงเรื่องส่วนตัว

เควิน สมิธ อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐเนบราสกา (University of Nebraska) บอกว่า “ราว 20-25% ของคนอเมริกันระบุถึงปัญหาความสัมพันธ์ทางสังคมกับคนรอบข้าง รวมถึงปัญหาในที่ทำงานเนื่องจากความเห็นทางการเมือง” 

งานวิจัยของอาจารย์สมิธชี้ให้เห็นว่า คนหนุ่มสาว รวมทั้งคนที่มีแนวคิดเสรีนิยมพร้อมทั้งคนที่ตื่นตัวทางการเมือง มีแนวโน้มที่จะเกิดความเครียดจากการเลือกตั้งมากกว่ากลุ่มอื่น ๆ

นักวิชาการผู้นี้ชี้ว่า เราต่างทราบกันดีว่าการหลีกเลี่ยงอาการเครียดนี้คือลดความสนใจทางการเมืองลง แต่นั่นก็อาจไม่เป็นผลดีต่อสังคมโดยรวมก็เป็นได้ 

ด้านนายแพทย์คีแรน ดินตยาลา ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความเครียด หรือที่รู้จักกันในชื่อ ดร.คาล์ม (Dr Calm) ผู้เขียนหนังสือชื่อ ‘The Mantra of Peaceful Politics’ หรือ “มนตราแห่งการเมืองสันติ” แนะนำถึงวิธีหลีกเลี่ยงความเครียดในช่วงก่อนวันเลือกตั้ง

ดร.คาล์ม บอกว่า “การเลือกตั้งพร้อมทั้งนักการเมืองนั้นมาแล้วก็ไป อย่างมากก็อาจเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนได้เพียง 10%  20% หรือ 30% แต่อนาคตพร้อมทั้งความสุขส่วนใหญ่ของเราทุกคนนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน รวมทั้งพฤติกรรมพร้อมทั้งอารมณ์ความรู้สึกของเรา”

 

ขณะที่ ลินน์ บัฟกา แห่งสมาคมจิตเวชอเมริกัน แนะวิธีเลี่ยงอาการป่วยจากความเครียดทางการเมือง คือการพยายามควบคุมการรับข้อมูลข่าวสารของคุณ หรือหากิจกรรมอื่นที่นอกเหนือไปจากการเลื่อนหน้าจออ่านข่าวการเมือง

“การเปิดรับข้อมูลด้านลบ รวมทั้งภาพหรือข้อความด้านลบอย่างต่อเนื่อง จะยิ่งส่งผลให้เกิดความรู้สึกในทางลบพร้อมทั้งความเครียกมากขึ้น สิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อควบคุมเรื่องนี้คือการสนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่มีประโยชน์ ไม่ว่าจะเกี่ยวกับการเลือกตั้ง หรือประเด็นทางสังคม หรือเรื่องอื่น ๆ ที่สำคัญกับคุณ” ผู้เชี่ยวชาญผู้นี้กล่าว 

สมาคมจิตเวชอเมริกัน เน้นย้ำว่า เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรักษาความสัมพันธ์ทางสังคมพร้อมทั้งความสงบเยือกเย็นเอาไว้ในช่วงเวลานี้ รวมทั้งใช้เวลากับคนใกล้ชิดมากขึ้น มีไลฟ์สไตล์ที่ดี รับประทานอาหารมีประโยชน์ พร้อมทั้งนอนหลับให้เพียงพอ ล้วนช่วยลดความเครียดในช่วงก่อนการเลือกตั้งนี้ได้

ที่มา: วีโอเอ

‘สี จิ้นผิง’ เผย จีนยินดีเป็นหุ้นส่วน-มิตรกับสหรัฐฯ

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บอกว่า ความสำเร็จในการเป็นหุ้นส่วนของจีนพร้อมทั้งสหรัฐฯ คือ โอกาสที่ทั้งสองประเทศจะเป็นผู้ผลักดันพัฒนาการแทนที่จะเป็นอุปสรรคของกันพร้อมทั้งกัน ตามการรายงานของสื่อรัฐบาลจีนในวันพุธ

สื่อ CCTV ของรัฐบาลกรุงปักกิ่งรายงานว่า ปธน.สีระบุในสุนทรพจน์ที่เป็นจดหมายสำหรับงานเลี้ยงอาหารเย็นเพื่อฉลองการมอบรางวัลประจำปี 2024 ของคณะกรรมาธิการแห่งชาติความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน (National Committee on U.S.-China Relations) ว่า “จีนยินดีที่จะเป็นหุ้นส่วนพร้อมทั้งเพื่อนกับสหรัฐอเมริกา นี่จะเป็นประโยชน์ไม่ได้แค่ทั้งสองประเทศพร้อมทั้งสำหรับโลกทั้งโลก”

สียังกล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์จีนพร้อมทั้งสหรัฐฯ นั้นเป็นหนึ่งความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีที่สำคัญที่สุดในโลกซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตพร้อมทั้งชะตากรรมของมนุษยชาติด้วย อ้างอิงจากเนื้อความในจดหมายสุนทรพจน์นี้

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ พร้อมทั้งจีนมีปัญหาระหว่างกันในหลายประเด็น ตั้งแต่กรณีความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ พร้อมทั้งกรณีพิพาทด้านการค้า ไปจนถึงการกระทำต่าง ๆ ของจีนในทะเลจีนใต้พร้อมทั้งเรื่องการเดินหน้าซ้อมรบรอบ ๆ ไต้หวัน

ความสัมพันธ์ทางการค้าของสองประเทศมีปัญหาในช่วงที่ผ่านมา โดยมีประเด็นหลัก ๆ ในเรื่องมาตรการจำกัดสำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าพร้อมทั้งเซมิคอนดักเตอร์ล้ำสมัย

“จีนจัดการความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ตามหลักการของการเคารพกันพร้อมทั้งกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติพร้อมทั้งความร่วมมือที่ทุกฝ่ายต่างได้ผลประโยชน์ (win-win) พร้อมทั้งเชื่อมาตลอดว่า ความสำเร็จของจีนพร้อมทั้งสหรัฐอเมริกาคือโอกาสของกันพร้อมทั้งกัน” ปธน.สีกล่าว

 

 

ที่มา: รอยเตอร์

 

 

เซเลนสกีเรียกร้องให้นาโต้เชิญยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกอย่างไม่มีเงื่อนไข

ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกีกล่าวต่อสภายูเครน ว่าเขาเตรียมที่จะผลักดันให้ประเทศเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาเเอตเเลนติกเหนือ หรือนาโต้ ภายใต้ “แผนเเห่งชัยชนะ”

เขามีกำหนดพบกับรัฐมนตรีกลาโหมหลายประเทศตะวันตกที่เป็นพันธมิตรที่กรุงบรัสเซลส์ในวันพฤหัสบดี

ถ้าหากว่า เลขาธิการใหญ่นาโต้ มาร์ค รุตเทอร์ บอกว่ายังคงมีประเด็น “ที่ยาก” รออยู่ก่อนที่ยูเครนจะเข้าร่วมกลุ่ม

เซเลนสกีมีถ้อยเเถลงดังกล่าวเมื่อเขาให้ข้อมูลต่อสภาถึง “แผนเเห่งชัยชนะ” ในการยุติการบุกยูเครนของรัสเซียที่ดำเนินมา 32 เดือนเเล้ว

เขาเรียกร้องให้มีการเชิญยูเครนเข้าร่วมนาโต้โดยไม่มีเงื่อนไข พร้อมทั้งให้เกิดการป้องปรามที่ไม่ใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อยับยั้งความก้าวร้าวของรัสเซีย

“ไม่ว่า (ปูติน) ต้องการอะไร เราต้องเปลี่ยนสถานการณ์ทั้งหมด เพื่อว่ารัสเซียจะได้ถูกบังคับให้ดำเนินแนวทางสันติภาพ” เซเลนสกีกล่าว พร้อมทั้งระบุถึงความสำคัญกับการร่วมมือกับประเทศหุ้นส่วนเพื่อให้เกิดผลตามเป้าหมาย

เเม้รุตเทอร์บอกว่า ถึงอย่างไรยูเครนจะได้เป็นสมาชิกนาโต้ แต่ความเป็นสมาชิกจะเกิดขึ้นเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม

รุตเทอร์บอกด้วยว่า ตนยังไม่สามารถให้คำมั่นในการสนับสนุนทุกข้อมูลของ “แผนแห่งชัยชนะ” ของเซเลนสกีได้

เซเลนสกี เคยเรียกร้องหลายครั้งให้รัสเซียถอนทหารออกจากยูเครน เเละกลับมายอมรับเขตเเดนก่อนที่รัสเซีบบุกเเคว้นไครเมียเมื่อ 10 ปีก่อน แต่ทางการมอสโกไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว

ภายใต้ “แผนแห่งชัยชนะ” เซเลนสกียังได้เสนอให้พันธมิตรยูเครนประกาศคำสัญญาที่จะสนับสนุนการฟื้นฟูประเทศของเขา พร้อมทั้งช่วยปกป้องแหล่งเเร่ที่เป็นทรัพยากรธรรมชาติของยูเครน

ทางการรัสเซียกล่าวผ่านมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ว่าแนวทางต่าง ๆ ใน “แผนแห่งชัยชนะ ของเซเลนสกี เสี่ยงที่จะทำให้รัสเซียพร้อมทั้งนาโต้มีความขัดเเย้งกันโดยตรง”

ในเวลาเดียวกันเลขาธิการใหญ่นาโต้ มาร์ค รุตเทอร์ ไม่ได้ตอบตรง ๆ ว่าเขาคิดอย่างไรต่อการเรียกร้องของเซเลนสกี ที่ว่ายูเครนต้องได้รับเชิญเข้านาโต้อย่างไม่มีเงื่อนไข

รุตเทอร์เพียงเเต่บอกว่าพันธมิตรนาโต้พร้อมทั้งยูเครนจะพิจารณาร่วมกันว่าจะเดินหน้าต่อไปอย่างไรจากนี้

ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์พร้อมทั้งเอเอฟพี

จิมมี คาร์เตอร์ ร่วมลงคะแนนเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ล่วงหน้าในวัย 100 ปี

หลังฉลองครบรอบอายุ 100 ปีได้เพียง 15 วัน อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ได้ร่วมลงคะแนนล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพุธ ซึ่งเป็นการทำตามปณิธานที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะอยู่ให้นานพอที่จะได้กาบัตรเลือก คามาลา แฮร์ริส ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี

ประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯ “ทำการลงคะแนนทางไปรษณีย์” ตามข้อมูลจากศูนย์ Carter Center ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่อดีตปธน.ผู้นี้ก่อตั้งขึ้นหลังหมดวาระจากทำเนียบขาวในปี 1981 เพื่อดำเนินตามวิสัยทัศน์ของการส่งเสริมการทูตระหว่างประเทศ

รายงานข่าวพบว่า คาร์เตอร์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (hospice) ในรัฐจอร์เจียซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิด

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาร์เตอร์บอกกับสมาชิกในครอบครัวว่า การมีชีวิตอยู่นานพอที่จะได้ลงคะแนนเสียงให้แฮร์ริสพร้อมทั้งช่วยให้พรรคเดโมแครตสามารถเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันได้ คือสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าการมีอายุครบ 100 ปีเสียอีก อ้างอิงรายงานจากหนังสือพิมพ์ Atlanta Journal-Constitution

แต่ในวันนี้ อดีตปธน.สหรัฐฯ ผู้นี้ก็ได้บรรลุหลักชัยทั้งสองแล้ว

แกเบรียล สเตอร์ลิง เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย โพสต์ข้อมูลผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้า ณ เที่ยงวันพุธตามเวลาท้องถิ่นที่พบว่า มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วกว่า 42,000 คน นับตั้งแต่ทางรัฐเปิดให้ผู้มีสิทธิ์ทำการดังกล่าวได้ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร

คาร์เตอร์ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำทำเนียบขาวเพียง 1 วาระได้ใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในเมืองเพลนส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนในจอร์เจียมาตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว

 

 

ที่มา: เอเอฟพี

 

อิสราเอลจู่โจมทางใต้ของเลบานอน – จบชีวิต 16 ราย

การจู่โจมทางอากาศของอิสราเอลที่เมืองใหญ่ทางใต้ของเลบานอนวันวันพุธ ทำให้มีผู้จบชีวิต 16 ราย ซึ่งรวมถึงนายกเทศมนตรีของเมืองพร้อมทั้งยังมีผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน

รอยเตอร์รายงานว่าปฏิบัติการนี้ ที่เมืองนาบาทายห์ เป็นการจู่โจมครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอลต่อรัฐเลบานอนตั้งเเต่ที่กองทัพเทลอาวีฟเริ่มรุกทางอากาศ

เจ้าหน้าที่เลบานอนประณามการกระทำของอิสราเอล พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าเป็นการขยายการจู่โจมกลุ่มเฮซบอลลาห์ มาเป็นการพุ่งเป้ามาที่รัฐเลบานอน

นายกฯ รักษาการของเลบานอน นาจิบ มิคาติ บอกว่า อิสราเอลจงใจที่จะพุ่งเป้ามาที่การประชุมของหน่วยงานท้องถิ่น ที่มีหน้าที่ช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชนผู้พลัดถิ่นซึ่งเป็นผลมาจากปฏิบัติการของอิสราเอลเช่นกัน

กองทัพเทลอาวีฟบอกว่าการจู่โจมใส่เมืองนี้ในวันพุธ พุ่งเป้าที่ที่สถานที่ตังของเฮซบอลลาห์

รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลโยอาฟ กัลเเลนต์ กล่าวขณะเยือนชายเเดนทางเหนือว่า กองทัพของเขาจะไม่หยุดการจู่โจมเฮซบอลลาห์ เพื่อให้เกิดการเจรจา

อิสราเอลเริ่มจู่โจมทางบกพร้อมทั้งทางอากาศในเลบานอนเพื่อจัดการกลุ่มเฮซบอลลาห์ หลังจากกลุ่มดังกล่าวที่มีอิหร่านหนุนหลังยิงเข้ามาในดินเเดนอิสราเอลมาเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเเสดงจุดยืนร่วมกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ในกาซ่า

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้สังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฮซบอลลาห์ พร้อมทั้งเดินหน้าบุกแนวชายเเดน โดยพบว่าต้องการทำให้พื้นที่ปลอดภัยต่อชาวอิสราเอลหลายหมื่นคน ในการกลับมาที่บ้านของพวกเขา ซึ่งอยู่ตอนเหนือของอิสราเอล

ประชาชนเหล่านี้ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนทางตอนเหนือ เพราะบริเวณดังกล่าวถูกเฮซบอลลาห์ยิงใส่

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. อิสราเอลออกคำเตือนให้ประชาชนที่เมืองนาบาทายห์อพยพอออกจากพื้นที่ แต่นายกเทศมนตรี อะห์เหม็ด คาฮิล ปฏิเสธที่จะทำตาม

ที่มา: รอยเตอร์

เกาหลีเหนือเปิดตัวเลข คนรุ่นใหม่ 1.4 ล้าน แห่สมัครร่วมกองทัพ

SEOUL, South Korea — สื่อทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานวันพุธว่า คนรุ่นใหม่ประมาณ 1.4 ล้านคนได้สมัครขอร่วมงานกับหน่วยงานกลาโหมต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีบางส่วนเคยสังกัดกองทัพมาก่อน 

ในเวลาเดียวกัน สื่อแห่งนี้กล่าวหาเกาหลีใต้ว่า การส่งโดรนเข้ามายังเกาหลีเหนือได้ทำให้ “สถานการณ์ตึงเครียดเข้าใกล้สงคราม”

แต่ที่ผ่านมารัฐบาลโซลปฏิเสธที่จะบอกว่าฝ่ายทหารหรือพลเรือนของตนส่งโดรนที่รัฐบาลเปียงยางอ้างเข้าไปในเกาหลีเหนือ

KCNA  บอกว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้มุ่งมั่นที่จะต่อสู้ “ในสงครามอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อการทำลายล้างศัตรู”

ภาพประกอบข่าวดังกล่าวเเสดงให้เห็นว่ามีคนหนุ่มสาวพากันลงชื่อ ณ ​สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าตั้งอยู่ที่ใด

การอ้างของรัฐบาลเปียงยางในครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลีทวีขึ้นอย่างชัดเจน

ก่อนหน้านี้เมื่อเกิดบรรยากาศความขัดเเย้งของโสมเเดงพร้อมทั้งโสมขาว เกาหลีเหนือก็มักจะออกมาประกาศการเข้าร่วมกองทัพของคนรุ่นใหม่เช่นกัน

เมื่อปีที่เเล้วสื่อของรัฐบาลเปียงยางพบว่ามีประชาชน 8 แสนคนอาสาเข้าร่วมกองทัพเพื่อต่อสู้กับสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ เมื่อ 7 ปีก่อน สื่อทางการรายงานว่าแรงงาน ตลอดจนสมาชิกพรรคพร้อมทั้งอดีตทหาร รวมกัน 3.5 ล้านคน ขอร่วมงานกองทัพ 

รอยเตอร์รายงานว่าเป็นเรื่องยากที่จะยืนยันความถูกต้องของการอ้างเหล่านี้โดยเกาหลีเหนือ

ข้อมูลจากสถาบัน International Institute for Strategic Studies หรือ IISS ชี้ว่าเกาหลีเหนือ มีทหารอยู่ในกองทัพจำนวน 1.28 ล้านคนพร้อมทั้งยังทีทหารกำลังสำรองอีก 600,000 คน

IISS บอกด้วยว่าโสมเเดง ยังมีกลุ่มต่าง ๆ ที่เป็นกำลังสำรองภายใต้หน่วย เเรงงานพร้อมทั้งชาวนา ที่ชื่อว่า Worker/Peasant Red Guard จำนวน 5.7 ล้านคน แต่หลายกลุ่มไม่ได้ติดอาวุธ

ล่าสุดเมื่อวันอังคาร เกาหลีเหนือระเบิดบางส่วนของถนนพร้อมทั้งทางรถไฟที่เชื่อมสองเกาหลีในฝั่งของตนเป็นเหตุให้เกาหลีใต้ยิงเตือนหลายนัด

เมื่อสัปดาห์ที่เเล้วรัฐบาลเปียงยางบอกว่าจะตัดขาดเส้นทางที่เป็นถนนเละรถไฟระหว่างสองเกาหลีทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่เกาหลีเหนือต้องการแบ่งแยกตนเองกับเกาหลีใต้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งล้มเลิกความพยายามรวมประเทศที่มีมานาน

ในทางเทคนิคเกาหลีเหนือพร้อมทั้งเกาหลีไต้ยังอยู่ในสถานการณ์สงครามหลังสงครามเกาหลีปี 1950-53 เนื่องจากยังไม่ได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพกัน

สื่อ KCNA บอกว่าถ้าเกิดสงครามขึ้น เกาหลีใต้จะ “ถูกลบออกจากแผนที่”

เมื่อวันอาทิตย์ กระทรวงกลาโหมของรัฐบาลโซลเตือนว่าถ้าเกาหลีเหนือทำอันตรายต่อประชาชนเกาหลีใต้ “วันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายของระบอบเกาหลีเหนือ” ตามรายงานของสื่อยอนฮับ

ที่มา: รอยเตอร์

คุมตัว “บอสพอล” ไปสอบสวนกลาง เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ

เปิดนาที ตำรวจ ปคบ. นำหมายจับ เข้ารวบ “บอสพอล” ขณะเข้าชี้แจง สคบ. คุมตัวไปสอบสวนกลาง เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ

“นฤมล” ร่วมแถลงปิดประชุม FAO ชวนต่างประเทศลงทุนภาคเกษตรไทย

“รมว.นฤมล” ร่วมกล่าวเปิดการประชุม Hand-in-Hand Investment Forum บนเวที FAO ชวนลงทุนภาคเกษตรไทย เพื่อสร้างระบบอาหารพร้อมทั้งเกษตรโลกยั่งยืน