ข่าวด่วนวันนี้
thailandtvhd.com
PSV ตกลงไหม? แมนยูฯ พร้อมยื่นแค่ 2 พันล้านบาทคว้า “กัคโป” ร่วมทัพ มกรานี้
สื่อคาดปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทำไร้เปาอังกฤษ เป่านัดชิงฟุตบอลโลก 2022
รมว.อว. ยันอีก 6 ปี ได้เห็น “อวกาศไทย” บินโคจรรอบดวงจันทร์แน่
แตกหักอีกแล้วเหรอ? “เบนเซมา” โพสต์ภาพพร้อมแคปชั่้น 3 คำคาดถึงทีมชาติฝรั่งเศส ในบอลโลก
ญี่ปุ่นเปิดแผนติดเขี้ยวเล็บทางกลาโหม ครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
ภายใต้แผนดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามทั้งจากในภูมิภาคเอเชียพร้อมทั้งการรุกรานยูเครนโดยรัสเซีย ญี่ปุ่นจะซื้อขีปนาวุธที่สามารถยิงไปถึงจีน พร้อมทั้งเตรียมพร้อมหาเกิดความขัดแย้งที่กินเวลายืดเยื้อ
แผนเพิ่มความเข็งแกร่งทางทหารที่จะกินเวลา 5 ปีนี้ ที่จะทำให้ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่จัดงบประมาณกลาโหมมูลค่าสูงสุดอันดับสามของโลก มีนัยสำคัญตรงที่ตามประวัติศาสตร์หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ญี่ปุ่นมีนโยบายไม่ฝักใฝ่การใช้สงครามในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง
ประเทศที่ใช้งบประมาณด้านกลาโหมมากที่สุดสองอันดับแรกคือสหรัฐฯ ตามมาด้วยจีน
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ บอกว่าประเทศญี่ปุ่นพร้อมทั้งชาวแดนอาทิตย์อุทัย กำลังอยู่ ณ จุดเปลี่ยนของประวัติศาสตร์ เขาบอกว่าแผนเพิ่มศักยภาพทางทหารนี้ “คือคำตอบของข้าพเจ้าต่อสิ่งท้าทายมากมายด้านความมั่นคงที่เรากำลังเผชิญอยู่”
รัฐบาลของคิชิดะ กังวลว่า รัสเซียกำลังสร้างตัวอย่างที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ เช่น การที่จีนอาจรุกรานไต้หวัน ซึ่งกรณีดังกล่าวจะเป็นภัยคุกคามต่อเกาะในญี่ปุ่นพร้อมทั้งสายการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของโลก พร้อมทั้งระบบข่นส่งน้ำมันจากตะวันออกกลางมายังภูมิภาคนี้ของโลก
เอกสารที่ระบุยุทธศาสตร์ทางกลาโหมของญี่ปุ่นในครั้งนี้พบว่า “การรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการละเมิดกฎหมายที่ห้ามกำลังอย่างร้ายแรง พร้อมทั้งสั่นสะเทือนฐานรากของระเบียบระหว่างประเทศ”
“ความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่มาจากจีน เป็นความท้าทายที่สำคัญที่สุดต่อญี่ปุ่น” เอกสารฉบับดังกล่าวระบุ พร้อมทั้งชี้ด้วยว่า รัฐบาลจีนมีโอกาสใช้กำลังทหารเพื่อให้ไต้หวันเข้ามาอยู่ใต้การควบคุมด้วยวิธีบังคับ”
ในเอกสารด้านยุทธศาสตร์กลาโหมอีกฉบับหนึ่งของญี่ปุ่น ระบุถึงจีน รัสเซีย พร้อมทั้งเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งว่าญี่ปุ่นจะประสานงานอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐฯ พร้อมทั้งชาติที่มีมุมมองเดียวกัน เพื่อป้องปรามภัยคุกคามต่าง ๆ
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำญี่ปุ่น ราห์ม เอ็มมานูเอล กล่าวในแถลงการณ์ว่า “นายกรัฐมนตรี (คิชิดะ) แสดงให้เห็นในสารที่ส่งออกมา อย่างกระจ่างถึงบทบาทของญี่ปุ่นในฐานะผู้สร้างความมั่นคงให้กับภูมิภาคอินโดแปซิฟิก”
ส่วนประธานาธิบดีไต้หวัน ไช่ อิงเหวิน กล่าวขณะหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของญี่ปุ่น ว่าเธอคาดหวังที่จะมีความร่วมมือทางกลาโหมมากขึ้นกับญี่ปุ่น
ขณะนี้จีนมีงบประมาณทางทหารคิดเป็นสี่เท่าของญี่ปุ่น หลังจากที่ใช้จ่ายด้านอาวุธยุทโธปกรณ์มากกว่าญี่ปุ่นตั้งแต่เข้าสู่ศตวรรษที่ 21
ในการเพิ่มศักยภาพทางทหารของญี่ปุ่น รัฐบาลจะจัดสรรงบคิดเป็นร้อยละ 2 ของขนาดเศรษฐกิจของประเทศในช่วง 5 ปีจากนี้ โดยเดิมทีญี่ปุ่นจำกัดงบการทหารของตนเองอยู่ที่ร้อยละ 1 ของขนาดเศรษฐกิจมากตั้งแต่ 46 ปีก่อน
นอกจากขีปนาวุธแล้วญี่ปุ่นต้องการเพิ่มจำนวนอะไหล่ต่างๆ พร้อมทั้งอาวุธประเภทระเบิด กระสุนพร้อมทั้งปืน ไปจนถึงโดรนสอดแนม อุปกรณ์ที่ใช้สื่อสารผ่านดาวเทียม เรือดำน้ำ เรือรบ เครื่องบินรบล่องหน เอฟ-35 ของบริษัทล็อคฮีดมาร์ติน พร้อมทั้งเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่
ที่มา: รอยเตอร์
รัสเซียจู่โจมยูเครนหนัก – กระหน่ำเคียฟพร้อมทั้งอีกหลายเมือง
ประชาชนจำนวนมากเข้าหลบในสถานีรถไฟใต้ดิน ซึ่งไม่มีรถให้บริการ
ผู้สื่อข่าววีโอเอ แอนนา เชอร์นิโควา รายงานจากเคียฟว่า แรงระเบิดทำให้ตึกอพาร์ตเมนต์ที่เธออาศัยอยู่สั่นสะเทือนพร้อมทั้งระบบไฟฟ้าพร้อมทั้งน้ำประปาเกิดปัญหาในเวลาต่อมา
นอกจากเคียฟแล้วเสียงระเบิดพร้อมทั้งการถูกจู่โจมยังเกิดขึ้นที่คาร์คิฟ ซาปอริซห์เชีย ดนิโปรเปโตรฟสก์ ดอแนตสก์ รวมถึงครีวิริห์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดียูเครนโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี
ที่เมืองริห์ มีผู้จบชีวิต 2 ราย พร้อมทั้งบาดเจ็บอีก 8 คน รวมถึงเด็ก ๆ ขณะที่ยังไม่มีการยืนยันตัวเลขสรุปสำหรับจำนวนผู้บาดเจ็บพร้อมทั้งจบชีวิต
รัฐบาลมอสโกบอกว่าการจู่โจมระบบพื้นฐานของยูเครนเป็นเรื่องที่ชอบธรรมทางทหาร แต่ยูเครนบอกว่ารัสเซียตั้งใจสร้างทุกข์เข็ญต่อประชาชน พร้อมทั้งการกระทำดังกล่าวเป็นอาชญากรรมสงคราม
ในวันพฤหัสบดี รัสเซียเตือนสหรัฐฯว่า ถ้าอเมริกาส่งขีปนาวุธแพทริออตอันล้ำสมัยให้กับยูเครน รัสเซียจะถือว่าเป็นการกระทำที่ “ยั่วยุ” ซึ่งอาจทำให้รัสเซียต้องตอบโต้กลับ
ถ้าหากว่าโฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย มาเรีย ซาคาโรวา ไม่ได้ให้ข้อมูลว่ารัสเซียจะตอบโต้กลับอย่างใด
เธอกล่าวเพียงว่าการที่สหรัฐฯ ส่งอาวุธให้ยูเครน ถือว่าอเมริกามีส่วนร่วมในสงครามแล้ว
ในสัปดาห์นี้ เจ้าหน้าที่อเมริกันยืนยันกับผู้สื่อข่าวว่า สหรัฐฯ มีแผนที่จะส่งขีปนาวุธแพทริออต ไปยังยูเครน ซึ่งเป็นอาวุธที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีพบว่า คือสิ่งที่ยูเครนต้องการในการป้องกันประเทศจากการจู่โจมทางอากาศของรัสเซียที่พุ่งเป้าไปยังระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน
ขณะนี้ยังไม่มีคำประกาศอย่างเป็นทางการของสหรัฐฯ เกี่ยวกับแผนส่งขีปนาวุธแพทริออตให้ยูเครน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กล่าววันพฤหัสบดีด้วยว่าจะขยายการอบรมทางยุทธวิธีรบให้กับกองทัพยูเครนในฟดูหนาว โดยการฝึกครั้งนี้จะเกิดขึ้นที่ศูนย์ในเมืองกราเฟนโฮห์ร ของเยอรมนี
ปัจจุบัน สหรัฐฯ ฝึกทหารยูเครนไปแล้ว 3,100 คน ในการขับรถหุ้มเกราะ พร้อมทั้งใช้อาวุธหลายชนิดรวมถึงระบบยิงปืนใหญ่ HIMARS
ที่มา: ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพี รอยเตอร์
เปิดห้องเรียน‘นาฏศิลป์-ดนตรีไทย’ในอเมริกาที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย UCLA
สวรรค์สายคาราโอเกะ! ‘แอปเปิล มิวสิค’ เพิ่มฟีเจอร์ ‘ซิง’ ปลดล็อคสกิลลูกคอทองคำ
แอปเปิล มิวสิค ‘ซิง’ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนธันวาคมแบบเบต้า พร้อมทั้งเปิดให้ใช้บริการเต็มรูปแบบในสัปดาห์นี้ จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ปรับเสียงร้องของนักร้องขึ้นลงได้ พร้อมทั้งเพิ่มจังหวะตามเนื้อเพลงที่ปรากฎ จากเดิมที่จะมีแค่หน้าปกอัลบัมโชว์อยู่ในรายการเพลงเท่านั้น หวังเป็นการช่วยผู้ใช้ให้สนุกกับการร้องคาราโอเกะได้มากขึ้น
โดยตัวเนื้อเพลงได้ปรับให้มีขนาดชัดเจนขึ้น สะดวกแก่การร้องตามเป็นท่อน ๆ มีโหมดปรับเสียงร้อง พร้อมทั้งเนื้อร้องแบบเรียลไทม์ มีโหมดร้องเพลงคู่ ที่สลับช่วงเนื้อร้องฝั่งซ้ายพร้อมทั้งขวาของหน้าจอตามคิวของการร้องในแต่ละช่วง พร้อมทั้งสามารถใช้โหมดร้องเพลงที่มีทีมแบ็คอัพคอรัสได้อีกด้วย รองรับแนวเพลงหลากหลายที่มีในแอปเปิล มิวสิค พร้อมทั้งใช้ได้ทั้งไอโฟน ไอแพด พร้อมทั้งแอปเปิล ทีวี
ตอนนี้ แอปเปิล มิวสิค มีคลังเพลงทะลุ 100 ล้านเพลงให้สตรีมฟังกันได้ มากกว่ายูทูบ มิวสิค ที่มี 80 ล้านเพลง สปอติฟายมีเพลง 82 ล้านเพลง พร้อมทั้งแอมะซอน มิวสิค มีบทเพลงในคลัง 90 ล้านเพลง
ที่มา: เอพี
ปาร์ตี้บริษัทกลับมาแล้ว! บนความปกติใหม่หลายด้าน
โชพา ซูร์ยา ที่ไม่ได้สวมชุดใหม่ไปปาร์ตี้มื้อเย็นพร้อมทั้งร้องคาราโอเกะมาหลายปี เหมือนได้ปลดปล่อยตัวเองอีกครั้ง ในงานเลี้ยงบริษัทอายิโนะโมโตะที่นครชิคาโก ซึ่งเป็นงานเลี้ยงแรกในรอบ 2 ปีของบริษัท พร้อมทั้งถึงขนาดซื้อชุดรอล่วงหน้า 2 เดือน เธอกล่าวพร้อมรอยยิ้มหลังร่วมงานเลี้ยงบริษัทที่จัดขึ้นหลังไวรัสโคโรน่าคลี่คลายว่า “ทุกคนสุดเหวี่ยงกันไปเลย มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกพิเศษเสมอ พร้อมทั้งมันได้พาคุณเข้าสู่เทศกาลแห่งวันหยุดอย่างแท้จริง”
ปีนี้บริษัทมากกว่า 57% วางแผนจัดปาร์ตี้ในองค์กรอีกครั้ง ตามการสำรวจของบริษัทจ้างงานในสหรัฐฯ Challenger, Gray & Christmas แม้จะมากกว่าระดับ 5% พร้อมทั้ง 26% ในปี 2020 พร้อมทั้ง 2021 ก็ตาม แต่ยังถือว่าน้อยกว่าระดับ 75% ในปี 2019 ซึ่งเป็นช่วงก่อนไวรัสโคโรน่าระบาดอยู่ดี
สิ่งที่เปลี่ยนไปในปาร์ตี้บริษัทยุคหลังไวรัสโคโรน่า
หลายงานเลี้ยงจะค่อนข้างใกล้ชิดเป็นกันเองมากขึ้น บางบริษัทอำนวยความสะดวกให้พนักงานที่ทำงานทางไกลมากขึ้นด้วย เช่น บัตรไปสปา งานคอนเสิร์ต งานแสดง หรือปิดโรงภาพยนตร์จัดงานเลี้ยง เพื่อดึงให้คนที่ทำงานอยู่บ้านออกมาสังสรรค์
แต่มีบางส่วนที่ยังยืนหยัดในการรับโบนัสพร้อมทั้งเวลาหยุดงานเพิ่มเติมแทนที่จะมาร่วมงานเลี้ยงในช่วงไวรัสโคโรน่าแบบนี้ เช่น คารี สนาฟลีย์ บอกว่าพนักงาน 20 ชีวิตในบริษัทซอฟต์แวร์ในบอสตันของเธอ เลือกจะมาร่วมเล่น pickleball ยามบ่ายด้วยกัน เมื่อให้พนักงานโหวตว่าจะใช้งบบริษัทฉลองกันอย่างไร ซึ่งแตกต่างจากการฉลองกับบริษัทใหญ่อย่างโคคาโคลา ในแอตแลนตา เมื่อครั้งที่เธอทำงานอยู่ที่นั่นเมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่เธอยอมรับว่า มีเพื่อนร่วมงานหลายคนต้องการเลิกงานพร้อมทั้งกลับบ้านเร็วขึ้น เพราะมีครอบครัวที่ต้องดูแล
ด้านบริษัทควิคเบส ที่มีพนักงาน 700 ตำแหน่งที่ส่วนใหญ่ทำงานทางไกล มีบางคนทำงานจากบัลแกเรีย จึงไม่มีเหตุผลนักที่จะจัดงานปาร์ตี้ที่สำนักงานใหญ่ แต่เปลี่ยนมาเป็นการให้ทีมงานแต่ละหน่วยไปหาทางฉลองกันเอง พร้อมทั้งพบว่าพนักงาน 30-40% ที่นครบอสตัน กลับเข้ามาทำงานกลางสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีคนเข้ามาทำงานในบริษัทมากที่สุด
แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนที่สุด คือ ผู้คนเบื่อหน่ายกับการจิบเครื่องดื่มค็อกเทลออนไลน์ หรือกิจกรรมแลกของขวัญจากซานต้าปริศนา โดยในการสำรวจของ Challenger พบว่า น้อยกว่า 2% ของบริษัท ยังเดินหน้าจัดงานปาร์ตี้ออนไลน์อยู่ในปีนี้ เมื่อเทียบกับ 7% พร้อมทั้ง 17% ในปี 2021 พร้อมทั้ง 2020 ตามลำดับ
เจฟฟ์ คอนโซเล็ตตี ผู้ก่อตั้ง JJLA บริษัทจัดงานอีเวนต์ในแอลเอ บอกว่า บริษัทไม่ได้รับคำสั่งซื้อกล่องของขวัญที่มีชีสพร้อมทั้งไวน์คู่เคียงกันเลยสักกล่อง ซึ่งเคยเป็นแหล่งรายได้หลักในช่วงไวรัสโคโรน่าระบาดของบริษัท แต่ตอนนี้มียอดจองจัดปาร์ตี้แบบเจอหน้ากันเพิ่มขึ้น 100% แต่ยังเป็นงานเล็ก ๆ ไม่ถึงขั้นระดับ 5,000 คนที่มาร่วมงานเหมือนแต่ก่อน ส่วนบริษัทจัดงาน Monarch Rooftop & Indoor Lounge ในนิวยอร์ก พบยอดจองงานเลี้ยงเล็ก ๆ เพิ่มขึ้น 30% ในปีนี้เช่นกัน โดยงานส่วนใหญ่ที่ได้รับความนิยมคืองานช่วงมื้อเที่ยง ขณะที่งานปาร์ตี้วันศุกร์นั้นกลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะคนเลือกไม่เข้างานกันวันศุกร์
แม้ก่อนไวรัสโคโรน่าจะระบาด มีผู้คนบางส่วนที่ไม่ชอบแนวคิด “การ (บีบบังคับ) ให้ร่วมสนุก” ในที่ทำงาน โดยเฉพาะกับองค์การที่มีวัฒนธรรมการดื่มหนักพ่วงด้วยการสร้างสัมพันธ์ในองค์กร อย่างสเวตา พาย ที่ทำงานจากบ้านให้กับบริษัทวิเคราะห์ในซินซินนาติ บอกว่า งานเลี้ยงที่ดื่มหนักทำให้นึกถึงวันวานในสายงานธนาคาร ซึ่งเธอต้องระวังตัวในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในงานเลี้ยงยามค่ำคืน พร้อมทั้งใช้ข้ออ้างเรื่องการเดินทางกลับบ้านไกล ๆ เพื่อขอออกจากงานเลี้ยงก่อนเวลาทุกครั้ง
แต่สำหรับ บิล แมคควีน ที่ย้ายจากเมืองใหญ่มาทำงานที่รัฐไอโอวา เพราะเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ แต่ขอสู้ไม่ถอยหากเป็นการเล่นเกมบิงโก เขาบอกว่างานเลี้ยงบริษัทยังเป็นสิ่งที่งดงามสำหรับเขา จากประสบการณ์ทำงานมาก 28 ปี ที่ได้ยินเสียงหัวเราะพูดคุยสนุกสนาน พร้อมทั้งว่ามันเหมือนกับงานเลี้ยงรวมญาติเสียมากกว่า
ที่มา: เอพี