ข่าวด่วนวันนี้
thailandtvhd.com
“อนุทิน” สั่งยกระดับความปลอดภัยชายแดนภาคใต้ ขอ จนท.ปฏิบัติงานระมัดระวัง
ญาติเตรียมรับร่าง “อดีตพระยันตระ” ประสานลูกศิษย์จัดงานศพที่เมืองไทย
คลังหนุนตั้งกองทุนใน สบส.หนุนงาน อสม. ไฟเขียวดันเข้าหารือใน ครม.แล้ว
สาธารณสุขสหรัฐฯ เสนอเงิน $25,000 ชดเชยให้จนท.เกือบ 80,000 คน หากยอมลาออก
เอพีเปิดเผยว่า กระทรวงสาธารสุขสหรัฐฯ เสนอเงินก้อน 25,000 ดอลลาร์ (ราว 843,000 บาท) ให้กับเจ้าหน้าที่เกือบ 80,000 คนของกระทรวงที่รวมถึงผู้ทำหน้าที่วิจัยโรค ตรวจสอบมาตรฐานอาหารพร้อมทั้งดูแลโครงการสวัสดิการผู้สูงอายุ “เมดิแคร์” (Medicare) พร้อมทั้งสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ “เมดิเคด” (Medicaid) ด้วย
รายงานข่าวพบว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ มีสิทธิจะเลือกรับข้อเสนอนี้ได้ตั้งแต่เช้าวันจันทร์เป็นต้นไป พร้อมทั้งต้องตัดสินใจภายในเวลา 17.00 น. ของวันศุกร์ที่ 14 มีนาคม
อีเมลข้อเสนอเงินก้อนชดเชยนี้ปรากฏในอินบ็อกซ์ของอีเมล์เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขพร้อมทั้งบริการประชาชนก่อนที่ผู้บริหารกระทรวงพร้อมทั้งหน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหลายจะต้องนำส่งแผนลดขนาดกำลังพลของตนให้รัฐบาลพิจารณาในวันศุกร์หน้า
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหน่วยงานรัฐบาลกลางที่มีงบประมาณจัดการสูงที่สุด โดยตัวเลขเฉลี่ยงบรายปีอยู่ที่ราว 1.7 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในการดูแลสุขภาพของประชาชนรายครึ่งประเทศภายใต้โครงการประกันสุขภาพ Medicare พร้อมทั้ง Medicaid
เอพีติดต่อไปยังกระทรวงฯ ในวันอาทิตย์เพื่อขอความเห็นเรื่องนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ
โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ (อาร์เอฟเค) รัฐมนตรีว่าการกระทวงสาธารณสุขพร้อมทั้งบริการประชาชน เปรยมาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับแผนการลดจำนวนเจ้าหน้าที่ของกระทรวงอย่างหนัก โดยปีที่แล้ว เขาได้สัญญาณที่จะปลดพนักงานจำนวน 600 คนของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institutes of Health) ซึ่งรับผิดชอบด้านการวิจัยค้นคว้าชีวการแพทย์ของสหรัฐฯ
นับตั้งแต่รับตำแหน่งมา เคนเนดี จูเนียร์ ยังไม่ได้ทำตามที่ประกาศไว้ แต่ระบุในการสัมภาษณ์หลังปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้วว่า ตนมีความต้องการที่จะปลดเจ้าหน้าที่บางส่วนแน่นอน
ที่ผ่านมา รัฐบาลทรัมป์ ภายใต้คำแนะนำของ อิลอน มัสก์ ผู้ดูแลหน่วยงานเพื่อประสิทธิภาพของรัฐบาล (DOGE) พยายามลดจำนวนข้าราชการพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางเพื่อลดงบประมาณรัฐบาลกลางอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม มีการเสนอแผนงานลาออกโดยสมัครใจเพื่อแลกกับการรับเงินเดือนชดเชย 8 เดือน พร้อมทั้งมีการสั่งให้ทุกหน่วยงานปลดพนักงานที่ยังอยู่ในช่วงการทดลองงานออกด้วย
การเดินหน้าลดคนที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขของสหรัฐฯ เกิดขึ้น ขณะที่ ศูนย์ควบคุมพร้อมทั้งป้องกันโรค (CDC) กำลังช่วยควบคุมวิกฤตการระบาดของโรคหัดในพื้นที่ตะวันตกของรัฐเท็กซัสพร้อมทั้งในรัฐนิวเม็กซิโกที่ทำให้มีผู้จบชีวิตแล้วอย่างน้อย 2 ราย พร้อมทั้งสมาชิกสภาคองเกรสในกรุงวอชิงตันกำลังอภิปรายแผนงานตัดงบรัฐบาลก้อนใหญ่สำหรับโครงการ Medicaid อยู่
ที่มา: เอพี
ช่างญี่ปุ่นใช้แฟชั่น “แต่งเล็บ” เตือนสติเรื่องสิ่งแวดล้อม
นาโอมิ อาริโมโตะ อายุ 42 ปี เคยร่วมกับชุมชนช่วยทำความสะอาดชายฝั่ง กิจกรรมดังกล่าวได้จุดประกายไอเดียให้เธอเก็บ “เศษขยะพลาสติก” ขนาดเล็กที่พบตามผืนทราย บริเวณชายหาดทางตอนใต้กรุงโตเกียว นำมาหลอมจนกลายเป็น “ของแต่งเล็บ”
อาริโมโตะ บอกว่า “ตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นด้วยตาของตัวเอง ฉันก็เริ่มตระหนักถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม ว่ามีขยะพลาสติกอยู่ในมหาสมุทรมากแค่ไหน” สำหรับเธอแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวอย่างมาก
ตามข้อมูลของสหพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature – IUCN) ประเมินว่า ในแต่ละปี มีขยะพลาสติกถูกทิ้งประมาณ 20 ล้านตัน
เพื่อหาแนวทางรับมือกับปัญหาขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน ในการประชุมสุดยอดของสหประชาชาติที่เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้ ที่จัดขึ้นช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีการหารือเกี่ยวกับร่างสนธิสัญญากำหนดขีดจำกัดสำหรับการผลิตพลาสติกทั่วโลก
เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2024 สหรัฐฯ ในฐานะหนึ่งในผู้ผลิตพลาสติกรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ส่งสัญญาณว่าจะสนับสนุนสนธิสัญญาดังกล่าว ทางด้านองค์กรกรีนพีซ (Greenpeace) ที่สอดส่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ชี้ว่าท่าทีของสหรัฐฯ ถือเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ในการต่อสู้กับมลภาวะพลาสติก
ในปี 2018 อาริโมโตะประสบปัญหาด้านสุขภาพบริเวณกระดูกสันหลัง ทำให้เธอต้องหยุดอาชีพนักสังคมสงเคราะห์ พร้อมทั้งผันมาเปิดร้านทำเล็บที่บ้านของตนเอง
ทุก ๆ เดือน อาริโมโตะจะนั่งรถเข็นไปยังชายหาดใกล้บ้านเพื่อค้นหาเศษขยะไมโครพลาสติกที่มักจะถูกมองข้าม ตั้งแต่ปี 2021 เธอได้นำ “อุมิโกมิ” (Umigomi) หรือที่แปลว่า “ขยะจากทะเล” ในภาษาญี่ปุ่น มาผสมผสานสร้างงานศิลปะบนเล็บที่สะท้อนถึงปัญหามลภาวะพลาสติก
กระบวนการเปลี่ยนขยะจากผืนน้ำ ให้กลายเป็นอะไหล่แต่งเล็บที่สวยงาม เริ่มจากการล้างเศษพลาสติกที่เก็บมาได้ คัดแยกตามสีของวัสดุ ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ พร้อมทั้งนำไปหลอมในเบ้าเหล็กจนกลายเป็นรูปทรงแผ่นกลมที่มีสีสันสดใส จากนั้นนำไปใช้เพื่อตกแต่งเล็บปลอม สนนราคาอยู่ที่ชุดละ 82.52 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,860 บาท
เคียวโกะ คุโรกาวะ ลูกค้าวัย 57 ปี เผยว่า มีสิ่งต่าง ๆ ที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิล เช่น กระดาษชำระ แต่เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก เมื่อทราบว่าของแต่งเล็บก็สามารถทำมาจากวัสดุรีไซเคิลได้เช่นกัน
ช่างทำเล็บชาวญี่ปุ่นรายนี้ยอมรับว่า งานศิลปะของเธอเป็นเพียงความพยายามเล็กน้อยท่ามกลางวิกฤตปัญหามลภาวะพลาสติก อาริโมโตะหวังว่าแฟชั่นเล็ก ๆ บนปลายนิ้วที่อยู่ตรงหน้าจะช่วยเตือนผู้คน ให้ตระหนักถึงปัญหามลภาวะพลาสติกที่กำลังเกิดขึ้นบนโลก พร้อมทั้งร่วมกันหาทางแก้ไข
ที่มา: รอยเตอร์
เผยจำนวนเรือทหาร-เรือพาณิชย์จีน แซงหน้าสหรัฐฯ ไปไกล
พลเอกเอริก สมิธ ผู้บัญชาการกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอเมื่อปลายปีที่แล้วว่า “เวลานี้อุตสาหกรรมต่อเรืออเมริกันกำลังมีขนาดลดลงจนถึงระดับต่ำสุด”
ปัจจุบัน กองทัพเรือสหรัฐฯ ยังคงมีอำนาจการทำลายพร้อมทั้งขนาดระวางน้ำหนักมากที่สุด แต่จำนวนเรือในกองทัพนั้นถูกจีนแซงหน้าไปแล้ว กล่าวคือ กองทัพเรือสหรัฐฯ มีเรือทั้งหมด 296 ลำ ขณะที่จำนวนเรือของกองทัพเรือจีนผ่านหลัก 400 ลำไปแล้วเมื่อต้นปีนี้
งบประมาณที่ลดลง
จำนวนเรือของกองทัพอเมริกันลดลงต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีมานี้เนื่องจากงบประมาณที่ลดลง โดยเมื่อปีที่แล้ว กองทัพเรือสหรัฐฯ มีงบประมาณสำหรับซื้อเรือใหม่เพียง 6 ลำ แต่ปลดประจำการไป 15 ลำ
สำหรับปีนี้ กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้รับงบประมาณซื้อเรือใหม่ 6 ลำเช่นกัน แต่มีเรือปลดประจำการทั้งหมด 19 ลำ นั่นหมายความว่าจะมีเรือในกองทัพอเมริกันหายไปถึง 13 ลำ
ทั้งนี้ เส้นเลือดใหญ่ของบริษัทต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมต่อเรือนั้นมาจากกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บริหารของบริษัทเหล่านั้นยืนยันว่ามีทรัพยาการมากพอที่จะผลิตพร้อมทั้งซ่อมแซมเรือของกองทัพเรือได้ แต่กลับไม่มีสัญญาว่าจ้างออกมามากนัก
ที่ผ่านมาเกิดความผันผวนด้านอุปสงค์ของการต่อเรือ สืบเนื่องจากงบประมาณที่ลดลง ก่อให้เกิดความกังวลต่อบรรดาบริษัทต่อเรือต่าง ๆ
แบรด โมเยอร์ รองประธานฝ่ายซ่อมบำรุงเรือของบริษัทบีเออี ซิสเต็มส์ (BAE Systems) ของอังกฤษ ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทซ่อมเรือรายใหญ่ที่สุดในโลก บอกว่า “ขณะนี้เราทำงานแค่ครึ่งหนึ่งของศักยภาพที่เรามี”
จอร์จ วิททิเออร์ ซีอีโอของบริษัทแฟร์แบงค์ส มอร์ส ดีเฟนส์ (Fairbanks Morse Defense) ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือรายใหญ่ในอเมริกาเหนือพร้อมทั้งอเมริกาใต้ พร้อมทั้งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดให้กับเรือรบของสหรัฐฯ ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า มีซัพพลายเออร์หลายพันบริษัทที่ตัดสินใจปิดกิจการไปในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากงบประมาณพร้อมทั้งจำนวนคำสั่งซื้อที่ลดลง
ผู้นำกองทัพสหรัฐฯ พร้อมทั้งบรรดาผู้บริหารของบริษัทต่อเรือต่างกังวลว่า การปิดกิจการลงของซัพพลายเออร์จำนวนมากจะส่งผลต่อการผลิตชิ้นส่วนสำรองของเรือ พร้อมทั้งอาจต้องใช้เวลานานขึ้นในการผลิต รวมทั้งราคาที่แพงขึ้นด้วย
พันเรือเอก จิม คิลบี รักษาการรองผู้บัญชาการฝ่ายปฏิบัติการทางทะเลของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า เวลานี้ทางกองทัพยังไม่มีงบประมาณเพียงพอสำหรับการซื้อเรือรบพร้อมทั้งเรือดำน้ำชุดใหม่มาทดแทนชุดเดิมที่เก่าแก่มากแล้วพร้อมทั้งมีค่าใช้จ่ายสูงในการซ่อมบำรุง ยังไม่ต้องพูดถึงการขยายกำลังของกองทัพเรือ
ความล่าช้า พร้อมทั้งการปลดพนักงาน
ความล่าช้าของสัญญาฉบับใหม่จากทางกองทัพสหรัฐฯ พร้อมทั้งการยกเลิกโครงการต่าง ๆ นำไปสู่การปลดพนักงานจำนวนมากของบริษัทต่อเรือขนาดใหญ่ รวมทั้งบีเออีที่ปลดพนักงานเกือบ 300 คนเมื่อปี 2023
ที่เมืองนอร์ฟอล์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมต่อเรือทางภาคตะวันออกของสหรัฐฯ จำนวนเรือขนาดใหญ่ที่เข้ารับการซ่อมบำรุงลดลงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เช่นเดียวกับตำแหน่งงานที่ลดลงเช่นกัน
ผู้บริหารของบริษัทต่อเรือพบว่า รัฐสภาสหรัฐฯ คือผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ เนื่องจากความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างพรรคเดโแมครตพร้อมทั้งพรรครีพับลิกันในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีการอนุมัติงบประมาณก้อนใหม่สำหรับการซ่อมแซมเรือที่มีอยู่
นอกจากนี้ ยังมีปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมือเฉพาะทางที่จำเป็นสำหรับการต่อเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการระบาดของไวรัสโคโรน่า-19 ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโครงสร้างค่าแรงที่เปลี่ยนไป
อุตสาหกรรมเรือพาณิชย์
ในขณะที่รัฐสภาสหรัฐฯ กำลังพิจารณาเพิ่มงบประมาณสำหรับการต่อเรือพร้อมทั้งซ่อมบำรุงเรือของกองทัพ สว.มาร์ค เคลลี จากพรรคเดโแมครต ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า อุตสาหกรรมต่อเรือพาริชย์ของอเมริกาก็ต้องการการสนับสนุนอย่างมากเช่นกัน
สว.เคลลี บอกว่า ปัจจุบัน สหรัฐฯ ผลิตเรือขนส่งสินค้าราว 5 ลำต่อปี ขณะที่จีนผลิตได้ปีละกว่า 1,000 ลำ “พวกเขามีอู่ต่อเรือขนาดใหญ่หนึ่งแห่งที่ใหญ่กว่าอู่ต่อเรือของเราทั้งหมดรวมกัน”
สว.ผู้นี้ กล่าวด้วยว่า อเมริกามีเรือพาณิชย์เพียง 85 ลำในขณะนี้ ซึ่งหากเกิดกรณีฉุกเฉิน เช่น เกิดความขัดแย้งกับศัตรู เราจะมีข้อจำกัดในการขนส่งเสบียงพร้อมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ ข้ามมหาสมุทร
เมื่อเดือนมีนาคม สว.เคลลี เสนอร่างกฎหมายชื่อว่า Ships for America Act ให้รัฐสภาพิจารณา ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนเรือพาณิชย์ของสหรัฐฯ 250 ลำในช่วง 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยเพิ่มห่วงโซ่อุปทานสำหรับเรือของกองทัพเรือด้วย
ร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้มีผลประโยชน์ด้านภาษีสำหรับการต่อเรือพาณิชย์ รวมทั้งการเพิ่มค่าธรรมเนียมสำหรับเรือสินค้าต่างประเทศที่เข้ามาเทียบท่าในอเมริกา เพื่อนำไปช่วยในการผลักดันอุตสาหกรรมการต่อเรือในประเทศ โดยไม่ต้องสร้างหนี้หรือทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น
ที่มา: วีโอเอ
อิสราเอล-ฮามาส ส่งสัญญาณพร้อมร่วมเจรจาหยุดยิงรอบใหม่
รายงานข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มติดอาวุธฮามาสบอกว่า มี “สัญญาณบ่งชี้เชิงบวก” เกี่ยวกับการเริ่มต้นของการหารือการหยุดยิงเฟส 2 แล้ว แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลใด ๆ เพิ่มเติม
ฝ่ายอิสราเอลก็แสดงจุดยืนคล้าย ๆ กัน โดยสำนักงานนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู บอกว่า “อิสราเอลยอมรับคำเชิญของตัวกลางการเจรจาที่สหรัฐฯ หนุนหลังอยู่ พร้อมทั้งจะส่งคณะตัวแทนไปยังโดฮาในวันจันทร์เพื่อช่วยการเจรจาเดินหน้าต่อไปได้”
รอยเตอร์พบว่า คณะผู้แทนจากฮามาสได้เริ่มต้นการหารือการหยุดยิงที่กรุงไคโร กับตัวกลางเจรจาฝ่ายอียิปต์ที่พยายามประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของกาตาร์ในการนำพาทุกฝ่ายเข้าสู่โต๊ะเจรจารอบใหม่ที่ถูกตั้งความหวังไว้ว่า จะเปิดทางไปสู่การยุติของสงครามเสียที
อับเดล-ลาติฟ อัล-คานูอา โฆษกของฮามาส ระบุในแถลงการณ์ว่า “เรายืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วมการเจรจาในเฟสที่ 2 ที่ตรงตามความต้องการของผู้คนของเรา พร้อมทั้งเราเรียกร้องให้มีการยกระดับความพยายามในการช่วยเหลือฉนวนกาซ่า พร้อมทั้งยกเลิกการปิดกั้น(การส่งความช่วยเหลือต่อ)ผู้คนที่กำลังทนทุกข์ทรมานอยู่ด้วย”
ฮามาสยังได้ออกแถลงการณ์ฉบับถัดมาที่เปิดเผยข้อมูลการประชุมระหว่างตัวแทนของกลุ่มกับหัวหน้าหน่วยงานข่าวกรองของอียิปต์ด้วย พร้อมทั้งยืนยันว่า ทางกลุ่มได้อนุมัติการจัดตั้งคณะกรรมการ “แห่งชาติพร้อมทั้งเป็นอิสระ” เพื่อมาทำหน้าที่บริหารกาซ่าจนกว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
ประธานาธิบดีอับเดล ฟัตตาห์ เอล-ซิสซี แห่งอียิปต์ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า กรุงโคโรได้ทำงานประสานกับปาเลสไตน์ในการจัดตั้งคณะกรรมการบริหารที่ประกอบด้วยผู้ชำนาญการชาวปาเลสไตน์ที่เป็นมืออาชีพเละเป็นอิสระ เพื่อรับหน้าที่บริหารจัดการฉนวนกาซ่าหลังสงครามอิสราเอล-ฮามาสสิ้นสุดลง
คำกล่าวของผู้นำอียิปต์มีออกมาในช่วงการประชุมสุดยอดอาหรับที่เลือกสนับสนุนแผนการฟื้นฟูกาซ่าของอียิปต์ แทนแผนงานวิสัยทัศน์ “ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง” ของทรัมป์
เงื่อนไขของการหยุดยิง
ข้อตกลงหยุดยิงอิสราเอล-ฮามาสที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในเดือนมกราคมระบุให้มีการปล่อยตัวประกัน 59 คนที่อยู่ในมือกลุ่มติดอาวุธนี้ในช่วงเฟสที่ 2 ซึ่งจะเป็นช่วงที่มีการเจรจาหารือการยุติสงครามที่เริ่มต้นตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2023
เฟสแรกของข้อตกลงนี้เพิ่งสิ้นสุดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมทั้งอิสราเอลก็ได้สั่งปิดกั้นการนำส่งความช่วยเหลือต่าง ๆ เข้าไปในกาซ่าทันที พร้อมเรียกร้องให้ฮามาสทำการปล่อยตัวประกันที่เหลือทั้งหมดโดยไม่ต้องรอการเริ่มต้นการเจรจายุติสงครามนี้
ตั้งแต่มีการพักรบเมื่อวันที่ 19 มกราคม ฮามาสได้ปล่อยตัวประกันที่เป็นชาวอิสราเอลออกมา 33 คนพร้อมทั้งชาวไทย 5 คน เพื่อแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์ราว 2,000 คน
การสู้รบที่ยังดำเนินต่อไป
ในเวลาเดียวกัน อิสราเอลทำการจู่โจมทางอากาศเข้าใส่เมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซ่า ในวันเสาร์ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ 2 คนจบชีวิต ตามการเปิดเผยของทีมแพทย์
กองทัพอิสราเอลรายงานว่า เครื่องบินของตนได้ยิงโดรนที่บินข้ามจากฝั่งอิสราเอลเข้ามายังพื้นที่ภาคใต้ของกาซ่า พร้อมทั้งจู่โจม “ผู้ต้องสงสัยหลายราย” ที่พยายามเก็บซากโดรนที่ว่าด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังการจู่โจมด้วยโดรนของอิสราเอลทำให้มีผู้จบชีวิต 2 รายในกาซ่าเมื่อวันศุกร์ โดยกองทัพอิสราเอลบอกว่า เป็นการจู่โจมนักรบติดอาวุธที่ต้องสงสัยว่าดำเนินปฏิบัติการใกล้ ๆ ที่ตั้งของทหารของตนทางตอนเหนือของกาซ่า พร้อมทั้งทำการวางระเบิดตามพื้นในบริเวณที่ว่าด้วย
สงครามที่เริ่มต้นจากการจู่โจมโดยฮามาสเข้าใส่อิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคม ปี 2023 ซึ่งอิสราเอลพบว่า ทำให้มีผู้จบชีวิตราว 1,200 คนพร้อมทั้งมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน ทำให้เกิดการจู่โจมตอบโต้โดยกองทัพกรุงเทลาอาวีฟเข้าไปในฉนวนกาซ่าที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์จบชีวิตแล้วกว่า 48,000 คน อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า ขณะที่ ประชากรของกาซ่าเกือบทั้งหมดต้องกลายเป็นคนพลัดถิ่น พร้อมทั้งมีการกล่าวหาว่า อิสราเอลพยายามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์พร้อมทั้งก่ออาชญากรรมสงครามอันเป็นคำกล่าวหาที่ฝ่ายเทลอาวีฟปฏิเสธมาโดยตลอด
ที่มา: รอยเตอร์
บล็อกเกอร์เผย รัสเซียส่งกำลังประกบท่อก๊าซ-เตรียมจู่โจมยูเครนในแคว้นเคิร์สก
กลยุทธดังกล่าวของรัสเซียเป็นหนึ่งในแผนการที่พุ่งเป้าจัดการกับกองทัพกรุงเคียฟที่เข้ามายึดอาณาเขตรัสเซียไว้ ก่อนที่ยูเครนจะกลับไปร่วมหารือกับสหรัฐฯ ในประเด็นข้อตกลงสันติภาพเพื่อยุติสงครามที่เกิดจากการรุกรานของกองทัพมอสโกพร้อมทั้งดำเนินมากว่า 3 ปีนี้
กองกำลังยูเครนสามารถยึดพื้นที่ราว 1,300 ตารางกิโลเมตรในแคว้นเคิร์สกของรัสเซียได้เมื่อเดือนสิงหาคม ตามแผนการหาไพ่ต่อรองเพื่อใช้ในการเจรจาในอนาคต พร้อมทั้งเพื่อบีบรัสเซียให้ถอนกำลังออกจากอาณาเขตทางตะวันออกของยูเครน
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา รัสเซียประสบความสำเร็จบ้างในการยึดดินแดนของตนคืน โดยรอยเตอร์พบว่า ข้อมูลแผนที่จากแหล่งข้อมูลเปิด ณ วันศุกร์ที่ผ่านมาชี้ว่า ทัพของยูเครนในแคว้นเคิร์สกกำลังเกือบถูกล้อมรอบโดยหน่วยรบเคลื่อนที่เร็วของรัสเซียแล้ว
ยูริ โพโดลยากา นักบล็อกเกอร์ที่เกิดที่ยูเครนแต่มีจุดยืนสนับสนุนรัสเซีย บอกว่า กองกำลังพิเศษรัสเซียได้คืบคลานผ่านด้านในของท่อส่งก๊าซขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5 เมตร เป็นระยะทางเกือบ 16 กิโลเมตรเข้าใกล้ที่ตั้งของทัพยูเครน พร้อมทั้งหลบซ่อนอยู่ภายในท่อเพื่อรอจู่โจมศัตรูใกล้ ๆ เมืองซุดชาอยู่
บล็อกเกอร์ที่รายที่ใช้ชื่อว่า Two Majors กล่าวด้วยว่า การสู้รบครั้งใหญ่กำลังจะปะทุขึ้นในเมืองดังกล่าว พร้อมทั้งกองกำลังรัสเซียได้ใช้ประโยชน์จากท่อส่งก๊าซเพื่อเตรียมจู่โจมยูเครนแบบไม่ทันตั้งตัวแล้ว
ในเวลาเดียวกัน แถลงการณ์จากกองกำลังจู่โจมทางอากาศของยูเครนพบว่า ทหารรัสเซียได้ใช้ท่อส่งก๊าซของตนเพื่อหวังใช้เป็นจุดตั้งหลัก แต่ฝ่ายตนก็สามารถตรวจจับเจอได้ทันพร้อมทั้งยิงจรวด ปืนใหญ่พร้อมทั้งส่งโดรนเข้าจู่โจมแล้ว
ข้อมูลจากเสนาธิการทหารยูเครนในช่วงบ่ายวันอาทิตย์เผยว่า กองกำลังยูเครนได้สกัดการจู่โจม 15 จุดโดยรัสเซียในพื้นที่เคิร์สกไปได้ ขณะที่ มีการปะทะกันอยู่ 6 จุดที่ยังดำเนินอยู่
พร้อมทั้งแม้มอสโกจะยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับปฏิบัติการท่อส่งก๊าซที่ว่า พลตรีอัปติ อลาอูดินอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษอัคห์มัตของเชชเนีย นำภาพเจ้าหน้าที่กองกำลังพิเศษของรัสเซียภายในท่อก๊าซขึ้นมาโพสต์อีกครั้งทางเทเลแกรม พร้อมเขียนข้อความว่า “ผมแปลกใจที่มีคนคิดว่า รัสเซียอาจเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”
บัญชีเทเลแกรมของรัสเซียได้โพสต์ภาพคล้าย ๆ กันที่แสดงให้ปฏิบัติการของกำลังพิเศษภายใน้ท่อขนาดใหญ่เช่นกัน
รอยเตอร์ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ภาพพร้อมทั้งข้อมูลทั้งหมดที่ว่านั้นเป็นของจริงหรือไม่
ท่อก๊าซที่ตกเป็นข่าวนี้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยของสหภาพโซเวียตที่ใช้เพื่อนำส่งก๊าซจากทางตะวันตกของไซบีเรีย ผ่านเมืองซุดชา เพื่อส่งไปยังยูเครน แต่ยูเครนได้ยกเลิกการส่งก๊าซจากรัสเซียทั้งหมดผ่านอาณาเขตของประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มกราคมแล้ว
ทั้งนี้ การรุกคืบของรัสเซียในปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งนโยบายต่างประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่เกี่ยวกับยูเครนพร้อมทั้งรัสเซียทำให้เกิดความกลัวในหมู่ผู้นำยุโรปว่า ยูเครนจะกลายเป็นฝ่ายปราชัยในสงครามนี้ พร้อมทั้งทรัมป์จะหันหลังให้กับยุโรป
ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้สั่งระงับความช่วยเหลือทางทหารพร้อมทั้งการแบ่งปันข้อมูลข่าวกรองให้กับยูเครนไปแล้ว หลังการประชุมระหว่างทรัมป์พร้อมทั้งประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ที่ทำเนียบขาวเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ กลายมาเป็นการขึ้นเสียงโต้แย้งกันต่อหน้าสื่อมวลชนพร้อมทั้งจบลงด้วยการไม่ลงนามข้อตกลงสินแร่หายากดังที่มีการวางแผนไว้
ที่มา: รอยเตอร์