“ทักษิณ” พูดสัมมนาเพื่อไทยในฐานะนักวิชาการ “ดนุพร” ไม่หวั่นถูกร้องครอบงำ

“ดนุพร” ชี้ “ทักษิณ” พูดสัมมนาเพื่อไทยในฐานะนักวิชาการ ไม่หวั่นถูกร้องครอบงำพรรค เห็นด้วยถกปม MOU 44 เชื่อหาก “นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ติดภารกิจ จะเข้าสภาตอบกระทู้เอง

เพจดังเตือน “คอ” เป็นตำแหน่งอันตราย มีเส้นเลือดสำคัญอยู่ ควรเลี่ยงการนวดโดยตรง

เพจดังเตือน “คอ” เป็นตำแหน่งเสี่ยงอันตราย เส้นเลือดสำคัญอยู่เป็นจำนวนมาก ชี้ ในตำรานวดแผนไทยราชสำนัก ไม่เคยมีการสอนท่าบิดคอ

ชายวัย 52 ปี แจ้งความเอาผิดถึงที่สุด อ้างถูกตำรวจมหาสารคาม ต่อยหน้าหงาย

มหาสารคาม ชายวัย 52 ปี เข้าแจ้งความ อ้างถูก จ.ส.ต. สังกัด สภ.กู่ทอง ทำร้ายร่างกาย ยันดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ล่าตัวมือปืนสังหารซีอีโอบริษัทใหญ่ เชื่อ หนีออกจากนิวยอร์กไปแล้ว

มือปืนที่ต้องสงสัยว่ายิงสังหารผู้บริหารสูงสุดของบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ของสหรัฐฯ ยังคงลอยนวลหลังก่อเหตุที่ถูกจับภาพการยิงได้จากกล้องตรวจการณ์ในนิวยอร์ก ขณะที่ตำรวจยังคงพยายามเร่งตามล่าอย่างเต็มที่

ศาลสูงโรมาเนียตัดสินให้ผลการเลือกตั้งปธน.เป็นโมฆะ

ศาลสูงสุดของโรมาเนียตัดสินในวันศุกร์ให้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบเเรกเป็นโมฆะ พร้อมระบุด้วยว่ากระบวนการเลือกตั้งทั้งหมดต้องเริ่มต้นใหม่ หลังพบหลักฐานเชื่อว่าถูกรัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้ง

ยูเครนเสียสองหมู่บ้านตะวันออก ใกล้จุดยุทธศาสตร์สำคัญ

รัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์ว่าสามารถยึดครองหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับเมืองโปครอฟสค์ที่เป็นชุมทางขนส่ง พร้อมทั้งอีกแห่งใกล้กับเมืองอุตสาหกรรมคูราโคฟ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางตะวันออกของยูเครน

วีโอเอพาชมเบื้องหลัง ‘พาเหรดห้างเมซีส์’ ประเพณีสร้างสีสันวันขอบคุณพระเจ้า

เป็นเวลาเกือบ 100 ปีแล้ว ที่ชาวอเมริกันได้ชมขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าของห้างสรรพสินค้าเมซีส์ ที่อยู่คู่กับสังคมอเมริกันมานาน แม้จะเว้นวรรคไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมทั้งวีโอเอพาชมเส้นทางที่ขบวนพาเหรดได้กลายเป็นธรรมเนียมที่เชื่อมโยงผู้บริโภคอเมริกันพร้อมทั้งห้างสรรพสินค้าเก่าแก่นี้ได้จนถึงปัจจุบัน

ก่อนที่ขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าของห้างสรรพสินค้าเมซีส์ จะเฉิดฉายสู่สายตาพร้อมทั้งบนหน้าจอโทรทัศน์ตามบ้านของชาวอเมริกันนับล้านในวันพฤหัสบดีที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายน การเตรียมขบวนพาเหรดนี้ต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีเต็ม

เบรนดัน เคนเนดี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตพร้อมทั้งสร้างสรรค์ของ Macy’s Studios ที่ดูแลเรื่องการจัดขบวนพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าที่ 1 ปีมีครั้งเดียวนี้ เผยกับวีโอเอว่า “มีผู้คนมากกว่า 8,000 คนที่จะเดินพาเหรดบนท้องถนนในนิวยอร์ก ต่อหน้าผู้ชมกว่า 3.5 ล้านคนที่มารอชมตลอดสองข้างทางบนถนนที่นั่น พร้อมทั้งเกือบ 30 ล้านคนที่ติดจอรอดูอยู่ที่บ้าน”

ในปีนี้ เมซีส์ เผยว่า มีขบวนรถพาเหรด 22 คัน วงดนตรี 11 วง พร้อมทั้งนักแสดงหลากหลายที่เข้าร่วมขบวนพาเหรด พร้อมด้วยบอลลูนยักษ์ 17 ลูกที่จะลอยไปพร้อมขบวนพาเหรดบนความสูงเกือบเท่าตึก 6 ชั้น

เคนเนดี เสริมว่า “เราตั้งตารอคอยวันนี้ ดังนั้นสิ้งที่เราพยายามที่จะทำคือเราสร้างขบวนรถพร้อมทั้งบอลลูนที่เล่าเรื่องอย่างรวดเร็ว สนุกสนาน สร้างความประหลาดใจ พร้อมทั้งเติมความสุขให้ผู้ชม”

ในค่ำคืนก่อนพาเหรดจะเกิดขึ้น ขบวนรถในพาเหรดพร้อมทั้งบอลลูนยักษ์ จะถูกเก็บให้เหลือในขนาดเท่ากับรถบัส พร้อมทั้งมุ่งหน้ามาจากคลังเก็บสินค้าในรัฐนิวเจอร์ซีย์มายังมหานครนิวยอร์ก

พาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าของห้างเมซีส์ มีอายุครบ 100 ปีแล้ว โดยพาเหรดแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อปี 1924 พร้อมทั้งกลายเป็นหนึ่งในประเพณีใหญ่แห่งปีของชาวอเมริกัน

จิม คิวสัน ประธานบริษัทการตลาดค้าปลีก Theory House ในชาร์ล็อตต์ นอร์ธแคโรไลนา เผยกับวีโอเอผ่านทีมส์ว่า สำหรับพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้านี้ “ไม่มีอะไรมากมายในวัฒนธรรมอเมริกันที่จะคงอยู่ยาวนานได้ขนาดนั้น” พร้อมทั้งว่า “ในยุคของการสื่อสารดิจิทัลพร้อมทั้งการตลาดเชิงประชาสัมพันธ์ มีบางอย่างที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับขบวนพาเหรดตามท้องถนนที่โดนใจนักช้อปจำนวนมาก”

ทั้งนี้ เมซีส์ ไม่เผยตัวเลขว่าทุ่มงบไปเท่าใดกับพาเหรดนี้ แต่มีการประเมินว่าอาจสูงกว่า 13 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งมีแบรนด์ต่าง ๆ มาสปอนเซอร์ขบวนรถในพาเหรด บอลลูน พร้อมทั้งการแสดงต่าง ๆ

แคธลีน โดโนฮิว ไรท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตของ Macy’s Studios บอกกับวีโอเอว่า “นี่คือของขวัญสำหรับมหานครนิวยอร์ก พร้อมทั้งเป็นของขวัญจากเราให้กับประเทศ”

ผู้เชี่ยวชาญมองว่า มันคือของขวัญที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเชื่อมโยงกับแบรนด์ของเมซีส์

ทูลิน อาร์ดา อาจารย์ด้านธุรกิจพร้อมทั้งการตลาดจาก New York University ให้ทัศนะกับวีโอเอว่า “พาเหรดเมซีส์มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ที่เชื่อมโยงครอบครัวให้ผูกพัน สร้างประสบการณ์ภายในครอบครัว พร้อมทั้งถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ดี พร้อมทั้งเกือบจะกลายเป็นไอคอนทางวัฒนธรรมอเมริกันไปแล้ว”

สำหรับพาเหรดวันขอบคุณพระเจ้าของเมซีส์ จะเริ่มต้นด้วยบอลลูนไก่งวงยักษ์ พร้อมทั้งสิ้นสุดลงด้วยการมาถึงของซานตาคลอส ซึ่งเป็นวิถีที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ย้ำเตือนกับผู้บริโภคชาวอเมริกันว่า ฤดูกาลแห่งการจับจ่ายซื้อของในช่วงเทศกาลวันหยุดส่งท้ายปีเริ่มต้นขึ้นแล้ว

ที่มา: วีโอเอ

ระอุ! ปากีสถานรวบผู้ชุมนุมหนุนอดีตนายกฯ ‘อิมราน ข่าน’ เกือบ 1,000 คน

ทางการปากีสถานจับกุมผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี อิมราน ข่าน เกือบ 1,000 คน ที่บุกมายังกรุงอิสลามาบัด เพื่อกดดันให้ปล่อยตัวอดีตผู้นำรายนี้

ผู้บัญชาการตำรวจปากีสถาน อาลี ริซวี เผยถึงการจับกุมผู้ประท้วงเพิ่มอีกราว 600 คนในวันอังคาร ทำให้ผู้ชุมนุมที่ทางการปากีสถานควบคุมตัวไปนั้นอยู่ที่ 954 รายแล้ว

พร้อมกันนี้ริซวี ได้ปฏิเสธเรื่องการใช้กระสุนจริงระหว่างปฏิบัติการสลายฝูงชน ที่ทางผู้ช่วยของอิมราน ข่าน อ้างโดยไม่มีหลักฐานสนับสนุนว่า ผู้ประท้วงหลายร้อยคนมีบาดแผลจากกระสุนปืนระหว่างเหตุวุ่นวาย ใจกลางกรุงอิสลามาบัด ที่ตำรวจพยายามสลายการชุมนุมที่นำโดยภริยาของข่านเมื่อค่ำวันอังคาร พร้อมทั้งยืนยันว่ามีการยึดปืนไรเฟิลอัตโนมัติพร้อมทั้งปืนแก็สน้ำตาจากผู้ประท้วงนับพันที่มาปักหลักชุมนุม

อาลี อามิน กันดาปูร์ ผู้ช่วยของข่าน ซึ่งร่วมการชุมนุมที่เมืองหลวงปากีสถาน กล่าวหาทางการอิสลามาบัดว่าใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุกับผู้ชุมนุมที่ปักหลักประท้วงโดยสันติ โดยเสริมว่าเขาพร้อมทั้งภริยาของอดีตนายกฯ ข่าน ถูกทำร้ายโดยเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งว่ามีผู้ชุมนุมหลายร้อยคนมีบาดแผลจากกระสุน

ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงสื่อสารพร้อมทั้งโฆษกสำนักงานตำรวจในอิสลามาบัดไม่ได้ตอบกลับการขอความเห็นจากรอยเตอร์เกี่ยวกับข้อกล่าวหาในช่วงเวลาที่รายงานข่าวนี้

พรรคพีทีไอ (Pakistan Tehreek-e-Insaf) เผยว่าการประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวอดีตนายกฯ ข่านสิ้นสุดลงแล้ว โดยอ้างถึงสิ่งที่เรียกว่า “การสังหารหมู่” ที่เกิดขึ้นในการสลายการชุมนุม แต่ฝั่งผู้ช่วยของข่าน พบว่าการประท้วงยังดำเนินต่อไปจนกว่าอดีตนายกฯ ข่านจะคนตัดสินใจให้ยุติการเดินขบวน

การประท้วงโดยกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคพีทีไอ ของอิมราน ข่าน ที่ดำเนินมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ คร่าชีวิตอย่างน้อย 6 ราย โดยเป็นผู้สนับสนุน 2 ราย พร้อมทั้งทหารรับจ้างอีก 4 นาย ตามการเปิดเผยของทางพรรค แต่ทางการปากีสถานออกแถลงการณ์ปฏิเสธในเรื่องนี้ โดยยืนยันว่ายังไม่มีผู้จบชีวิตจากการประท้วงที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้พรรคพีทีไอนำหลักฐานเรื่องการใช้กระสุนจริงโดยเจ้าหน้าที่มายืนยันเพิ่มเติมด้วย

นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เชห์บาซ ชารีฟ กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการประท้วงครั้งนี้ได้สร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจคิดเป็นมูลค่า 190,000 ล้านรูปีปากีสถาน หรือราว 23,000 ล้านบาท ขณะที่ตลาดหุ้นปากีสถานพุ่งกว่า 5% ในการซื้อขายวันพุธที่การชุมนุมสิ้นสุดลง หลังร่วงไป 3.6% ในวันอังคาร

ที่มา: รอยเตอร์

วิเคราะห์: ศก.’อาเซียน’ อาจไม่ได้ประโยชน์นักจากเเรงกระเพื่อมภาษีสหรัฐฯต่อจีน

BANGKOK — ท่ามกลางการคาดเดาถึงผลกระทบจากคำประกาศขึ้นภาษีของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อคู่ค้าขนาดใหญ่อย่างจีน นักวิเคราะห์มองถึงความเป็นไปได้ถึงการที่บริษัทต่างๆ มองหาหนทางย้ายฐานผลิตออกจากจีนสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระลอกใหม่

เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ประกาศความพร้อมที่จะเร่งเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากเม็กซิโก จีนพร้อมทั้งแคนาดา ซึ่งเป็น 3 คู่ค้าอันดับต้น ๆ ของประเทศ 

ในช่วงการหาเสียงเป็นประธานาธิบดีในปีนี้ ทรัมป์ขู่ว่าจะยกระดับภาษีต่อสินค้าจากจีนให้สูงเป็น 60% 

ตั้งเเต่เขาชนะเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พุ่งความสนใจไปที่สงครามการค้าที่อาจร้อนขึ้นอีกระหว่างสหรัฐฯพร้อมทั้งจีน

นักวิเคราะห์มองย้อนไปถึงเมื่อปี 2017 ที่ทรัมป์ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ สมัยเเรก เมื่อเขาใช้มาตรการภาษีต่อสินค้าเเดนมังกรอย่างเเข็งขัน

ในตอนนั้นบริษัทจำนวนมากย้ายฐานผลิตจากจีนมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อเลี่ยงการถูกเก็บภาษีระดับสูง หากว่านำสินค้าที่ผลิตจากโรงงานในจีนไปขายโดยตรงที่ตลาดสหรัฐฯ

หากว่า ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ 2.0 จีนถูกเก็บภาษี 60% ตามที่เขากล่าว “การเร่งเครื่องย้ายฐานการผลิตจะมีมากขึ้น” ตามความเห็นของ เจเยนต์ เมนอน นักวิจัยอาวุโสแห่งสถาบัน ISEAS-Yusof Ishak Institute

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน นายพิชัย นริพทะพันธุ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอไทยว่า ประเทศไทยอาจได้รับผลดีมากกว่าผลเสีย จากนโยบายการใช้กำแพงภาษีที่อาจเกิดขึ้นของรัฐบาลสหรัฐฯ

เขาบอกว่าไทยสามารถเป็น “ตัวกลางในการเชื่อมต่อระหว่างสหรัฐฯกับจีน คือถึงแม้เขาใหญ่ทั้งคู่ แต่เค้าตัดกันไม่ขาดหรอกครับ สหรัฐฯกับจีนยังไงเขาก็ต้องค้าขายกัน ทำยังอย่างที่ประเทศไทยจะไปอยู่ตรงกลางเป็นตัวเชื่อมของการค้าขายระหว่างสหรัฐฯ กับจีนให้ได้ คือจีนอยากขายของไปสหรัฐฯ ก็มาลงทุนที่ไทย สหรัฐฯ อยากขายของไปจีนก็มาลงทุนไทย”

ถ้าหากว่า เมนอน นักวิจัยจาก สถาบัน ISEAS-Yusof Ishak ตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศอย่างไทย เวียดนามพร้อมทั้งมาเลเซีย ได้เห็นการย้ายฐานการผลิตของบริษัทส่วนใหญ่จากจีมมายังตลาดของตนเรียบร้อยเเล้ว จึงเหลือโอกาสอย่างจำกัด หากเทียบกับประเทศอย่างกัมพูชาพร้อมทั้งลาวที่อยู่ใกล้จีน ที่น่าจะดึงเงินทุนจากจีนได้อีก

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอของไทย เปิดเผยว่า สถิติการยื่นขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากจีนในประเทศไทยเมื่อปีที่เเล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 430 โครงการ คิดเป็นร้อยละ 30.85 ของจำนวนโครงการลงทุนจากต่างประเทศทั้งหมดที่ยื่นขอรับการส่งเสริม พร้อมทั้งมีมูลค่าการลงทุนรวม 159,387 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 24.03 ของมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศ ทั้งหมดที่ยื่นขอรับการส่งเสริม

ทั้งนี้มูลค่าการยื่นขอการส่งเสริมการลงทุนจากจีนมายังไทย เคยสูงถึงมูลค่า 261,705 ล้านบาท เมื่อ 5 ปีที่เเล้ว 

นักวิเคราะห์ยังชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงอีกประการหนึ่ง

กล่าวคือ บางประเทศ โดยเฉพาะเวียดนาม ได้ดุลการค้าสหรัฐฯ ในระดับสูง อาจเสี่ยงต่อกำเเพงภาษีของอเมริกาอีกด้วย ตามความเห็นของเดบอราห์ เอล์มส์ หัวหน้าฝ่ายนโยบายการค้าของ Hinrich Foundation ทั้งตั้งอยู่ในสิงคโปร์

ทรัมป์กล่าวหลายครั้งระหว่างที่หาเสียงว่าสหรัฐฯ เสียดุลการค้าให้กับประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากจีนด้วย พร้อมทั้งเขาส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการตอบโต้ประเทศเหล่านี้

ในช่วง 10 ปีตั้งแต่ 2014 สหรัฐฯ ขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นให้กับไทยทั้งหมด 8 ปี โดยมูลค่าการขาดดุลในปี 2023 อยู่ที่ 40,725 ล้านดอลลาร์ ในปีดังกล่าวสหรัฐฯ ขาดดุลการค้าให้กับเวียดนาม 104,583 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งขาดดุลให้กับมาเลเซีย 26,832 ล้านดอลลาร์

ในบรรดาประเทศอาเซียน 10 ประเทศ ไทยได้ดุลการค้าสหรัฐฯ มากเป็นอันดับสองรองจากเวียดนามในปีที่เเล้ว อ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติสหรัฐฯ Census Bureau 

เดบอราห์ เอล์มส์ กล่าวด้วยว่า “ยังคงเป็นคำถามปลายเปิด” ว่าบริษัทต่าง ๆจะย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพิ่มหรือไม่ “มันมีปัจจัยมากมายที่สำคัญ แต่มันก็มีเหตุผลว่าทำไมบริษัทต่าง ๆ ยังคงอยู่ในประเทศจีนอย่างหนาเเน่น นั่นก็เพราะจีนยังคงมีขนาดพร้อมทั้งความคล่องตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งยากที่จะหาที่อื่น ๆ มาเทียบได้”

เธอคิดว่าบริษัทบางแห่งอาจเลือกที่จะผลิตสินค้าในจีนต่อไป พร้อมทั้งยอมรับเเรงกระเเทกจากภาษีที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐฯ หรืออาจมองหาตลาดอื่นเเทน

ฉากทัศน์นี้อาจนำไปสู่การค้าขายกันมากขึ้นในภูมิภาคเอเชีย 

แต่ รองศาสตราจารย์ อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอกว่าตลาดสินค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อาจถูกตัดราคาจากการหลั่งไหลของสินค้าจีน

เมนอน กล่าวปิดท้ายว่า “ในระยะสั้น แน่นอนว่า (ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้) จะได้ประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตครั้งใหญ่ ถ้ามีการย้านฐานเพิ่มขึ้น …แต่ท้ายที่สุด ข้อดีเหล่านี้จะซาลงพร้อมทั้งจะไม่ได้เป็นประโยชน์มากนักต่อไป”

ที่มา: วีโอเอ

รัสเซียเตือนสหรัฐฯ หยุดยกระดับขัดแย้งในสงครามยูเครน

รัสเซียออกโรงเตือนสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ ให้ยุติสิ่งที่เรียกว่าการ “เขม็งเกลียวความขัดแย้ง” ในสงครามยูเครน แต่ยังเปิดช่องทางสื่อสารระหว่างสองมหาอำนาจ หวั่นสถานการณ์ยกระดับ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก เรียบค็อฟ (Sergei Ryabkov) เมื่อวันพุธ โดยพบว่า รัสเซียส่งสัญญาณที่ชัดเจนพร้อมทั้งแจ่มแจ้งกับสหรัฐฯ ให้ยุติการจัดส่งอาวุธที่รัฐบาลยูเครนร้องขอ เพราะเป็นสิ่งที่ “อันตรายเกินไป” พร้อมทั้งว่า “คณะทำงานชุดปัจจุบันของสหรัฐฯ ต้องหยุดการเขม็งเกลียวความขัดแย้ง .. ไม่เช่นนั้นสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะอันตรายสำหรับทุกฝ่าย รวมถึงกับสหรัฐฯ เองด้วย”

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย บอกว่า การที่รัสเซียทดสอบสิ่งที่เรียกว่าขีปนาวุธโอเรชนิค ซึ่งเป็นขีปนาวุธพิสัยกลางวีถีโค้งรุ่นใหม่ เข้าจู่โจมยูเครนเมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการตอบโต้ยูเครนที่ยิงขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีกองทัพบก ATACMS (Army Tactical Missile System) ที่ผลิตในสหรัฐฯ 6 ลูก พร้อมทั้งขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล Storm Shadows ของอังกฤษเข้าไปในดินแดนรัสเซีย หลังยูเครนได้รับการอนุมัติจากชาติตะวันตก

ถ้าหากว่า เรียบค็อฟ ได้เผยในวันพุธด้วยว่ารัฐบาลมอสโกจะยังคงช่องทางการติดต่อสื่อสารกับรัฐบาลวอชิงตันเกี่ยวกับการทดสอบขีปนาวุธโอเรชนิค เพื่อช่วยลดความเสี่ยง “จากการคำนวณผิดพลาด” ที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ารัฐบาลมอสโก ที่เพิ่งรับรองนโยบายใหม่ในการลดระดับกฎเกณฑ์ในการใช้อาวุธนิวเคลียร์เมื่อสัปดาห์ก่อน มีความต้องการรักษาช่องทางการติดต่อสื่อสารกับสหรัฐฯ ในช่วงเวลาที่มีความตึงเครียดอย่างหนักกับรัฐบาลวอชิงตัน

ทางประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ได้บอกว่าการใช้ขีปนาวุธใหม่ของรัสเซีย ซึ่งยูเครนเผยว่าเป็นอาวุธที่จู่โจมในความเร็ว 13,600 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เท่ากับเป็นการ “ยกระดับอย่างชัดเจนพร้อมทั้งรุนแรง” ในสงครามนี้ พร้อมทั้งเรียกร้องให้นานาชาติประนามการยิงขีปนาวุธดังกล่าวของรัสเซีย

ขณะที่กองทัพสหรัฐฯ พบว่า ขีปนาวุธโอเรชนิคของรัสเซียอยู่ระหว่างที่ทดลองพร้อมทั้งคาดว่ารัสเซียมีอาวุธดังกล่าวเพียงหยิบมือ

ในวันพุธ สื่อรัฐบาลรัสเซีย TASS อ้างข้อมูลจากเจ้าหน้าที่รัสเซียว่า มอสโกกำลังเดินหน้านำขีปนาวุธวิถีโค้งพิสัยไกลข้ามทวีป ซาร์มัต (Sarmat intercontinental ballistic missile) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลังแสงนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ เข้ามาใช้ในการต่อสู้ด้วย

โดยขีปนาวุธ ซาร์มัต ออกแบบมาเพื่อติดหัวรบนิวเคลียร์ในการจู่โจมเป้าหมายในระยะหลายพันไมล์ มาถึงสหรัฐฯ หรือยุโรป แต่โครงการดังกล่าวมีความล่าช้าพร้อมทั้งเกิดปัญหาในการทดสอบในช่วงที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนกันยายน ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธ พบว่ารัสเซียล้มเหลวอย่างหนักในการทดสอบขีปนาวุธนี้รอบล่าสุด ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับฐานปล่อยขีปนาวุธชนิดดังกล่าว

ทำเนียบขาวกดดันยูเครนลดอายุเกณฑ์ทหาร

อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าวนานาชาติเอพี รายงานโดยอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของคณะทำงานประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ไม่ประสงค์ออกนาม เมื่อวันพุธว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ยูเครนเพิ่มกำลังพลของกองทัพด้วยการลดอายุการเกณฑ์ทหาร พร้อมทั้งปรับปรุงกฎหมายเพื่อให้สามารถเกณฑ์ทหารได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี จากปัจจุบันที่ 25 ปี เพื่อให้มีกำลังพลมากพอสำหรับการสู้รบกับรัสเซียที่มีจำนวนทหารมากกว่า

เจ้าหน้าที่รายนี้ เผยกับเอพีด้วยว่า ยูเครนพบว่าต้องการทหารเพิ่มเติมอีก 160,000 นาย จากปัจจุบันที่ยูเครนมีทหารพร้อมทั้งกองกำลังจากหน่วยต่าง ๆ อยู่มากกว่า 1 ล้านนาย แต่สหรัฐฯ พร้อมทั้งพันธมิตรชาติตะวันตกต่างมองว่ายูเครนต้องการกำลังพลสูงกว่านั้นมาก อีกทั้งยังเป็นสิ่งที่จำเป็นมากกว่าปัญหาด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ในสงครามนี้

การเกณฑ์ทหารกลายเป็นประเด็นอ่อนไหวในยูเครนตลอดช่วงสงครามกับรัสเซียที่ดำเนินมาเกือบ 3 ปี โดยชาวยูเครนบางส่วนแสดงความกังวลว่าการลดอายุเกณฑ์ทหารลงไปอีกจะเป็นการดึงกำลังแรงงานออกไป พร้อมทั้งกระทบต่อเศรษฐกิจในยุคหลังสงคราม

ขณะที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลไบเดน เสริมว่าสหรัฐฯ เชื่อว่ายูเครนสามารถใช้กำลังพลที่มีอย่างมีประสิทธิภาพได้มากกว่านี้ ด้วยการเข้าจัดการกับผู้ที่หลบเลี่ยงการเกณฑ์ทหารหรือไม่เข้ามารายงานตัว

ที่มา: รอยเตอร์, เอพี