ข่าวด่วนวันนี้
thailandtvhd.com
เปิดชีวิตครอบครัวยูเครนที่ต้องพลัดพราก เมื่อสงครามครบรอบ 1,000 วัน
ชีวิตชาวยูเครนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ท่ามกลางเสียงระเบิด ไซเรน พร้อมทั้งการพัดพราก
หนึ่งในกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบรุนเเรงคือครอบครัวของ ‘โอเลห์ เรเชตเนียค’ ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ของสื่อระดับประเทศของยูเครน พร้อมทั้งแอนนาภรรยาของเขา
ทั้งคู่ร่วมกันฉลองวันเกิดครบสามขวบของลูกสาว เมื่อวันที่ที่ 21 กุมภาพันธ์เมื่อสองปีก่อน
ในคืนเดียวกันนั้นประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิเมียร์ ปูตินประกาศยอมรับความเป็นสาธารณรัฐของเขตดอนเนตสก์ พร้อมทั้งลูฮานสก์
แอนนา บอกว่าสามีของเธอพร้อมทั้งพ่อของเขาเกาะติดจอโทรทัศน์ติดตามข่าว ขณะที่เธออยากให้ทุกคนหันมาฉลองวันเกิดของลูก
แต่เธอกลับถูกตอบกลับว่าข่าวนี้สำคัญมาก เมื่อพวกเขาบอกเธอว่า “เราต้องการฟังว่าเกิดอะไรขึ้น”
สามวันหลังจากนั้น ปูตินประกาศบุกยูเครน
แอนนา ที่กำลังท้องแก่พร้อมทั้งลูกชายตัวน้อยจึงรีบอพยพออกจากยูเครน ส่วนโอเลห์สามีอยู่ในประเทศต่อไป
ต่อมาไม่นาน ในเดือนเมษายนปีเดียวกัน แอนนา ซึ่งลี้ภัยไปเดนมาร์กคลอดลูกสาว วิตอเรีย โดยโอเลห์ไม่มีโอกาสอยู่ใกล้ ๆ
โอเลห์ บอกว่า “รถถังที่ประจำการอยู่ ถูกอำพรางอยู่ แต่คุณก็ยังได้ยินเสียงระเบิด”
ฤดูร้อนปีถัดมา แอนนากลับมาที่กรุงเคียฟ พร้อมด้วยลูกสาวทั้งสองคน
โอเลห์นำเงินเก็บของครอบครัวไปลงทุนเปิดสตูดิโอถ่ายภาพ ท่ามกลางสงครามที่ยังดำเนินไป
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แอนนาให้กำเนิดลูกสาวคนที่สามของครอบครัว ขณะที่วิคตอเรียวัยสองขวบพยายามปรับตัวกับชีวิตช่วงสงคราม
แอนนาบอกว่า “มุมมองจากด้านนอก มันดูบ้าคลั่ง เด็กอายุสองขวบรู้แล้วว่าเสียงไซเรนคืออะไร พร้อมทั้งรู้ด้วยว่าอะไรคือสัญญาณว่าทุกอย่างปลอดภัยดี”
ข้อมูลของสหประชาชาติพบว่า พลเรือนยูเครนกว่า 12,000 คนจบชีวิต ตั้งเเต่รัสเซียทำการรุกราน พร้อมทั้งยังมีอีกเกือบ 27,000 คนที่ได้รับบาดเจ็บ
ถ้าหากว่า ผู้เชี่ยวชาญบอกว่าชาวยูเครนยังคงแน่วเเน่นเหมือนเดิมที่จะต้านการบุกของรัสเซีย เช่นเดียวกับเมื่อตอนเริ่มต้นสงคราม
โอเล็กซานเดอร์ มูเซียนโก ผู้เชี่ยวชานด้านการทหาร บอกว่า “ราวสองในสามของประชาชนพร้อมที่จะสู้ต่อไป พวกเขายังรู้สึกว่ามีพลัง…ส่วนที่เหลือราวหนึ่งในสาม ไม่ได้ว่าอยากจะยอมเเพ้รัสเซีย แต่อยากมองหาทางออก ซึ่งรวมถึงการยอมสูญเสียบางอย่างที่พวกเขาเห็นว่าสมเหตุสมผล”
เยฟเชน โฮโลวากา แห่งสถาบัน Institute of Sociology ของยูเครนศึกษาความสามารถในการฟื้นฟูกำลังใจของคนในชาติ บอกว่าคนจำนวนมากเห็นว่าการเป็นประเทศที่มีอิสรภาพเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง
“เมื่อเราถามว่าเรื่องการมีเสรีภาพพร้อมทั้งอิสรภาพสำคัญเพียงใดต่อยูเครน ร้อยละ 93 บอกว่าสำคัญอย่างยิ่งยวด มีคนจำนวนน้อยเท่านั้นที่ไม่เเน่ใจหรือคิดว่าไม่สำคัญ” โฮโลวากากล่าว
โอเลห์ เรเชตเนียค บอกว่าตนกังวลถึงอนาคตของยูเครน เมื่อรัฐบาลใหม่ของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อาจเลิกให้การสนับสนุนประเทศของเขา
เรเชตเนียค ผู้ที่จบการศึกษาสาขาประวัติศาสตร์ บอกว่า “ถ้าสหรัฐฯ ไม่สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ มันอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ ๆ ในโลก”
เรเชตเนียคได้รับการยกเว้นเป็นทหารที่ต้องรบในด่านหน้า เนื่องจากเป็นคุณพ่อลูกสาม แต่เขายังคงอยู่ในยูเครนพร้อมทั้งให้การสนับสนุนทหารยูเครนด้วยการบริจาคเงิน พร้อมทั้งการส่งเสียงให้โลกรับรู้ถึงความโหดร้ายของสงคราม
ที่มา: วีโอเอ
ทรัมป์ เตรียมเสนอ ‘ฮาวเวิร์ด ลุทนิค’ เป็นรมว.พาณิชย์
ลุทนิค ซีอีโอของบริษัทด้านการเงิน Cantor Fitzgerald วัย 63 ปี ดำรงตำแหน่งประธานร่วมของทีมช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาลของทรัมป์ พร้อมทั้งช่วยในการพิจารณาคัดสรรบุคคลที่จะเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งระดับสูงของรัฐบาลหลังทรัมป์ก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคมนี้
ลุทนิคเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์อย่างแข็งขันในช่วงหลายเดือนมานี้ อีกทั้งยังเคยปรากฏในรายการเรียลลิตี้โชว์ The Apprentice ก่อนที่ทรัมป์จะได้รับเลือกเป็นผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 ด้วย
หากได้รับการเสนอชื่อพร้อมทั้งได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้เป็นรมว.พาณิชย์ มีแนวโน้มว่าลุทนิคจะมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลนโยบายเศรษฐกิจพร้อมทั้งการค้าตามแนวทางของทรัมป์
เมื่อวันจันทร์ ทรัมป์ เสนอชื่ออดีตส.ส.วิสคอนซิน ฌอน ดัฟฟี ที่ปัจจุบันผันตัวมาเป็นพิธีกรช่อง Fox News ให้รับตำแหน่งรัฐมนตรีคมนาคมสหรัฐฯ
ซึ่งหากเขาได้รับการรับรอง เขาจะเข้ามาดูแลกระทรวงที่มีงบประมาณ 110,000 ล้านดอลลาร์แห่งนี้ ท่ามกลางความท้าทายหลายด้าน อาทิ การแก้ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เพิ่มสูงขึ้น การผ่อนคลายมาตรการกำกับดูแลรถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า การแก้ไขกฎระเบียบด้านการปล่อยมลพิษของยานพาหนะ พร้อมทั้งการปฏิรูปด้านความปลอดภัยการขนส่งระบบราง
ที่มา: วีโอเอ
เนทันยาฮู ย้ำฮามาสไม่มีสิทธิ์ปกครองกาซ่าหลังสงครามสิ้นสุดลง
เนทันยาฮู ยังกล่าวในวิดีโอระหว่างที่เยือนกาซ่าร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลด้วยว่า ตนจะไม่ยอมแพ้ในการค้นหาตัวประกัน 101 คนที่เชื่อว่ายังอยู่ในกาซ่า พร้อมเสนอเงินรางวัล 5 ล้านดอลลาร์ต่อ 1 รายหากส่งคืนตัวประกันให้ โดยกล่าวย้ำว่าจะตามล่าผู้ที่ทำอันตรายตัวประกันของตน
ผู้นำอิสราเอลบอกว่า “ใครก็ตามที่นำตัวประกันคืนมาให้เราจะได้รับความช่วยเหลือทั้งครอบครัวให้ออกจากที่นั่นอย่างปลอดภัย .. จงเลือกเสีย ทางเลือกเป็นของคุณแล้ว แต่ผลลัพธ์จะยังคงเหมือนเดิม เราจะนำพวกเขากลับมาทั้งหมด”
อีกด้านหนึ่ง กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสอีก 6 ราย เมื่อวันอังคาร เพื่อกดดันให้มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงพร้อมทั้งปล่อยตัวประกันในกาซ่า
ทั้งนี้ ทางจากอิสราเอลเผยว่า กลุ่มฮามาสเปิดฉากจู่โจมอิสราเอลเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน คร่าชีวิต 1,200 คนพร้อมทั้งจับตัวประกัน 250 คนในอิสราเอล ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขในกาซ่า เผยว่า การจู่โจมโต้กลับของอิสราเอล คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์มากกว่า 43,500 คน พร้อมทั้งอีก 2 ล้านคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากสงครามนี้
ที่มา: รอยเตอร์
ชายนิวซีแลนด์ คว้าแชมป์โลกเกมต่อคำสเปน แม้ไม่ใช่เจ้าของภาษา
รอยเตอร์ รายงานว่า ไนเจล ริชาร์ดส ชาวนิวซีแลนด์ วัย 57 ปี คว้าชัยในการแข่งขันเกมต่อคำ Spanish Scrabble World Championship เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แม้เขาจะไม่ใช่เจ้าของภาษาพร้อมทั้งไม่สามารถพูดภาษาสเปนได้ ริชาร์ดส เอาชนะคู่แข่งด้วยความจำอันเป็นเลิศพร้อมทั้งกลยุทธ์การเล่นที่ไม่เป็นรองใคร
ระหว่างที่แข่งขัน ริชาร์ดส ได้เผยทักษะในการนึกถึงคำศัพท์ภาษาสเปนอันน่าทึ่งของเขา เทคนิคพร้อมทั้งความแม่นยำในการเล่นเกมต่อคำ ทำให้เขาคว้าชัยในการแข่งขันนี้มาได้
ชัยชนะของริชาร์ดส ถือเป็นการสะสมสถิติอันน่าประทับใจของเขา เพราะก่อนหน้านี้ นักเล่นเกมต่อคำวัย 57 ปี เพิ่งเป็นแชมป์โลกสแคร็บเบิลภาษาฝรั่งเศส ทั้งที่ตัวเขาเองไม่ได้พูดภาษาฝรั่งเศสเช่นกัน
ที่มา: รอยเตอร์
วิเคราะห์: สหรัฐฯ ไฟเขียว ATACMS ให้ยูเครน เพียงพอที่จะจบสงครามกับรัสเซียหรือไม่?
ATACMS ย่อมาจาก Army Tactical Missile System เป็นระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบกสหรัฐฯ ผลิตโดยบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน มีวิถีจู่โจมเป้าหมายได้สูงสุดที่เกือบ 300 กม. นำร่องด้วยระบบจีพีเอส พร้อมทั้งมีความรวดเร็วกว่าขีปนาวุธอื่น ๆ ในสมรภูมิทั่วโลก รวมถึงขีปนาวุธ Storm Shadow พร้อมทั้งขีปนาวุธ KH-101 ของรัสเซีย
ถ้าหากว่า ATACMS รุ่นที่สหรัฐฯ ส่งให้ยูเครนใช้ เป็นขีปนาวุธรุ่นเก่าที่มีพิสัยทำการที่ราว 170 กม. อ้างอิงตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงวอชิงตันเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา
ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นการขยับตามที่ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนร้องขอมายาวนาน ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คู่สงครามยกระดับการจู่โจม พร้อมทั้งรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดปัจจุบันเหลืออำนาจอีกเพียงสองเดือน
นักวิเคราะห์หลายรายให้ข้อมูลกับ VOA ว่าการตัดสินใจล่าสุดของรัฐบาลวอชิงตันถือเป็นหัวเลี้ยวหัวต่อของสงครามที่ดำเนินมาเข้าปีที่สาม แต่ก็ฉายภาพถึงความไม่แน่นอนในแง่ของแรงกระเพื่อมที่จะตามมานับจากนี้
แอนดรีย์ ซาโกรอดนุก อดีตรัฐมนตรีกลาโหมของยูเครน ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล มองว่าการตัดสินใจของรัฐบาลไบเดนนั้นล่าช้าเพราะต้องระวังว่าจะไปยั่วยุรัสเซีย
เขาบอกว่ายุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ที่มุ่งเน้นการตอบสนองต่อการยั่วยุของกรุงมอสโกมากไปกว่าการมีแผนการรอบด้าน “ไม่ได้นำเราเข้าใกล้การคลี่คลายสงคราม พร้อมทั้งยิ่งทำให้รัสเซียสามารถยกระดับได้มากขึ้น”
มาร์ค วอยเจอร์ ประธานหลักสูตรการจัดการระดับโลก มหาวิทยาลัยอเมริกันที่กรุงเคียฟ มองว่า ATACMS มีความสำคัญในด้านจิตวิทยาพร้อมทั้งปฏิบัติการทางทหาร เพราะพิสัยทำการสามารถยิงไปยังศูนย์บัญชาการ คลังยุทธปัจจัย หรือกองทัพเกาหลีเหนือที่มาช่วยรัสเซียรบได้
ถ้าหากว่า วอยเจอร์มองว่า “การตัดสินใจนี้ควรเกิดขึ้นเร็วกว่านี้ เพื่อรักษาชีวิตพร้อมทั้งให้ยูเครนมีเครื่องมือที่ดีในสนามรบ”
รัฐบาลกรุงมอสโกเตือนสหรัฐฯ ให้ระวังถึงผลที่จะตามมา หากมีการอนุญาตให้ยูเครนตัดสินใจใช้อาวุธพิสัยไกลตามการรายงานจริง
ดิมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียได้บอกกล่าวกับสื่อในประเทศว่า “หากการตัดสินใจนี้มีขึ้นจริงพร้อมทั้งมีการรายงานไปยังเคียฟจริง นี่คือความตึงเครียดรอบใหม่ พร้อมทั้งสถานการณ์ใหม่ในแง่ของการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในความขัดแย้งนี้”
การเปลี่ยนรัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า กลายเป็นปัจจัยที่กรุงเคียฟกังวลว่ายูเครนอาจสูญเสียผู้สนับสนุนทางการทหารรายหลัก สืบเนื่องจากการที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สัญญาว่าจะจบสงครามนี้โดยเร็ว แต่ยังไม่ลงข้อมูลที่ชัดเจนในทางยุทธศาสตร์
วอยเจอร์บอกว่าการตัดสินใจของไบเดนครั้งนี้อาจบ่งชี้ถึงความกังวล ที่ต้องการสถาปนาการสนับสนุนยูเครนให้เรียบร้อยก่อนการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
วอยเจอร์บอกว่า “หากรัฐบาลใหม่ถอนความช่วยเหลือทางทหาร หรือจำกัดการจู่โจมของยูเครน ก็อาจทำให้จุดยืนของยูเครนอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญทั้งในสนามรบพร้อมทั้งบนโต๊ะเจรจา”
อดีต รมว.กลาโหม ซาโกรอดนุกบอกว่าหนทางเดียวที่จะบีบให้วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย มานั่งโต๊ะเจรจาอย่างจริงจังได้คือการทำให้เขาตกอยู่ในจุดที่สุ่มเสี่ยงที่จะทั้งสูญเสียอำนาจพร้อมทั้งพ่ายแพ้ในสนามรบ พร้อมทั้งในการบรรลุเป้าหมายนี้ พันธมิตรนาโต้พร้อมทั้งสหรัฐฯ ต้องสนับสนุนยูเครนในการสู้กลับ
“ยูเครนสามารถทำปฏิบัติการรุกกลับอย่างสำเร็จ (ที่) จะทำให้ปูตินอยู่ในสถานการณ์ที่เขาเข้าใจว่า หากไม่หยุดสงคราม เขาอาจจะแพ้อย่างใหญ่หลวง พร้อมทั้งนั่นอาจส่งผลกระทบต่อระบอบพร้อมทั้งอำนาจของเขา” ซาโกรอดนุกอธิบายฉากทรรศน์ดังกล่าว
ที่มา: วีโอเอ
เผยรอยปริใน ‘จี20’ ปมส่งความช่วยเหลือให้ยูเครน
บรรดานักการทูตชาติตะวันตกที่เข้าร่วมประชุม พยายามผลักดันให้มีการตำหนิการกระทำของรัสเซีย สืบเนื่องจากปฏิบัติการทางทหารเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ซึ่งเป็นการจู่โจมยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบหลายเดือน
จอน ไฟเนอร์ รองที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาว ได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ต้องการให้มีการใช้ “ถ้อยคำที่เข้มแข็งที่สุด” ในส่วนที่เกี่ยวกับยูเครน ถ้าหากว่า แถลงการณ์ร่วมของการประชุมมิได้รวมเอาสิ่งที่สหรัฐฯ พยายามผลักดันเข้าไว้ด้วย
ไฟเนอร์ชี้ว่า การหาบทสรุปร่วมกันอย่างเป็นเอกฉันทน์ในการประชุม จี20 นั้นเป็นเรื่องท้าทายยิ่ง เนื่องจากความหลากหลายของประเทศสมาชิกที่มีรัสเซีย จีน พร้อมทั้งประเทศในซีกโลกใต้ด้วย
แถลงการณ์ร่วมของการประชุม จี20 เน้นย้ำถึงความเจ็บปวดพร้อมทั้งผลกระทบที่โหดร้ายของสงครามในยูเครนที่มีต่อเศรษฐกิจโลก แต่มิได้มีการประณามรัสเซีย นอกจากนี้ยังมีการเรียกร้องให้เกิดข้อตกลงหยุดยิงในกาซ่าพร้อมทั้งเลบานอน การยึดมั่นในแนวทางสองรัฐ แต่ไม่ได้พูดถึงสิทธิในการป้องกันตนเองของอิสราเอล
จีนย้ำความสำคัญของ “ซีกโลกใต้”
ในการประชุม จี20 เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ประกาศมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาทั่วโลก โดยเน้นย้ำการสนับสนุนของจีนต่อโครงการพื้นฐานด้านการพัฒนาในประเทศต่าง ๆ ได้แก่โครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” พร้อมทั้งโครงการพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับ “ประเทศซีกโลกใต้” นำโดยจีน บราซิล พร้อมทั้งแอฟริกาใต้
ปธน.สี บอกว่า “จีนสนับสนุนให้กลุ่มจี20 เป็นผู้นำในการสร้างความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ของประเทศซีกโลกใต้” โดยตั้งเป้าว่า จีนจะนำเข้าสินค้าจากประเทศกำลังพัฒนาต่าง ๆ เพิ่มขึ้นแตะหลัก 8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ตามรายงานของสำนักข่าวซินหัว
ทั้งนี้ ซีกโลกใต้ หรือ Global South มักหมายถึงประเทศกำลังพัฒนาตามคำนิยามของสหประชาชาติ พร้อมทั้งรวมถึงจีนกับประเทศในแถบอ่าวเปอร์เซียด้วย โดยในช่วงไม่กี่ปีมานี้ จีนพร้อมทั้งรัสเซียได้เพิ่มความพยายามสนับสนุนกลุ่มประเทศเหล่านี้ทั้งทางการเมือง การทหารพร้อมทั้งเศรษฐกิจ
แก้ปัญหาโลกร้อนพร้อมทั้งความยากจน
บราซิล ซึ่งเป็นเจ้าภาพการประชุม จี20 ปีนี้ พยายามเน้นความสำคัญของการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก พร้อมทั้งความยากจน นอกเหนือไปจากความขัดแย้งพร้อมทั้งสงคราม
เมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา แห่งบราซิล เปิดตัวกลุ่มพันธมิตรระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับปัญหาความยากจนพร้อมทั้งผู้หิวโหย โดยบอกว่า ผลกระทบอันเลวร้ายของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสามารถเห็นได้ทั่วโลก
แต่แหล่งข่าวทางการทูตที่ไม่เปิดเผยชื่อได้บอกกล่าวกับวีโอเอว่า ผู้เจรจาที่ริโอยังไม่สามารถหาความตกลงร่วมกันในเรื่องการเงินสำหรับการต่อสู้ภาวะโลกร้อนได้ โดยทางชาติตะวันตกต้องการให้จีนพร้อมทั้งประเทศที่มั่งคั่งในตะวันออกกลางเพิ่มสัดส่วนเงินบริจาคในกองทุนเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก แต่ถูกคัดค้านจากประเทศซีกโลกใต้บางประเทศ รวมทั้งบราซิลเองด้วย
ในเวลาเดียวกัน ปธน.ลูลาของบราซิลเสนอให้เก็บภาษีเพิ่มอีก 2% สำหรับมหาเศรษฐีทั่วโลกเพื่อนำมาใช้เป็นเงินทุนในการแก้ปัญหาความยากจน แต่ก็ต้องเผชิญแรงต้านจากหลายประเทศ รวมทั้งจากประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ฮาเวียร์ มิเล ผู้เดินทางไปพบกับว่าที่ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ที่รัฐฟลอริดา เมื่อเร็ว ๆ นี้
โดยในแถลงการณ์ร่วมของกลุ่ม จี20 ในวันอังคาร พบว่า บรรดาผู้นำต่างเห็นพ้องในการทำงานเพื่อรับรองว่า กลุ่มบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกจะต้องถูกจัดเก็บภาษีอย่างมีประสิทธิภาพ
ที่มา: วีโอเอ
ยูเครนใช้ขีปนาวุธสหรัฐฯ ยิงใส่รัสเซียครบรอบสงคราม 1,000 วัน
ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนเผยในวันอังคารว่า ขีปนาวุธได้ทำลายคลังกระสุนแห่งหนึ่งในแคว้นไบรอานส์กของรัสเซีย ก่อให้เกิดไฟไหม้พร้อมทั้งระเบิดหลายครั้งสร้างความเสียหายให้กับกระสุนปืนใหญ่จำนวนมาก แต่มิได้ยืนยันว่าเป็นขีปนาวุธพิสัยไกลของสหรัฐฯ หรือไม่
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียพบว่า สามารถทำลายขีปนาวุธ ATACMS ที่ยูเครนยิงมาได้ 1 ลำ พร้อมทั้งยิงตกลงมาอีก 5 ลำ โดยชิ้นส่วนตกลงในพื้นที่ทางการทหารของรัสเซียพร้อมทั้งเกิดไฟไหม้ แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายแต่อย่างใด
ทางสำนักข่าวนานาชาติเอพียังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของรายงานจากทั้งสองฝ่ายได้
ก่อนหน้านี้สองวัน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปรับเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐฯ โดยอนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่สหรัฐฯ จัดหาให้ ในการจู่โจมลึกเข้าไปในรัสเซียได้
รายงานเรื่องยูเครนใช้ขีปนาวุธเชิงยุทธวิธีกองทัพบก ATACMS (Army Tactical Missile System) มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน ประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อลดระดับข้อจำกัดการใช้อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้รัสเซียสามารถใช้นิวเคลียร์ในการตอบโต้ได้ง่ายขึ้น แม้แต่การจู่โจมแบบธรรมดาโดยประเทศที่ไม่มีอาวุธนิวเคลียร์ครอบครองแต่ได้รับการสนับสนุนจากประเทศมหาอำนาจทางนิวเคลียร์
ระเบียบใหม่ของรัสเซียพบว่า รัสเซียสามารถใช้อาวุธนิวเคลียร์ได้ในกรณีที่มีการจู่โจมทางอากาศครั้งใหญ่ใส่รัสเซีย พร้อมทั้งมีการใช้ขีปนาวุธแบบร่อนพร้อมทั้งแบบวิถีโค้ง อากาศยาน โดรน พร้อมทั้งพาหนะบินได้อื่น ๆ ในการจู่โจมดังกล่าว
นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการจู่โจมเบลารุส ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของรัสเซียด้วย
เชื่อว่ามาตรการล่าสุดของรัสเซียมีขึ้นเพื่อรับมือกับการจู่โจมของกองทัพยูเครนที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าสงครามครั้งนี้อาจยกระดับขึ้น
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ แสดงความหวั่นวิตกที่เกาหลีเหนือส่งทหารเข้าไปช่วยทำการรบในรัสเซีย ขณะที่รัฐบาลกรุงมอสโกก็ไม่พอใจเมื่อสหรัฐฯ อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS ได้เช่นกัน
สงคราม 1,000 วัน
ช่วงเวลา 1,000 วันของสงครามรัสเซีย-ยูเครน มาถึงท่ามกลางคำถามต่อทิศทางพร้อมทั้งจุดสิ้นสุดของสงครามครั้งนี้ ในขณะที่มีสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเมื่อว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม โดยทรัมป์เคยรับปากไว้ว่าจะยุติสงครามในยูเครนตั้งแต่วันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง พร้อมทั้งยังวิจารณ์มูลค่าพร้อมทั้งปริมาณความช่วยเหลือที่สหรัฐฯ ให้แก่ยูเครนในช่วง 1,000 วันที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ทั้งรัสเซียพร้อมทั้งยูเครนจะไม่อาจเดินหน้าทำสงครามได้ต่อไปในระยะยาว แม้ว่าดูเหมือนกรุงมอสโกจะสามารถยืนระยะได้นานกว่าเนื่องจากมีทรัพยากรที่มากกว่าก็ตาม
เวลานี้ กองทัพรัสเซียกำลังกดดันกองทัพยูเครนอย่างหนักบริเวณแนวหน้าความยาว 1,000 กม. ทางภาคตะวันออกของยูเครน ในขณะที่ โดรนพร้อมทั้งขีปนาวุธของรัสเซียยังระดมจู่โจมใส่เมืองต่าง ๆ ทั่วยูเครนอย่างต่อเนื่อง
ในวันอังคาร เจ้าหน้าที่ยูเครนพบว่า โดรนรัสเซียได้จู่โจมใส่เขตชุมชนในยูเครนทำให้มีผู้จบชีวิตอย่างน้อย 12 คน รวมทั้งเด็กหลายคน ก่อนหน้านี้ในช่วงสองวันที่ผ่านมา มีรายงานว่าโดรนพร้อมทั้งขีปนาวุธรัสเซียได้จู่โจมใสเขตปกครองซูมี ทำให้มีผู้จบชีวิตอย่างน้อย 11 คน บาดเจ็บหลายสิบคน
ข้อมูลบางส่วนจากเอพี พร้อมทั้งรอยเตอร์
สองสาวออสซี่ถูกส่งรักษาในไทยด่วน หลังดื่มเหล้าขาวในลาว
หนังสือพิมพ์ The Age ในนครเมลเบิร์น รายงานว่า สตรีวัยรุ่นอายุ 19 ปีสองคนซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์ชาวออสเตรเลีย ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดอุดรธานีพร้อมทั้งกรุงเทพฯ หลังจากล้มป่วยที่ Nana Backpacker Hostel ที่เมืองวังเวียง ประเทศลาว ซึ่งพวกเธอเข้าพักก่อนหน้านี้
เดือง ดึก โตน ผู้จัดการของ Nana Backpacker Hostel ได้บอกกล่าวกับสำนักข่าวนานาชาติเอพีว่า แขกคนอื่น ๆ มาบอกว่าวัยรุ่นสองคนนั้นมีอาการป่วยพร้อมทั้งไม่ได้เช็คเอาท์ตามกำหนดการเดิมคือวันที่ 13 พ.ย. ทางโฮสเทลจึงได้จัดรถไปส่งพวกเธอที่โรงพยาบาล จากนั้นถูกส่งไปรักษาต่อที่ประเทศไทย
เขาบอกว่าสองวันก่อนหน้านั้น ผู้หญิงสองคนนี้พร้อมทั้งแขกอีกกว่า 100 คนเข้าร่วมงานปาร์ตี้ที่ทางโฮสเทลจัดขึ้น พร้อมทั้งได้ดื่มเหล้าขาววอดก้าที่ผลิตเองในลาว จากนั้นสองสาวได้หายไปทั้งคืนพร้อมทั้งกลับมาอีกทีในเช้าวันรุ่งขึ้น
เดือง ดึก โตน บอกด้วยว่า แขกคนอื่นที่ดื่มเหล้าขาวนั้นไม่มีใครเป็นอะไรนอกจากสตรีออสซี่สองคนนี้ แต่ทางเอพียังไม่สามารถยืนยันคำกล่าวนี้ได้
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศพร้อมทั้งการค้าของออสเตรเลีย พบว่า ได้ให้การช่วยเหลือด้านกงสุลแก่สตรีทั้งสองคนพร้อมทั้งครอบครัวของพวกเธอที่เดินทางมาประเทศไทยแล้ว แต่ไม่สามารถให้ข้อมูลอื่น ๆ ได้เนื่องจากเหตุผลความเป็นส่วนตัว ตามรายงานของเอพี
ยังไม่ชัดเจนว่าเหล้าขาวที่ผลิตในลาวเป็นสาเหตุของอาการป่วยนี้หรือไม่ แต่ที่ผ่านมามีรายงานการใช้เมธานอลในการผสมเหล้าในบางกรณีตามบาร์ต่าง ๆ พร้อมทั้งอาจทำให้เกิดอาการป่วยหนักหรือจบชีวิตได้
จัสมิน อันโตนิอุส นักท่องเที่ยวจากเนเธอร์แลนด์ บอกกับเอพีว่า เธอพยายามระมัดระวังการดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นหลังจากข่าวนี้แพร่สะพัดออกไป พร้อมทั้งหวังว่านักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ จะระวังมากขึ้นเช่นกัน
ด้านผู้จัดการของ Nana Backpacker Hostel บอกว่า เขาหวังว่าการสืบสวนจะสามารถสร้างความกระจ่างชัดพร้อมทั้งลบข้อกล่าวหาที่มีต่อทางโฮสเทลได้ แต่ตอนนี้สิ่งที่เขาทำได้คือหยุดการแจกเหล้าฟรีให้แก่ผู้ที่เข้าพักที่โฮสเทลเป็นการชั่วคราว
เมืองวังเวียง ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเวียงจันทน์ราว 160 กม. ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในหมู่แบ็กแพ็กเกอร์ที่ชื่นชอบการผจญภัยพร้อมทั้งงานปาร์ตี้
ที่มา: เอพี