ครบ 1 ปี ‘ปฏิบัติการ 1027’ พันธมิตรผสานกำลังขับไล่รัฐบาลทหารเมียนมา

หนึ่งปีที่แล้ว กองกำลังชาติพันธุ์ขนาดใหญ่สามกลุ่มในเมียนมา ได้ร่วมมือกันสู้รบกับกองทัพเมียนมาในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ พร้อมทั้งสามารถยึดพื้นที่ได้อย่างกว้างขวาง สร้างแรงกระเพื่อมให้กับกลุ่มอื่น ๆ ลุกขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลทหารที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากจีนพร้อมทั้งรัสเซีย

ถึงเวลา ‘งานประกวดค้างคาวงาม’ เมื่อฮาโลวีนขยับใกล้เข้ามา

เมื่อวันฮาโลวีนขยับเข้าใกล้มา งานประกวดที่แปลกแหวกแนวไม่เหมือนใครอีกงานก็กำลังจะเกิดขึ้นในสหรัฐฯ ด้วยจุดประสงค์เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาจมีภาพลักษณ์น่ากลัวในสายตาบางคน ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติเอพี

การประกวดที่ว่านี้คือ “งานประกวดค้างคาวงาม” ที่จัดขึ้นโดยสำนักบริหารจัดการที่ดิน ภายใต้กระทรวงกิจการภายในของสหรัฐฯ มาตั้งแต่ปี 2019 เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับบทบาทด้านระบบนิเวศของค้างคาว

แต่การประกวดนี้ไม่ได้ดำเนินในรูปแบบการนำค้างคาวมาขึ้นเวทีเหมือนกรณีของการประชันความงามของคนหรือสัตว์ประเภทอื่น ๆ แต่ทางสำนักฯ ใช้วิธีนำภาพของค้างคาวที่ได้รับการคัดเลือกมาแล้วขึ้นโพสต์ทางเฟซบุ๊กพร้อมทั้งอินสตาแกรมของตน พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนลงคะแนนโหวตว่า ตัวไหนน่ารักที่สุด

ค้างคาวที่เข้าประกวดนั้นเป็นค้างคาวป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่สาธารณะภายใต้การดูแลของสำนักบริหารจัดการที่ดิน พร้อมทั้งภาพถ่ายทั้งหมดก็เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ของที่นี่

การประกวดรอบแรกเริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว พร้อมทั้งมีผู้เข้าประกวดที่โดดเด่นอยู่ 2 ตัว ได้แก่ ค้างคาวหูโต จากรัฐยูทาห์ ที่เจ้าหน้าที่ตั้งชื่อให้ว่า Sir Flaps-A-Lot หรือ “ท่านเซอร์หูกระดิก ๆ” พร้อมทั้งค้างคาวโฮรี จากรัฐโอเรกอน ที่ได้ชื่อประกวดว่า Hoary Potter ซึ่งเข้าใจกันได้ว่าเป็นการตั้งชื่อล้อ “แฮร์รี พอตเตอร์”

การประกวดนี้เปิดฉากขึ้นพร้อม ๆ กับการเริ่มต้นของสัปดาห์แห่งค้างคาว ระหว่างวันที่ 24 ถึง 31 ตุลาคมในปีนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ผู้เชี่ยวชาญด้านค้างคาวจากทั่วสหรัฐฯ พร้อมทั้งทั่วโลกจะเดินทางมาร่วมงานกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมติดปีกนี้

ในส่วนของการประกวดปีนี้ ค้างคาวทั้งสองไม่ได้ถูกจัดว่าเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์ แต่ทางการของทั้งยูทาห์พร้อมทั้งโอเรกอนต่างใส่ชื่อของค้างคาวสองชนิดนี้ในรายการสายพันธุ์สัตว์ที่ควรได้รับการใส่ใจด้านการอนุรักษ์แล้ว

 

ที่มา: เอพี

‘แมคโดนัลด์’ เปิดขายเบอร์เกอร์ต้องสงสัยอีโคไล หลังผลทดสอบไม่พบเชื้อ

แมคโดนัลด์ เชนฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง ประกาศจะนำเมนูเบอร์เกอร์ Quarter Pounder กลับมาจำหน่ายอีกครั้ง หลังจากต้องประกาศระงับการขายไปทั่วคราวในร้านสาขาหลายร้อยแห่ง เนื่องจากมีรายงานผู้จบชีวิตพร้อมทั้งผู้ป่วยจากการมารับประทานอาหารที่ร้าน ตามรายงานของสำนักข่าวนานาชาติเอพี

การประกาศนำเบอร์เกอร์นี้กลับคืนสู่เมนูอีกครั้งเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ หลังแมคโดนัลด์ได้รับรายงานผลการทดสอบจากห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ว่า ไม่พบเชื้ออีโคไลในเนื้อเบอร์เกอร์ของตน แม้จะมีรายงานว่า ผู้ป่วยที่มารับประทานอาหารที่ร้านฟาสต์ฟู้ดยอดนิยมนี้อย่างน้อย 10 คนติดเชื้อดังกล่าวไป

ถ้าหากว่า สำนักงานอาหารพร้อมทั้งยาสหรัฐฯ (FDA) ยังคงสงสัยว่า หอมหัวใหญ่หั่นแว่นที่มาจากซัพพลายเออร์รายหนึ่งของแมคโดนัลด์คือ ต้นเหตุของการปนเปื้อนติดเชื้อที่เกิดขึ้น ตามแถลงการณ์ของบริษัทแห่งนี้

ทั้งนี้ แมคโดนัลด์พบว่า จะนำเมนู Quarter Pounder กลับมา จำหน่ายในร้านที่ต้องสงสัยในพื้นที่ 13 รัฐอีกครั้งในสัปดาห์หน้า แต่จะไม่ใส่หอมหัวใหญ่หั่นแว่นลงไป

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ข้อมูล ณ วันศุกร์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า มีผู้ป่วยจากการรับประทานอาหารที่แมคโดนัลด์อย่างน้อย 75 คน ขณะที่ ศูนย์ควบคุมพร้อมทั้งป้องกันโรคของสหรัฐฯ (CDC) รายงานว่า มีผู้ป่วย 22 คนที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลพร้อมทั้งมี 2 คนที่มีประสบภาวะโรคตับรุนแรง

เมื่อมีรายงานข่าวการระบาดของเชื้ออีโคไลออกมาเมื่ออังคารที่แล้ว แมคโดนัลด์สั่งระงับการขายเบอร์เกอร์ Quarter Pounder ในหลายรัฐ โดยส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่แถบตะวันตกตอนกลาง (Midwest) พร้อมทั้งรัฐที่มีเทือกเขาร็อกกีพาดผ่าน (Mountain states)

 

ที่มา: เอพี

หนุ่มสาวเจน-Z อเมริกันกับบทบาทกระตุ้นให้คนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 

กลุ่มผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่อายุน้อยที่สุดในสหรัฐฯ คือประชากรวัย Gen Z ที่อายุระหว่าง 18- 27 ปี แม้ว่าบางคนเริ่มโหวตครั้งแรก แต่พวกเขาคือแรงผลักดันการมีส่วนร่วมของชาวอเมริกันโดยรวม

ในขณะที่พวกเขาเรียนรู้กระบวนการเลือกตั้ง ชาว Gen Z จำนวนไม่น้อยยังลงมือเป็นนักรณรงค์ให้คนออกไปใช้สิทธิ์ พร้อมทั้งช่วยคนวัยเดียวกันเข้าใจกระบวนการการมีส่วนร่วมนี้ด้วย

กิจกรรมหนึ่งเกิดขึ้นที่วิทยาลัยมอนโกเมอรี ที่เมืองร็อควิลล์ รัฐแมริเเลนด์ คือการจัดตั้งคูหาเลือกตั้งจำลอง นักศึกษาที่เป็นเรี่ยวเเรงหลักของโครงการนี้ยังได้เชิญเจ้าหน้าที่ทางการมาให้ความรู้เรื่องการเลือกตั้งด้วย

บริตนีย์ กรีน ผู้จัดการเลือกตั้งจำลองบอกว่า กิจกรรมลักษณะนี้จะช่วยเตรียมตัวผู้ใช้สิทธิ์ให้รู้ว่าในวันเลือกตั้งจริงจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความพยาามให้นักศึกษาออกไปลงคะเเนนเสียงเลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งนี้

อัคห์ยาน ดามาง ผู้ที่ยังไม่เคยมาเลือกประธานาธิบดีบอกว่า “ผมต้องการมาดูให้ทราบว่าการใช้สิทธิ์ครั้งแรกเป็นอย่างไร”

นามาดี อิเฟจูคา ผู้เข้าร่วมกิจกรรมคูหาเลือกตั้งจำลองครั้งนี้ บอกว่าเขามีความสนใจเรื่องหนี้ของประเทศ ซึ่งดูเหมือนว่าสูงมาก 

“ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงสูงขนาดนั้น”  อิเฟจูคากล่าว

หนึ่งในนักศึกษาที่ร่วมจัดกิจกรรม ลิบบี้ เเมคเคลตัน บอกว่าเธอสนใจเรื่องสิทธิ์การเจริญพันธุ์พร้อมทั้งสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ

มะฮัมบี มูซอนดา เพื่อนรวมโครงการอีกคนหนึ่ง บอกว่า “สำหรับหลายคนบทบาทของสหรัฐฯ ในโลกเป็นประเด็นที่สำคัญมากโดยเฉพาะโหวตเตอร์รุ่นใหม่”

รัฐเเมริเเลนด์แห่งนี้ถูกคาดหมายว่าจะเลือกรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ในการเเข่งขันเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

แต่รัฐทางใต้ลงมาอย่างจอร์เจียเป็นรัฐสมรภูมิที่ต้องลุ้นแคนดิเดทคนใดจะชนะ

ประธานชาวพรรครีพับลิกันที่เป็นคนรุ่นใหม่ของรัฐจอร์เจีย แจคเควลีน แฮม ได้บอกกล่าวกับวีโอเอผ่านสไกป์ว่าประเด็นทางเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนจำนวนมาก

เธอบอกว่าค่าครองชีพที่สูงขึ้นทำให้ยากที่จะมีครอบครัวในเวลานี้

“คุณไม่สามารถเข้าถึงผู้มีสิทธิ์ออกเสียง Gen-Z ด้วยการโทรหา เพราะพวกเขาใช้โปรแกรมบล็อกสแปม หรือไม่ก็ไม่รับสายที่ไม่คุ้น” เธอกล่าว พร้อมทั้งเสริมว่าคนรุ่นใหม่คือคนแห่งยุคโซเชียลมีเดีย พร้อมทั้งรับข่าวจากช่องทางนั้นเป็นหลัก 

อินฟลูเอ็นเซอร์การเมืองที่นิยมพรรคเดโมเเครต แฮร์รี ซิสซัน เห็นด้วยกับสิ่งที่แฮมกล่าว

“ผมจะบอกว่าแอปฯ สำหรับการรับข่าวสารหลักของคนรุ่นใหม่คือติ๊กตอก” ซิสซันกล่าว

ส่วนที่รัฐเวอร์จิเนีย คามิลา อัลฟอนโซ เมซา ใช้วิธีเคาะประตูตามบ้านเพื่อช่วยรณรงค์ทางการเมืองให้กับคามาลา แฮร์ริส ที่เมืองเฮิร์นดอน 

เธอบอกว่าบางครั้งคนไม่เปิดประตูออกมาคุุยด้วย แต่เธอก็พยายามต่อไปเรื่อย ๆ แต่ก็บอกว่าได้เห็นความคึกคักของชาวเดโมเเครตรุ่นใหม่ หลังจากที่พรรคเปลี่ยนตัวเเคนดิเดทจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน มาเป็นแฮร์ริส

เธอกล่าวสรุปว่า ประชากร Gen Z ที่มีพลังโหวตกว่า 40 ล้านเสียงทั่วสหรัฐฯ น่าสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้ได้

ที่มา: วีโอเอ

เพนตากอนจะไม่จำกัดการใช้อาวุธให้ยูเครน หากเกาหลีเหนือช่วยรัสเซีย

สหรัฐฯ จะไม่กำหนดขีดจำกัดใหม่ ๆ สำหรับการใช้อาวุธที่ส่งให้กับยูเครน ถ้าหากเกาหลีเหนือเข้าร่วมรัสเซียในการทำสงครามที่ดำเนินมากว่า 2 ปีนี้ ตามรายงานของรอยเตอร์ที่อ้างความเห็นจากเพนตากอน

คำยืนยันจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีออกมา ขณะที่ นาโต้บอกว่า มีการส่งหน่วยรบของเกาหลีเหนือเข้าไปยังแคว้นเคิร์สกของรัสเซียแล้ว

รอยเตอร์บอกว่า การที่กรุงเปียงยางส่งทหารร่วมรบกับรัสเซียทำให้ชาติตะวันตกยิ่งมีความกังวลหนักขึ้นว่า สถานการณ์ความขัดแย้งนี้จะยิ่งบานปลายหนัก โดยวิวัฒนาการนี้อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ให้เห็นถึงความหวังของรัสเซียในการชดเชยการสูญเสียในสนามรบ พร้อม ๆ กับการค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปในภาคตะวันออกของยูเครนอย่างต่อเนื่อง

มาร์ค รุตเทอ เลขาธิการองค์การนาโต้ บอกกับผู้สื่อข่าวหลังหารือกับคณะผู้แทนจากเกาหลีใต้เกี่ยวกับสถานการณ์ดังบอกว่า “ความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียพร้อมทั้งเกาหลีเหนือที่ใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้นคือ ภัยคุกคามอย่างหนึ่งต่อความมั่นคงของทั้งภูมิภาคอินโดแปซิฟิกพร้อมทั้งภูมิภาคยูโรแอตแลนติก”

เพนตากอนประเมินว่า เกาหลีเหนือส่งทหารราว 10,000 นายไปยังพื้นที่ภาคตะวันออกของรัสเซียเพื่อร่วมฝึกอบรม โดยตัวเลขนี้สูงกว่าระดับ 3,000 นายที่เคยประเมินไว้เมื่อวันพุธที่แล้วอย่างมาก

ซาบรินา ซิงห์ โฆษกเพนตากอน บอกว่า “ส่วนหนึ่งของทหารเหล่านี้เคลื่อนตัวเข้าใกล้ยูเครนแล้ว พร้อมทั้งเราก็มีความกังวลเพิ่มขึ้นอย่างมากว่า รัสเซียตั้งใจจะใช้ทหารเหล่านี้ในการต่อสู้ หรือสนับสนุนปฏิบัติการรบกับกองกำลังยูเครนในแคว้นเคิร์สกใกล้กับยูเครน”

หน่วยงานข่าวกรองของกองทัพยูเครนรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ตรวจพบหน่วยรบชุดแรกของเกาหลีเหนือในแคว้นเคิร์สกที่ติดชายแดนซึ่งทหารยูเครนยังคงเดินหน้าปฏิบัติการรุกคืบเข้าไปในฝั่งรัสเซียอยู่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ถ้าหากว่า เพนตากอนปฏิเสธที่จะยืนยันว่า กองทัพเกาหลีเหนือนั้นเข้าไปอยู่ในพื้นที่แคว้นเคิร์สกแล้วจริงหรือไม่

ก่อนหน้านี้ เครมลินปฏิเสธรายงานข่าวว่า มีการส่งทหารเกาหลีเหนือมาช่วยตน โดยพบว่านี่เป็น “ข่าวปลอม” จนกระทั่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ที่ปูตินไม่ปฏิเสธว่า เกาหลีเหนือส่งทหารมาถึงรัสเซียแล้ว พร้อมทั้งกล่าวด้วยว่า นี่เป็นเรื่องของรัฐบาลมอสโกในการดำเนินงานตามสนธิสัญญาทางทหารที่ทำไว้กับกรุงเปียงยาง

ส่วนเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือนั้นไม่ยอมยืนยันรายงานข่าวเรื่องนี้ พร้อมทั้งกล่าวเพียงว่า ถ้ากรุงเปียงยางทำเช่นนั้นจริง ทุกอย่างก็น่าจะเป็นไปตามบรรทัดฐานสากล

 

 

ที่มา: รอยเตอร์

 

 

หุ่นยนต์ AI รับบท ‘พนักงานกะดึก’ ช่วยไซต์ก่อสร้างในสหรัฐฯ

ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน หลังจากที่ทีมงานกลับบ้านกันไปแล้ว จะเป็นช่วงเริ่มงานของหุ่นยนต์อัตโนมัติจำนวน 2 ตัว ทั้งคู่จะทำงานอย่างแข็งขัน เคลื่อนตัวไปมา คอยวิเคราะห์ข้อมูลที่เก็บได้ด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI)

สจ๊วร์ต เจอร์แมน ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรม บริษัทสแกนสกา (Skanska) อธิบายว่า หุ่นยนต์ได้รับการป้อนข้อมูลแผนผังของชั้นต่าง ๆ โดยพวกมันจะเคลื่อนตัวไปทั่วทั้งชั้น สำรวจในแต่ละห้อง เพื่อถ่ายภาพความละเอียดสูงด้วยมุม 360 องศา

 

เขาบอกว่า “ภาพที่ถ่ายได้ จะถูกอัปโหลดไปยังแพลตฟอร์มบนคลาวด์ ซึ่งระบบจะประมวลข้อมูลด้วย AI พร้อมทั้งรายงานผลไปให้ทีมที่ดูแลโครงการ”

หุ่นยนต์เหล่านี้ถูกนำมาใช้เมื่อประมาณเดือนเมษายนของปีนี้ ในโครงการนำร่องระหว่างบริษัทก่อสร้าง Skanska พร้อมทั้งบริษัทด้านเทคโนโลยี เน็กซ์เทรา โรโบติกส์ (Nextera Robotics) ในเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์

การ์เร็ตต์ เมตซ์ วิศวกรอาวุโส บริษัท Skanska ที่ดูแลไซต์งานก่อสร้าง ในเมืองซีแอตเทิล เผยว่า ในเบื้องต้น หลายคนรู้สึกสงสัยในศักยภาพของหุ่นยนต์นี้

 

เมตซ์ บอกว่า ตัวเองไม่มั่นว่าหุ่นยนต์อัตโนมัติเหล่านี้จะสามารถเคลื่อนตัวไปในทิศทางต่าง ๆ ด้วยไซต์ก่อสร้างซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้ตลอดเวลามาก่อน โดยพบว่า ที่ผ่านมา “มักจะมีสิ่งกีดขวางเส้นทาง คนจะต้องคอยช่วยยกของออกให้ แต่สำหรับหุ่นยนต์เหล่านี้ทำงานได้อย่างดีเยี่ยม”

ภาพที่ถูกถ่ายด้วยหุ่นยนต์ จะถูกส่งต่อไปยังการฝึกอบรมโมเดล AI เพื่อฝึกให้ระบบจดจำวัตถุที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างจำนวนหลายพันรายการ ซึ่งจะช่วยให้วิศวกรในพื้นที่ รวมถึงนักออกแบบที่อยู่ไกลออกไป สามารถติดตามความคืบหน้าการก่อสร้าง ช่วยลดความเสี่ยง พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัย

เจคอบ ไรออลส์ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท Nextera Robotics เผยว่า ระบบจะวิเคราะห์องค์ประกอบต่าง ๆ อย่างเช่น วัสดุของผนัง โครงสร้างเพดาน รวมไปถึงการติดตั้งฉนวนสำหรับท่อลม ข้อมูลทั้งหมดจะถูกประมวลบนแพลตฟอร์มออนไลน์พร้อมทั้งเรียบเรียงเป็นรายงานที่ง่ายต่อการนำไปใช้งาน

ผู้ดูแลโครงการก่อสร้างทั้งหลายว่า หุ่นยนต์ไม่ได้มาแย่งงานมนุษย์ แต่มาช่วยทำงานที่น่าเบื่อ ในพื้นที่อันตราย หลายงานจำเป็นต้องใช้เวลามาก พร้อมทั้งยากที่มนุษย์จะทำได้

 

เจอร์แมน จากบริษัท Skanska พบว่า “หุ่นยนต์ช่วยประหยัดเวลาได้อย่างมาก” ในการถ่ายภาพลักษณะนี้ หากเป็นแรงงานมนุษย์ จะต้องใช้เวลาต่อเนื่องมากกว่า 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์

เทคโนโลยีดังกล่าวยังช่วยปกป้องความเป็นส่วนตัว โดยหากหุ่นยนต์จับภาพของมนุษย์ได้ก็จะช่วยเบลอส่วนของใบหน้าให้ แม้ทุกวันนี้บริษัทก่อสร้างจะเปิดรับพร้อมทั้งใช้งาน AI ค่อนข้างล่าช้า แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องเชื่อว่า ในอนาคตสิ่งนี้จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน

 

ที่มา: วีโอเอ

 

 

 

ไบเดนใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ในเดลาแวร์

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้สิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าในวันจันทร์ ที่ศูนย์เลือกตั้งใกล้บ้านที่รัฐเดลาแวร์

สำนักข่าวนานาชาติเอพีรายงานว่า ไบเดนเดินทางไปยังศูนย์ลงคะแนนในเมืองนิวคาสเซิลซึ่งมีประชาชนผู้มีสิทธิมากมายมาเข้าแถวรอลงคะแนนอยู่เช่นกัน

ผู้นำคนปัจจุบันของสหรัฐฯ ได้พูดคุยกับประชาชนขณะรอใช้สิทธิ์ พร้อมทั้งยังช่วยดันรถเข็นของหญิงชราคนหนึ่งที่อยู่ข้างหน้า โดยไบเดนต้องใช้เวลารอทั้งหมดราว 40 นาทีกว่าจะได้เข้าไปในคูหาเพื่อกาบัตรเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อถึงคิว ไบเดนยื่นบัตรประจำตัวให้เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งซึ่งยื่นแบบฟอร์มกลับให้ลงชื่อ ก่อนจะประกาศว่า “โจเซฟ ไบเดน จะโหวตแล้ว”

ขณะที่ ปธน.สหรัฐฯ ใช้สิทธิ์ลงคะแนนหลังม่านดำอยู่ มีการประกาศชื่อผู้ใช้สิทธิครั้งแรกจำนวนหนึ่งขึ้น ก่อนจะมีเสียงเชียร์ดังกึกก้องขึ้นมาในศูนย์เลือกตั้งแห่งนี้

เอพีพบว่า การมาใช้สิทธิของไบเดนครั้งนี้อาจเป็นช่วงเวลาหวานอมขมกลืนของผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันที่ตัดสินใจยุติการเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตในการชิงตำแหน่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอย่างกะทันหันในเดือนกรกฎาคม เพราะนับตั้งแต่ปี 1970 มา ไบเดนปฏิบัติหน้าที่ในฐานะวุฒิสมาชิกหรือรองประธานาธิบดี หรือไม่ก็วุ่นหาเสียงในฤดูกาลเลือกตั้งเกือบตลอดเวลา แต่นี่จะเป็นอีกครั้งที่เขาใช้สิทธิ์เพื่อเลือกคนอื่นเท่านั้น

ในปีนี้ ไบเดนใช้สิทธิพร้อมความหวังที่จะเห็นตัวแทนพรรคเดโมแครตรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งมีทั้งรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ที่ตนรับรองเป็นตัวแทนพรรคให้ขึ้นเป็นผู้นำทำเนียบขาวคนแรกที่เป็นผู้หญิงซึ่งมีเชื้อสายแอฟริกาพร้อมทั้งเอเชียใต้ พร้อมทั้งซาราห์ แม็คไบรด์ ที่ลงชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากรัฐเดลาแวร์ ซึ่งมีโอกาสจะได้เป็นตัวแทนประชาชนในสภาคองเกรสคนแรกที่เป็นบุคคลข้ามเพศอย่างเปิดเผย รวมทั้ง ส.ส.ลิซา บลันท์ โรเชสเตอร์ ที่ตั้งเป้าเป็นผู้หญิงผิวดำคนแรกจากเดลาแวร์ที่จะได้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในการเลือกตั้งครั้งนี้

การเลือกตั้งล่วงหน้าในรัฐเดลาแวรเริ่มต้นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว

 

ที่มา: เอพี

อิหร่านประกาศ ‘ใช้ทุกแนวทางที่มี’ ตอบโต้การจู่โจมของอิสราเอล

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เอสมาอิล บากาเออี กล่าวในวันจันทร์ว่า อิหร่านจะ “ใช้ทุกแนวทางที่มี” เพื่อตอบโต้การจู่โจมของอิสราเอลใส่เป้าหมายในอิหร่านเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ 

ก่อนหน้านี้ อิหร่านบอกว่าการจู่โจมทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์มิได้สร้างความเสียหายมากนัก ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน เรียกร้องให้ระงับการยกระดับความรุนแรงที่อาจทำให้สงครามลุกลามไปทั่วตะวันออกกลาง

โฆษกบากาเออี บอกว่า อิหร่านจะตอบโต้อย่างเด็ดขาดพร้อมทั้งมีประสิทธิภาพต่ออิสราเอล โดยลักษณะการตอบโต้นั้นขึ้นอยู่กับรูปแบบการจู่โจมของอิสราเอล

ผู้นำสูงสุดอิหร่าน อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่อิหร่านจะตัดสินใจเองว่าจะแสดงแสนยานุภาพของอิหร่านให้อิสราเอลเห็นได้อย่างไร พร้อมทั้งว่า “ไม่ควรมีการพูดเกินจริงหรือกลบเกลื่อน” ในประเด็นการจู่โจมโดยอิสราเอล

ทั้งนี้ เว็บไซต์ IRNA ซึ่งเป็นสื่อรัฐบาลอิหร่าน อ้างข้อมูลจากองค์การด้านการป้องกันการจู่โจมทางอากาศของประเทศในรายงานว่า อิสราเอลได้จู่โจมศูนย์กลางทหารหลายแห่งในกรุงเตหะรานพร้อมทั้งในจังหวัดคูเซสถานพร้อมทั้งอิลามทางตะวันตกของประเทศ พร้อมทั้งยังระบุด้วยว่า กองกำลังอิหร่าน “ประสบความสำเร็จ” ในการสกัดการจู่โจมหลายครั้งซึ่งทำให้เกิด “ความเสียหายแบบจำกัด” เท่านั้น

รายงานการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมในวันอาทิตย์ของเอพีแสดงให้เห็นว่า อิสราเอลได้จู่โจมโรงงานพร้อมทั้งคลังหลายแห่งของอิหร่านที่ฐานทัพลับทางทหารที่ตั้งอยู่ห่างจากกรุงเตหะรานไปทางตะวันออกเฉียงเหนือจริง

คณะมนตรีความมั่นคงประชุมฉุกเฉิน

คณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ จัดการประชุมฉุกเฉินในวันจันทร์เพื่อหารือสถานการณ์ในตะวันออกกลางหลังการจู่โจมของอิสราเอลใส่อิหร่าน

ประธานคณะมนตรีความมั่นคงบอกว่า อิหร่านเป็นผู้ขอให้มีการประชุมครั้งนี้ด้วยการสนับสนุนจากแอลจีเรีย จีนพร้อมทั้งรัสเซีย 

เมื่อวันอาทิตย์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู บอกว่า การจู่โจมของอิสราเอลประสบความสำเร็จจามเป้าหมาย รวมทั้งการสร้างอันตรายต่อระบบการป้องกันตนเองพร้อมทั้งความสามารถในการผลิตขีปนาวุธของอิหร่าน

ก่อนการประชุมในวันจันทร์ อิรักส่งคำร้องเรียนไปยังสหประชาชาติเรื่องที่อิสราเอลใช้น่านฟ้าของอิรักในการจู่โจมอิหร่าน โดยจดหมายของโฆษกรัฐบาลอิรักประณามอิสราเอลว่าละเมิดน่านฟ้าพร้อมทั้งอธิปไตยของอิรัก 

ในเวลาเดียวกันในวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีอียิปต์ อับเดล-ฟัตตาห์ เอล-ซิสซี เสนอแผนหยุดยิงสองวันในกาซ่าเพื่อให้กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกัน 4 คน พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถเข้าไปในกาซ่าได้ แต่ท้ังอิสราเอลพร้อมทั้งฮามาสยังมิได้ตอบรับหรือปฏิเสธข้อเสนอนี้ 

สงครามในตะวันออกกลางครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อกลุ่มฮามาสจู่โจมเข้าใส่อิสราเอลในวันที่ 7 ตุลาคมของปีที่แล้ว พร้อมทั้งทำให้มีผู้จบชีวิตราว 1,200 คน ทั้งยังมีการจับตัวประกันไปกว่า 250 คน ก่อนอิสราเอลจะจู่โจมโต้กลับเข้าไปในฉนวนกาซ่าที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์กว่า 43,000 คนจบชีวิต อ้างอิงข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขกาซ่าที่ไม่แยกตัวเลขนักรบฮามาสออกจากกลุ่มพลเรือน

ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี พร้อมทั้งรอยเตอร์

ครบ 1 ปี ‘ปฏิบัติการ 1027’ เมื่อ 3 พันธมิตรผสานกำลังขับไล่รัฐบาลทหารเมียนมา

เมื่อหนึ่งปีที่แล้ว กองกำลังชาติพันธุ์ขนาดใหญ่สามกลุ่มในเมียนมา ได้ร่วมมือกันสู้รบกับกองทัพเมียนมาในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ พร้อมทั้งสามารถยึดพื้นที่ได้อย่างกว้างขวาง สร้างแรงกระเพื่อมให้กับกลุ่มอื่น ๆ ลุกขึ้นมาต่อสู้กับรัฐบาลทหารที่ได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธจากจีนพร้อมทั้งรัสเซีย 

ปฏิบัติการที่ใช้ชื่อว่า Operation 1027 เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม ปีที่แล้ว นำโดยกองกำลังชาติพันธุ์ 3 กลุ่มภายใต้ชื่อ พันธมิตรสามภราดร (Three Brotherhood Alliance) ประกอบด้วย กองกำลังพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติ (Myanmar National Democratic Alliance Army – MNDAA) หรือที่รู้จักกันในชื่อ กองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์โกก้าง กองทัพอาระกัน (Arakan Army – AA) พร้อมทั้งกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (Ta’ang National Liberation Army – TNLA)

กองกำลังพันธมิตรดังกล่าวสามารถยึดหมู่บ้านพร้อมทั้งค่ายทหารจำนวนหลายสิบแห่งทางภาคตะวันตกพร้อมทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมา ซึ่งแม้แต่บรรดาผู้นำกองทัพก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะนำกลับคืนมา 

คอนนอร์ แมคโดนัลด์ แห่งองค์กร Special Advisory Council for Myanmar บอกว่า “กองทัพตกเป็นฝ่ายตั้งรับทั่วประเทศ พร้อมทั้งทุกครั้งที่ทุ่มสรรพกำลังไปที่พื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง พื้นที่อื่นที่เหลือก็จะอ่อนแอลง” พร้อมทั้งดูเหมือนว่ากองทัพเมียนมาจะยังไม่สามารถหาหนทางยึดพื้นที่ที่สูญเสียไปกลับคืนมาได้

หนึ่งปีผ่านมา กองกำลังพันธมิตรสามารถครอบครองพื้นที่ตั้งแต่ภาคเหนือลงมาตามแนวชายแดนทางภาคตะวันตกพร้อมทั้งตะวันออกทั้งสองด้าน ขณะที่กองทัพเมียนมาถอยร่นลงไปปักหลักในแถบภาคกลาง โดยเฉพาะนครย่างกุ้งพร้อมทั้งรอบกรุงเนปิดอว์ 

 

ลเวย์ เย อู โฆษกกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง ได้บอกกล่าวกับเอพีว่า “ไม่เคยคาดคิดเลยว่าเป้าหมายของเราจะสำเร็จรวดเร็วขนาดนี้… พร้อมทั้งเราสามารถครอบครองพื้นที่ได้อย่างง่ายดายกว่าที่คาดไว้” 

ความสูญเสียหนักที่สุดของกองทัพเมียนมาเกิดขึ้นที่เมืองเล้าก์ก่าย ที่ซึ่งกองกำลังกลุ่มชาติพันธุ์โกก้างสามารถจับกุมทหารได้กว่า 2,000 คน รวมถึงนายพล 6 คน พร้อมทั้งที่เมืองล่าเสี้ยว ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกองทัพเมียนมา

มอร์แกน ไมเคิลส์ นักวิเคราะห์แห่ง International Institute of Strategic Studies ในสิงคโปร์ บอกว่า ปฏิบัติการ 1027 ได้รับความสำเร็จอย่างสูง การนำโดรนมาใช้จู่โจมเครือข่ายทหารทั่วรัฐฉาน มีบทบาทสำคัญต่อความคืบหน้าที่เกิดขึ้น ทำให้กองทัพเมียนมา “อ่อนแอลงอย่างมาก” ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา

แผนการจู่โจมโต้กลับ

ถ้าหากว่า นักวิเคราะห์เชื่อว่ายังคงเร็วเกินไปที่จะบอกว่าฝ่ายแข็งข้อต่อต้านได้รับชัยชนะแล้ว เมื่อกองทัพเมียนมาสามารถยึดเมืองเกาลิน พร้อมทั้งภูมิภาคสะเกียง กลับคืนไปได้ไม่นานนี้ รวมทั้งยังต้านทานการรุกคืบของกองกำลังกะเหรี่ยงที่รัฐคะยาห์ พร้อมทั้งรักษาการควบคุมเมืองเมียวดีบริเวณพรมแดนไทย-เมียนมา ไว้ได้ 

หลายคนเชื่อว่ากองทัพเมียนมาจะเริ่มการจู่โจมโต้กลับเมื่อฤดูฝนสิ้นสุดลงเร็ว ๆ นี้ โดยมีกำลังเสริมจากทหารเกณฑ์ใหม่ราว 30,000 คนจากการใช้กฎหมายบังคับการเกณฑ์ทหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 

ในเวลาเดียวกัน กลุ่มแข็งข้อต่อต้านก็กำลังรุกคืบเข้าใกล้เมืองมัณฑะเลย์ เมืองใหญ่อันดับสองของเมียนมาซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของประเทศแล้ว

รายงานของสำนักข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ พบว่า ในขณะที่กองทัพเมียนมากำลังสูญเสียพื้นที่ในสมรภูมิ จำนวนประชาชนผู้เจบชีวิตจากการจู่โจมทางอากาศเพิ่มขึ้น 95% พร้อมทั้งจบชีวิตจากการจู่โจมด้วยปืนใหญ่เพิ่มขึ้น 170% นับตั้งแต่ปฏิบัติการ 1027 เริ่มต้นขึ้นเมื่อปีที่แล้ว 

อิซาเบล ทอดด์ แห่งกลุ่ม SAC-M บอกว่า กองทัพเมียนมาถูกกล่าวหาว่าจู่โจมมุ่งเป้าไปที่ประชาชนที่เชื่อว่าเป็นผู้สนับสนนุนกองกำลังแข็งข้อต่อต้าน ซึ่งยิ่งทำให้เปิดความเกลียดชังรัฐบาลทหารในหมู่ประชาชนเมียนมามากขึ้น 

แต่ทาง เต็ด สเว โฆษกกองทัพเมียนมา ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้พร้อมกล่าวหากลับว่ากองกำลังต่อต้านเองที่เป็นฝ่ายสังหารประชาชนพร้อมทั้งเผาหมู่บ้านหลายแห่ง

สหประชาชาติประเมินว่า จนถึงขณะนี้มีชาวเมียนมาที่กลายเป็นผู้อพยพย้ายถิ่นฐานมากกว่า 3 ล้านคน พร้อมทั้งต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมราว 18.6 ล้านคน 

ที่มา: เอพี

โค้งสุดท้าย! ทรัมป์ปราศรัยใหญ่เมดิสันสแควร์การ์เดน – แฮร์ริสลุยฟิลาเดลเฟีย

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จัดงานปราศรัยหาเสียงครั้งใหญ่ที่อาคารเมดิสันสแควร์การ์เดน ในนครนิวยอร์ก เมื่อคืนวันอาทิตย์ ซึ่งเต็มไปด้วยถ้อยคำรุนแรงพร้อมทั้งการเหยียดผิวโดยผู้ที่ขึ้นกล่าวบนเวที

คณะหาเสียงของทรัมป์หวังว่าการจัดปราศรัยที่อาคารเก่าแก่ซึ่งเป็นสนามเหย้าของทีมบาสเก็ตบอล นิวยอร์ก นิกส์ พร้อมทั้งสถานที่จัดคอนเสิร์ตสำคัญของนักร้องดังแห่งนี้ จะช่วยกระตุ้นความนิยมของทรัมป์ให้เหนือคู่แข่งจากพรรคเดโมแครต รองปธน.คามาลา แฮร์ริส ได้ แม้ว่า 40 ปีที่ผ่านมา ไม่มีตัวแทนพรรครีพับลิกันได้รับชัยชนะที่รัฐนิวยอร์กในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเลยก็ตาม

ทรัมป์เริ่มการปราศรัยโดยตั้งคำถามว่า “เวลานี้พวกคุณอยู่ในสถานะที่ดีกว่าเมื่อสี่ปีก่อนหรือไม่?” ซึ่งผู้ร่วมงานต่างตะโกนกลับมาว่า “ไม่” 

จากนั้นทรัมป์ให้สัญญาว่าเขาจะหยุด “กลุ่มอาชญากร” ไม่ให้บุกรุกเข้ามาในประเทศนี้หากเขาชนะการเลือกตั้ง พร้อมทั้งยังเรียกแฮร์ริสว่า “คนที่ไอคิวต่ำอย่างยิ่ง” 

รายชื่อผู้ที่ขึ้นกล่าวบนเวทีเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมานั้นมีตั้งแต่อดีตนักมวยปล้ำชื่อดัง ฮัลก์ โฮแกน, มหาเศรษฐี อิลอน มัสก์, อดีตนายกเทศมนตรีนิวยอร์ก รูดี้ จูลิอานี ไปจนถึงบุตรชายทั้งสองคนของทรัมป์ คือ เอริก พร้อมทั้งดอน จูเนียร์ โดยหลายคนใช้ถ้อยคำที่รุนแรงพร้อมทั้งเหยียดผิวเพื่อกระตุ้นเสียงเชียร์ของผู้ชม

ในช่วงหนึ่ง จูลิอานี ซึ่งเคยเป็นทนายความส่วนตัวของทรัมป์ บอกว่า แฮร์ริส “อยู่ฝ่ายเดียวกับผู้ก่อการร้าย” ในสงครามระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ พร้อมทั้งเธอต้องการนำชาวปาเลสไตน์มาที่นี่

ส่วนดาราตลก โทนี ฮินช์คลิฟฟ์ กล่าวถึงประชาชนเชื้อสายลาตินอเมริกาว่า “ชอบทำลูก” พร้อมทั้งเรียกรัฐเปอร์โตริโก ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนในการปกครองของสหรัฐฯ ว่าเป็น “เกาะขยะลอยน้ำ” 

คณะหาเสียงของทรัมป์พบว่า มีผู้ร่วมงานเต็มความจุที่นั่งทั้งหมด 19,500 คน โดยทรัมป์หวังว่าการหาเสียงที่นี่ในช่วง 9 วันก่อนการเลือกตั้งจะช่วยกระตุ้นคะแนนเสียงของผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน 7 คนที่ชิงเก้าอี้สภาผู้แทนราษฎรในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วย

พร้อมทั้งในวันเดียววัน รองปธน.แฮร์ริส เดินทางไปหาเสียงที่นครฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนีย หนึ่งในรัฐสมรภูมิในการเลือกตั้งครั้งนี้

คณะหาเสียงของแฮร์ริส ระบุในอีเมลว่า การปราศรัยของทรัมป์ที่เมดิสันสแควร์การ์เดน “สะท้อนถึงข้อความที่ด้อยค่าพร้อมทั้งสร้างความแตกแยกที่อันตราย” เช่นเดียวกับตัวทรัมป์เอง 

ขณะที่ ฮิลลารี คลินตัน อดีตคู่แข่งของทรัมป์เมื่อปี 2016 กล่าวหาการชุมนุมหาเสียงที่เมดิสันสแควร์การ์เดนว่า เป็นการจำลองการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคนาซีที่จัดขึ้นที่เดียวกันนี้เมื่อปี 1939 ในช่วงก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่สอง

แต่ทรัมป์ปฏิเสธคำกล่าวนี้ โดยยืนยันว่านี่เป็นการชุมนุมเพื่อทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง (Make America Great Again)

ผลสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดชี้ว่า ผู้สมัครทั้งสองคนมีคะแนนสูสีกันในรัฐสมรภูมิที่จะชี้ขาดว่าใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป 

ในวันอังคาร แฮร์ริสจะปราศรัยหาเสียงที่เนชันแนลมอลล์ ใจกลางกรุงวอชิงตัน จากนั้นจะเดินทางต่อไปยังรัฐสมรภูมิทั้ง 7 รัฐในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 5 พ.ย.นี้

ที่มา: รอยเตอร์