จิมมี คาร์เตอร์ ร่วมลงคะแนนเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ล่วงหน้าในวัย 100 ปี

หลังฉลองครบรอบอายุ 100 ปีได้เพียง 15 วัน อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ ได้ร่วมลงคะแนนล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันพุธ ซึ่งเป็นการทำตามปณิธานที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะอยู่ให้นานพอที่จะได้กาบัตรเลือก คามาลา แฮร์ริส ตามรายงานของสำนักข่าวเอเอฟพี

ประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯ “ทำการลงคะแนนทางไปรษณีย์” ตามข้อมูลจากศูนย์ Carter Center ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไรที่อดีตปธน.ผู้นี้ก่อตั้งขึ้นหลังหมดวาระจากทำเนียบขาวในปี 1981 เพื่อดำเนินตามวิสัยทัศน์ของการส่งเสริมการทูตระหว่างประเทศ

รายงานข่าวพบว่า คาร์เตอร์ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าที่ศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย (hospice) ในรัฐจอร์เจียซึ่งเป็นรัฐบ้านเกิด

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาร์เตอร์บอกกับสมาชิกในครอบครัวว่า การมีชีวิตอยู่นานพอที่จะได้ลงคะแนนเสียงให้แฮร์ริสพร้อมทั้งช่วยให้พรรคเดโมแครตสามารถเอาชนะโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันได้ คือสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าการมีอายุครบ 100 ปีเสียอีก อ้างอิงรายงานจากหนังสือพิมพ์ Atlanta Journal-Constitution

แต่ในวันนี้ อดีตปธน.สหรัฐฯ ผู้นี้ก็ได้บรรลุหลักชัยทั้งสองแล้ว

แกเบรียล สเตอร์ลิง เจ้าหน้าที่จัดการเลือกตั้งรัฐจอร์เจีย โพสต์ข้อมูลผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้า ณ เที่ยงวันพุธตามเวลาท้องถิ่นที่พบว่า มีผู้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าแล้วกว่า 42,000 คน นับตั้งแต่ทางรัฐเปิดให้ผู้มีสิทธิ์ทำการดังกล่าวได้ตั้งแต่เมื่อวันอังคาร

คาร์เตอร์ซึ่งทำหน้าที่ผู้นำทำเนียบขาวเพียง 1 วาระได้ใช้ชีวิตอยู่ในศูนย์ดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายในเมืองเพลนส์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของตนในจอร์เจียมาตั้งแต่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่แล้ว

 

 

ที่มา: เอเอฟพี

 

อิสราเอลจู่โจมทางใต้ของเลบานอน – จบชีวิต 16 ราย

การจู่โจมทางอากาศของอิสราเอลที่เมืองใหญ่ทางใต้ของเลบานอนวันวันพุธ ทำให้มีผู้จบชีวิต 16 ราย ซึ่งรวมถึงนายกเทศมนตรีของเมืองพร้อมทั้งยังมีผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน

รอยเตอร์รายงานว่าปฏิบัติการนี้ ที่เมืองนาบาทายห์ เป็นการจู่โจมครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอลต่อรัฐเลบานอนตั้งเเต่ที่กองทัพเทลอาวีฟเริ่มรุกทางอากาศ

เจ้าหน้าที่เลบานอนประณามการกระทำของอิสราเอล พร้อมทั้งชี้ให้เห็นว่าเป็นการขยายการจู่โจมกลุ่มเฮซบอลลาห์ มาเป็นการพุ่งเป้ามาที่รัฐเลบานอน

นายกฯ รักษาการของเลบานอน นาจิบ มิคาติ บอกว่า อิสราเอลจงใจที่จะพุ่งเป้ามาที่การประชุมของหน่วยงานท้องถิ่น ที่มีหน้าที่ช่วยบรรเทาทุกข์ประชาชนผู้พลัดถิ่นซึ่งเป็นผลมาจากปฏิบัติการของอิสราเอลเช่นกัน

กองทัพเทลอาวีฟบอกว่าการจู่โจมใส่เมืองนี้ในวันพุธ พุ่งเป้าที่ที่สถานที่ตังของเฮซบอลลาห์

รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลโยอาฟ กัลเเลนต์ กล่าวขณะเยือนชายเเดนทางเหนือว่า กองทัพของเขาจะไม่หยุดการจู่โจมเฮซบอลลาห์ เพื่อให้เกิดการเจรจา

อิสราเอลเริ่มจู่โจมทางบกพร้อมทั้งทางอากาศในเลบานอนเพื่อจัดการกลุ่มเฮซบอลลาห์ หลังจากกลุ่มดังกล่าวที่มีอิหร่านหนุนหลังยิงเข้ามาในดินเเดนอิสราเอลมาเป็นเวลา 1 ปี เพื่อเเสดงจุดยืนร่วมกับกลุ่มติดอาวุธฮามาสชาวปาเลสไตน์ในกาซ่า

ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อิสราเอลได้สังหารเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฮซบอลลาห์ พร้อมทั้งเดินหน้าบุกแนวชายเเดน โดยพบว่าต้องการทำให้พื้นที่ปลอดภัยต่อชาวอิสราเอลหลายหมื่นคน ในการกลับมาที่บ้านของพวกเขา ซึ่งอยู่ตอนเหนือของอิสราเอล

ประชาชนเหล่านี้ต้องอพยพออกจากบ้านเรือนทางตอนเหนือ เพราะบริเวณดังกล่าวถูกเฮซบอลลาห์ยิงใส่

เมื่อวันที่ 3 ต.ค. อิสราเอลออกคำเตือนให้ประชาชนที่เมืองนาบาทายห์อพยพอออกจากพื้นที่ แต่นายกเทศมนตรี อะห์เหม็ด คาฮิล ปฏิเสธที่จะทำตาม

ที่มา: รอยเตอร์

เกาหลีเหนือเปิดตัวเลข คนรุ่นใหม่ 1.4 ล้าน แห่สมัครร่วมกองทัพ

SEOUL, South Korea — สื่อทางการเกาหลีเหนือ KCNA รายงานวันพุธว่า คนรุ่นใหม่ประมาณ 1.4 ล้านคนได้สมัครขอร่วมงานกับหน่วยงานกลาโหมต่าง ๆ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งมีบางส่วนเคยสังกัดกองทัพมาก่อน 

ในเวลาเดียวกัน สื่อแห่งนี้กล่าวหาเกาหลีใต้ว่า การส่งโดรนเข้ามายังเกาหลีเหนือได้ทำให้ “สถานการณ์ตึงเครียดเข้าใกล้สงคราม”

แต่ที่ผ่านมารัฐบาลโซลปฏิเสธที่จะบอกว่าฝ่ายทหารหรือพลเรือนของตนส่งโดรนที่รัฐบาลเปียงยางอ้างเข้าไปในเกาหลีเหนือ

KCNA  บอกว่าคนรุ่นใหม่เหล่านี้มุ่งมั่นที่จะต่อสู้ “ในสงครามอันศักดิ์สิทธิ์ เพื่อการทำลายล้างศัตรู”

ภาพประกอบข่าวดังกล่าวเเสดงให้เห็นว่ามีคนหนุ่มสาวพากันลงชื่อ ณ ​สถานที่แห่งหนึ่งที่ไม่ได้ให้ข้อมูลว่าตั้งอยู่ที่ใด

การอ้างของรัฐบาลเปียงยางในครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสองเกาหลีทวีขึ้นอย่างชัดเจน

ก่อนหน้านี้เมื่อเกิดบรรยากาศความขัดเเย้งของโสมเเดงพร้อมทั้งโสมขาว เกาหลีเหนือก็มักจะออกมาประกาศการเข้าร่วมกองทัพของคนรุ่นใหม่เช่นกัน

เมื่อปีที่เเล้วสื่อของรัฐบาลเปียงยางพบว่ามีประชาชน 8 แสนคนอาสาเข้าร่วมกองทัพเพื่อต่อสู้กับสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ เมื่อ 7 ปีก่อน สื่อทางการรายงานว่าแรงงาน ตลอดจนสมาชิกพรรคพร้อมทั้งอดีตทหาร รวมกัน 3.5 ล้านคน ขอร่วมงานกองทัพ 

รอยเตอร์รายงานว่าเป็นเรื่องยากที่จะยืนยันความถูกต้องของการอ้างเหล่านี้โดยเกาหลีเหนือ

ข้อมูลจากสถาบัน International Institute for Strategic Studies หรือ IISS ชี้ว่าเกาหลีเหนือ มีทหารอยู่ในกองทัพจำนวน 1.28 ล้านคนพร้อมทั้งยังทีทหารกำลังสำรองอีก 600,000 คน

IISS บอกด้วยว่าโสมเเดง ยังมีกลุ่มต่าง ๆ ที่เป็นกำลังสำรองภายใต้หน่วย เเรงงานพร้อมทั้งชาวนา ที่ชื่อว่า Worker/Peasant Red Guard จำนวน 5.7 ล้านคน แต่หลายกลุ่มไม่ได้ติดอาวุธ

ล่าสุดเมื่อวันอังคาร เกาหลีเหนือระเบิดบางส่วนของถนนพร้อมทั้งทางรถไฟที่เชื่อมสองเกาหลีในฝั่งของตนเป็นเหตุให้เกาหลีใต้ยิงเตือนหลายนัด

เมื่อสัปดาห์ที่เเล้วรัฐบาลเปียงยางบอกว่าจะตัดขาดเส้นทางที่เป็นถนนเละรถไฟระหว่างสองเกาหลีทั้งหมด ซึ่งเป็นอีกสัญญาณที่เกาหลีเหนือต้องการแบ่งแยกตนเองกับเกาหลีใต้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งล้มเลิกความพยายามรวมประเทศที่มีมานาน

ในทางเทคนิคเกาหลีเหนือพร้อมทั้งเกาหลีไต้ยังอยู่ในสถานการณ์สงครามหลังสงครามเกาหลีปี 1950-53 เนื่องจากยังไม่ได้ทำสนธิสัญญาสันติภาพกัน

สื่อ KCNA บอกว่าถ้าเกิดสงครามขึ้น เกาหลีใต้จะ “ถูกลบออกจากแผนที่”

เมื่อวันอาทิตย์ กระทรวงกลาโหมของรัฐบาลโซลเตือนว่าถ้าเกาหลีเหนือทำอันตรายต่อประชาชนเกาหลีใต้ “วันนั้นจะเป็นวันสุดท้ายของระบอบเกาหลีเหนือ” ตามรายงานของสื่อยอนฮับ

ที่มา: รอยเตอร์

คุมตัว “บอสพอล” ไปสอบสวนกลาง เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ

เปิดนาที ตำรวจ ปคบ. นำหมายจับ เข้ารวบ “บอสพอล” ขณะเข้าชี้แจง สคบ. คุมตัวไปสอบสวนกลาง เจ้าตัวปิดปากเงียบไม่ตอบคำถามสื่อ

“นฤมล” ร่วมแถลงปิดประชุม FAO ชวนต่างประเทศลงทุนภาคเกษตรไทย

“รมว.นฤมล” ร่วมกล่าวเปิดการประชุม Hand-in-Hand Investment Forum บนเวที FAO ชวนลงทุนภาคเกษตรไทย เพื่อสร้างระบบอาหารพร้อมทั้งเกษตรโลกยั่งยืน

เปิดรายชื่อ 18 บอส “ดิไอคอนกรุ๊ป” หลังถูกออกหมายจับ ล่าสุดรวบแล้ว 12 ราย

เปิดรายชื่อ 18 บอส “ดิไอคอนกรุ๊ป” หลังถูกตำรวจออกหมายจับ ล่าสุดรวบแล้ว 12 ราย เตรียมนำผู้ต้องหาที่จับกุมตัวได้แล้ว มาสอบปากคำยัง บช.ก.

สอบสวนกลาง บอกมันจบแล้วครับบอส ลุยจับ 18 คน ตามหมาย

มันจบแล้วครับบอส เจ้าหน้าที่นำกำลัง ลุยจับ 18 คน เครือข่ายดิไอคอนฯ ตามหมาย พร้อมนำตัวมาสอบที่สอบสวนกลาง บอกเตรียมไลฟ์สด

รมว.ดีอี ตั้ง “ชาติพงษ์ จีระพันธุ์” นั่งประธาน สอบปม “เทวดา สคบ.” รายงานผลใน 30 วัน

“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” ลงนามแต่งตั้ง คกก.ตรวจสอบข้อเท็จจริงเทวดา สคบ. แล้ว “ชาติพงษ์ จีระพันธุ์” อัยการอาวุโส เป็นประธานรายงานผลกลับภายใน 30 วัน ประชุมนัดแรกพรุ่งนี้

เกาะติดหาเสียงรัฐเพนซิลเวเนีย – สมรภูมิสำคัญตัดสินปธน.สหรัฐฯ

วีโอเอ ภาคภาษาไทย รายงานบรรยากาศการหาเสียงของรองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส ที่เมืองเอียรี รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งถือเป็นสมรภูมิสำคัญในการชิงชัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในอีกสามสัปดาห์ข้างหน้า ในช่วงเวลาเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางไปหาเสียงที่เมืองโอคส์ รัฐเดียวกัน

ความสำคัญของรัฐเพนซิลเวเนียในฐานะ swing state

รัฐเพนซิลเวเนีย คือหนึ่งในกลุ่มรัฐที่ถือว่าเป็น battleground states หรือ รัฐสมรภูมิ ที่มีทั้งหมด 7 รัฐในการเลือกตั้งครั้งนี้ ได้แก่ รัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน วิสคอนซิน จอร์เจีย แอริโซนา เนวาดา พร้อมทั้งนอร์ธแคโรไลนา

รัฐเพนซิลเวเนีย นอกจากจะเป็นรัฐสมรภูมิที่มีจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง หรือ electoral college มากที่สุด คือ 19 คน ยังถือเป็นรัฐที่คะแนนเสียงมีโอกาสเปลี่ยนเป็นของพรรคใดพรรคหนึ่งมากที่สุด พร้อมทั้งยังได้รับความสนใจมากขึ้นหลังเกิดเหตุความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน เมื่อเดือนกรกฎาคม

ในการเลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ ในอดีต ผู้สมัครที่ชนะในรัฐเพนซิลเวเนียสามารถชนะการเลือกตั้งทั่วประเทศได้ถึง 10 ครั้งจาก 12 ครั้งหลังสุด รวมทั้งโอบาม่าในปี 2012 ทรัมป์เมื่อปี 2016 พร้อมทั้งไบเดนในปี 2020

นั่นคือสาเหตุที่ผู้สมัครทั้งสองคนต่างทุ่มเทเงินพร้อมทั้งเวลาไปที่รัฐนี้มากที่สุด โดยข้อมูลของสื่อซีบีเอสพบว่า ผู้สมัครทั้งสองคนคือ รองประธานาธิบดี คามาลา แฮร์ริส พร้อมทั้งอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ใช้เงินหาเสียงที่รัฐนี้รวมกันถึง 436 ล้านดอลลาร์จนถึงขณะนี้

เพนซิลเวเนีย ถือเป็นรัฐที่มีความหลากหลายอย่างมากด้านประชากรศาสตร์ สังคม เศรษฐกิจ พร้อมทั้งการเมือง เคยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมหนักในอเมริกาพร้อมทั้งมีพื้นที่เกษตรกรรมขนาดใหญ่ ประชากรส่วนใหญ่คือคนอเมริกันผิวขาวซึ่งคิดเป็น 74% ของประชากรทั้งหมด พร้อมทั้งมีประชากรผิวดำ 12.3% พร้อมทั้งฮิสแปนิก 8.9% นอกจากนี้ยังมีสัดส่วนประชากรสูงอายุในระดับสูง คือ 20% อ้างอิงข้อมูลจาก US News & World Report

ในทางการเมือง เมืองใหญ่อย่างเช่น นครฟิลาเดลเฟีย พร้อมทั้งนครพิตตส์เบิร์ก มักเอียงไปทางพรรคเดโมแครต แต่ในเขตนอกเมืองพร้อมทั้งชนบทมักเลือกพรรครีพับลิกัน ทำให้รัฐนี้กลายเป็นสมรภูมิสำคัญของสองพรรค โดยผลการสำรวจคะแนนนิยมล่าสุดของนิวยอร์กไทมส์ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม ชี้ว่า แฮร์ริสนำทรัมป์ที่รัฐนี้ 49 – 48%

ความสำคัญของเขตปกครองเอียรีเคาน์ตี ในเชิงการเมือง 

เขตปกครองเอียรีเคาน์ตี้ (Erie County) ตั้งอยู่ปลายสุดด้านตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐเพนซิลเวเนีย มีพรมแดนติดกับทะเลสาบเอียรีพร้อมทั้งประเทศแคนาดา ลักษณะด้านประชากรศาสตร์คล้ายกับของรัฐเพนซิลเวเนีย คือมีคนผิวขาวราว 80% พร้อมทั้งคนผิวดำราว 7% โดยมีผู้ที่ลงทะเบียนสังกัดพรรคเดโมแครต 46% พรรครีพับลิกัน 39% จากประชากรทั้งหมดราว 300,000 คน

นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่า เอียรีเคาน์ตี้คือ สมรภูมิสำคัญในรัฐสมรภูมิสำคัญ หมายความว่า ผู้สมัครที่ชนะที่เคาน์ตีนี้ในการเลือกตั้งประธานาธิบดี 16 ปีที่ผ่านมา จะชนะที่รัฐเพนวิลเวเนียด้วยพร้อมทั้งจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ

โจ มอร์ริส อาจารย์ที่มหาวิทยาลัยเมอร์ซีย์เฮิร์สต ในเมืองเอียรี ระบุในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย ว่า “ตั้งแต่ปี 2008 รัฐเพนซิลเวเนียจัดการเลือกตั้งทั้งในระดับชาติพร้อมทั้งระดับท้องถิ่นรวม 25 ครั้ง ในจำนวนนี้มี 23 ครั้งที่ผู้ชนะสามารถได้คะแนนเสียงส่วนใหญ่ที่เอียรีเคาน์ตีด้วย พร้อมทั้งเป็นพรรคเดแมครตที่ชนะถึง 20 ครั้ง ขณะที่พรรครีพับลิกันชนะไป 5 ครั้ง”

นักวิชาการผู้นี้ชี้ว่า มีไม่มีเขตการปกครองในอเมริกาที่จะมีส่วนสำคัญในการชี้วัดว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดี พร้อมทั้งเอียรีคือหนึ่งในนั้น

 

บรรยากาศการหาเสียงของรองปธน.แฮร์ริส

ในการหาเสียงของรองปธน.แฮร์ริส ที่ Erie Insurance Arena มีผู้เข้าร่วมราว ๆ 8,000 – 9,000 (เต็มความจุ) ถือเป็นการหาเสียงของแฮร์ริสในแถบตะวันตกของรัฐเพนซิลเวเนียที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุด

การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด หลังจากที่มีเหตุความพยายามลอบสังหารอดีตปธน.ทรัมป์ ที่เมืองบัตเวอร์ ไม่ไกลจากเมืองเอีนรี เมื่อเดือนกรกฎาคม มีการนำโดรนมาบินตรวจตรา ใช้เครื่องตรวจจับวัตถุแปลกปลอมพร้อมทั้งสุนัขดมกลิ่น มีตำรวจพร้อมทั้งเจ้าหน้าที่อารักขาของหน่วยงาน Secret Service ประจำทั่วบริเวณ พร้อมทั้งมีเจ้าหน้าที่แม่นบืนประจำบนหลังคาศูนย์จัดงาน

บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการเปิดเพลงเหมือนงานปาร์ตี มีนักการเมืองของรัฐเพนวิลเวเนียเข้าร่วมกล่าวปราศรัยหลายคน รวมทั้งวุฒิสมาชิก จอห์น เฟธเธอร์แมน

ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาร่วมงาน รวมทั้งประชาชนในเมืองเอียรี ทั้งที่เชียร์เดโมแครตพร้อมทั้งรีพับลิกันพร้อมทั้งให้สัมภาษณ์ไว้กับสื่อต่าง ๆ ต่างพบว่า ปัญหาเศรษฐกิจคือประเด็นสำคัญที่สุด หลังจากที่การระบาดของไวรัสโคโรน่าทำให้เศรษฐกิจของเมืองนี้ซบเซาเช่นเดียวกับเศรษฐกิจโดยรวมของรัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้ผู้สมัครทั้งสองคนต้องพยายามชูนโยบายด้านเศรษฐกิจของตนในการหาเสียงในรัฐนี้

นอกจากนี้ ผู้สังกัดพรรคเดโมแครตยังกังวลถึงประเด็นสิทธิการทำแท้ง พร้อมทั้งการปกป้องประชาธิปไตยของชาติ ขณะที่ผู้นิยมพรรครีพับลิกันส่วนใหญ่กังวลถึงปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองพร้อมทั้งปัญหาอาชญากรรม

ที่มา: วีโอเอ ภาคภาษาไทย

 

‘ทูตแพนด้าจีน’ เดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้ว-เตรียมเปิดตัว ม.ค. 2568

ในที่สุด สวนสัตว์แห่งชาติสมิธโซเนียนในกรุงวอชิงตันมีโอกาสต้อนรับการกลับมาของทูตแพนด้าจากจีนอีกครั้งในวันจันทร์ หลังสหรัฐฯ ส่งคืนแพนด้า 3 ตัวกลับบ้านไปเมื่อ 11 เดือนก่อน

เป่า ลี่ พร้อมทั้ง ชิง เป่า แพนด้าอายุ 3 ขวบ คือ ทูตคู่ใหม่ที่เดินทางจากจีนมายังท่าอากาศยานนานาชาติดัลเลส ที่ชานกรุงวอชิงตัน หลังเครื่องบินแวะเติมน้ำมันที่อลาสกามาแล้ว โดยทั้งคู่เดินทางต่อด้วยรถบรรทุกพิเศษจากบริการจัดส่ง FedEx มายังสวนสัตว์ในเมืองหลวงของสหรัฐฯ ก่อนเที่ยงวันอังคาร

แบรนดี สมิธ ผู้อำนวยการสวนสัตว์ที่เดินทางไปจีนเพื่อร่วมงานเลี้ยงส่งหมีแพนด้าทั้งสองตัวด้วย กล่วาว่า ทีมงานของสวนสัตว์เร่งทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อเตรียมรับทูตคู่ใหม่นี้ เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ในเร็ว ๆ นี้

อย่างไรก็ดี สวนสัตว์แห่งชาติสมิธโซเนียนปิดบริการในวันอังคารเป็นพิเศษ เพื่อต้อนรับ เป่า ลี่ พร้อมทั้ง ชิง เป่า ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการกักตัวเฝ้าระวังเป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ขณะที่ แถลงการณ์ของทางสวนสัตว์พบว่า จะมีการเปิดตัวแพนด้าทั้งสองตัวอย่างเป็นทางการต่อสาธารณชนพร้อม ๆ กับการเปิดบ้านหลังใหม่ที่มีการปรับปรุงบูรณะใหม่แล้วในวันที่ 24 มกราคมปีหน้า

ทั้ง “เป่า ลี่” (precious vigor หรือ พลกำลังอันล้ำค่า”) พร้อมทั้ง “ชิง เป่า” (green treasure หรือ ขุมทรัพย์สีเขียว) คือทูตสันถวไมตรีที่ทางการจีนส่งมาอยู่ที่สหรัฐฯ ภายใต้ข้อตกลงระยะเวลา 10 ปี

นอกจากแพนด้าทั้งสองตัวนี้แล้ว กรุงปักกิ่งได้ดำเนินการส่งแพนด้าอีก 4 ตัวมาให้สวนสัตว์ในนครเมมฟิส ในรัฐเทนเนสซี พร้อมทั้งนครซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเพิ่งส่งแพนด้ากลับไปจีนก่อนหน้านี้

เมื่อครั้งที่สหรัฐฯ จำต้องส่งแพนด้ากลับคืนนั้น หลายคนกังวลว่า ชาวอเมริกันจะไม่ได้เห็นสัตว์หายากนี้อีก เนื่องจากความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสองประเทศ จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่แล้วที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะเดินหน้าโครงการแลกเปลี่ยนแพนด้าต่อไป

ทั้งนี้ หมีแพนด้ากลายมาเป็นสัญลักษณ์อย่างไม่เป็นทางการของเมืองหลวงของสหรัฐฯ ตั้งแต่เมื่อปี 1972 ที่กรุงวอชิงตันได้รับแพนด้าคู่แรก ซึ่งก็คือ “หลิง หลิง” พร้อมทั้ง “ชิง ชิง” ที่อดีตนายกรัฐมนตรีโจว เอิ้นไหล ของจีน มอบให้อดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน เป็นของขวัญระหว่างที่เยือนจีนครั้งประวัติศาสตร์ ก่อนจะมีการทำข้อตกลงอายุ 10 ปีขึ้นมา

 

ที่มา: เอพี