อเมริกันใช้บริการ “แคเรน” หวังพ้นกับดัก รอสายถึงชาติหน้า-บริการลูกค้ายอดแย่

ในยุคเศรษฐกิจสมัยใหม่ ที่บริษัทต่าง ๆ พากันใช้บริการตอบรับอัตโนมัติ บริการรับฝากข้อความ หรือการใช้คอลเซ็นเตอร์นอกองค์กรให้มาจัดการปัญหา หรือคอมเพลนต่าง ๆ ลูกค้าหลายคนพบว่าพวกเขาต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง หลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน ในการติดต่อเพื่อสะสางปัญหา หรือบางครั้งก็เป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะได้รับความช่วยเหลือ

สื่อวอชิงตัน โพสต์ (Washington Post) รายงานว่าคู่รักชาวอเมริกันคู่หนึ่ง ได้ก่อตั้งบริษัทเล็ก ๆ ขึ้นมาในเมืองพิตตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลวาเนีย โดยใช้ชื่อว่า แคเรนส์ ฟอร์ ไฮร์ (Karens for Hire) ซึ่งเป็นชื่อที่ล้อเลียนภาพพจน์ของ “แคเรน” ในสังคมอเมริกัน ที่ “แคเรน” ได้กลายมาเป็นชื่อเรียกผู้หญิงผิวขาววัยกลายคนที่คิดว่าตัวเองเป็นอภิสิทธิ์ชน คนที่เวลามีปัญหาอะไรมักจะ “ขอคุยกับผู้จัดการ” หรือแม้แต่โทรศัพท์เรียกตำรวจมาจัดการกับคนที่สร้างความรำคาญให้เธอด้วยเรื่องเล็กน้อย

คริส กริมม์ (Chris Grimm) วัย 44 ปี พร้อมทั้ง ฟัลลอน เซคกา (Fallon Zecca) วัย 35 ปี หวังว่าพวกเขาจะสร้างแรงกระเพื่อมให้กับโลกของการให้บริการลูกค้า ด้วยการใช้ลูกเล่นที่ไม่เหมือนใคร พร้อมทั้งปฏิวัติวิธีการคอมเพลน หรือการต่อว่าการให้บริการของบริษัท ห้างร้าน หรือองค์กรต่าง ๆ

นอกจาก คริส พร้อมทั้ง ฟัลลอน บริษัท Karens for Hire ยังมีลูกจ้างพาร์ทไทม์อีกสองคน พร้อมทั้งทนายความที่จ้างไว้ปรึกษา ตั้งแต่เปิดบริษัทมาเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว บริษัทได้รับงานมากว่า 2,300 จากลูกค้าที่ต้องการให้ “แคเรน” ช่วย ลูกค้าเหล่านี้มีความต้องการหลายรูปแบบ เช่น ได้ทำการซื้อขายที่ผิดพลาด พร้อมทั้งทำให้ต้องการการคืนสินค้าหรือขอเงินคืน การมีข้อพิพาทต่าง ๆ ทั้งเรื่องใหญ่พร้อมทั้งเรื่องเล็ก ทั้งกับบริษัทยักษ์ใหญ่พร้อมทั้งห้างร้านในท้องถิ่น

คริสโตเฟอร์ เอลเลียต (Christopher Elliott) เจ้าของคอลัมน์เกี่ยวกับผู้บริโภค แห่ง เอลเลียต แอดโวเคซี (Elliott Advocacy) ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ช่วยเหลือผู้บริโภคที่เดือดร้อนกว่า 10,000 คนต่อปี ได้บอกกล่าวกับวอชิงตัน​ โพสต์ว่า ทัศนคติของบริษัทต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่บริษัทต้องการที่จะแก้ปัญหาช่วยลูกค้า ตอนนี้บริษัทกลับต้องการเทลูกค้าเหล่านั้นทิ้ง เพราะดูแล้วว่าการหาลูกค้าใหม่มีต้นทุนต่ำกว่าการรักษาฐานลูกค้าเก่า

ลูกค้าที่หันมาใช้บริการแคเรนนั้น ส่วนใหญ่ได้ใช้ความพยายามพร้อมทั้งความอดทนอย่างมากในการที่จะติดต่อกับบริษัทต่าง ๆ มาด้วยตัวเองแล้ว เช่น บริษัท แอร์บีแอนด์บี (Airbnb) เฟซบุ๊ก (Facebook) บริษัทขายตั๋วออนไลน์ ทิคเก็ตมาสเตอร์ (Ticketmaster) บริษัทโทรคมนาคม ที-โมบายล์ (T-Mobile) บริษัทขายรถยนต์ บริษัทอินเตอร์เน็ต บริษัทประกัน พร้อมทั้งอื่น ๆ อีกมากมาย

บางคนก็เลือกใช้บริการของแคเรนตั้งแต่แรก เพราะว่าพวกเขายุ่ง หรือรู้สึกท้อแท้เกินกว่าที่จะยกหูโทรศัพท์ติดต่อบริษัทเหล่านั้นด้วยตัวเอง

ลูกค้าหลายคนเป็นผู้ที่เพิ่งอพยพมาอยู่สหรัฐฯ ได้ไม่นาน พร้อมทั้งคาดว่าภาษาอังกฤษที่ไม่ดีพอ หรือสำเนียงที่ฟังยากของพวกเขา น่าจะเป็นอุปสรรคในการต่อสู้ทางโทรศัพท์รายวันกับบริษัทอเมริกันเหล่านี้

คริสบอกว่า ลูกค้าหลายคนไม่ได้ต้องการคนอย่างแคเรนให้มาช่วยต่อว่า บางคนเพียงแต่ต้องการคำแนะนำว่าพวกเขาควรจะต้องคอมเพลนอย่างไร พร้อมทั้งต้องการรู้ว่าพวกเขาจะยืนหยัดปกป้องสิทธิของตัวเองได้อย่างไร

สำหรับ คริส พร้อมทั้ง ฟัลลอน นั้น ทั้งสองคนบอกว่าการปกป้องสิทธิของตัวเองเป็นสิ่งที่ทั้งสองทำได้ดีมาตั้งแต่เด็ก ฟัลลอนบอกว่า “พวกเรามีเชื้อสายอิตาเลียน เราพูดในใจไม่เป็นหรอก”

ทั้งคริสพร้อมทั้งฟัลลอนกลายเป็นคนที่เพื่อนฝูงญาติพี่น้องต้องมาหา เวลาที่พวกเขาต้องการจะคืนสินค้าหรือต้องการเงินคืน

ฟัลลอนบอกว่า หากมีของเสียหาย แม่ของเธอมักจะต้องการเอาไปทิ้ง แต่เธอจะบอกว่า บริษัทเป็นคนขายสินค้าที่ใช้ไม่ได้เหล่านี้ให้เรา เราจะรับไว้แบบนี้ไม่ได้ บริษัทจะสร้างขั้นตอนให้ยุ่งยากเพื่อที่ลูกค้าจะได้ยอมแพ้ไปเอง

ทั้งคู่มีประสบการณ์ในการทำงานในธุรกิจที่สร้างความไม่พอใจให้ลูกค้ามาก่อน รวมทั้งในธุรกิจเทคโนโลยีพร้อมทั้งการให้บริการด้านสุขภาพ ฟัลลอนยังทำงานประจำเต็มเวลาที่บริษัททำซอฟท์แวร์ทางการแพทย์แห่งหนึ่ง ส่วนคริสนั้นเคยทำงานเป็นพนักงานในร้านแอบเปิล สโตร์ (Apple Store) พร้อมทั้งทำงานแผนกบริการลูกค้าในตัวแทนจำหน่ายเมอร์เซเดส (Mercedes) เป็นเวลา 6 ปี ซึ่งเป็นงานที่เขาทำยอดขายได้น้อย พร้อมทั้งกลับได้เรตติ้งการบริการลูกค้าที่สูงที่สุด

พวกเขาติดป้าย “Karens for Hire, Entitled to Help” หรือ “แคเรนสำหรับจ้าง อภิสิทธิชนที่จะช่วยคุณ” ไปทั่วเมืองพิตตส์เบิร์ก ต่อมามีคนถ่ายวีดีโอป้ายดังกล่าวแล้วนำไปเผยแพร่ต่อในโซเชียลมีเดีย ติ๊กตอก (Tiktok) ทำให้มีลูกค้าติดต่อเข้ามามาก

เทคนิคอย่างหนึ่งของ Karens for Hire คือการตามล่าผู้บริหารหรือผู้ที่มีอำนาจรับผิดชอบที่อยู่เหนือโอเปอเรเตอร์ ที่พวกเขามองว่าถูกจ้างมาด้วยค่าแรงต่ำเพื่อให้มาทำงานเหล่านี้

พวกเขาเลือกชื่อ แคเรน ที่เป็นชื่อที่ใช้นำมาล้อเลียนในสังคมอยู่แล้ว เพื่อให้เป็นชื่อที่ติดหูติดตลาด แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะขำไปด้วย ชื่อดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับคนในสังคมบางกลุ่มเช่นกัน

ถ้าหากว่า ฟัลลอนบอกว่า “เราไม่ได้พูดถึงแคเรนที่ไปตะโกนด่าคนชงกาแฟในร้าน แต่เราแค่ต้องการนำเอาพลังงานของแคเรนเหล่านั้นมาทำในสิ่งที่ดี”

‘ปูติน’ เชิญ ‘สี จิ้นผิง’ เยือนรัสเซียต้นปีหน้า กระชับสัมพันธ์สองมหาอำนาจ

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย คาดหมายว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เตรียมเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งเป็นสิ่งที่สะท้อนภาพของความเป็นปึกแผ่นแน่นแฟ้นระหว่างสองมหาอำนาจ ท่ามกลางสงครามยูเครนดำเนินมาเกือบ 11 เดือนแล้ว ตามรายงานของรอยเตอร์

ปธน.ปูติน กล่าวถึงประเด็นนี้ในวันศุกร์ ในแถลงการณ์เริ่มต้นการหารือกับผู้นำสีของจีน ความยาว 8 นาที ที่ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ของรัฐว่า “เราคาดหวังว่าคุณ (ปธน.สี) ท่านประธานพรรคที่รัก เพื่อนที่รัก เราคาดหวังว่าคุณจะเยือนมอสโกอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ผลิปีหน้า” พร้อมทั้งว่า “สิ่งนี้จะแสดงให้ทั้งโลกเห็นความแข็งแกร่งของความสัมพันธ์รัสเซีย-จีนในประเด็นสำคัญต่าง ๆ ” โดยผู้นำรัสเซีย เสริมว่า รัฐบาลเครมลินมุ่งเป้าเสริมความร่วมมือด้านการทหารกับจีนด้วยเช่นกัน

แม้ว่าถ้อยแถลงของปธน.สี ในการหารือล่าสุดนี้ ผู้นำจีนจะเรียกปธน.ปูตินว่า “เพื่อนรัก” แต่เนื้อหาในการสนทนามีความจริงจังมากกว่า อีกทั้งข้อมูลการหารือระหว่างสองผู้นำเมื่อวันศุกร์ ที่ทางการจีนเปิดเผยออกมานั้น ไม่ได้กล่าวถึงประเด็นเรื่องการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของปธน.สี รวมถึงประเด็นการเพิ่มความร่วมมือด้านการทหารกับรัสเซีย แต่เน้นถึงวิธีการอันแตกต่างในการพัฒนาความสัมพันธ์ของสองมหาอำนาจ พร้อมทั้งย้ำยืนยันว่ารัฐบาลปักกิ่ง ซึ่งปฏิเสธที่จะสนับสนุนหรือประณามการบุกยูเครนของรัสเซียมาโดยตลอดนั้น ยังคงจุดยืนที่ “ยุติธรรมพร้อมทั้งเป็นกลาง” ในประเด็นนี้

นับตั้งแต่รัสเซียส่งทหารบุกยูเครน เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัสเซียหันหลังให้มหาอำนาจชาติตะวันตก ที่พยายามใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจพร้อมทั้งการเมือง รวมทั้งสนับสนุนด้านอาวุธให้กับยูเครน พร้อมทั้งรัสเซียหันไปพึ่งพาจีนมากขึ้นแทน

สัมพันธ์การค้าที่เฟื่องฟู

นับตั้งแต่ประเทศกลุ่มเศรษฐกิจชั้นนำฝั่งตะวันตกใช้มาตรการลงโทษต่าง ๆ เพื่อตอบโต้รัสเซียในการส่งทหารบุกยูเครนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน รัสเซียถูกบีบให้ต้องเสาะหาตลาดอื่น ๆ พร้อมทั้งเอาชนะซาอุดีอาระเบียในการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบให้กับจีนไปแล้ว ขณะที่ระดับการค้าพร้อมทั้งความสัมพันธ์ด้านการเงินระหว่างจีนพร้อมทั้งรัสเซียขยายตัวมากขึ้นเช่นกัน

เมื่อวันศุกร์ รัฐมนตรีคลังรัสเซีย ได้เพิ่มสัดส่วนสกุลเงินหยวนในกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของรัสเซีย (National Wealth Fund – NWF) มาเป็นระดับ 60% ในระหว่างที่รัสเซียพยายาม “ลดการพึ่งพาเงินสกลุดอลลาร์” ในเศรษฐกิจรัสเซีย พร้อมทั้งพยายามยุติการพึ่งพาประเทศ “ที่ไม่เป็นมิตร” กับรัสเซีย ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป อังกฤษ พร้อมทั้งญี่ปุ่น

รัฐบาลมอสโกได้สนับสนุนบทบาทของจีนต่อประเด็นไต้หวัน พร้อมทั้งกล่าวหาชาติตะวันตกที่พยายามยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับสถานะของไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนมาโดยตลอด

ปธน.ปูติน ได้บอกกล่าวกับปธน.สีว่า “คุณพร้อมทั้งผมมีมุมมองที่ตรงกันเกี่ยวกับสาเหตุ เส้นทาง พร้อมทั้งเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิรัฐศาสตร์โลก ท่ามกลางแรงกดดันพร้อมทั้งการยั่วยุจากตะวันตกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

ถ้าหากว่า ผู้นำจีนไม่ได้ออกตัววิจารณ์ชาติตะวันตกในประเด็นต่าง ๆ พร้อมทั้งเอาตัวออกห่างจากการวิจารณ์ชาติตะวันตก พร้อมทั้งหันมาเน้นกล่าวถึงความต้องการผลักดันสันติภาพ

ผู้นำจีน ได้บอกกล่าวกับปธน.ปูตินในวันศุกร์ว่า จีนพร้อมที่จะเพิ่มความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับรัสเซีย ต่อสถานการณ์โลกที่เขาเรียกว่า “ยากลำบาก”

ด้านโฆษกรัฐบาลเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ บอกว่าการประชุมมีแก่นสารพร้อมทั้งเป็นการหารือที่สร้างสรรค์ แต่ยังไม่ได้กำหนดวันเวลาการเยือนรัสเซียอย่างเป็นทางการของปธน.สี

ที่มา: รอยเตอร์

รัฐสภาสหรัฐฯ​ เปิดเผยเอกสารภาษีของ ‘ทรัมป์’ หลังต่อสู้ยื้อยุดกันมานาน

สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ พรรคเดโมแครต ได้เปิดเผยเอกสารยื่นภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลายพันหน้า ในวันศุกร์ ตามเวลาในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเผยให้เห็นสภาพทางการเงินของทรัมป์ที่ละเอียดมากที่สุดในระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงช่วงเวลาในทำเนียบขาว หลังจากที่อดีตผู้นำสหรัฐฯ ได้ต่อสู้มาเป็นเวลาเพื่อไม่ให้เอกสารยื่นภาษีของตนถูกเผยแพร่ออกไป

เอกสารภาษีที่ได้รับการเปิดเผยต่อสาธารณชน ส่วนหนึ่งเป็นเอกสารยื่นภาษีส่วนบุคคลของทรัมป์ พร้อมทั้งภรรยา เมลาเนีย ทรัมป์ พร้อมทั้งอีกส่วนหนึ่งเป็นเอกสารภาษีของหน่วยงานธุรกิจของทรัมป์ ซึ่งเอกสารเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าทรัมป์ได้พยายามเสียภาษีให้น้อยลง พร้อมทั้งยังเปิดเผยข้อมูลของบัญชีในต่างประเทศของทรัมป์ พร้อมทั้งผลประกอบการของธุรกิจใหญ่ ๆ ของอดีตผู้นำสหรัฐฯ รายนี้อีกด้วย  

ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรกในรอบหลายสิบปีที่ไม่ยอมเปิดเผยเอกสารการเสียภาษีของตนขณะที่ยังดำรงตำแหน่ง ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ คนก่อน ๆ ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา ตั้งแต่มีคดีวอเตอร์เกต เหตุอื้อฉาวทางการเมืองระหว่างช่วงต้นคริสต์ทศวรรษที่ 1970 เพื่อแสดงถึงความโปร่งใสในการทำงาน

ทรัมป์ได้ดึงดันพร้อมทั้งต่อสู้มาเป็นปีที่จะไม่ให้เอกสารทางการเงินดังกล่าวถูกเปิดเผยออกไป แต่ในที่สุด สมาชิกรัฐสภาสังกัดพรรคเดโมแครต ก็สามารถเปิดเผยเอกสารเสียภาษีของทรัมป์ ไม่กี่วันก่อนที่ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน จะเข้าควบคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 3 มกราคมนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่สัปดาห์ ทรัมป์ก็ได้ประกาศว่าเขาจะลงเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี ค.ศ.2024  

ทรัมป์ได้รายงานว่าเขามีบัญชีธนาคารในจีน ไอร์แลนด์​ พร้อมทั้งสหราชอาณาจักร ตั้งแต่ปี 2015-2017 แต่ในปี 2018 เป็นต้นมา เขารายงานว่ามีบัญชีแค่ในสหราชอาณาจักรเท่านั้น ในเอกสารการยื่นภาษี ทรัมป์ได้ขอใช้สิทธิส่วนลดในการจ่ายภาษีของธุรกิจต่าง ๆ ของตน เพราะถือว่าตนได้จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลต่างประเทศไปแล้ว

อดีต ปธน.สหรัฐฯ จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลกลาง (federal income taxe) ในปี 2015 ซึ่งเป็นปีที่เขาเริ่มรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง 641,931 ดอลลาร์ ก่อนที่ในปี 2016 พร้อมทั้ง 2017 จะจ่ายเพียง 750 ดอลลาร์  

ต่อมาในปี  2018 ทรัมป์จ่ายภาษีเกือบ 1 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะลดลงในปี 2019 เหลือ 133,445 ดอลลาร์ พร้อมทั้งในปี 2020 ซึ่งเป็นปีที่ทรัมป์ลงเลือกตั้งสมัยสอง พร้อมทั้งพ่ายแพ้ให้กับโจ ไบเดน นั้น พบว่าทรัมป์ไม่เสียภาษีเลย 

ในแถลงการณ์ในวันศุกร์ ทรัมป์บอกว่าสมาชิกรัฐสภาพรรคเดโมแครต “ไม่ควรจะ (เปิดเผยเอกสารภาษี)” ของตน พร้อมทั้งยังกล่าวด้วยว่า การกระทำดังกล่าว “จะทำให้เกิดสิ่งเลวร้ายต่อคนหลายคน” พร้อมทั้งยังกล่าวด้วยว่า “พวกเดโมแครตเอียงซ้ายหัวรุนแรงได้นำทุกอย่างมาใช้เป็นอาวุธ แต่จงจำไว้ด้วยว่า อีกฝ่ายก็อาจจะตอกกลับการกระทำที่อันตรายแบบนี้ได้เช่นกัน”  

เอกสารการยื่นภาษีดังกล่าวยังแสดงให้เห็นว่าทรัมป์ใช้ช่องทางทางกฎหมายภาษีเพื่อลดจำนวนภาษีที่เขาจะต้องจ่าย  

เช่นในปี 2020 ธุรกิจของทรัมป์กว่า 150 แห่ง พบว่ามียอดสุทธิระหว่างรายได้ทุกตัวติดลบ (negative qualified business income) ซึ่งนั่นเป็นปีสุดท้ายที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาว ยอดขาดทุนของธุรกิจของทรัมป์ ตามคำนิยามของสำนักสรรพากรสหรัฐฯ หรือ IRS (Internal Revenue Service) อยู่ที่กว่า 58 ล้านดอลลาร์ หลังจากที่รวมกับยอดขาดทุนปีก่อน ๆ อีก 9 ล้านดอลลาร์ 

ที่ผ่านมา สถานะทางการเงินของทรัมป์เป็นสิ่งที่ถูกปกปิดเป็นความลับพร้อมทั้งเป็นที่สนใจของผู้คนมาตลอด ตั้งแต่เขายังเป็นนักธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในมหานครนิวยอร์ก ในยุคคริสต์ทศวรรษ 1980 

ทรัมป์สร้างชื่อเสียงจากการเป็นผู้สร้างตึกระฟ้าพร้อมทั้งพิธีกรรายงานเรียลิตี้โชว์ พร้อมทั้งได้อวดอ้างทรัพย์สมบัติของตนเองในเอกสารทางการเงินที่เขายื่นให้ธนาคารต่าง ๆ เพื่อใช้ประกอบการกู้เงิน เขายังส่งเอกสารทางการเงินเหล่านั้นให้กับนิตยสารต่าง ๆ ที่จัดอันดับความร่ำรวย เพื่อแสดงให้เห็นว่าเขาติดอันดับอภิมหาเศรษฐีของโลก 

บริษัทที่ดูแลบัญชีให้ทรัมป์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวมาโดยตลอด  

ก่อนหน้านี้ อัยการรัฐนิวยอร์กได้ยื่นฟ้องทรัมป์ พร้อมทั้ง บริษัททรัมป์ ออร์แกไนเซชั่น (Trump Organization) ว่าได้รายงานมูลค่าสินทรัพย์เกินจริง เพื่อกระทำการฉ้อโกงเป็นเวลาหลายปี ซึ่งทรัมป์พร้อมทั้งบริษัทของเขาให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด 

รายงานของสื่อ The New York Times ในปี 2020 ยังเปิดเผยด้วยว่าทรัมป์จ่ายภาษีให้กับรัฐบาลกลาง ในปี 2017 พร้อมทั้ง 2018 ไป 750 ดอลลาร์ พร้อมทั้งในช่วง 15 ปีที่นิวยอร์กไทม์สมีข้อมูล อดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่จ่ายภาษีเลยเป็นเวลา 10 ปี เพราะเขารายงานว่าเขาขาดทุนทุกปี

ศาลเมียนมาตัดสินความผิดคดีสุดท้าย จำคุก ซูจี เพิ่มอีก 7 ปี

ศาลเมียนมาตัดสินจำคุกนางอองซาน ซูจี เพิ่มอีก 7 ปีในข้อหาคอร์รัปชัน พร้อมทั้งเป็นข้อหาสุดท้ายที่เธอได้รับ ทำให้เธอถูกตัดสินจำคุกรวมทุกคดีมากถึง 33 ปี

สุดจริง “คาร์ริก” คุมทัพ “โบโร” จากอันดับ 22 พุ่งสู่ที่ 6 มีลุ้นขึ้นพรีเมียร์ลีก

ไมเคิล คาร์ริก อดีตนักเตะพร้อมทั้งกุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังไปได้สวยกับ มิดเดิลสโบรห์ พาทีมพุ่งจากอันดับ 22 สู่อันดับ 6 ลีกเดอะแชมเปียนชิพ

อินโดนีเซียยกเลิกกฎคุมไวรัสโคโรน่าที่เหลือทั้งหมด ชี้คนป่วยน้อย-ภูมิคุ้มกันดี

ประธานาธิบดีอินโดนีเซียประกาศยกเลิกกฎคุมไวรัสโคโรน่าทั้งหมดแล้ว หลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อกับเข้าโรงพยาบาลน้อย พร้อมทั้งมีภูมิคุ้มกันที่ดี

“กุนซือสิงคโปร์” ชื่นชมลูกทีมหลังเจ๊าเวียดนาม-สวน “โค้ชปาร์ค” อย่าโทษหญ้าเทียม

ทาคายูกิ นิชิกายะ กุนซือทีมชาติสิงคโปร์ ออกมาเปิดใจหลังพาทีมเปิดบ้านเสมอ เวียดนาม ในศึกอาเซียน คัพ 2022

รมว.ยุติธรรม ชวนแวะจิบกาแฟ-ทานอาหาร คุกแอนด์คอฟ ฝีมือผู้ต้องขัง

“สมศักดิ์” ชวนแวะจิบกาแฟ-ทานอาหาร คุกแอนด์คอฟ ฝีมือผู้ต้องขัง ช่วงหยุดยาวปีใหม่ เพื่อช่วยกันสร้างโอกาส โชว์สาขาเรือนจำบางขวาง ยอดขายพุ่งวันละ 9 หมื่นบาท ผู้ต้องขังมีรายได้เดือนละ 5 พันบาท

พรปีใหม่ “เทน ฮาก” ขอ 3 ข้อกับ “แมนยูฯ” ย้ำอยากเสริมทัพ ม.ค. เพื่อลุ้นแชมป์

“พรปีใหม่” กุนซือแมนยูฯ เผย 3 สิ่งที่อยากให้เป็นจริงก่อนลุยพรีเมียร์ลีก ครึ่งฤดูกาลหลัง ย้ำอยากเสริมทัพเพื่อลุ้นแชมป์

ว่าแล้ว “โค้ชปาร์ค” งัด 1 ข้ออ้างทำ “เวียดนาม” ได้แค่เจ๊า “สิงคโปร์” ศึกอาเซียนคัพ

ปาร์ค ฮัง ซอ กุนซือทีมชาติเวียดนาม ออกมาเปิดใจหลังพาทีมบุกเสมอ สิงคโปร์ ในศึกอาเซียน คัพ 2022 นัดล่าสุด