เร่งหามูลเหตุจูงใจวัยรุ่นหญิงยิงกราดโรงเรียนวิสคอนซิน

ตำรวจในรัฐวิสคอนซิน เร่งสอบปากคำเพื่อนพร้อมทั้งครอบครัวของวัยรุ่นหญิงอายุ 15 ปี เพื่อหามูลเหตุจูงใจที่ทำให้เธอตัดสินใจเปิดฉากยิงกราดในห้องเรียนที่โรงเรียนคริสเตียน เป็นเหตุให้เพื่อนร่วมชั้น 1 คนพร้อมทั้งครูอีก 1 คนจบชีวิต ก่อนจะปลิดชีพตนเอง ตามรายงานของรอยเตอร์

ผู้บัญชาการตำรวจในแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ชอน บาร์นส ได้บอกกล่าวกับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอังคารว่า ทีมสืบสวนอยู่ระหว่างที่ตรวจสอบโพสต์ออนไลน์พร้อมทั้งหลักฐานที่ผู้ก่อเหตุทิ้งไว้ก่อนจบชีวิต รวมทั้งค้นหาหลักฐานการติดต่อสื่อสารระหว่างเธอพร้อมทั้งคนอื่น ๆ ในโทรศัพท์มือถือพร้อมทั้งคอมพิวเตอร์ เพื่อค้นหามูลเหตุจูงใจ รวมทั้งหาคำตอบว่าวัยรุ่น 15 ปีรายนี้หาปืนมาไว้ในครอบครองได้อย่างไร พร้อมทั้งพ่อแม่ของเธอเข้าข่ายประมาทเลินเล่อในเรื่องนี้หรือไม่

เมื่อวันจันทร์ วัยรุ่นหญิงอายุ 15 ปีเปิดฉากยิงกราดในชั้นเรียน ที่โรงเรียน Abundant Life Christian School ในเมืองแมดิสัน รัฐวิสคอนซิน ทำให้มีผู้จบชีวิต 2 คน พร้อมทั้งบาดเจ็บอีกหลายคน ขณะที่ผู้ก่อเหตุปลิดชีพตัวเองก่อนตำรวจมาถึง

ทั้งนี้ เหตุยิงกราดในโรงเรียนกลายเป็นเหตุเกือบรายวันในอเมริกา ด้วยตัวเลขเหตุยิงกราด 322 ครั้งแล้วในปีนี้ ซึ่งถือว่าเกือบจะสูงสุดเท่าที่เก็บสถิติมา อ้างอิงจากตัวเลขฐานข้อมูลเหตุยิงกราดโรงเรียนระดับประถมจนถึงมัธยมปลาย ที่รวบรวมมาตั้งแต่ปี 1966 ซึ่งมีทั้งหมด 2,610 เหตุการณ์ ขณะที่เมื่อปีที่แล้วมีเหตุยิงกราดมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน ที่ 349 ครั้ง

ถ้าหากว่า ผู้หญิงพร้อมทั้งเด็กหญิงมีแนวโน้มที่จะก่อเหตุยิงกราดน้อยกว่าผู้ชาย มีเหตุยิงกราดที่มีผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิงเพียง 107 คน ขณะที่มีเพียง 3% ของเหตุยิงกราดในอเมริกาที่มีผู้ก่อเหตุเป็นผู้หญิง

โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในรั้วโรงเรียนอเมริกันที่ดำเนินมาจนจะกลายเป็นเรื่องปกตินี้ ได้ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกัน มีแนวคิดสนับสนุนการตรวจสอบประวัติภูมิหลังของผู้ซื้อปืน การจำกัดการเข้าถึงอาวุธร้ายแรงนี้กับบุคคลที่เผชิญกับวิกฤตในชีวิต พร้อมทั้งมีมาตรการความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นในการจัดเก็บปืนในบ้านที่มีเด็ก แต่ไม่มีผู้นำทางการเมืองคนใดที่ออกมาเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ โดยอ้างเหตุผลเรื่องรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ที่ปกป้องผู้ครอบครองปืน

ที่มา: รอยเตอร์

ยักษ์ใหญ่ยานยนต์ญี่ปุ่น ‘นิสสัน-ฮอนด้า’ เจรจาควบรวมกิจการ

ฮอนด้า มอเตอร์ พร้อมทั้งนิสสัน มอเตอร์ จะเริ่มต้นการเจรจาเพื่อควบรวมกิจการ ระหว่างที่ 2 ยักษ์ใหญ่ด้านยานยนต์ญี่ปุ่น กำลังเผชิญกับการแข่งขันขับเคี่ยวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

รอยเตอร์อ้างอิงรายงานจากสื่อนิคเคอิ เมื่อวันอังคาร พบว่า ทั้ง 2 บริษัทยกระดับความสัมพันธ์ในช่วงหลายเดือนมานี้ ในช่วงที่ทั้ง 2 ค่ายรถยนต์เจอคู่แข่งรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าจากจีนเข้ามาตีตลาด

ทั้งสองกำลังพิจารณาที่จะให้บริษัทใหม่ที่ควบรวมกันนั้นดำเนินงานในรูปแบบบริษัทโฮลดิ้ง หรือ บริษัทที่ถือหุ้นในกิจการอื่นเป็นหลัก พร้อมทั้งจะลงนามบันทึกความเข้าใจเร็ว ๆ นี้ ส่วนการถือหุ้นของทั้งสองบริษัทในบริษัทใหม่ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ จะมีการตัดสินใจในภายหลัง

นอกจากนั้น ยังตั้งเป้าที่จะนำมิตซูบิชิ มอเตอร์ส (Mitsubishi Motors) ซึ่งนิสสันเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 24% เข้ามาอยู่ภายใต้บริษัทโฮลดิ้งนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้บริษัทใหม่นี้กลายเป็นกลุ่มธุรกิจรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก โดยยอดขายรวมของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นทั้งสามค่ายนี้สูงถึง 8 ล้านคัน

ฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสัน ออกแถลงการณ์ที่เหมือนกันว่ารายงานของนิคเคอิยังไม่ได้มีการประกาศออกมาจากทางบริษัทอย่างเป็นทางการ โดยพบว่า “จากที่ประกาศในเดือนมีนาคมปีนี้ ฮอนด้าพร้อมทั้งนิสสันอยู่ระหว่างที่สำรวจความเป็นไปได้ของความร่วมมือในอนาคต โดยใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของกันพร้อมทั้งกัน” ขณะที่รอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันข่าวนี้ได้

หลังข่าวนี้มีออกมา หุ้นฮอนด้าที่จดทะเบียนในตลาดซื้อขายหุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 1.3% ในการซื้อขายช่วงบ่ายวันอังคาร

นิสสันพร้อมทั้งฮอนด้า ผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 2 พร้อมทั้ง 3 ของญี่ปุ่น ตามหลังโตโยต้า สูญเสียส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้กับจีน ที่ครองตลาดรถอีวีเกือบ 70% ของตลาดทั่วโลก ด้วยยอดขาย 1.27 ล้านคันในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ขณะที่ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกของ 2 ค่ายญี่ปุ่นรวมกันที่ 7.4 ล้านคันในปี 2023

เมื่อมองถึงคู่แข่งอื่น ๆ ในตลาดโลก อย่าง เจเนรัล มอเตอร์ส พร้อมทั้งฟอร์ด มอเตอร์ ได้ลดการลงทุนรถอีวี เนื่องจากต้นทุนกู้ยืมที่สูงพร้อมทั้งระบบการชาร์ตรถไฟฟ้าที่กระทบต่อยอดขาย แม้จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐก็ตาม ส่วนโฟล์คสวาเกน เจอปัญหาภายในกับสหภาพรถยนต์ ความต้องการรถไฟฟ้าที่ลดลง พร้อมทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดยานยนต์โลกยังเตรียมรับมือกับนโยบายสนับสนุนรถไฟฟ้าที่ลดลงไป หลังการเข้ามาของว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

ที่มา: รอยเตอร์

ผู้ผลิต ‘ชุดนอนไม่ได้นอน’ จีน หวั่นสงครามการค้าสหรัฐฯ

บรรดาผู้ประกอบการที่นิคมอุตสาหกรรม วีเมต (WeMet) ในเขตกวนหยุน ทางภาคตะวันออกของจีน กำลังกังวลต่ออนาคตของโรงงานของพวกตน สืบเนื่องจากความขัดแย้งทางการค้าของจีนกับสหรัฐฯ

ศูนย์อุตสาหกรรม WeMet ได้ชื่อว่า “เมืองวิคตอเรียส์ ซีเคร็ต” ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหนานจิง มณฑลเจียงซู่ ราว 290 กม. พร้อมทั้งเป็นศูนย์กลางการผลิตชุดชั้นในสตรีแบบเซ็กซี่ ที่ส่งออกไปยังอเมริกาพร้อมทั้งยุโรป

อุตสาหกรรมผลิตชุดชั้นในที่เขตกวนหยุนรุ่งเรืองขึ้นส่วนหนึ่งเป็นเพราะนโยบายยกเว้นภาษีของรัฐบาลสหรัฐฯ พร้อมทั้งการลดขั้นตอนการขอเอกสารการนำเข้าที่ใช้กับสินค้าราคาต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ต่อชิ้น ภายใต้กฎเกณฑ์ที่เรียกว่า เดอ มินิมิส (de minimis)

รวมทั้งการเติบโตของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ชของจีนที่เน้นขายสินค้าราคาถูก เช่น ชีน (Shein) พร้อมทั้ง ทีมู (Temu) ซึ่งนำไปสู่การเติบโตของตลาดมืด เช่น การลักลอบขายยาเฟนทานิลจากจีนด้วย

ความพยายามของรัฐบาลโจ ไบเดน ที่ต้องการอุดช่องโหว่นี้ รวมทั้งนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของว่าที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังคุกคามภาคการลงทุนพร้อมทั้งชีวิตของผู้คนนับล้านคนที่กวนหยุนซึ่งส่วนใหญ่ทำงานโรงงาน

หลี่ เจ้าของโรงงานชุดชั้นในสตรี Midnight Charm Garment ซึ่งขายสินค้าผ่าน Shein พร้อมทั้งพึ่งพารายได้ราว 70% จากตลาดสหรัฐฯ บอกว่า อัตราภาษีที่แพงขึ้นจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจของตน พร้อมทั้งอาจทำให้ชาวอเมริกันต้องซื้อสินค้าในราคาที่แพงขึ้น นอกจากนี้เขายังมีแผนเปลี่ยนมาใช้การขนส่งทางเรือพร้อมทั้งเครื่องบินเพื่อลดต้นทุน หรือลงทุนเช่าโกดังเก็บสินค้าขนาดใหญ่ในสหรัฐฯ ตลอดจนหาตลาดใหม่ ๆ ในอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง พร้อมทั้งเอเชียกลาง

สถาบันการเงิน โนมูระ (Nomura) ประเมินว่า สินค้าจีนได้ประโยชน์จากนโยบายยกเว้นภาษีพร้อมทั้งกฎเดอ มินิมิส ราว 240,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ คิดเป็น 7% ของปริมาณการส่งออกทั้งหมดของจีน พร้อมทั้งคาดว่าการยกเลิกกฎดังกล่าว รวมทั้งอัตราภาษีใหม่ อาจลดรายได้จากการส่งออกของจีนลง 1.3%

โดยผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ คนทำงานในโรงงานขนาดเล็กที่ผลิตสินค้าราคาถูกพร้อมทั้งใช้แรงงานสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสิ่งทอของจีน

ที่มา: รอยเตอร์

กลาโหมอิสราเอลยืนยันเข้าควบคุมกาซ่าหลังสงคราม

อิสราเอล แคตซ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล ยืนยันในวันอังคารว่า อิสราเอลจะเข้าควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยในฉนวนกาซ่าหลังสงครามกับกลุ่มฮามาสสิ้นสุดลง 

แคตซ์ โพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ X ว่า “หลังจากกำจัดรัฐบาลฮามาสพร้อมทั้งเครือข่ายหน่วยงานต่าง ๆ ในกาซ่าได้หมดสิ้นแล้ว อิสราเอลจะเข้าควบคุมด้านความมั่นคงปลอดภัยในกาซ่าโดยมีอิสระในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ อย่างเต็มที่” 

เขายังได้เปรียบเทียบวิสัยทัศน์ที่มีต่อกาซ่าหลังสงครามกับเขตเวสต์แบงค์ที่อิสราเอลครอบครองอยู่ โดยกองทัพอิสราเอลใช้วิธีลาดตระเวนพร้อมทั้งบุกจู่โจมพื้นที่ต่าง ๆ เป็นระยะ ๆ เพื่อขัดขวางกิจกรรมก่อการร้ายที่นั่น 

ที่ผ่านมา อิสราเอลพบว่าเป้าหมายหลักของสงครามครั้งนี้ คือการกำจัดกลุ่มฮามาสพร้อมทั้งรับประกันว่ากลุ่มติดอาวุธต่าง ๆ จะไม่สามารถจู่โจมอิสราเอลได้เหมือนกับที่ฮามาสทำเมื่อเดือนตุลาคม 2023 ที่ทำให้มีผู้จบชีวิตในอิสราเอล 1,200 คน

ถ้าหากว่า การที่อิสราเอลเข้าควบคุมกาซ่าจะขัดกับสิ่งที่สหรัฐฯ สหประชาชาติ พร้อมทั้งอีกหลายประเทศต้องการ นั่นคือการให้อิสระในการปกครองตนเองแก่ชาวปาเลสไตน์ในกาซ่า 

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อเดือนตลุาคมว่า สงครามในกาซ่านั้นจะต้องสิ้นสุดลง “ในแนวทางที่กลุ่มฮามาสจะไม่สามารถกลับมาได้อีก พร้อมทั้งอิสราเอลจะไม่อยู่ที่นั่นเช่นกัน” 

พร้อมทั้งเมื่อเดือนกันยายน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเทอร์เรซ บอกว่า วิสัยทัศน์ของยูเอ็นคือ รัฐบาลของชาวปาเลสไตน์ที่ปกครองบางส่วนของเขตเวสต์แบงค์ในขณะนี้ จะเข้าปกครองกาซ่าด้วย 

ในวันอังคาร เจ้าหน้าที่กาซ่ารายงานว่า การจู่โจมทางอากาศของอิสราเอลได้สังหารประชาชนอย่างน้อย 10 คนในกาซ่าซิตี้ ขณะที่อิสราเอลพบว่า มีทหารของตนจบชีวิตสองคนระหว่างปฏิบัติการทางภาคใต้ของกาซ่า

กระทรวงสาธารณสุขกาซ่าเปิดเผยในวันจันทร์ว่า การจู่โจมของอิสราเอลในเขตปกครองปาเลสไตน์ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วนั้น ส่งผลให้มีผู้จบชีวิตรวมกันแล้วกว่า 45,000 คน พร้อมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสะสมจากเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้แล้วเกือบ 107,000 คน

พร้อมทั้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อิสราเอลพบว่า มีทิศทางด้านบวกในการเจรจาเพื่อจัดทำข้อตกลงหยุดยิงในกาซ่า พร้อมทั้งการปล่อยตัวประกันส่วนที่เหลือที่คาดว่ายังคงถูกกลุ่มฮามาสจับกุมตัวไว้ในกาซ่า 

ข้อมูลบางส่วนจากเอพีพร้อมทั้งรอยเตอร์

ด่วน! ยูเครนระเบิดสังหารผู้บัญชาการอาวุธเคมีรัสเซียที่มอสโก

ผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซียผู้ที่ยูเครนกล่าวหาว่าเป็นคนสั่งการใช้อาวุธเคมีต่อทหารยูเครน ถูกลอบสังหารในวันอังคารที่กรุงมอสโก โดยเชื่อว่าเป็นฝีมือของหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน

พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันกัมมันตรังสี ชีวภาพพร้อมทั้งเคมี ของกองทัพรัสเซีย ถูกลอบสังหารนอกอพาร์ตเมนต์ของเขาในกรุงมอสโก พร้อมกับผู้ช่วยอีกหนึ่งคน เชื่อว่าสาเหตุจากระเบิดที่ถูกซ่อนไว้กับรถสกูตเตอร์ไฟฟ้าคันหนึ่ง จากการเปิดเผยของคณะกรรมาธิการสืบสวนของทางการรัสเซีย

แหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองยูเครนยืนยันกับรอยเตอร์ว่า เอสบียูอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้จริง โดยพบว่า รถสกูตเตอร์ที่มีระเบิดซุกซ่อนอยู่นั้นได้ระเบิดสังหารคิริลลอฟพร้อมทั้งผู้ช่วยขณะที่พวกเขาเดินออกมาจากอาคารที่พักอาศัยในย่านไรอะซานสกี พรอสเพกต์ ในกรุงมอสโก

ภาพจากวิดีโอที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์แสดงให้เห็นชายสองคนเดินออกมาจากอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งพร้อมทั้งกำลังจะเดินไปขึ้นรถยนต์ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น ทางรอยเตอร์ยังไม่สามารถยืนยันความถูกต้องของวิดีโอดังกล่าว

ภาพถ่ายจากผู้สื่อข่าวรอยเตอร์แสดงให้เห็นความเสียหายต่ออาคารจากแรงระเบิด พร้อมทั้งมีร่างของชายสองคนบนพื้นด้านหน้าอาคารที่เต็มไปด้วยหิมะพร้อมกับมีพลาสติกสีดำคลุมไว้

พลโอคิริลลอฟ วัย 54 ปี ถือเป็นเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงสุดของรัสเซียที่ถูกยูเครนลอบสังหารในดินแดนรัสเซียเอง พร้อมทั้งเชื่อว่าการฆาตกรรมครั้งนี้จะนำไปสู่การทบทวนระเบียบด้านความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพรัสเซีย รวมถึงการตอบโต้เพื่อล้างแค้นจากทางการกรุงมอสโกด้วย

อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ ได้บอกกล่าวกับสื่ออาร์ไอเอของรัสเซียว่า ขณะนี้ผู้นำกองทัพพร้อมทั้งรัฐบาลยูเครนจะต้องเผชิญกับความพยายามล้างแค้นของรัสเซียต่อเหตุสังหารพลโทคิริลลอฟ

ทางการมอสโกปฏิเสธข้อกล่าวหาจากยูเครนว่ากองทัพรัสเซียใช้อาวุธเคมีในสนามรบ พร้อมทั้งก่อนหน้านี้ คิริลลอฟปรากฎตัวทางโทรทัศน์หลายครั้งในการกล่าวหายูเครนว่าละเมิดระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยทางนิวเคลียร์ รวมทั้งกล่าวหาชาติตะวันตกว่าก่ออาชญากรรมหลายกรณี

เมื่อเดือนตุลาคม รัฐบาลอังกฤษประกาศมาตรการลงโทษต่อคิริลลอฟพร้อมทั้งกองกำลังป้องกันนิวเคลียร์ของรัสเซีย สืบเนื่องจากรายงานการใช้สารพิษหลายครั้งในสนามรบ

ทั้งนี้ กองกำลังป้องกันกัมมันตรังสี ชีวภาพพร้อมทั้งเคมี ของกองทัพรัสเซีย ที่คิริลลอฟดูแลอยู่นั้น คือหน่วยรบพิเศษที่จัดการเรื่องสารปนเปื้อนด้านอาวุธเคมีพร้อมทั้งชีวภาพ รวมทั้งกัมมันตรังสีต่าง ๆ พร้อมทั้งยังมีหน้าที่ปกป้องทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ในสภาพแวดล้อมที่อันตรายด้วย

การสังหารคิริลลอฟเกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้ อัยการยูเครนได้ตั้งข้อหากับเขาว่าใช้อาวุธเคมีต้องห้าม นอกจากนี้เขายังถูกระบุชื่อเป็น “ศัตรูของชาติ” ในฐานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการของยูเครนที่เรียกว่า พีซเมกเกอร์ (Peacemaker) โดยรูปของคิริลลอฟในเว็บไซต์ดังกล่าวมีข้อความสีแดงว่า “ถูกกำจัดแล้ว” ประทับอยู่ด้วยในเช้าวันอังคาร

ที่ผ่านมา รัสเซียกล่าวหายูเครนว่า ใช้วิธีลอบสังหารแบบมุ่งเป้าที่เจ้าหน้าที่หรือบุคคลสำคัญของรัสเซียหลายครั้ง นับตั้งแต่สงครามระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022

ที่มา: รอยเตอร์

กู้ภัยช่วย 4 ชีวิต ลอยคอเกาะต้นปาล์ม หลังน้ำบ่าท่วมนครศรีธรรมราช

สถานการณ์น้ำท่วมนครศรีธรรมราช หลายพื้นที่น้ำยังท่วมสูง หลากเข้าพื้นที่รับน้ำต่อเนื่อง ขณะที่กู้ภัยช่วย 4 ชีวิต ลอยคอเกาะต้นปาล์ม หลังตั้งใจจะไปช่วยควาย

“ภูมิธรรม” ยก “ทักษิณ” เป็นคนมีความสามารถในการแก้ปัญหา ย้ำ ไม่มีเรื่องครอบงำ

“ภูมิธรรม” บอก ถ้าไม่ติดกฎหมาย รัฐบาลก็อยากตั้ง “ทักษิณ” ที่ปรึกษา ยกเป็นคนมีความสามารถในการแก้ไขปัญหา ชี้ประเทศไหนจะฟังก็เป็นสิทธิของเขา

เจ้าอาวาสวัดดังพะเยา แจงภาพเก่า-ตัดต่อ พระแต่งสวย เขียนคิ้วปากแดง ทำกับข้าวเป็น

เจ้าอาวาสวัดดังพะเยา ชี้แจงหลังโซเชียลวิจารณ์สนั่น ปมภาพสวยกันทั้งวัด จีบได้นะเขียนคิ้วได้ ทำกับข้าวเป็น ยันเป็นภาพเก่า อาจมีการตัดต่อหรือไม่อย่างไร อยากรู้ข้อเท็จจริงให้มาสอบถามที่วัด

“อนุทิน” ไม่หวั่น “ทักษิณ-พิธา” ช่วยหาเสียง โว ภท. ยังครองแชมป์การเมืองท้องถิ่น

“อนุทิน ชาญวีรกูล” โวแม้ ภูมิใจไทย ไม่ประกาศส่ง นายก อบจ. แต่เครือข่ายสีน้ำเงินยังครองแชมป์การเมืองท้องถิ่น เชื่อผู้สมัครพื้นที่แข็ง ลั่นไม่หวั่นไหว หลัง “ทักษิณ-ธนาธร-พิธา” จัดทัพใหญ่ช่วยผู้สมัครหาเสียง