ก.อุตฯ ตรวจพบสายไฟฟ้าที่วางขายในห้างโมเดิร์นเทรด ไม่ได้มาตรฐาน 3 พื้นที่
“โกทร” ไม่เข้าเกณฑ์พักโทษ แต่หากป่วยจริง อนุมัติไปรักษานอกเรือนจำ แบบ “ทักษิณ” ได้
กกต. ประกาศวันเลือกตั้ง อบจ. 1 ก.พ. 68 เปิดรับสมัคร 23-27 ธ.ค. นี้
เจ้าของเศร้า วอนคนใจบุญช่วยรับเลี้ยงลูกหมา 8 ตัว หลังแม่หมาถูกยิงตาย
รัสเซียส่งขีปนาวุธจู่โจมกรุงเคียฟ หลังยูเครนยิงขีปนาวุธของสหรัฐฯ ถล่มข้ามแดน
รายงานข่าวพบว่า เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 3 ครั้งก่อนรุ่งสางในกรุงเคียฟ ขณะที่ กองทัพอากาศยูเครนเปิดเผยว่า ได้ยิงสกัดขีปนาวุธแบบทิ้งตัวรุ่น Iskander จำนวน 5 ลูกที่รัสเซียส่งมาจู่โจมเมืองหลวงของประเทศได้
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกรุงเคียฟรายงานว่า การจู่โจมล่าสุดโดยรัสเซียทำให้ระบบทำความร้อนของอาคารที่พักอาศัย 630 แห่ง โรงพยาบาลพร้อมทั้งคลินิก 16 แห่ง รวมทั้งโรงเรียนพร้อมทั้งโรงเรียนอนุบาล 30 แห่ง หยุดทำงานไป ขณะที่ เศษซากของขีปนาวุธที่ถูกยิงตกลงมายังสร้างความเสียหายพร้อมทั้งทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ในพื้นที่ 3 เขตของเมืองหลวงด้วย
ในช่วงเกือบ 3 ปีของสงครามระหว่างทั้งสอง รัสเซียทิ้งระเบิดถล่มพื้นที่พลเรือนของยูเครนเป็นประจำ ด้วยจุดประสงค์หลัก ๆเพื่อสร้างความเสียหายให้กับโครงข่ายจ่ายพลังงานพร้อมทั้งสร้างความกลัวให้ชาวยูเครน
ในเวลาเดียวกัน ยูเครนได้พยายามสกัดกั้นกองทัพรัสเซียไม่ให้รุกคืบฝ่ายแนวหน้าของการรบมาได้ พร้อมทั้งยิงจู่โจมโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับการทำสงครามของมอสโกมาโดยตลอด
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่า การจู่โจมของตนนั้นเป็นการโต้ตอบการยิงขีปนาวุธของยูเครนเข้าใส่แคว้นรอสตอฟที่ตั้งอยู่ตรงชายแดนระหว่างสองประเทศเมื่อ 2 วันก่อน
รัสเซียพบว่า การจู่โจมดังกล่าวของยูเครนใช้ขีปนาวุธ ATACMS (Army Tactical Missile System) ที่สหรัฐฯ ผลิตจำนวน 6 ลูกพร้อมทั้งขีปนาวุธที่ยิงจากอากาศสู่พื้นดิน Storm Shadow ซึ่งอังกฤษส่งมอบให้อีก 4 ลูก
ในเหตุการณ์วันนั้น ยูเครนอ้างว่า ได้ยิงจู่โจมเป้าหมายที่เป็นโรงกลั่นน้ำมันรอสตอฟ ภายใต้แผนงานถล่มโครงสร้างพื้นฐานที่รัสเซียใช้สนับสนุนปฏิบัติการทำสงครามครั้งนี้
ยูเครนเริ่มใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลที่อเมริกาผลิตยิงเข้าไปในอาณาเขตของรัสเซียครั้งแรกเมื่อ 19 พฤศจิกายน หลังกรุงวอชิงตันปลดล็อกข้อจำกัดการอาวุธที่มอบให้ แต่การที่ยูเครนนำอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งมาให้จู่โจมรัสเซียทำให้ทำเนียบเครมลินเดือดดาลอย่างมาก
สถานการณ์ที่เปลี่ยนไปนี้ทำให้รัสเซียเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง “โอเรชนิก” รุ่นใหม่ของตนเพื่อใช้ในสงครามนี้เป็นครั้งแรก พร้อมทั้งประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ก็ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่า อาวุธใหม่นี้มีความสามารถที่จะบินไปยังเป้าหมายที่ไกลพร้อมทั้งเจาะจงอย่างอาคารต่าง ๆ ในกรุงเคียฟได้ แม้ว่า จะยังไม่มีรายงานเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธนี้รอบที่ 2 ออกมาก็ตาม
ในส่วนของการโต้ตอบการจู่โจมด้วยขีปนาวุธจากสหรัฐฯ ของยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียพบว่า ได้ส่งขีปนาวุธจำนวนหนึ่งที่ “มีพิสัยไกลพร้อมทั้งมีความแม่นยำสูง” เข้าถล่มศูนย์บัญชาการหน่วยงานข่าวกรองกองทัพยูเครนพร้อมทั้งเป้าหมายอีกแห่งที่อ้างว่าเป็นพื้นที่ออกแบบพร้อมทั้งผลิตระบบขีปนาวุธ Neptune ของยูเครน รวมทั้ง เป้าหมายที่เป็นระบบขีปนาวุธแบบร่อนที่ยิงจากพื้นดินพร้อมทั้งระบบป้องกันการจู่โจมแพทริออตที่สหรัฐฯ มอบให้กรุงเคียฟด้วย
อย่างไรก็ดี เอพีไม่สามารถยืนยันว่า สิ่งที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวอ้าง เป็นความจริงหรือไม่
ที่มา: เอพี
มาเลเซียเดินหน้าหาซาก MH370 หลังหายปริศนาเกิน 10 ปี
แอนโธนี โลค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาเลเซีย ระบุในการแถลงข่าวว่า การค้นหาถือเป็นหน้าที่พร้อมทั้งความรับผิดชอบที่มีต่อลูกหลานของผู้สูญหาย พร้อมทั้งหวังว่าครั้งนี้จะค้นพบซากเครื่องบิน พร้อมทั้งคลี่คลายปมในใจของครอบครัวผู้สูญเสีย
เจียง ฮุ่ย สูญเสียแม่ไปในเที่ยวบินดังกล่าว บอกว่า ยินดีที่มีการกลับมาค้นหาอีกครั้ง แต่มองว่ากระบวนการกินเวลายาวนานเกินไป พร้อมทั้งจะดีกว่านี้ หากรัฐบาลจะเปิดให้มีคนเข้าร่วมการค้นหามากขึ้นด้วยการให้รางวัลกับผู้พบซากเครื่องบิน
เที่ยวบิน MH370 บรรทุกผู้โดยสาร 227 คน พร้อมทั้งลูกเรือ 12 คนบนเครื่องบินโบอิ้ง 777 หายไปจากจอเรดาร์ 40 นาทีหลังขึ้นบินจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ไปยังกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2014
นักบินส่งสัญญาณเป็นครั้งสุดท้ายขณะเครื่องบินเข้าสู่น่านฟ้าของเวียดนาม ในพื้นที่อ่าวไทย ก่อนที่อุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณจะปิดตัวลง
เรดาร์ของทหารพบว่า MH370 ออกจากเส้นทางการบิน พร้อมทั้งพยายามกลับมาทางตอนเหนือของมาเลเซีย จากนั้นบินออกไปทางทะเลอันดามัน หันหัวลงใต้ จากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อใด ๆ ได้อีก
ชิ้นส่วนเครื่องบินหลายชิ้น ทั้งที่ได้รับการยืนยันพร้อมทั้งเป็นที่เชื่อว่ามาจาก MH370 ถูกพบตามแนวชายฝั่งทวีปแอฟริกาพร้อมทั้งหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดีย
รมต.โลค บอกว่า บริษัท Ocean Infinity ผู้ทำปฏิบัติการค้นหาเครื่องลำดังกล่าวมาก่อนหน้านี้ ที่จบลงในปี 2018 เป็นผู้ส่งข้อเสนอรื้อฟื้นการค้นหาอีกครั้ง โดยลงพิกัดไปที่ตอนใต้ของมหาสมุทรอินเดีย แต่ยังไม่มีการลงตำแหน่งปฏิบัติการอย่างชัดเจนมากไปกว่านี้
ปฏิบัติการครั้งใหม่จะใช้เวลา 18 เดือน ใต้ท้องทะเลกว้าง 15,000 กม. โดยจะได้รับค่าตอบแทน 70 ล้านดอลลาร์ หากพบซากเครื่องบิน
โลคบอกว่า ทางการมาเลเซียวิเคราะห์ข้อมูลชุดใหม่ที่ได้รับจากผู้เชี่ยวชาญพร้อมทั้งบริษัท Ocean Infinity พร้อมทั้งมั่นใจว่ามีโอกาสที่จะค้นพบ MH370
ที่มา: รอยเตอร์
ผู้เชี่ยวชาญชี้ กองทัพเมียนมากำลังใช้การจับกุมชาวประมงไทยต่อรองกับรัฐบาลไทย
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ศาลเมียนมาในเกาะสอง (Kawthong) มีคำพิพากษาลงโทษเจ้าของเรือประมงที่เจ้าหน้าที่ยึดมาให้จำคุกเป็นเวลา 6 ปีพร้อมทั้งสั่งจำคุกชาวประมงอีก 3 คนเป็นเวลา 4 ปี ขณะที่ กระทรวงการต่างประเทศไทยพยายามผลักดันให้มีการปล่อยตัวทุกคนพร้อมทั้งรัฐบาลเมียนมากำลังให้ความสนใจกับการประชุมระดับสูงในกรุงเทพฯ
ศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ แห่งคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้บอกกล่าวกับวีโอเอ ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นชัดเจนแล้วว่า เมียนมาใช้กรณีชาวประมงไทยเพื่อต่อรองผลประโยชน์ของตน พร้อมทั้งพบว่า การควบคุมตัวชาวประมงทั้ง 4 คนนั้นมีจุดประสงค์ที่จะบีบให้ไทยยอมยกระดับความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับตนพร้อมทั้งให้มีการยอมรับสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC – State Administration Council)
อาจารย์ฐิตินันท์ให้ความเห็นว่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดสถานการณ์เช่นนี้ทำมีแต่จะทำให้ประเทศไทยดูอ่อนแอในสายตานานาชาติ
แซคคารี อาบูซา ศาสตราจารย์จาก National War College ในกรุงวอชิงตัน เห็นด้วยในเรื่องนี้ แต่ก็ชี้ว่า เมียนมาอาจกลายมาเป็นผู้เสียผลประโยชน์ได้ หากควบคุมตัวชาวประมงไทยไว้นานเกินไป เพราะแม้ “รัฐบาลไทยจะพยายามสนับสนุนรัฐบาลทหารมากเท่าที่จะทำได้ อาจเกิดแรงต้านสะท้อนกลับจากประชาชนได้”
วีโอเอพยายามติดต่อขอความเห็นจากสภาบริหารแห่งรัฐเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับก่อนจัดพิมพ์รายงานข่าว
ข้อพิพาทด้านการประมงเป็นประเด็นขัดแย้งระหว่างไทยพร้อมทั้งเมียนมามานาน แต่ โดมินิก ธอมสัน ผู้อำนวยการภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของ Environmental Justice Foundation บอกว่า นี่เป็นครั้งแรกอย่างน้อยในรอบ 9 ปี พร้อมให้ความเห็นว่า ลักษณะของปัญหาพร้อมทั้งกรณีการกักเรือประมงพร้อมทั้งควบคุมตัวลูกเรือนั้น “ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างเพื่อนบ้านสองประเทศนี้เกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมว่าด้วยเรื่องของความมั่นคงตามแนวชายแดน อาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมทั้งบทบาทของอาเซียนในวิกฤตเมียนมาที่เปิดฉากขึ้นในวันพฤหัสบดี
ศ.ดร.ฐิตินันท์บอกว่า การที่ไทยจะทำงานร่วมกับเมียมาในระดับที่สูงขึ้นนั้น “เป็นปัญหาพอควร” จึงไม่น่าแปลกใจที่กองทัพเมียนมาดึงเรื่องชาวประมงไทยเอาไว้ พร้อมทั้งบอกว่า คำถามที่สำคัญคือ ทำไมรัฐบาลไทยจึงยอมเล่นตามเกมของเมียนมา
รายงานข่าวพบว่า เจ้าหน้าที่ไทยพยายามทำให้ประเด็นนี้ไม่เป็นข่าวใหญ่มาตลอด พร้อมทั้งนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ออกมาบอกว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศยังแข็งแกร่ง พร้อมพบว่า เมียนมาจะปล่อยตัวชาวประมงทั้งหมดในวันที่ 4 มกราคม หรือ 5 สัปดาห์หลังจากที่ทั้งหมดถูกจับกุมตัวไป
ที่มา: วีโอเอ
รีพับลิกันชงร่างฯ งบประมาณใหม่รอบสาม ก่อนเส้นตาย ‘ชัทดาวน์’
ราล์ฟ นอร์แมน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) รีพับลิกัน ได้บอกกล่าวกับสื่อมวลชนว่าแกนนำพรรคมีแผนที่จะลงมติรับร่างฯ กันเป็นครั้งที่สาม แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม ตามการรายงานของรอยเตอร์
สมาชิกสภารายอื่นพบว่าจะไม่พยายามโน้มน้าวเอาชนะฝ่ายเดโมแครต ที่มีที่นั่งในสภาล่างที่ 211 คน จากทั้งหมด 430 ที่นั่ง แม้เป็นที่คาดกันว่ารีพับลิกันที่มี 219 เสียง จะต้องการการสนับสนุนจากอีกฝั่งเพื่อดันกฎหมายให้ผ่านก็ตาม
หากรัฐสภาไม่สามารถอนุมัติงบได้ทันเที่ยงคืนวันศุกร์นี้ จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางไม่มีงบประมาณบริหารจัดการพร้อมทั้งต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า ชัทดาวน์
การชัทดาวน์จะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางหลายล้านคนไม่ได้รับค่าตอบแทน พร้อมทั้งต้องปิด หรือลดกำลังคนในการทำหน้าที่ หนึ่งในรูปธรรมที่ประชาชนอาจสัมผัสได้ คือการรอคิวที่นานขึ้นในท่าอากาศยาน หรืออุทยานแห่งชาติที่ต้องปิดชั่วคราว
รอยเตอร์รายงาน อ้างอิงตามแหล่งข่าวว่า ฝ่ายรีพับลิกันอาจจะรื้อประเด็นที่เคยต้องพิจารณาร่วมกันออกมาหารือแบบปลีกย่อย ซึ่งปลายทางอาจจะเห็นการลงมติในสภาเพื่อผ่านงบประมาณชั่วคราวแบบสามเดือนไปทีละก้อน
ณ จุดนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ส.ส. จะโหวตรับรองคำขอเพิ่มเพดานการกู้ยืมไปจนถึงปี 2027 จากว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์หรือไม่ ซึ่งจุดนี้เป็นสิ่งที่เขาอยากให้คองเกรสทำก่อนขึ้นดำรงตำแหน่งในเดือนหน้า
เควิน โคซาร์ นักวิชาการจากสถาบัน American Enterprise Institute ระบุกับวีโอเอว่า ทรัมป์ผู้ยังไม่ขึ้นสู่ตำแหน่ง เข้ามาเขย่าการพิจารณาของสภาในจังหวะพร้อมทั้งเวลาที่ได้เปรียบ
โคซาร์บอกว่า “ถ้าคองเกรสจัดการตอนนี้ เขา (ทรัมป์) ก็ไม่ต้องต่อรองเรื่องนี้ภายหลัง หรือรับแรงกระแทกจากประชาชนจากการขึ้นเพดานหนี้ อีกด้านหนึ่ง ข้อเรียกร้องนี้มาในช่วงท้าย ๆ ที่คองเกรสพยายามปิดดีลก่อนวันหยุดคริสต์มาส พร้อมทั้งการเพิ่มเพดานหนี้ก็ถือเป็นการลงมติที่ยากมาก”
ก่อนที่จะมีการโหวตรอบที่สามนี้ สภาคองเกรสเคยมีร่างฉบับที่ผ่านการเจรจาตกลงกับพรรคเดโมแครตที่ครองทำเนียบขาวพร้อมทั้งวุฒิสภามาแล้ว แต่ต้องพับแผนกันไปในวันพุธ หลังว่าที่ประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมทั้งอิลอน มัสก์ อภิมหาเศรษฐีที่ผันตัวมาเป็นที่ปรึกษา วิจารณ์ร่างฯ ดังกล่าวบนโลกออนไลน์
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดร่างฯ ฉบับที่สอง ที่ขยายเพดานการกู้ยืมของประเทศตามคำเรียกร้องของทรัมป์ แต่สภาผู้แทนราษฎรมีมติไม่รับรองเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยมีสมาชิกพรรครีพับลิกัน 38 คน ลงมติไม่เห็นด้วย
ฝ่ายเดโมแครตวิจารณ์ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า ยอมจำนนกับแรงกดดันจากมัสก์ที่เป็นเศรษฐีที่ไม่ได้รับเลือกตั้ง ส่วนรีพับลิกันค้านว่าจะไม่รับรองร่างฯ ที่จะเพิ่มรายจ่ายภาครัฐ ที่จะเพิ่มหนี้ประเทศอีกหลายล้านล้านดอลลาร์เช่นกัน
ในค่ำคืนวันพฤหัสบดี ทรัมป์โพสต์บนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ของตัวเองว่า คองเกรสต้องยกเลิก หรือขยาย “เพดานหนี้ที่เหลวไหล” ไปถึงปี 2029 ไม่เช่นนั้นก็ไม่ควรมีข้อตกลงใด ๆ
การหารือเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐฯ เป็นหัวข้อที่ส่งผลสะเทือนถึงตลาดการเงิน เพราะหากสหรัฐฯ ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ก็จะส่งแรงกระเพื่อมด้านความน่าเชื่อถือไปทั่วโลก โดยเพดานหนี้ที่มีในปัจจุบันได้รับการระงับเอาไว้จนถึงวันที่ 1 มกราคมที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติก็ไม่น่าจะหยิบยกเรื่องนี้มาหารือกันก่อนฤดูใบไม้ผลิจะมาถึง
ที่มา: รอยเตอร์, วีโอเอ
สหรัฐฯ ย้ำความสำคัญการลดบริโภคสัตว์เนื้อแดง น้ำตาล โซเดียมพร้อมทั้งไขมันอิ่มตัว
ความเห็นทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางเกี่ยวกับโภชนาการประจำปี 2025 ซึ่งรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะนำไปใช้อ้างอิงในการจัดทำนโยบายด้านอาหารต่อไป
ถ้าหากว่า คำแนะนำล่าสุดนี้ไม่ได้พูดถึงกรณีของอาหารที่การแปรรูปสูง (ultraprocessed food) ที่มีผู้มองว่า เป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพหลายอย่าง โดยผู้เชี่ยวชาญให้เหตุผลว่า ยังไม่มีหลักฐานมากพอที่จะออกคำแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงอาหารกลุ่มดังกล่าว นอกจากนั้น ยังไม่การอัพเดทคำแนะนำเกี่ยวกับการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย
ด้วยเหตุนี้ มาเรียน เนสเซิล ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายอาหาร จึงสรุปว่า คำแนะนำทั้งหมดในเอกสาร Dietary Guidelines for Americans ประจำปี 2025-2530 จึงอาจดูคุ้น ๆ ตา เหมือนสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่ช่วงยุคทศวรรษที่ 80 ซึ่งก็คือ ทานผักให้มาก ลดการบริโภคอาหารที่มีเกลือ น้ำตาลพร้อมทั้งไขมันอิ่มตัวเป็นส่วนประกอบในระดับสูง
อะไรคือคำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ
คณะกรรมการด้านโภชนาการสหรัฐฯ สรุปว่า โภชนาการที่ดีต่อสุขภาพสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไปคือ เน้นการรับประทานผัก ผลไม้ พืชฝักตระกูลถั่ว ถั่วเมล็ด ธัญพืชไม่ขัดสี ปลาพร้อมทั้งน้ำมันพืชที่มีไขมันไม่อิ่มตัวอยู่สูง
ในเวลาเดียวกัน ให้ลดการบริโภคเนื้อสัตว์แปรรูปพร้อมทั้งสัตว์เนื้อแดง อาหารพร้อมทั้งเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลอยู่สูง ธัญพืชขัดสีพร้อมทั้งไขมันอิ่มตัว รวมทั้งให้เลือกรับประทานผลิตภัณฑ์นมที่มีไขมันต่ำหรือปราศจากไขมัน อาหารที่มีโซเดียมต่ำ พร้อมทั้งอาหารกลุ่มโปรตีนทางเลือกที่ทำจากพืช
อาหารที่การแปรรูปสูง-เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
อาหารแปรรูปสูง (ultraprocessed foods) รวมความถึง ขนมทานเล่น ซีเรียล/ธัญญาหารที่มีน้ำตาลอยู่สูง พร้อมทั้งอาหารแช่แข็งที่มีการบริโภคถึงราว 60% บนโต๊ะอาหารชาวอเมริกัน
คณะกรรมการโภชนาการพิจารณาผลการศึกษากว่า 40 ชิ้นซึ่งรวมทั้งงานที่แสดงให้เห็นถึงความเกี่ยวพันระหว่างอาหารแปรรูปสูงพร้อมทั้งภาวะน้ำหนักตัวเกิน หรือแม้กระทั่งโรคอ้วน แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการกลับกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของงานวิจัยทั้งหลายจนสรุปความว่า หลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ในมือนั้นไม่เพียงพอที่จะให้ออกคำแนะนำใด ๆ ในเรื่องนี้
เรื่องนี้อาจจะกลายมาเป็นประเด็นที่ขัดแย้งกับ โรเบิร์ต เอฟ เคนเนดี จูเนียร์ ผู้ที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขพร้อมทั้งบริการประชาชนสหรัฐฯ ซึ่งตั้งคำถามเกี่ยวกับเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนในหมู่สมาชิกของคณะกรรมการให้คำแนะนำด้านโภชนาการ พร้อมทั้งประกาศกร้าวที่จะปราบปรามอาหารแปรรูปสูงทั้งหลายที่เป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บเรื้อรังในชาวอเมริกัน
นอกจากนั้น คณะกรรมการฯ ไม่ได้ปรับเปลี่ยนคำแนะนำว่าด้วยการจำกัดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกฮอล์ไม่เกิน 2 แก้วต่อวันสำหรับผู้ชายพร้อมทั้งไม่เกิน 1 แก้วต่อวันสำหรับผู้หญิง
ทั้งนี้ ในการอัพเดทชุดคำแนะนำนี้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2020 รัฐบาลสหรัฐฯ ปฏิเสธคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ให้ปรับลดปริมาณการบริโภคแอลกอฮอล์ลง
เอพีบอกว่า กลุ่ม National Academies of Science, Engineering and Medicine พร้อมทั้งคณะกรรมการของหน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ที่รับผิดชอบเรื่องการใช้สารเสพติดน่าจะออกรายงานของตนเกี่ยวกับผลกระทบของการดื่มแอลกอฮอล์ที่ล้อไปกับชุดคำแนะนำจากคณะกรรมการโภชนาการในไม่กี่เดือนข้างหน้า
ชาวอเมริกันเชื่อแนวทางคำแนะนำด้านโภชนาการเพียงใด
ในเวลาเดียวกัน คณะกรรมการให้คำแนะนำเกี่ยวกับโภชนาการของรัฐบาลสหรัฐฯ ยอมรับว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่มีนิสัยการบริโภคที่ไม่ได้ตรงตามคำแนะนำที่ให้ไว้เลย โดยกว่าครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่มีอาการป่วยเรื้อรังที่เกี่ยวกับอาหารที่บริโภค พร้อมทั้งราว 18 ล้านครัวเรือนในสหรัฐฯ มีแหล่งที่มของอาหารที่ไม่ปลอดภัยนัก ตามข้อมูลจากรายงานฉบับล่าสุดที่คาดว่าจะมีการเผยแพร่อย่างเป็นทางการออกมาในเร็ว ๆ นี้
รายงานฉบับนี้ยังระบุด้วยว่า “ปัญหาสุขภาพเรื้อรังที่สืบเนื่องมาจากโภชนาการ พร้อมทั้งอาการที่มีมาอยู่ก่อนยังคงเป็นภัยคุกคาต่อสุขภาพคนเราตลอดช่วงอายุขัย … ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเลยต่ออนาคตของสุขภาพของสหรัฐฯ”
ลำดับต่อไป
รายงานทางวิทยาศาตร์นี้แจกแจงแนวทางคำแนะนำด้านโภชนาการที่มีการอัพเดทปรับปรุงทุก ๆ 5 ปี โดยจะมีการส่งข้อมูลทั้งหมดไปยังกระทรวงสาธารณะสุขพร้อมทั้งบริการประชาชนสหรัฐฯ พร้อมทั้งกระทรวงเกษตรสหรัฐฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ร่างแนวทางคำแนะนำชุดสรุปสำหรับการเผยแพร่ต่อไปในปีหน้า
ตามระบบแล้ว รายงานที่ทำเสร็จสิ้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านจะเปิดโอกาสให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นเป็นเวลา 60 วัน นับตั้งแต่เมื่อวันพุธ ขณะที่ เจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขฯ พร้อมทั้งกระทรวงเกษตรจะเปิดเวทีประชุมสาธารณะเพื่อหารือประเด็นคำแนะนำต่าง ๆ ในวันที่ 16 มกราคม
ที่มา: เอพี