5 เทคนิค “การคาดการณ์อุบัติเหตุ” ขับรถปลอดภัยช่วงเทศกาลหยุดยาว

การคาดการณ์อุบัติเหตุ หรือ Hazard Perception ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของการขับรถอย่างปลอดภัย โดยเฉพาะใกล้เทศกาลปีใหม่

รัฐบาลเพิ่มวันเฝ้าระวัง “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” จาก 7 เป็น 10 วันอันตราย

“ประเสริฐ” เผย รัฐบาลรณรงค์ปีใหม่ 68 “ขับไม่ดื่ม ดื่มไม่ขับ” เพิ่มวันเฝ้าระวังจาก 7 เป็น 10 วันอันตราย เริ่ม 27 ธ.ค. 67 – 5 ม.ค. 68 กำชับตั้งด่านชุมชนเพิ่ม ดื่มอยู่บ้านลดอุบัติเหตุ

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วงแรง! หลังเฟดลดดอกเบี้ย 0.25%

ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) หรือ เฟด (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่สามในปีนี้ นอกจากนี้ เฟดยังส่งสัญญาณว่าจะชะลอการปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้า เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงไม่ลดลงมาในระดับที่ต้องการ

เฟดคาดการณ์ว่า จะมีการลดดอกเบี้ยสองครั้งในปี 2024 ครั้งละ 0.25% จากที่เคยระบุไว้เมื่อเดือนกันยายนว่าจะมีการลดดอกเบี้ยสี่ครั้งในปีหน้า ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ผู้บริโภคชาวอเมริกันอาจจะยังไม่เห็นดอกเบี้ยเงินกู้ในระดับต่ำตามที่ต้องการในปีที่กำลังจะมาถึง

โดยหลังการปรับลดครั้งล่าสุดในวันพุธ อัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ ลดลงไปอยู่ที่ระดับ 4.3%

เจ้าหน้าที่เฟดเน้นย้ำว่า การชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยเป็นเพราะดอกเบี้ยนโยบายได้ลดลงมาอยู่ใกล้ระดับที่ “เป็นกลาง” แล้ว ซึ่งหมายถึงระดับที่ไม่กระตุ้นหรือชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจมากเกินไป

คำประกาศของเฟดเรื่องการชะลอมาตรการลดดอกเบี้ยในปีหน้า ทำให้ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงก่อนปิดตลาดในวันพุธ โดยทั้งดัชนีดาวน์โจนส์ ดัชนีแนสแดค พร้อมทั้งดัชนีสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ ลดลงในระดับ 2.5% – 3.5% 

ในปี 2022 – 2023 เฟดใช้นโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้ต้นทุนการกู้ยืมเงินของคนอเมริกันพุ่งสูงขึ้น ตั้งแต่เงินกู้ซื้อบ้าน รถยนต์ พร้อมทั้งบัตรเครดิต

ปัจจุบัน เฟดกำลังพยายามทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “soft landing” หรือการลดจอดอย่างนุ่มนวล ซึ่งหมายถึงการจัดการเงินเฟ้อได้โดยไม่ทำให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจถดถอย โดยขณะนี้ตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ อยู่ที่ระดับ 2.8% เมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับ 2% ตามเป้าหมายของเฟด

ที่มา: เอพี

ชายนิวยอร์กสุดเฮง! พบ ‘ขากรรไกรช้างดึกดำบรรพ์’ ขณะทำสวนหลังบ้าน

วงการโบราณคดีตื่นตะลึง เมื่อชายผู้หนึ่งค้นพบฟอสซิลขากรรไกรช้างดึกดำบรรพ์ที่เรียกว่า มาสโตดอน (mastodon) ขณะกำลังทำสวนหลังบ้านในรัฐนิวยอร์กเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

โรเบิร์ต เฟราเนค เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์รัฐนิวยอร์ก บอกว่า ฟันกรามของช้างยักษ์โบราณตัวนี้พบที่สวนหลังบ้านแห่งหนึ่งใกล้เมืองสก็อตช์ทาวน์ ห่างจากตัวเมืองนิวยอร์กราว 112 กม. โดยตอนแรก เจ้าของบ้านนึกว่าเป็นลูกเบสบอล แต่เมื่อขุดขึ้นมาก็พบว่าเป็นฟันขนาดใหญ่

เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์พร้อมทั้งมหาวิทยาลัยรัฐนิวยอร์ก วิทยาเขตออเรนจ์เคาน์ตี ช่วยกันขุดหาซากฟอสซิลในพื้นที่นั้นพร้อมทั้งพบขากรรไกรช้างมาสโตดอนที่มีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ รวมทั้งกระดูกนิ้วเท้าพร้อมทั้งกระดูกซี่โครงบางส่วน 

เจ้าหน้าที่พบว่า ขากรรไกรที่พบนี้ถือว่ามีสภาพสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่เคยพบในรัฐนิวยอร์กในรอบ 11 ปี

ที่ผ่านมามีการค้นพบซากฟอสซิลของช้างมาสโตดอนในรัฐนิวยอร์กมาแล้วกว่า 150 ชิ้น โดยสวนใหญ่พบในเขตออเรนจ์เคาน์ตี เช่นเดียวกับการค้นพบครั้งล่าสุดนี้ 

เฟราเนค บอกว่า ชิ้นส่วนที่พบนี้ “เพิ่มโอกาสที่จะศึกษาสัตว์สายพันธุ์ขนาดมหึมานี้มากขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยให้เราสามารถทำความเข้าใจถึงระบบนิวเวศน์ในยุคน้ำแข็งของพื้นที่แถบนี้ได้” 

โดยฟอสซิลขากรรไกรชิ้นลาสุดจะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อระบุอายุของช้างยักษ์ตัวนี้ รวมทั้งอาหารการกินพร้อมทั้งถิ่นที่อยู่ของมัน ก่อนที่จะนำไปจัดแสดงให้สาธารณชนได้ชมในปีหน้า 

ที่มา: เอพี

ตรวจสอบข่าว: อะไรคือความจริง เมื่อเครมลินอ้างว่า ทรัมป์ใช้ข้อมูลของกรุงเคียฟในรายงานว่า มีชาวรัสเซียตายในยูเครน 600,000 คน

ตัวเลขผู้จบชีวิตที่โดนัลด์ ทรัมป์ ระบุนั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกับตัวเลขของหน่วยงานข่าวกรอง แหล่งข่าวกลาโหมพร้อมทั้งกองทัพชาติตะวันตก ในช่วงเดือนก.ค.-ต.ค. ซึ่งต่างจากตัวเลขประมาณการของยูเครน ทั้งนี้ ข้อมูลทั้งหมดจากตะวันตกพบว่า ในภาวะขัดแย้งนี้ รัสเซียสูญเสียทางทหารมากกว่าทางฝั่งยูเครน

เสน่ห์ของ Window Display ในนิวยอร์กไม่เคยเลือนหาย แม้ในยุคดิจิทัล

หนึ่งในธรรมเนียมประจำปีที่มีจุดกำเนิดย้อนกลับไปกว่าศตวรรษของมหานครนิวยอร์กก็คือ การตกแต่งหน้าต่างจัดแสดงสินค้า (window display) ในช่วงเทศกาลส่งความสุขปลายปี พร้อมทั้งผู้ประกอบการค้าปลีกยักษ์ใหญ่ทั้งหลายก็ยังคงลงทุนทั้งความคิดพร้อมทั้งงบประมาณอย่างไม่ลดละเพื่อสร้างสรรค์ผลงานที่ดึงดูดคนนับล้านมายืนดูผลงานของตน แม้ในยุคดิจิทัลเช่นในปัจจุบัน

หนึ่งในร้านค้าปลีกชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ไม่พลาดโอกาสในการนำเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ผ่านหน้าต่างห้างของตนคือ เมซีส์ (Macy’s) ซึ่งเริ่มธรรมเนียมนี้ที่สาขานิวยอร์กตั้งแต่เมื่อ 150 ปีก่อน หรือในปี 1874 พร้อมทั้งผู้รับผิดชอบโครงการนี้บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า แต่ละปี ทีมงานจะเตรียมงานออกแบบมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม

สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ในการนำเสนอผลงานที่หน้าต่างจัดแสดงสินค้าของเมซีส์ คือ แอนิเมชันที่เติมชีวิตให้กับ window display พร้อมทั้งปีนี้ ยังมีการเพิ่มลูกเล่นให้สิ่งที่ถูกจัดแสดงหลังกระจกสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมได้ด้วย

แมนนี อูร์กีโซ ผู้อำนวยการฝ่าย National Windows ของเมซีส์ บอกว่า ต้องใช้เวลาตกแต่งหน้าต่างจัดแสดงแต่ละจุดถึงกว่า 300 ชั่วโมง พร้อมทั้งมีแรงงานหลายส่วนเข้าร่วม ทั้งช่างฝีมือ ช่างไม้ ช่างไฟ เจ้าหน้าที่จัดแสงพร้อมทั้งผู้ดูแลด้านเทคนิค animatronic หรือ หุ่นจำลองที่มีกลไกจัดการการเคลื่อนไหว รวมทั้งมีการใช้เทคโนโลยีหลากหลายมาช่วยเติมเต็มงานสร้างสรรค์นี้

ขณะที่ กระบวนการตกแต่งหน้าต่างจัดแสดงสินค้าของห้างร้านนั้นเป็นเรื่องที่กินเวลาพร้อมทั้งมีต้นทุนสูงเสมอ พร้อมทั้งธุรกิจค้าปลีกชั้นนำต่าง ๆ บนถนนฟิฟธ์อเวนิว (Fifth Avenue) ก็ไม่เคยหวั่น แต่ในปีนี้ห้างหรูอย่าง Saks เลือกที่จัดเต็มแบบจำกัด กล่าวคือ งดการแสดงแสงสีเสียงที่ด้านนอกอาคารอย่างที่เคยจัดมาทุกปีก

ในเรื่องนี้ จิม คัสซอน ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดค้าปลีก ให้ความเห็นว่า หลายแห่งน่าจะเลือกตัดงบลงทุนการตกแต่งห้างประจำปีลง เหลือแต่เมซีส์ที่ยังคงไม่ยอมถอย ซึ่งเขาคิดว่าเป็นกลยุทธ์ที่ฉลาดมาก

ทูลิน อาร์ดา จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก บอกว่า เพราะปัจจุบัน คนเราใช้ชีวิตอยู่ในยุคที่สื่อดิจิทัลมีบทบาทมากขึ้นเรื่อย ๆ นี้ ห้างร้านทั้งหลายในนิวยอร์กจึงมีเหตุผลดีพอที่จะพยายามใช้เครื่องมือการตลาดแบบดั้งเดิมไว้เช่นเคย เพราะผู้คนนั้นยังรู้สึกเชื่อมต่อกับสื่อแบบเก่า ๆ พร้อมทั้งธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาอยู่ พร้อมทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดังทั้งหลายก็จำเป็นต้องคงความเป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมพร้อมทั้งชุมชนรอบ ๆ ตัวไว้เสมอ

จิม คัสซอน ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดค้าปลีก กล่าวเพิ่มเติมว่า การตลาดเช่นนี้มีผลต่อยอดขายของธุรกิจเสมอ เพราะมีลูกค้าไม่น้อยที่เริ่มต้นด้วยการแวะมาดูการตกแต่งหน้าต่าง window display แล้วจบลงด้วยการจับจ่ายซื้อของที่ไม่ได้ตั้งใจกลับบ้านไปด้วย ขณะที่ ธรรมเนียมนี้ยังเป็นช่วงเวลาให้แบรนด์สินค้าต่าง ๆ ฉวยโอกาสจากบรรยากาศการส่งท้ายปีในการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับนักช้อปให้แน่นแฟ้นขึ้น แทนที่จะเพียงรอให้ลูกค้าเปิดประตูร้านเข้ามาเอง

นี่เป็นประเด็นที่ ทูลิน อาร์ดา จากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก เห็นด้วยพร้อมทั้งบอกว่า การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับแบรนด์นั้นมีความสำคัญเพราะลูกค้าอาจรู้จักชื่อแบรนด์ แต่ก็แค่รู้ชื่อ พร้อมทั้งไม่ได้รู้อะไรมากนัก ดังนั้น การสร้างความประทับใจที่ดีให้ผู้บริโภคผ่านการตกแต่งหน้าต่างจัดแสดงสินค้า โดยนักช้อปไม่ต้องเดินเข้าร้านมาเลย ก็ช่วยเพิ่มยอดขายในอนาคตได้อย่างแน่นอน

ความเห็นนี้สอดคล้องกับสถิติของห้างเมซีส์ที่พบว่า ในแต่ละวันของช่วงเทศกาลปลายปีนั้น มีผู้คนแวะมาชม window display ของห้างในนิวยอร์กถึงราว 10,000 คน พร้อมทั้งนี่ก็แสดงให้เห็นว่า การดำเนินงานตามธรรมเนียมนิยมที่มีมานานนับร้อยปีในยุคใหม่นี้ไม่ใช่เรื่องตกเทรนด์พร้อมทั้งยังคงนำความสุขมาให้ผู้คน รวมทั้งนำยอดขายมาให้ธุรกิจได้อย่างสม่ำเสมอ

 

 

ที่มา: วีโอเอ

สหรัฐฯ ย้าย 2 นักโทษเรือนจำกวนตานาโมกลับมาเลเซียหลังยอมสารภาพผิด

สหรัฐฯ ย้ายนักโทษชาวมาเลเซียสองคนที่เรือนจำอ่าวกวนตานาโมกลับประเทศ หลังจากที่พวกเขายอมสารภาพผิดในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดที่เกาะบาหลีในอินโดนีเซีย เมื่อปี 2002 พร้อมทั้งตกลงให้การซัดทอดผู้นำขบวนการก่อเหตุ ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

อัยการบอกว่า โมฮัมเหม็ด ฟาริก บิน อามิน พร้อมทั้ง โมฮัมเหม็ด นาเซียร์ บิน เลป ทำงานให้กับเอ็นเซป นูร์จามาน หรือที่รู้จักกันในชื่อ ฮัมบาลี ผู้นำกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ ในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสาขาของกลุ่มก่อการร้ายอัลเคดา เป็นเวลาหลายปี ซึ่งรวมถึงการช่วยเหลือให้ฮัมบาลีหลบหนีการจับกุมหลังเกิดเหตุระเบิดเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2002 ที่มีผู้จบชีวิต 202 คน 

แถลงการณ์ของเพนตากอนพบว่า นักโทษทั้งสองคนยอมสารภาพผิดในข้อหาสมรู้ร่วมคิดพร้อมทั้งข้อหาอื่น ๆ เมื่อเดือนมกราคม โดยการส่งตัวกลับไปมาเลเซียครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากพวกเขาตกลงที่จะให้การที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินคดีกับฮัมบาลี ผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้บงการวางระเบิดดังกล่าว

ทั้งนี้ นูร์จามาน หรือ ฮัมบาลี ยังคงถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำอ่าวกวนตานาโม เพื่อรอการไต่สวนในเดือนมกราคม สืบเนื่องจากเหตุระเบิดที่บาหลีพร้อมทั้งการจู่โจมอื่น ๆ

อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ตั้งศาลทหารพร้อมทั้งเรือนจำที่ฐานทัพเรือสหรัฐฯ ณ อ่าวกวนตานาโม ประเทศคิวบา หลังเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายจู่โจมสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2001 หรือ 9/11 ที่นำไปสู่สงครามต่อต้านผู้ก่อการร้าย

ในช่วงหนึ่ง มีนักโทษที่เรือนจำอ่าวกวนตานาโมหลายร้อยคน ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม พร้อมทั้งขณะนี้ยังมีนักโทษถูกคุมขังที่เรือนจำแห่งนี้ 27 คน 

พร้อมทั้งในวันอังคาร เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยังได้ปล่อยตัวชายชาวเคนยาชื่อ โมฮัมเหม็ด อับดุล มาลิก บาจาบู กลับประเทศ หลังจากที่เขาถูกควบคุมตัวไว้ที่เรือนจำอ่าวกวนตานาโมถึง 17 ปี โดยไม่มีการตั้งข้อหา

การปล่อยตัวครั้งนี้ทำให้เหลือผู้ที่ถูกจับกุมอีก 15 คนที่ยังถูกควบคุมตัวไว้โดยไม่มีการตั้งข้อหา ซึ่งทางการสหรัฐฯ พบว่า กำลังหาประเทศที่เหมาะสมสำหรับนักโทษเหล่านั้นซึ่งส่วนใหญ่มาจากเยเมน ที่ซึ่งครอบครองโดยกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

องค์การ Amnesty International กระตุ้นให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปล่อยตัวนักโทศที่ไม่มีข้อหาเหล่านั้นเป็นอิสระก่อนที่จะพ้นจากตำแหน่งในเดือนมกราคม ปีหน้า 

ที่มา: เอพี

รวบมือสังหารผบ.อาวุธเคมีรัสเซีย

รัสเซียเผยเมื่อวันพุธว่าได้ควบคุมตัวชายอุซเบกิสถาน ที่รับสารภาพว่าเป็นผู้วางแผนพร้อมทั้งจุดชนวนระเบิด สังหารผู้บัญชาการทหารระดับสูงของรัสเซีย อิกอร์ คิริลลอฟ ตามคำสั่งของหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครน ตามรายงานของรอยเตอร์

พลโทอิกอร์ คิริลลอฟ ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันกัมมันตรังสี ชีวภาพพร้อมทั้งเคมี ของกองทัพรัสเซีย ถูกสังหารพร้อมกับผู้ช่วยของเขาหน้าอพาร์ตเมนต์ ในย่านไรอะซานสกี พรอสเพกต์ ในกรุงมอสโก เมื่อวันอังคาร

คิริลลอฟเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการทหารรัสเซียที่ถูกลอบสังหารโดยยูเครน โดยหน่วยข่าวกรองเอสบียูของยูเครนยืนยันว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งกล่าวหาคิริลลอฟว่ามีส่วนรับผิดชอบต่อการใช้อาวุธเคมีต่อทหารยูเครน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลมอสโกปฏิเสธ

คณะกรรมาธิการด้านการสืบสวนรัสเซีย ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่าผู้ต้องสงสัยที่ไม่ระบุชื่อ กล่าวยอมรับว่าถูกส่งตัวมากรุงมอสโกเพื่อทำปฏิบัติการให้กับหน่วยข่าวกรองยูเครน

วิดีโอที่เผยแพร่โดยสื่อ Baza ที่เป็นที่รู้จักจากการมีแหล่งข่าววงในฝ่ายยุติธรรมรัสเซีย เผยให้เห็นผู้ต้องสงสัยนั่งอยู่บนรถตู้พร้อมทั้งอธิบายสิ่งที่เขาได้ทำ โดยในวิดีโอพบว่า เขาเดินทางมาที่กรุงมอสโก ซื้อสกูตเตอร์ไฟฟ้า พร้อมทั้งได้รับระเบิดทำมือมาใช้ก่อเหตุ พร้อมทั้งว่าเขาคือผู้ที่นำระเบิดไปไว้บริเวณอพาร์ตเมนต์ของคิริลลอฟเพื่อลอบสังหาร

ทีมสืบสวนรัสเซียพบว่า ชายคนดังกล่าว ที่คาดว่าจะมีอายุราว 29 ปี ติดตั้งกล้องตรวจการณ์ในรถเช่า เพื่อให้ผู้สั่งการในเมืองดนิโปรของยูเครนได้เห็น ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยรายนี้จะเป็นผู้จุดชนวนระเบิดในเวลาที่คิริลลอฟเดินออกมาจากอาคาร โดยเขาได้รับข้อเสนอเป็นเงิน 100,000 ดอลลาร์พร้อมทั้งให้สิทธิ์เป็นผู้พำนักถาวรในยุโรปแลกกับการสังหารคิริลลอฟ

ทั้งนี้ ไม่มีความชัดเจนถึงความเป็นไปของผู้ต้องสงสัยรายนี้ พร้อมทั้งรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าวิดีโอดังกล่าวเป็นของจริงหรือไม่

ณ เวลานี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ยังไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการสังหารคิริลลอฟ แต่ดมิทรี เพสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ได้กล่าวยกย่องผลงานของหน่วยข่าวกรองรัสเซียในการสืบสวนคดีนี้ พร้อมทั้งกล่าวหายูเครนในการใช้ “วิธีการของกลุ่มก่อการร้าย”

ด้านมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย บอกว่า รัฐบาลมอสโกจะหยิบประเด็นลอบสังหารผู้บัญชาการรัสเซียรายนี้ขึ้นมาหารือในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้

ขณะที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ พบว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่มีความเกี่ยวข้องกับการสังหารคิริลลอฟพร้อมทั้งไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน

ที่ผ่านมา รัสเซียได้กล่าวหาว่ายูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบสังหารแบบมุ่งเป้าที่เจ้าหน้าที่หรือบุคคลสำคัญของรัสเซียหลายครั้ง นับตั้งแต่สงครามระหว่างสองประเทศปะทุขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022

ที่มา: รอยเตอร์

ลุ้นตัวกลางเจรจาเร่งบรรลุดีลหยุดยิงกาซ่า-อิสราเอลจู่โจมคร่า 20 ชีวิต

สหรัฐฯ ร่วมกับตัวกลางเจรจาชาติอาหรับ หาบทสรุปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลพร้อมทั้งฮามาส ที่สู้รบกันมาร่วม 14 เดือนในฉนวนกาซ่า ขณะที่ทีมแพทย์ท้องถิ่นเผยว่าการจู่โจมของอิสราเอลในวันพุธ คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์อีกอย่างน้อย 20 รายในช่วงข้ามคืน

เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ที่ใกล้ชิดกับการเจรจาหยุดยิง กล่าวเมื่อวันพุธว่าตัวกลางเจรจาได้ลดช่องว่างของเงื่อนไขของฝั่งอิสราเอลพร้อมทั้งฮามาสในข้อตกลงหยุดยิง พร้อมทั้งว่าอิสราเอลได้เสนอเงื่อนที่ฮามาสปฏิเสธแต่ไม่ขอลงข้อมูล

ในวันอังคาร แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการหารือที่กรุงไคโรหลายราย พบว่าข้อตกลงหยุดยิงพร้อมทั้งปล่อยตัวประกันในกาซ่า จะมีการลงนามในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

ทั้งสหรัฐฯ อียิปต์ พร้อมทั้งกาตาร์ ได้พยายามอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันมานี้ ในการหารือข้อตกลงหยุดยิง ก่อนที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะหมดวาระดำรงตำแหน่งในเดือนหน้า ขณะที่ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เคยขู่ฮามาสให้ปล่อยตัวประกันก่อนที่เขาจะขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า

เมื่อวันพุธ ประธานาธิบดีอิสราเอลไอแซก เฮอร์ซอก พบหารือกับอดัม โบห์เลอร์ ทูตด้านกิจการตัวประกัน ที่ทรัมป์ ได้แต่งตั้ง ที่นครเยรูซาเล็ม พร้อมทั้งในวันเดียวกันนี้ที่กรุงโดฮา มีรายงานว่าผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐฯ (CIA) วิลเลียม เบิร์นส มีกำหนดการหารือกับนายกรัฐมนตรีกาตาร์ เกี่ยวกับประเด็นที่อิสราเอลพร้อมทั้งฮามาสยังเห็นต่างในข้อตกลงหยุดยิง แต่ทาง CIA ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้

อีกด้านหนึ่งในวันพุธ หน่วยแพทย์ในกาซ่า เผยว่าการจู่โจมทางอากาศของอิสราเอล คร่าชีวิตอย่างน้อย 10 ราย ในบ้านทางตอนเหนือของ เบอิต ลาฮีนา พร้อมทั้งมีผู้จบชีวิตอีก 6 รายในการจู่โจมทางอากาศที่กาซ่าซิตี้ ค่ายผู้ลี้ภัยนูเซรัตทางตอนกลางกาซ่า พร้อมทั้งที่เมืองราฟาห์ใกล้พรมแดนอียิปต์ อีกทั้งยังมีผู้จบชีวิตอีก 4 รายในเบอิต ฮานุน ตอนเหนือฉนวนกาซ่า แต่ไม่มีความเห็นใด ๆ จากฝั่งโฆษกกองทัพอิสราเอลออกมาเกี่ยวกับการจู่โจมดังกล่าวระหว่างที่จัดทำรายงานฉบับนี้

กองทัพอิสราเอลเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในเบอิต ฮานุน พร้อมทั้งเบอิต ลาฮียา รวมทั้งค่ายจาบาลียาที่อยู่ใกล้เคียง มาตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันกลุ่มติดอาวุธฮามาสั่งสมกำลังอีกครั้งในพื้นที่ดังกล่าว ฝั่งปาเลสไตน์กล่าวหาอิสราเอลว่ากำลังกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์เพื่อขับคนออกไปทางตอนเหนือของดินแดนปาเลสไตน์ เพื่อสร้างเขตกันชน แต่อิสราเอลปฏิเสธในประเด็นนี้

ในวันพุธเช่นกัน มูฮัมหมัด ซาเลห์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอัล-ออว์ดา ในจาบาลียา บอกว่าเหตุระเบิดโดยอิสราเอลเข้าทำลายพื้นที่โรงพยาบาลพร้อมทั้งทำให้เจ้าหน้าที่แพทย์บาดเจ็บ 7 คน พร้อมทั้งคนไข้ 1 คนบาดเจ็บระหว่างรักษาตัวในโรงพยาบาล แต่ทางกองทัพอิสราเอลพบว่าเป็นการเข้าจัดการนักรบฮามาสที่วางแผนจู่โจมกองทัพอิสราเอลที่ปฏิบัติการในจาบาลียา พร้อมทั้งไม่ให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับกรณีที่มีรายงานเจ้าหน้าที่แพทย์พร้อมทั้งคนไข้บาดเจ็บจากการจู่โจมของอิสราเอลที่ว่านี้

กระทรวงสาธารณสุขกาซ่าเปิดเผยในวันจันทร์ว่า การจู่โจมของอิสราเอลในเขตปกครองปาเลสไตน์ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วนั้น ส่งผลให้มีผู้จบชีวิตรวมกันแล้วกว่า 45,000 คน พร้อมทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสะสมจากเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้แล้วเกือบ 107,000 คน พร้อมทั้งผู้คนในดินแดนปาเลสไตน์ 2.3 ล้านคนกลายเป็นผู้พลัดถิ่นจากความขัดแย้ง

ที่มา: รอยเตอร์

รัฐบาลฮานอยอวดโฉมอาวุธ ‘เมด อิน เวียดนาม’ หวังกระตุ้นอุตสาหกรรมกลาโหม

เวียดนามเตรียมอวดโฉมอาวุธที่ผลิตขึ้นเองในประเทศ ในงานจัดแสดงนานาชาติที่กรุงฮานอย วันพฤหัสบดีนี้ ในระหว่างที่เวียดนามกำลังเดินเครื่องสนับสนุนอุตสาหกรรมกลาโหมของตน รวมทั้งหาช่องทางการส่งออกยุทโธปกรณ์ของประเทศ

ผู้ร่วมออกบูธงานจัดแสดงยุทโธปกรณ์ที่กรุงฮานอยของเวียดนาม มีเกือบ 250 ราย มาจากสหรัฐฯ ยุโรป ตุรกี รวมทั้งหลายประเทศที่กำลังอยู่ในสมรภูมิ อาทิ อิสราเอล อิหร่าน รัสเซีย พร้อมทั้งยูเครน

ที่ผ่านมา เวียดนามเป็นผู้นำเข้าอาวุธรายใหญ่ โดยเฉพาะจากรัสเซีย แต่ระยะหลัง ๆ รัฐบาลกรุงฮานอยได้ลงทุนเสริมศักยภาพด้านกลาโหม ในระหว่างที่เวียดนามมีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้ พร้อมทั้งเมื่อไม่นานมานี้เวียดนามได้เดินหน้าส่งเสริมอุตสาหกรรมกลาโหมของประเทศพร้อมทั้งกระตุ้นการส่งออกอาวุธเป็นวาระสำคัญอันดับต้น ๆ อ้างอิงจากกระทรวงกลาโหมเวียดนามที่ย้ำถึงเรื่องนี้หลายครั้ง

Viettel บริษัทอาวุธที่รัฐบาลเวียดนามเป็นเจ้าของ นำทีมบริษัทด้านอาวุธในเวียดนาม ในการจัดแสดงยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ อาทิ ระบบป้องกันขีปนาวุธ โดรน เรดาร์ป้องกันภัยทางอากาศ รถหุ้มเกราะ พร้อมทั้งกระสุนปืนใหญ่ ตามรายงานของสื่อของกระทรวงกลาโหมเวียดนาม

เหวียน เถือ ฟง ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงเวียดนาม จาก University of New South Wales ในออสเตรเลีย บอกว่า อาวุธบางอย่างถือเป็นการอวดโฉมครั้งแรกในงานนี้ พร้อมทั้งว่ายุทธศาสตร์สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้อุตสาหกรรมท้องถิ่น คือการลงนามกับผู้ส่งออกอาวุธต่างชาติให้เข้ามาผลิตชิ้นส่วนอาวุธในเวียดนาม

ก่อนหน้านี้เวียดนามได้หารือกับบริษัทเกาหลีใต้ ในการทำข้อตกลงผลิตกระสุนปืนใหญ่พร้อมทั้งชิ้นส่วนเครื่องบิน พร้อมทั้งมีการหารือที่คล้ายกันนี้กับบริษัทของประเทศอื่น ๆ อาทิ สาธารณรัฐเช็ก

เปิดฟลอร์ให้คู่ขัดแย้งอวดเขี้ยวเล็บด้านการทหาร

ในนิทรรศการอาวุธนี้ กระทรวงกลาโหมอิหร่าน จะได้พื้นที่จัดแสดงทั้งพาวิลเลียน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริษัท Aerospace Industries พร้อมทั้ง Rafael Advanced Defense Systems ของอิสราเอล

ไม่เพียงแค่นั้น ในงานจะจัดแสดงบูธของบริษัทอาวุธรัสเซีย พร้อมทั้งมีบริษัท Motor Sich ของยูเครน ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ของเครื่องบินมาร่วมงานนี้ด้วย

ฝั่งตุรกีถือเป็นแขกพิเศษรายใหญ่ในงาน เนื่องจากมีบริษัทด้านกลาโหมของตุรกีกว่าสิบแห่ง รวมทั้ง Aselsan, Turkish Aerospace Industries พร้อมทั้ง Roketsan เข้าร่วมงานนี้

ส่วนจีนมีผู้ร่วมออกบูธ 2 บริษัท รวมถึงบริษัท Norinco พร้อมทั้งเป็นครั้งแรกที่จีนส่งบริษัทด้านกลาโหมมาร่วมงานนิทรรศการอาวุธในเวียดนาม

สหรัฐฯ ยักษ์ใหญ่หลายเจ้าเข้าร่วมงานนี้ อาทิ Lockheed Martin, Boeing พร้อมทั้ง Textron Aviation Defense โดยบริษัทอเมริกันอยู่ระหว่างที่หารือกับทางการเวียดนามในการขายเฮลิคอปเตอร์ อย่าง Lockheed Martin กำลังหารือดีลขายเครื่องบิน C-130 Hercules อยู่ อ้างอิงจากรอยเตอร์

ส่วนบราซิล บริษัท Embraer จัดแสดงเครื่องบิน C-390 Millennium คู่แข่งของ C-130 ในงานนี้

ด้านยุโรปส่งหลายบริษัทเข้าร่วมงาน อาทิ Airbus พร้อมทั้ง Thales Group ของฝรั่งเศส, BAE Systems ของอังกฤษ, Rheinmetall ของเยอรมนี พร้อมทั้ง Leonardo ของอิตาลี

ที่มา: รอยเตอร์